ไฟรักโรมัน บทที่ 1...30%

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
maou
โพสต์: 7
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 22 ก.พ. 2012 9:51 pm

ไฟรักโรมัน บทที่ 1...30%

โพสต์ โดย maou »

-- ไฟรัก โรมัน --

นางเคยได้ยินคำล่ำลือเกี่ยวกับจอมทัพผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้หลากหลาย เขาเป็นทั้งอสูรกายในศึกสงคราม .้ความปรานี เขาเป็นทั้งเทพบุตร อ่อนโยน และเต็มไปด้วยชาวเมืองผู้เป็นที่รัก หากแต่ไม่มีคำล่ำลือไหนเลยที่จะกล่าวถึงความเป็นบุรุษเพศของเขา ความปรารถนาเร่าร้อนที่นางมองเห็นในดวงตาสีน้ำข้าว เพลิงร้อนรุ่มที่เขาเป็นผู้จุดให้กับนางเพียงแค่สบตา

เชไลล่าไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อนตลอดชีวิตสิบแปดปีของนาง ไม่เคยมีบุรุษใดทำให้นางปรารถนาเช่นเขา ไม่เคยมีชายใดที่ทำให้นางรู้สึกอยากสัมผัสและจับต้อง ไม่เคยมีผู้ใดที่ทำให้ร่างกายของนางร้อนรุ่มและเต็มไปด้วยความปรารถนา

แต่เขาทำ

ทอริค บุตรแห่งอนาคิน จอมทัพผู้ทรนงแห่งโรมันและเป็นที่โปรดปรานของกษัตริย์ เขามีรูปร่างสูงใหญ่เช่นนักรบทะเลทราย ผิวกายสีทองแดงละเอียดและเปลือยเปล่าครึ่งร่าง นางเผลอเลียรอยริมฝีปากเมื่อเห็นแผงอกและมัดกล้ามล่ำบึกของเขา ท่อนแขนแข็งแรงที่น่าจะป่นกระดูกของนางได้ในพริบตา เส้นผมของเขาเป็นสีทองสว่างอาจเพราะเชื้อสายกรีกครึ่งหนึ่งในกาย ดวงตาคมกริบสีน้ำข้าว ทั้งอ่อนโยนและแข็งกระด้าง เขายืนกอดอกเบื้องหน้าอย่างท้าทาย ใบหน้าของเขาเชิดตรงและรอยหยักยิ้มมุมปาก

จีซัส! นางอยากกัดปากเขา!

เชไลล่าจำต้องระงับความปรารถนาที่พุ่งขึ้นสูง นางต้องบีบมือตนเองแน่นเพื่อไม่ให้เผลอไผลไปแตะต้องเขา ทั้งแผงอกแข็งแกร่ง แขนล่ำบึกสองข้าง เส้นผมที่น่าจะอ่อนนุ่มเหมือนไยไหม และที่สำคัญ...ความเป็นชายของเขาที่ซุกซ่อนอยู่ด้านใน มันจะใหญ่โตเหมือนร่างกายของเขาไหม?

นั่นคือสิ่งที่นางคิด นับว่านางโชคดีที่มีผ้าผืนบางปกปิดใบหน้าไว้ มิเช่นนั้น เขาคงเห็นสีหน้าและเดาความคิดของนางได้นับแต่วินาทีที่สบตา

ทุกผู้คนกล่าวว่าเขาเป็นอสูรกาย ทุกผู้คนกล่าวขานว่าเขาคือเทพบุตร แต่ไม่มีแม้เพียงผู้คนเดียวที่กล่าวขานถึงเขาว่าเป็นเครื่องมือทางเพศเดินได้

สำหรับเชไลล่า นั่นคือสิ่งสำคัญยิ่ง หากเขาจะหล่อดิบเถื่อนน้อยลงกว่านี้อีกนิด หากเขาจะดูดีด้อยกว่านี้อีกสักหน่อย และหากเขา...โอ้! จีซัส เขากำลังยิ้ม!! เขาทำให้นางเผลอยิ้มตามและอยากกระโดดจูบเขาสักทีสองที

เป็นการยากที่จะบังคับให้เชไลล่าระงับความต้องการและปรารถนาเร่าร้อนนี้ ยากมากยิ่งขึ้นสำหรับสิ่งที่นางจำต้องทำหลังจากถูกส่งตัวมา และคงยากยิ่งขึ้นไปอีก...หากนางได้นอนร่วมเตียงกับเขา

"ข้าคิดว่าลัสการ์ไม่ชื่นชอบหน้าข้าเสียอีก" ทอริคกล่าว สายตาของเขายังคงจ้องมองสตรีนางที่ยืนนิ่งเบื้องหน้า แม้จะมีผ้าสีขาวผืนบางปิดบังปกคลุมตั้งแต่ศีรษะยาวถึงช่วงอก แต่จากเสื้อผ้าที่รัดเข้ารูปกับเรือนร่างของนางซึ่งโผล่พ้น และเส้นผมสีน้ำตาลไหม้ปล่อยหยักศกถึงบั้นเอว ทอริคเดาได้ไม่ยากว่านางจะต้องเป็นสาวงามชนิดที่ทำให้บุรุษทุกช่วงวัยลืมอายุตนเองไปได้เลย

"นั่นเป็นเพียงแค่ข่าวลือขอรับ" คนของลัสการ์รีบปัดป้อง "ท่านลัสการ์เพียงแค่ไม่ชอบความคิดเกี่ยวกับการศึกและสงคราม ท่านมิใช่คนช่างพูดและเจรจามากนักจึงทำให้ทุกผู้คนเข้าถึงยาก แต่ท่านเป็นคนมีน้ำจิตน้ำใจงดงามยากหาผู้ใดเปรียบ"

"แล้วส่งนางมาด้วยเหตุผลกลใด?" เขาถามพร้อมริมฝีปากยิ้มหยัน "ในเมื่อลัสการ์เป็นผู้เดียวที่ต่อต้านสงครามกับพวกกรีก...และข้า"

"ท่านลัสการ์ไม่ต้องการให้ท่านคิดเช่นนั้น จึงได้ส่งนางมาเพื่อถวายตัวแด่ท่าน"

"สินบน?"

"เรียกว่าสินน้ำใจและของขวัญทำศึกจะเหมาะกว่ากระมัง" เขาแก้ไข "นางคือบุตรีซึ่งเกิดจากภริยาคนที่ห้าของท่านลัสการ์และยังเยาว์วัยนัก ท่านลัสการ์คาดว่านางอาจเป็นที่โปรดปรานของท่าน"

ทอริคแค่นเสียงในลำคอ "นางอายุเท่าใด?"

"เดือนหน้าอายุจบสิบแปดปีเต็ม"

ห่างจากเขาเกือบสิบปี...ทอริคครุ่นคิด "หากข้าไม่ปรารถนาจะรับนางเล่า?"

คนของลัสการ์ถึงกับร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ แต่หากทอริคเงี่ยหูฟังให้ดี เขาจะได้ยินน้ำเสียงหวานร้องอุทานด้วยความเสียดาย

"ท่านลัสการ์คงไม่ปรารถนาให้ท่านเอ่ยปฏิเสธ"

"นางคงไม่ได้อยู่ในตำแหน่งภริยาของข้า" เขาดักทาง ซึ่งคาดว่าอีกฝ่ายคงเดาทางไว้ล่วงหน้า

"นั่นมิใช่ปัญหาใด ท่านลัสการ์เพียงแค่คิดว่าท่านจะพอใจในของขวัญที่มอบให้"

สายตาชำเลืองมองร่างบางซึ่งยังคงยืนนิ่ง นางมีคนรับใช้สตรีติดสอยห้อยตามมาด้วยสองคนและข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวอีกเล็กน้อย ใช่ว่าทอริคอยากปฏิเสธให้อีกฝ่ายขุ่นเคืองและสร้างศัตรูโดยใช้เหตุ เพียงแต่เขาไม่ปรารถนาจะรับสตรีนางใดสู่อ้อมกอดและเตียงของเขา ทอริคเป็นจอมทัพผู้ยิ่งใหญ่แห่งโรมัน เขามีชื่อเสียง เก่งกาจ เต็มไปด้วยผู้คนต้อนรับ หากแต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้คนเดียจฉันท์ เพราะสายเลือดในกายอีกครึ่งที่เป็นกรีก สิ่งนี้คือประเด็นสำคัญที่ทำให้มีผู้คนชิงชังเขา โดยเฉพาะในยามศึกสงครามกับกรีกที่กำลังเกิดขึ้น

ทอริคไม่เชื่อเด็ดขาดว่าลัสการ์ประสงค์จะผูกมิตรไมตรีกับเขา คนผู้นั้นประสงค์ซึ่งความตายของเขาต่างหาก แต่หากบอกปัดไป ทอริคเกรงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตมากยิ่งกว่า และลัสการ์อาจดึงกษัตริย์โรมันให้ยุ่งเกี่ยวกับสงครามภายในที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่ปรารถนา

"แต่ข้ามิอาจแต่งตั้งให้นางเป็นภริยาได้" เขากล่าวย้ำ

"นั่นมิใช่เรื่องที่ท่านลัสการ์สนใจ ท่านประสงค์เพียงมอบนางให้แด่ท่าน"

ซึ่งนางคงมิใช่สิ่งสำคัญ...ทอริคคิด "เช่นนั้นข้าตกลง"

"ขอบคุณท่านจอมทัพ ข้าจะรีบนำข่าวดีนี้ไปบอกแก่ท่านลัสการ์" เขาโน้มกายก่อนจะเดินออกจากห้องโถงไปด้วยความรีบร้อนกับผู้ติดตามอีกสี่คน ทิ้งนางและคนรับใช้ของนางไว้เพียงลำพัง

ทอริคมองนาง "เจ้าจะเปิดผ้าคลุมให้ข้ายลใบหน้าเจ้าได้รึไม่?"

นางนิ่ง ก่อนจะสั่นศีรษะไปมาเล็กน้อย "ท่านจะเปิดได้ยามข้าอยู่บนเตียงกับท่าน เพียงลำพัง" น้ำเสียงหวานตอบ เขาพ่นลมหายใจร้อนและแค่นเสียงในลำคออย่างไม่พอใจ

"ข้าเพิ่งรู้ว่ามีกฎเช่นนี้ ผู้ใดเป็นคนตั้ง?"

"ข้า" นางตอบ แม้น้ำเสียงจะสั่นเล็กน้อยด้วยความกลัว แต่นางจำต้องเป็นต้องให้เป็นไปตามนั้น นางจะไม่ยอมให้ผู้ใดได้เห็นใบหน้าของนางอย่างเด็ดขาดหากยังมิได้ลงมือทำตามคำสั่งที่ทำให้นางถูกส่งตัวมา และที่สำคัญ เชไลล่ายอมให้เขาโอ้โลมนางด้วยสายตาก่อนการลงมือมิได้ เพราะแค่นี้นางยังคิดแล้วคิดอีกว่าจะกล้าลงมือสังหารเขาไหม

เชไลล่าถูกส่งตัวมาในฐานะมือสังหาร ให้ฆ่าจอมทัพสองสายเลือดเพื่อมิให้เขาทรยศต่อโรมันในอนาคต นางเป็นบุตรีของลัสการ์กับภริยาคนที่ห้าของเขา นางเรียบร้อย น่ารัก เป็นกุลสตรี นางไม่เคยถูกคาดหวังจากผู้ใดหรือได้รับการยอมรับจากผู้เป็นพ่อ แต่หากงานชิ้นนี้เสร็จสิ้นลง เขาจะยอมรับนางและแม่ของนางอย่างที่ควรจะเป็น นั่นคือสิ่งที่เชไลล่าต้องการ

นางค่อนข้างแปลกใจและดีใจในวันที่พ่อของนางเรียกตัวนางให้เข้าพบ และกล่าวกับนางว่ามีนางเพียงผู้เดียวที่จะทำหน้าที่นี้ได้ หน้าที่สังหารจอมทัพผู้เกรียงไกร ในห้องนอนของเขา ตามลำพัง

ใช่ว่าเชไลล่าจะไม่รู้ความหมาย นางรู้ยิ่งกว่ารู้เสียอีกจากนางกำนัลต้นห้องของนางทั้งสองที่นำประสบการณ์เรื่องของชายและหญิงมาเล่าให้ฟังบ่อยครั้งจนเรียกได้ว่านางกร้านโลกไปเลย แต่ถึงอย่างนั้น เชไลล่าก็ยังทำใจมิได้ที่ต้อง...นอนกับเขา

เขาทั้งสูงใหญ่ แข็งแรง บึกบึน นางคง...เอ่อ...

"ข้าถามเจ้าอยู่!" น้ำเสียงนุ่มเริ่มแข็งกร้าวจนนางกำนัลต้นห้องทั้งสองต้องสะกิดไหล่ของนางเบาๆ

เชไลล่าเงยหน้ามองเขา ริมฝีปากบางเม้มแน่นและเชิดหน้าตรง นับว่าโชคดีที่ผ้าผืนบางทำให้มองเห็นหน้าเขาไม่ถนัดชัดเจนทำให้นางไม่ค่อยเกรงกลัวเท่าที่ควร

"ขออภัยใต้เท้า ท่านถามข้าว่ากระไรรึ?"

"ข้าถามชื่อของเจ้า" เขาพ่นลมหายใจฮึดฮัด

"นามแห่งข้า เชไลล่า บุตรีแห่งลัสการ์"

"เชไลล่า" เขาทวนชื่อของนางซ้ำ เชไลล่าพบว่าการได้ยินชื่อของตนเองจากน้ำเสียงนุ่มลึกของเขาทำให้นางประสงค์อยากจะให้เขาเอื้อนเอ่ยอีกสักหน ยามที่เขาเอ่ยชื่อของนางนั้นช่างน่าฟังนัก

"เช่นนั้นเชไลล่า ไหนเจ้าลองบอกข้าสิ ว่าไฉนเลยเจ้าถึงเปิดผ้าคลุมมิได้"

"ข้ามิอาจบอกเหตุผลนั้นได้" นางตอบ จะต้องพยายามยิ่งให้เป็นสตรีที่พ่อของนางเสี้ยมสอน ต้องสงบปากและคำ เจ้ามารยาและยั่วยวน แต่นางมิอาจทำสิ่งนั้นได้ต่อหน้าผู้อื่น นางเขินอายกว่าจะทำซึ่งสิ่งนั้นได้ โดยเฉพาะต่อหน้านางกำนัลทั้งสองของนาง และห้องโถงกว้างที่เต็มไปด้วยทหารโรมันนับสิบยืนรายล้อม ที่สำคัญ นางกลัวต้องเผชิญกับสายตาเร่าร้อนของเขายามไร้ผ้าผืนบางขวางกั้น

ทอริคหงุดหงิด เขาคิดอยากจะเดินไปกระชากผ้าคลุมหน้านั้นด้วยตนเอง แต่จำต้องระงับอารมณ์และโทสะไว้ เขาจะทำทีเป็นสนใจนางมิได้ หรือเต้นไปตามการยั่วยุของนางด้วยเพราะยังมิรู้จุดประสงค์แน่ชัดในการมาของนาง

ลัสการ์ต้องการสิ่งใด?

นั่นคือสิ่งที่ทอริคจะต้องได้รู้และขัดขวางความปรารถนาของลัสการ์ บางที คนผู้นั้นอาจต้องการใช้นางเพื่อจูงจมูกเขาเช่นที่ทำกับพวกขุนนางอื่นก็เป็นได้ ทอริครู้ดีว่าภริยาของพวกขุนนางมีเก้าอี้ต่างเป็นบุตรีของอัสการ์แทบทั้งนั้น หากมิใช่ภริยาโดยตำแหน่งก็มักจะเป็นพวกนางสนมหรือนางใน

เช่นนั้น เหตุใดลัสการ์มิยกบุตรีของตนให้เป็นนางในกษัตริย์โรมันเสียเลยเล่า? ไฉนจะต้องจูงจมูกพวกขุนนาง และลุกลามจนถึงตัวเขา

เรื่องนี้อาจมีเบื้องหลัง ทอริคครุ่นคิด และเขาคิดว่าจะนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับน้องชายของเขา หลังจากส่งตัวนางให้ไกลพ้นจากสายตาของเขาเสียก่อน

"เช่นนั้นเจ้าก็หมดหน้าที่แล้ว ข้าจักให้คนของข้าเตรียมห้องไว้ให้เจ้า"

"หามิได้ใต้เท้า ข้ามิอาจอยู่ห้องใดได้หากมิให้ห้องนอนของท่าน" คำตอบจากนางทำให้เขาถึงกับเลือดขึ้นหน้า

นางกล้าดีเยี่ยงไรถึงยื่นข้อเสนอนี้กับเขา? หากมิใช่เพราะกลัวเกรงศึกภายใน เขาคงตัดศีรษะนางไปแล้ว!

"เช่นนั้นเจ้าก็จงยืนอยู่ตรงนี้ จนกว่าจักพอใจห้องของเจ้า!" เขาตะคอกใส่นางและเดินออกจากห้องโถงโดยมิคิดจะหันกลับมาสนอกสนใจนางอีก

หากไม่ปรารถนาห้องที่เขาจัดให้ เช่นนั้นนางก็จงยืนรอคอยต่อไป เพราะเขาไม่ปรารถนาสตรีนางใดในห้องของเขา บนเตียงนอนของเขา โดยเฉพาะสตรีจากลัสการ์

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”