Rescue สื่อรักกั๊กหัวใจยัยนางฟ้า ตอนที่ 4.

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
ปนัดดา สมศิลป์
โพสต์: 6
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 20 เม.ย. 2012 9:32 pm

Rescue สื่อรักกั๊กหัวใจยัยนางฟ้า ตอนที่ 4.

โพสต์ โดย ปนัดดา สมศิลป์ »

4.

ฉันเดินเข้าไปนั่งโต๊ะที่ว่างในห้องเรียน เพื่อรออาจารย์ที่กำลังจะมาสอน ทุกคนหันมามองฉัน เหมือนเห็นตัวประหลาด เหมือนที่ป้ายรถเมล์เมื่อเช้านี้ ฉันก้มมองตัวเอง สำรวจว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า
? เขามองเธอเพราะเธอน่ะ สวยมาก ยิ่งผมด้วย ส้วยสวย...เธอชื่ออะไรน่ะ ?
ผู้หญิงคนนี้ช่วยบอกเหตุผลที่ฉันสงสัย นี่คือเพื่อนคนแรกของฉันเลยนะ ฉันหันไปยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร
? แฟรี่...เรียกแฟร์เฉยๆ ก็ได้...แล้วเธอล่ะ ?
ฉันถามเธอกลับไปบ้าง
? ฉันชื่อ...นานา...เรามาเป็นเพื่อนกันนะ ?
เธอยิ้มให้ฉันอย่างจริงใจ
? ฮื่อ..ได้สิ...เธอคือเพื่อนคนแรกของฉันเลยนะ ?
ฉันส่งนิ้วก้อยให้นานาเกี่ยว เพื่อมิตรภาพของเรา แต่สายตาตัวเองดันเหลือบไปเห็น เอพริล เขากำลังมองฉันอยู่ เราอยู่ห้องเดียวกันจริงๆ ฉันยักคิ้วให้เขา เขาเพียงแต่ยิ้มที่มุมปากเพียงอย่างเดียว
? ใครเหรอแฟร์ที่ยิ้มให้เธอน่ะ ?
นานาคงเห็นว่าฉันยักคิ้วให้เอพริล เลยถามด้วยความสงสัย
? เอพริล...บ้านเราอยู่ติดกัน ?
? หล่อเนอะ ?
ฉันไม่ตอบนานา เพราะอาจารย์เดินเข้ามาในห้องพอดี เราเลยต้องเลิกซักถามกันทันที
วิชาแรกเราไม่ได้เรียนกันมากนักเพราะ เป็นการแนะนำตัวกันมากกว่า ฉันหันไปเห็นนายนั่น มีสาวๆ นั่งอยู่ข้างๆ พอดี เสน่ห์แรงจริงนะ วันแรกก็มีสาวมาคอยเอาใจแล้ว

? กลับด้วยกันสิ ?
เอพริลยืนพิงรถ เรียกให้ฉันกลับด้วยกัน วันนี้มันวันอะไรนะ ตอนเช้าเจอพี่ ตอนเย็นเจอน้อง
? ไม่...ฉันจะกลับรถเมล์...ชอบ..เพื่อนเยอะดี ?
ฉันตอบเขาก่อนจะเดินหนี
? แฟร์...กลับกับฉันเถอะ แม่สั่งมาว่าให้รับเธอกลับไปด้วย เมื่อเช้าฉันตื่นไม่ทันเธอน่ะ เลยไม่ได้รับเธอมาด้วยกัน ?
ฉันว่าฉันเห็นเขามาถึงก่อนนะ หรือเป็นเพราะฉันนั่งรถเมล์ เลยช้ากว่าเขา ที่ตื่นทีหลังฉันเสียอีก
? ถ้านายลำบากใจ ฉันจะบอกคุณป้าให้...ฉันไม่ชอบเป็นภาระของใคร ?
? ฉันเต็มใจ...มาสิ ?
เขาเปิดประตูด้านข้างคนขับให้ ฉันเลยจำใจต้องนั่งกลับบ้านพร้อมเขา เราไม่ค่อยคุยกันมากนัก ทั้งๆ ที่ฉันเป็นคนพูดค่อนข้างเก่ง ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร สงสัยจะเซ็งล่ะมั้ง
เขาไม่จอดรถให้ฉันลงหน้าบ้าน ทั้งๆ ที่บ้านฉันถึงก่อน ฉันไม่ถามล่ะ เดินกลับเอาเองก็ได้ เพราะไม่ไกลกันมากนัก
? ไปบ้านฉันกันไหม ?
เขาหันมาชวนฉันก่อนลงจากรถ...เอ๊ะ...วันนี้มาแปลก
? หิรัญญิกา กับดอกกล้วยไม้ป่าน่ะ ออกดอกเต็มต้นเลยนะ หอมแล้วก็สวยมาก ชอบไม่ใช่เหรอ ?
เขายิ้มกว้าง...พยายามเอาของมาล่อ ซึ่งมันก็ได้ผล
? แป๊บหนึ่งก็ได้ ?
ฉันตอบอย่างไว้เชิงนิดหนึ่ง ตั้งแต่เจอเขาเมื่อสองเดือนก่อน ฉันไม่เคยไปเหยียบบ้านเขาอีกเลย เพราะคิดว่าเขาคงหวง เลยไม่อยากให้เขายุ่งยากใจ ได้แต่ชะเง้อชะแง้มองอยู่ห่างๆ
ดอกหิรัญญิกาออกดอกเต็มไปหมด กลิ่นหอมอ่อนๆ ของมันทำให้ชื่นใจ ฉันเดินไปที่ชิงช้า เขาเปลี่ยนใหม่เหมือนที่เขาบอก ชิงช้าอันใหญ่กว่าเดิม ลักษณะเหมือนบุ้งกี๋ ดอกกล้วยไม้ป่าก็ออกดอกแล้วจริงๆ ด้วย แต่นี่มันหน้าฝนนะ ไม้ดอกพวกนี้ มันต้องออกหน้าหนาวกันไม่ใช่เหรอ
? นายทำยังไง มันถึงออกดอกหน้านี้ได้ ?
ฉันหันไปถามเขา ที่ยืนกอดอกพิงต้นหิรัญญิกาอยู่ เขาทำท่าแบบนี้บ่อยจัง
? ใส่ปุ๋ยบำรุง เร่งดอก...บังคับมันน่ะ ?
? นายน่าเรียนเกษตรมากกว่า เรียนสังคมสงเคราะห์นะ ?
? ฉันรู้สึกว่า..ตัวเองต้องอยู่คณะนี้...ทำไมไม่รู้ ?
? แล้วนายชอบหรือเปล่าล่ะ?
? ก็ชอบนะ...แล้วเธอล่ะ...ทำไมถึงเลือกคณะนี้ ?
? ก็ชอบเหมือนนายนั่นแหละ ?
ฉันตอบเขา พร้อมกับยิ้มให้เขาจนตาหยี
" มานั่งตรงนี้ด้วยกันใหม ?
เขาชวนฉันนั่งที่ระเบียงด้วยกัน แต่ฉันว่านั่งชิงช้าสบายกว่าเยอะ
? นายมานั่งชิงช้ากับฉันสิ...ที่ยังเหลืออยู่นะ ?
เขาเดินมานั่งข้างๆ ฉันตามคำชวน เราเริ่มคุ้นเคยกันมากขึ้นไม่เหมือนครั้งแรกที่เราเจอกัน
? ทำไมนายไม่อยู่บนตึกใหญ่กับครอบครัวของนายล่ะ ?
ฉันอยากรู้ ว่าเพราะอะไรเขาถึงแยกตัวเองออกมา
? ฉันชอบอยู่คนเดียวมากกว่า...ชอบบ้านหลังเล็กๆ อบอุ่นดี ?
? นายนี่แปลกดีนะ บอกอยู่คนเดียวอบอุ่น...เพิ่งเคยได้ยินนี่แหละ ?
เขาหันมายิ้มให้อย่างเปิดเผย
? เอ๊ะ!!!...ทำไมพระของนายเหมือน??
ฉันชี้ไปที่คอเสื้อของเขา ที่กระดุมเสื้อหลุดลงมาสองเม็ด ทำให้ฉันมองเห็นพระที่เขาสวมอยู่ ฉันจำพระองค์นี้ได้ มันเหมือนของฉันที่เคยให้เด็กคนนั้นไป เขายิ้มมากขึ้น อย่าบอกนะว่าเขาคือ...
? มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง หน้าตาน่ารัก ผมยาว อุ้มตุ๊กตาไว้ที่อก ให้ฉันมาเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว...ก่อนไปเธอบอกว่าเธอชื่อแฟรี่ แปลว่านางฟ้า อย่าลืมนะ...ตั้งแต่นั้นมาฉันไม่เคยลืมเธอเลย ?
? ไม่น่าเชื่อ...ว่าเด็กผู้ชายคนนั้นจะเป็นนาย ?
เขาใส่พระองค์นี้ติดตัวเสมอหรือ
? วันนั้นที่ฉันพูดกับเธอไม่ดี ฉันขอโทษนะ ?
นั่นสิ เขารู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นคือฉัน เพราะวันนั้นฉันบอกชื่อเขาไปด้วย
? แล้วนายเลิกกลัวคนตาย เลิกกลัวผีหรือยังล่ะ ?
ฉันยิ้มขำ เมื่อนึกถึงเด็กผู้ชายคนนั้น
? ไม่กลัวแล้ว...ก็มีพระองค์นี้อยู่ด้วยตลอดเวลา ?
เขาหันมามองหน้าฉันในระยะใกล้ ฉันต้องเสมองไปทางอื่น และเปลี่ยนเรื่องคุยแก้เขินไปเลยดีกว่า
? ฉันเห็นในโรงรถ มีรถเหมือน เป็นรถกู้ภัย ของใครเหรอ ?
? ของฉันเอง กับพ่อน่ะ...ฉันออกกู้ภัย ในเวลากลางคืน กลางวันก็เรียน ?
เขาเริ่มเล่าเรื่องของตัวเองให้ฉันฟัง
? พ่อบอกว่า ยิ่งกลัวก็ยิ่งต้องทำ ฉันออกกู้ภัยกับพ่อตอนอายุสิบห้า ฉันทำมันน้อยกว่าเธออีก พ่อบอกว่าเธอทำกู้ภัยตอนอายุสิบเอ็ด เธอเก่งนะ ?
? ฉันอยากทำน่ะ...มันคือสิ่งที่ฉันต้องการ ฉันอยากช่วยคน..ฉันอยู่ที่นี่ ฉันก็จะอาสาทำงานกู้ภัยกับพ่อเหมือนเดิม บอกท่านไปแล้ว...ท่านก็ตัดชุดไว้ให้ฉันแล้วด้วย...ชุดกู้ภัยที่นี่เท่ห์ดี เหมือนชุดหมีเลย ?
? พรุ่งนี้เธอไปมหาลัยกับฉันนะ ...แล้วกลับด้วยกันทุกวันได้ไหม ?
เขาชวนฉันเปลี่ยนเรื่องคุยเฉยเลย
? อย่าเลย...ฉันไปเองกลับเองดีกว่า ?
ฉันรีบปฏิเสธ เพราะไม่อยากใกล้ชิดเขามากนัก ไม่ได้รังเกียจ แต่ใจมันหวิวเมื่ออยู่ใกล้เขา แม้กระทั่งตอนนี้
? งั้นเป็นบางวันก็ได้ ?
เขาต่อรอง ฉันมองหน้าเขาอย่างคนที่กำลังตัดสินใจ
? ก็ได้...ถ้าวันไหนฉันต้องการไปหรือกลับ ฉันจะบอกนายก็แล้วกัน โอเคป่ะ ?
ฉันเอียงคอยิ้มให้เขา เขายิ้มตอบกลับมาอย่างพอใจ ฉันลุกขึ้นยืนก่อนหันไปบอกเขา
? ฉันจะกลับแล้ว ต้องทำกับข้าวไว้ให้พ่อ ไม่รู้ว่าป่านนี้ท่านกลับหรือยัง ?
? ให้ฉันไปส่งนะ ?
ฉันพยักหน้าให้แทนคำตอบ
เขาเดินลอดรั้วมาส่งฉันที่บ้าน แล้วกลับไป พ่อยังไม่กลับจากที่ทำงาน ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อเข้าครัว ทำอาหารง่ายๆ สองอย่างไว้รอพ่อ พออาหารตั้งโต๊ะเสร็จ พ่อก็กลับมาพอดี เรานั่งทานอาหารสักพัก ก็ได้ยินวิทยุสื่อสารของพ่อดังขึ้น ฉันกับพ่อหยุดรับประทานอาหาร รอฟังเสียงรายงานในวิทยุสื่อสารอย่างตั้งใจ
? แจ้งเหตุ ว.40 ( มีอุบัติเหตุ / เกิดอุบัติเหตุ ) ขณะนี้เกิดเหตุรถเมล์พลิกคว่ำบริเวณถนนสี่แยก xxx เจ้าหน้าที่กู้ภัยผู้ใดอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุมากที่สุด ให้ไปที่จุดเกิดเหตุด่วน มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายท่าน ?
? ย้ำ...แจ้งเหตุ ว.40 (มีอุบัติเหตุ / เกิดอุบัติเหตุ) ขณะนี้เกิดเหตุรถเมล์พลิกคว่ำบริเวณถนนสี่แยก xxx เจ้าหน้าที่กู้ภัยผู้ใดอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุมากที่สุดให้ไปที่จุดเกิดเหตุด่วน มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายท่าน?
ฉันกระโดดขึ้นห้องไปใส่เสื้อของมูลนิธิกู้ภัย อย่างรู้งาน รวบผมเพื่อใส่หมวกทับอย่างเร็ว...มองนาฟิกาข้างฝามันบอกเวลา17.10 น. ฉันรีบลงมาหาพ่อที่สตาร์ทรถรอฉันอยู่แล้ว กับข้าวกับปลายังไม่ต้องเก็บ การช่วยเหลือคนสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด อุบัติเหตุที่กำลังเกิดขึ้น อยู่ใกล้เรามากที่สุด
พ่อเปิดไซเรนและไฟขอทาง เพื่ออยากไปให้ถึงจุดเกิดเหตุให้เร็วที่สุด แต่ท่านไม่ได้ขับรถเร็ว เพราะการจะช่วยเหลือผู้อื่นได้ เราจะต้องปลอดภัยเสียก่อน ถ้าขับรถเร็วและประมาท เรานี่แหละ จะเป็นฝ่ายที่ให้กู้ภัยด้วยกัน มาช่วยเหลือกันเอง
ฉันและพ่อไปถึงจุดเกิดเหตุเป็นคันที่สอง ใครกันนะมาถึงก่อนเราอีก ฉันรีบเปิดประตูลงจากรถทันที มองไปที่รถเมล์สีเขียวสี่ล้อ ที่ประสบเหตุ สภาพรถ ตะแคงข้างอยู่ ทางด้านที่เป็นประตูอยู่ด้านล่าง การช่วยเหลือครั้งนี้คงต้องทุบกระจกหน้ารถ และอาจต้องใช้เครื่องตัดถ่าง เพราะที่เห็น ตัวรถที่เกิดเหตุผิดรูป อาจจะมีส่วนใดส่วนหนึ่งกดทับผู้ที่อยู่ภายในรถ
ภายในรถ มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือกันเซ็งแซ่ ถ้าเดาไม่ผิด คนขับต้องขับรถเร็วและประมาทอย่างแน่นอน เพราะฉันเคยนั่งรถเมล์แบบนี้มาบ้าง ส่วนใหญ่จะคึกคะนองขับฉวัดเฉวียนไปมา ตั้งแต่นั้นฉันตั้งปฏิญาณว่า จะไม่นั่งรถเมล์แบบนี้อีกแล้ว บอกตรงๆ ว่าเข็ด
พ่อหยิบกรวยไปวางกั้นจุดเกิดเหตุ ฉันหยิบไฟฉายที่เตรียมมาด้วย เปิดส่องให้กู้ภัยที่คนหนึ่งที่มาถึงที่นี่ก่อนเรา เขากำลังงัดขอบยางของกระจกรถออก
เอพริล...เขาคือคนที่มาถึงจุดเกิดเหตุก่อนเรา
? เอพริล นายงัดกระจกให้มันเร็วกว่านี้ได้ไหม...?
ฉันเร่งเขา เขาหันมาตามเสียงเร่ง ชะงักนิดหนึ่งที่เห็นว่าเป็นฉัน ฉันงัดมีดที่พกมาด้วย ช่วยเขางัดขอบยางกระจกด้วยอีกคน เพราะมีคนช่วยส่องไฟให้ ทีมกู้ภัย พากันทยอยมาบ้างแล้ว
บ้างคนกำลังใช้เครื่องตัดถ่างเพื่อความรวดเร็ว เหลือแต่รถพยาบาลที่ยังมาไม่ถึง และรถตำรวจที่เพิ่งมาถึงจุดเกิดเหตุพอดี เราถอดกระจกออกได้ ก็มีกู้ภัยคนอื่นที่อยู่หน่วยเดียวกับเรา เข้ามาช่วย
? ใจเย็นๆ ครับ ข้างในเป็นอย่างไรบ้างครับ ช่วยแจ้งให้เราทราบด้วยครับ อย่าเพิ่งแย่งกันออกมา เราจะช่วยพวกคุณทุกคน แต่ใครที่บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ที่สามารถออกมาได้ก่อน ออกมาเลยครับ ?
พ่อตะโกนพูดให้คนในรถ สงบสติอารมณ์ เพราะถ้าแย่งกันออกมาเมื่อไหร่ อาจจะเหยียบโดนคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถึงตายได้
? มีคนบาดเจ็บอยู่หลายคนครับ บางคนก็เงียบไป ในนี้มีคนประมาณสิบสองคนครับ ?
เสียงของคนในรถที่เกิดเหตุตะโกนกลับมา
? งั้นคนที่สามารถออกมาได้ ค่อยๆ ออกมาทีละคนนะครับ ?
ฉันกับเอพริลยืนมองหน้ากัน ก่อนที่จะช่วยกันพยุงคนที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ออกมาตรงจุดที่มีกู้ชีพ รอปฐมพยาบาลเบื้องต้นอยู่ กู้ภัยคนอื่นๆ ก็ช่วยกันในทางด้านจราจร คือ โบกรถบ้าง และทุกคนต้องใส่เสื้อสะท้อนแสง ในเวลากลางคืนแบบนี้ รถที่วิ่งสวนไปมาอาจมองไม่เห็นเรา
ฉันมองเข้าไปในรถ เห็นคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนร้องด้วยความเจ็บปวด ได้กลิ่นคาวของเลือดลอยมาปะทะจมูก ที่เห็นนอนนิ่งอาจตายแล้วก็ได้
? ไอ้หนูถอยออกไปก่อน หลีกทางให้ตำรวจด้วย...เกะกะชะมัด ?
เสียงชนฉันดังพลั๊ก!!!ไม่มีคำว่าขอโทษ แถมประโยคหลังกล่าวคำที่แสนจะหยาบคายออกมาด้วย เขาคงคิดว่าฉันเป็นเด็กผู้ชาย
? ฉันกำลังช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอยู่ ไม่รู้หรือไง นายนั่นแหละ ที่เกะกะ แถมยังมาช้ากว่าคนอื่นเขาอีก ?
ฉันหันไปพ่นไฟใส่บ้าง คิดว่ากลัวหรือไง ไอ้.....
เฮ้ย!!!นี่มันออกัส...แต่เขาไม่รู้หรอกว่าเป็นฉัน
? ไอ้หนู...กล้าดียังไง ถึงมาด่าผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างฉันฮึ...แกแน่หรือไงวะ อยู่สังกัดไหนนี่ ?
เขาพ่นน้ำมัน มาใส่ฉันอีก แถมผลักไหล่ฉันด้วย จนเซเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว ไฟอย่างฉันหรือจะยอม?ระเบิดสิ..โมโหแล้วนะเว้ย!!!
? ผลั๊ก!!! ?
? โอ๊ย!!! ?
? โอ๊ย!!!
? เฮ้ย!!! ?
เสียงผลั๊ก!!น่ะคือสียงที่ฉันตะบันหน้าออกัส ด้วยมือซ้าย
เสียงโอ๊ย!!แรก คือเสียงร้องของเขา
เสียงโอ๊ย!! สอง คือเสียงของฉันเอง เจ็บมือชะมัด คนอะไร นั่นหน้า หรือกระดูกกันแน่ ฉันต้องสะบัดมือตัวเอง เพราะเจ็บที่ไปต่อยเขาเข้า
ส่วนเสียงเฮ้ย!! สุดท้ายที่ตามมาคือเสียงของ เอพริล
ทุกคนพากันตกตะลึง ที่กู้ภัยอย่างฉัน ตะบันหน้าผู้หมวดสุดหล่อเข้าเต็มรัก ฉันถอดหมวกออก แล้วปามันทิ้งลงไปที่พื้นด้วยความโมโห อยู่กับนายนี่ทีไร นางฟ้าอย่างฉัน ต้องกลายเป็นแม่มดทุกที...ให้ตายเถอะ!
? แฟรรี่...โธ่โว๊ย!!! ?
ออกัสอุทานขึ้นมา มองฉันอย่างคาดไม่ถึง เขาคงอายคนรอบข้าง รวมไปถึงลูกน้องของเขาด้วย ที่กำลังมองเราอยู่ แต่เขาไม่กล้ากับฉัน เพราะฉันเป็นผู้หญิง ได้แต่เอามือลูบที่มุมปากตัวเองแรงๆ
? ใช่ฉันเอง..ตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์จะไปต่อกรกับนายหรอก มีปัญหาอะไรเราไปเจอกันที่บ้าน..เข้าใจ๋ ?
พูดจบฉันหันไปพยักหน้ากับเอพริล เราต้องช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เรื่องนี้คือสิ่งที่สำคัญที่สุด อ้าว...แล้วหมวกฉันอยู่ไหนล่ะนี่...
ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยไม่มีอะไรแตกหัก พ่อรีบนำพวกเขาส่งโรงพยาบาลแล้ว ฉันเห็นมีคนเสียชีวิตนอนอยู่สองคน ฉันคงช่วยอะไรพวกเขาไม่ได้แล้วสินะ
ฉันเดินไปที่จุด ที่เขาเอาผู้ที่ได้บาดเจ็บสาหัสมานอนรอรถพยาบาล ผู้บาดเจ็บสาหัส มีอยู่สองคนเป็นผู้ชายหนึ่งคนหญิงหนึ่งคน นอนหายใจรวยริน เขาคงเจ็บจากแรงกระแทก ฉันนั่งลงข้างๆ โดยไม่เห็นว่ามีใครอยู่ข้างหลัง เพราะใจอยากช่วยผู้ที่ได้รับบาดเจ็บตรงหน้าเท่านั้น
? เจ็บมากใช่ไหม ให้แฟร์ช่วยนะ ?
ฉันค่อยๆ วางมือขวาของตัวเองไปที่ บริเวณหัวไหล่ของเขา และของเธอ เขาและเธอลืมตาขึ้นหันมามองหน้าฉันพร้อมกันอย่างงงๆ
? ถ้าพี่ๆ หายจากการบาดเจ็บครั้งนี้แล้ว พี่ๆ ต้องทำแต่ความดีกันนะ ทำบุญมากๆ บุญจะช่วยให้ชีวิตของพี่ไม่ต้องเจอกับสิ่งเหล่านี้ ?
ทั้งสองคนพยักหน้าพร้อมกัน ลุกขึ้นนั่งได้ตามปกติ อย่างงงๆ
? พี่คะพาสองคนนี่ไปโรงพยาบาลด่วนเลยค่ะ ?
ฉันหันไปเรียกกู้ภัยคนอื่นๆ ให้มารับงานนี้แทน แต่สายตา ดันเหลือบไปเห็นเอพริล มองฉันอยู่ เขาทำหน้าประหลาดใจ หรือเมื่อกี้ เขาเห็น...ไม่หรอกน่า ถ้าไม่ขนาดจ้องมองฉันทุกอิริยาบถ ก็คงไม่รู้หรอก
? ช่วยลุงด้วย...ลุงยังไม่ตาย ลุงยังตายไม่ได้..ลุงมีเมียและลูกที่เป็นอัมพาตต้องคอยดูแล...ถ้าลุงตายใครจะดูแลพวกเขา ได้โปรดช่วยลุงด้วยนะ...ลุงสัญญาว่าจะทำแต่ความดี ?
ฉันขยี้ตาตัวเองอีกครั้ง ฉันตาฝาดใช่ไหม ทำไมฉันมองเห็นคนสองคน ที่หน้าตาเหมือนกัน แต่อีกคนหนึ่งยืน อีกคนหนึ่งนอนหลับตาเลือดท่วมตัว หมดลมหายใจไปแล้ว อย่าบอกนะ ว่าตอนนี้ ฉันสามารถเห็นวิญญาณได้ด้วย ลุงที่ยืน เขากำลังขอร้องฉัน
? ถ้าแฟร์ช่วยได้ แฟร์จะพยายามนะ ?
ฉันตอบลุงไปแบบนั้น
? เอพริลช่วยcpr (ปั้มหัวใจ) ลุงหน่อยเร็วๆ เข้า ลุงเขายังไม่ตาย ?
ฉันหันไปสั่งเอพริล เขารีบcpr (ปั้มหัวใจ) ลุงทันที ฉันไปนั่งข้างๆ ลุงเพื่อเตรียมความพร้อมของตัวเอง
? แฟร์!!!ลุงแกมาแล้วจริงๆ..ลุงแกหายใจแล้ว ?
เขาพูดขึ้นมาอย่างดีใจ เอามือจับชีพจรของลุง เพื่อดูการเต้นของหัวใจ ฉันรีบวางฝ่ามือของตัวเองไปที่หัวไหล่ของลุง หลับตาและรีบอธิฐาน เพื่อให้แกไม่เจ็บปวดจากบาดแผลฉกรรจ์นั่น
ลุงค่อยๆ ลืมตา แต่แกคงลุกไม่ได้ อาจกระดูกหักบริเวณไหนฉันไม่รู้ได้ เอพริลเดินไปเรียกรถพยาบาล ให้มารับลุงไปทันที ก่อนมองฉันด้วยสายตาที่อยากรู้ ถ้าเขาไม่ถามฉันก็จะไม่บอกล่ะ เพราะหลวงตาบอกว่าให้ใครรู้มากไม่ได้ ฉันอาจเดือดร้อน
? หนูเอ๊ย...ลุงขอบใจเอ็งมากนะ ?
ลุงหันมาขอบคุณฉันเบาๆ ฉันจับมือแกไว้ยิ้มให้กำลังใจ
? ลุงไม่ต้องห่วงนะ...แฟร์จะให้เจ้าหน้าที่ดูแลป้ากับลูกลุงให้ จนกว่าลุงจะหายดีนะ ?
? ขอบใจๆ...น้ำใจหนูประเสริฐนัก ?
? แต่ลุงอย่าลืมที่รับปากไว้กับแฟร์นะ ?
ฉันย้ำคำสัญญา ลุงพยักหน้ารับรู้
หลังจากตำรวจเคลียร์พื้นที่เสร็จแล้ว บรรดาไทยมุงก็เริ่มหายไป แต่พ่อยังไม่กลับมา ฉันมองไปที่ตำรวจกลุ่มนั้น เห็นออกัสยืนมองฉันอยู่ ฉันสะบัดหน้าใส่ จนผมตัวเองกระจาย ...เฮ๊ย!!!แล้วหมวกฉันล่ะ ทิ้งไว้ที่ไหนเนี่ย...
? แฟร์เรากลับบ้านกันเถอะ ดึกแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปเรียนด้วยนะ ?
เอพริลชวนฉันกลับกับเขา จะไปกับเขาดี หรือจะรอพ่อดีนะ
? ขอฉันโทรบอกพ่อก่อน ?
ฉันควักโทรศัพท์โทรออกหาพ่อทันที บอกท่านว่า จะกลับกับเอพริลท่านจะได้ไม่เป็นห่วง

? เหนื่อยไหม ?
เอพริลหันมาถามฉันขณะที่เรานั่งรถกลับมาบ้านด้วยกัน
? ไม่เหนื่อยหรอก เวลาที่ฉันช่วยคนได้ ฉันจะไม่รู้สึกเหนื่อย แต่หิว ก่อนมานี่ กำลังนั่งกินข้าวกับพ่ออยู่พอดี..?
? งั้นแวะกินข้าวต้มร้อนๆ หน่อยดีกว่านะ ฉันยังไม่ได้กินอะไรมาเลย ?
? ดีเหมือนกัน ?
ฉันเห็นด้วย
เขาพาแวะกินข้าวต้มที่ร้านอาหารข้างทางก่อน เขาคงหิวนะ เห็นสั่งกับข้าวมาตั้งหลายอย่าง ของโปรดฉันทั้งนั้นเลยด้วย ฉันกินไปไม่มาก เพราะข้าวต้มน้ำค่อนข้างเยอะ อิ่มน้ำมากกว่า
? เอ้า...ทำไมกินน้อยจัง ของโปรดเธอทั้งนั้นเลยนะ...หรือไม่อร่อย ?
เขาทัก..เมื่อเห็นฉันวางช้อนแล้ว เขารู้ได้ไงว่ากับข้าวพวกนี้คือของโปรดของฉัน เรายังไม่เคยนั่งทานอาหารด้วยกันเลยสักมื้อ
? นายรู้ได้ไงว่ากับข้าวพวกนี้ คือของโปรดฉัน ?
ฉันมองหน้าเขาแปลกใจ เขาอึ้งๆ ที่ฉันถามเขาแบบนั้น
? ไม่รู้สิ...ความรู้สึกมันบอก..ว่าให้สั่งมาแบบนี้..ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ?
เขาตอบแค่นั้น แล้วก้มลงไปทานอาหารต่อ
ฉันไม่ถามเขาอีก เพราะเครื่องหมายคำถามมันมาอยู่ที่หัวของฉันอีกอัน....ต่อไปคงรู้เองได้ล่ะมั้ง....
เขาแวะจอดให้ฉันลงที่หน้าบ้าน ฉันหันไปขอบคุณเขาเบาๆ เขาหันมาพูดกับฉัน ก่อนที่ฉันจะเปิดประตูรถลงไป
? เธอมีอะไรจะบอกฉันหรือเปล่า ?
ฉันส่ายหน้าขมวดคิ้ว กับคำพูดของเขา เพราะไม่คิดจะบอกอะไรกับเขาทั้งนั้นแหละ ถ้าเขาไม่ถามแบบเจาะประเด็น
ก่อนนอนฉันนั่งสมาธิเหมือนเดิม ปล่อยวาง ทำจิตใจให้ว่างเปล่า วันนี้ฉันสามารถช่วยคนได้อีกหลายคน ทุกคนล้วนรับปากว่าจะทำแต่ความดี ฉันรู้สึกอิ่มใจเหลือเกิน
? เจ้าทำดีแล้วแฟรี่ ?
เสียงที่ดังแว่วขึ้นข้างๆ หู ทำให้ฉันตื่นจากสมาธิ ต้องหันไปมองรอบๆ ห้อง เสียงที่ได้ยินชัดเจนมากขึ้น ใครกันนะ ที่พูดกับฉันแบบนี้ ฉันแน่ใจว่าตัวเองหูไม่ได้ฝาด วันนี้เป็นวันแรกที่ฉันเห็นวิญญาณได้ และก็เป็นวันแรก ที่ได้ยินเสียงที่พูดด้วย ชัดเจนกว่าครั้งไหนๆ นี่กำลังเกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่ แต่ยังไง ก็ขอให้สิ่งที่เกิดขึ้นกับฉัน เป็นสิ่งที่ดีๆ ด้วยเถอะ...

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”