รักจ้าวสมุทร ตอนที่ 2 นายสิงห์

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
ploy_israwan
โพสต์: 3
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 26 มิ.ย. 2010 7:45 pm

รักจ้าวสมุทร ตอนที่ 2 นายสิงห์

โพสต์ โดย ploy_israwan »

ตอนที่ 2 นายสิงห์

เสียงเอะอะรอบข้างที่ดังเข้ามา ทำให้ปิ่นมณีรู้สึกตัว ชายร่างกำยำ สูงใหญ่ ผิวสีเข้ม พูดคุยหัวเราะกับเพื่อนอีกคนอย่างคึกครื้น กลิ่นสาปปลาที่โชยเข้ามา พร้อมกลิ่นเหล้าและบุหรี่ฉุนจมูกเธอ จนต้องยกมือขึ้นมาปิดจมูกเอาไว้ เธอค่อยๆลุกขึ้นเคลื่อนกายออกไป ?พวกมันคงยังไม่เห็นเราหรอกมั่ง?

ยันอ่อง และลูกน้องของเขากำลังคุยเรื่องการต่อสู้ที่พึ่งผ่านมาสดๆร้อนๆ

?นายหัวสิงห์นี่ แน่ๆจริงๆเลยนะลูกพี่ ขนาดไม่ได้มาที่ท่าตั้งนาน ฝีมือยังไม่เคยตกเลย? เจ้ายาวีลูกน้องคนหนึ่งของยันอ่องพูดด้วยน้ำเสียงชื่นชม เพราะตั่งแต่เขาติดตามลูกพี่มาจากประเทศพม่า ก็ยังไม่เคยเจอใครที่สามารถชนะลูกพี่ของเค้าได้สักราย ด้วยรูปร่างที่ดูสูงใหญ่กำยำ พละกำลังที่มหาศาลเนื่องจากต้องออกเรือไปจับปลาเป็นประจำทุกวัน

?อะไรของมึง วันนี้กูกินเหล้าไปหลายยยแล้วต่างหาก กูถึงแพ้ ไม่งั้นฝีมืออย่างกูนะเหรอ ไม่มีหน้าไหนสู้ได้หรอก ไม่รู้หรือว่าชื่อกูแปลว่าอะไร ?ผู้ไม่แพ้? โว้ย..? ยันอ่องกล่าวด้วยน้ำเสียงอย่างไม่ยอมแพ้ การที่ชาติกำเนิดของเขาเป็นพม่า และต้องทนลำบากมากมายกว่าจะหนีข้ามชายแดนมา จนพอมีพอกิน สามารถส่งเงินไปให้ทางบ้านได้ เค้าต้องผ่านอะไรมานักต่อนัก แค่นายหัวลูกเมืองสยามอย่างนั้น ไม่สามารทำอะไรเขาได้หรอก (มั้ง)

?หัวหน้าเก่งงงที่ซู้ดดด.. อึกๆ? อาลีลูกน้องอีกคนร้องออกมา พร้อมสะอึกด้วยฤทธิ์น้ำเมา


?เฮ้ย..นั่นอะไรน่ะ? อาลีกล่าวเมื่อเห็นเงาดำเคลื่อนไหวอยู่ห่างจากเค้าไปเพียงสองร้อยเมตร


?โอ้แม่เจ้าโว้ย ผู้หญิงๆ ลูกพี่ ผู้หญิง? คำว่าผู้หญิงทำให้ทั้งสามคนหูผึ่ง พวกเค้าออกเรือไปนานเกือบครึ่งเดือน ถึงแม้จะมีพวกผู้ชายเทียมที่พร้อมจะพลีกายให้พวกเขาบนเรือ แต่พวกเขาก็ยังถวิลหาอกนุ่มๆ เรียวขาของหญิงสาวโอบรัดรอบกายเขาอยู่ และเพียงแค่คิดถึงความอบอุ่นยามเมื่อกระแทกเข้าใส่เนินนุ่มนั้น ทำให้พวกเขาแทบจะอดทนไม่ไว้


?เฮ้ย..ไปเร็วเข้า? ยันฮ่องยิ่มสะแยอย่างน่ากลัว ก่อนวิ่งเข้าไปกันทางเดินของหญิงสาวที่ยันฮ่องเห็นเอาไว้ แสงจันทร์ที่ส่องมาทำให้ยังฮ่องเห็นเค้าหน้าได้รางๆ แต่มันก็สวยจับใจสำหรับยันฮ่อง


?โอ้...แม่เจ้าโว้ย เกิดมายังไม่เคยเห็นใครสวยเท่านี้ มานี่มา? ยันฮ่องเอื้อมมือไปหมายจะคว้าร่างบาง แต่หญิงสาวรีบเบี่ยงตัวหลบ พร้อมตวาดออกมาว่า

?ถอยออกไปนะ ถอยออกไป พวกแกต้องการอะไร? ปิ่นมณีรีบเดินหนี ดวงตายังหันกลับมามองยันฮ่องด้วยสายตาระแวดระวัง แต่ทันใดนั้นกลับไปกระแทกกับแผ่นอกของยาวีที่เดินมาดักเข้า เธอหงายหลังลง ยาวีจึงคว้าหมับเข้าที่เอวมากอดเอาไว้

?โห้ ลูกพี่ แม่นี่..ตัวหอมมากชะมัดเลย ผมขอก่อนได้ไหมลูกพี่ ที่แล้วๆมาผมให้ลูกพี่ก่อนเสมอ? เสียงพูดกึ่งครางกระเส่าพร้อมสายตาที่โลมเลียไปทั่วร่าง ทำให้หญิงสาวหวาดกลัว ปิ่นมณีดิ้นจนหลุด แล้ววิ่งตัดหาดขึ้นไป หวังจะไปเจอถนนใหญ่สักเส้นผ่านมา


?ตามไปจับเร็ว เดี๋ยวก็ชวดกันหมดหรอก? ยาวีวิ่งตามขึ้นไป จับได้เสื้อด้านหลังของปิ่นมณี แล้วกระชากสุดแรง เสียงเสื้อขาดดังแควก แต่ปิ่นมณียังวิ่งต่อไปได้ อาลีที่ยืนเห็นเหตุการณ์ไม่ได้เข้ามาช่วยเพราะเขายังรู้สึกว่านี่ไม่ใช่การกระทำที่ถูกต้อง แต่ก็ไม่กล้าที่จะออกมาปกป้องหญิงสาว ความกลัวที่มีมากกว่าทำให้อาลีมองหญิงสาวถูกยาวีกระชากเส้นผมจนหงายหลังล้มลงกับพื้นทรายอย่างไม่รู้จะทำยังไง
ปิ่นมณีกรีดร้องพยายามจะพลิกตัวเพื่อลุกขึ้นวิ่งหนีต่อ แต่ยาวีกลับมากดร่างบางเอาไว้แล้วเรียกยันฮ่อง

?ลูกพี่ ให้ผมก่อนนะ ผมจะทนไม่ไหวแล้ว? ยันฮ่องมายืนทางศรีษะของหญิงสาว และจับมือทั้งสองของปิ่นมณีมากดไว้เหนือหัว
?เอ้อ...ตามใจมึง? ยันฮ่องเสียดายสุดกำลัง เพราะแค่มือที่เขาจับก็รับรู้แล้วว่ามันนุ่มเนียนสักแค่ไหน แต่เขาก็ไม่อยากจะขัดใจลูกน้อง เพราะที่แล้วๆมายาวีมักจะให้เขาเลือกก่อน หรือเป็นคนเปิดเกมเสมอๆ


?ช่วยฉันด้วย ได้โปรด? ปิ่นมณีหันไปสบสายตาอาลี ที่ยังดูหวาดกลัวกับการกระทำของลูกพี่ทั้งสอง แต่ยังไม่กล้าทำอะไร เจ้าหนุ่มน้อยนี่ดูจะเป็นความหวังหนึ่งเดียวของเธอ แต่อาลีกลับสายหน้าด้วยความหวาดกลัว ก่อนจะวิ่งหายไปท่ามกลางความมืดมิด ปิ่นมณีรู้สึกหมดหวัง เธออุตสาห์หนีรอดจากพี่ภานุวัฒน์ แล้วนี่เธอกลับต้องมาเสียสิ่งสำคัญของลูกผู้หญิงไปให้กับใครก็ไม่รู้น่ะหรือ....ไม่...ไม่นะ... ฉันจะยอมไม่ได้ ปิ่นมณีฮึดสู้อีกครั้งหลังจากที่เธอดิ้นจนหมดแรงไปแล้วรอบหนึ่ง


?ปล่อย!!! ปล่อยช้านนะ อย่า อย่า ช่วยด้วย? ปิ่นมณีกรีดร้อง แต่เสียงกรีดร้องของเธอ กลับยิ่งกระตุ้นอารมณ์ของยาวียิ่งขึ้น สายมุกคล้องไหล่ทั้งสองถูกกระชากจนขาด ตัวเสื้อถูกดึงลงมา ทำให้เห็นยกทรงห่อหุ้มสองถันอยู่อย่างหมิ่นเหม่ ยาวีใช้สองมือเฟ้นฟอนสัมผัส ลูบไล้ไปทั่วร่างอย่างหื่นกระหาย ลิ้นสากของเขาโลมเลียไปตามร่องอกเนินแน่น ปิ่นมณีรู้สึกถึงกระโปรงที่ถูกตลบขึ้น ทำให้เธอยิ่งกรีดร้องหนักกว่าเดิม พร้อมดิ้นด้วยความหวาดกลัว เธอยกเท้าขึ้นถีบกล่องดวงใจของยาวีเต็มแรง ยาวีเจ็บจนจุก ปล่อยมือออกจากร่างบาง กุมเป้าของตัวเองเอาไว้


?โอ้ย..ลูกพี่ มึงๆกล้าถีบไข่กูเหรอ? ยันฮ่องเห็นลูกน้องคู่ใจเขาลงไปนอนแดดิ้นด้วยความเจ็บปวด จึงเผลอปล่อยมือของหญิงสาว ปิ่นมณีได้โอกาสจึงคว้าเม็ดทรายสาดเข้าหน้ายันฮ่องเต็มแรง


?โอ้ย...แสบตา?ยันฮ่องพยายามขยี้ตา ปัดเม็ดทรายออก และเห็นว่าปิ่นมณีไปได้ไกลแล้ว ยันฮ่องออกวิ่งตามไปแม้จะยังแสบตา พอดีกับที่ปิ่นมณีสะดุดก้อนหินล้มลง เธอพยายามลุกขึ้น แต่ความเจ็บปวดจากข้อเท้ามีมากกว่าที่เธอจะทนไหว ขณะที่ยันฮ่องและยาวีวิ่งตามมา.....
ทันใดนั้นเสียงอันทรงอำนาจก็ดังขึ้น.....


?หยุดนะ พวกแกทำอะไรกัน? ยันฮ่องกับยาวี จำเสียงของผู้พูดได้โดยไม่ต้องหันหลังกลับ....

*****************

นายสิงห์เลี้ยวรถกลับมาหลังจากพบว่า เค้าทำแหวนที่แม่เขาให้ไว้ก่อนจะจากไปหาย เขากลับมาหาที่ลานต่อสู้และก็พบมันในที่สุด แต่ก่อนที่เขาจะขับรถกลับนั้น เขาได้ยินเสียงร้องไห้ และเสียงร้องขอความช่วยเหลือ


นายสิงห์มองเลยจากลูกน้องที่อยู่ในความปกครองของเขาออกไปที่ร่างบาง เห็นปิ่นมณีที่ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้าขาดหลุดลุ่ย ที่เท้าทั้งสองข้างมีเลือดไหลนองไปตามทาง แววตาของเขาลุกโชนขึ้นมาด้วยความโกธรเคือง ถึงแม้เค้าจะไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้ แต่สิ่งที่ลูกน้องทั้งสองของเขาทำมันยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน....รังแกผู้หญิง
?ป่าวนะครับนายหัว ผมไม่ได้ทำอะไร แค่มาเดินเล่นกับลูกพี่เฉยๆ นางคนนี้โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้? ยันฮ่องรีบเอ่ยแก้ตัว เพราะได้ยินกิตติศัพท์ของนายหัวมานานแล้วว่า รักความยุติธรรมยิ่งกว่าใครๆ เวลาใจดีก็ใจดีสุดๆ แต่เวลาร้ายนั้น นายสิงห์ก็จะเหมือนกับสมรภูมิรบดีๆนี่เอง
?ใช่ครับๆ....ผมกับหัวหน้าออกมาเดินเล่นครับ พอดี..? นายสิงห์ตวัดสายตามองผ้าสีชมพูอ่อนที่ขาดวิ่งอยู่ในมือของยาวีแล้วตวัดสายตาคมเข้มมองสบสายตา
?ออกไป? นายสิงห์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ....นิ่ง...แต่ทุกคนรู้ว่าภายใต้น้ำเสียงเหล่านี้ ไฟลูกย่อมๆได้ใกล้ปะทุขึ้นแล้ว
? พวกผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะครับ อย่าส่งพวกเราให้ตำรวจเลย ไม่งั้นพวกผมก็จะถูกส่งกลับบ้าน ได้โปรดเถอะครับ?
?ออกไปปป!!!!? นายสิงห์ตวาดเสียงดังอย่างสุดกลั้น ยันฮ่องและยาวีต่างวิ่งล้มลุกคลุกคลาน ออกไปอย่างทันทีทันใด


ปิ่นมณีมองร่างสูงใหญ่ที่เดินสาวเท้าเข้ามา แม้เขาจะเป็นผู้ไล่ทั้งสองคนนั้นไป แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกปลอดภัยขึ้นเท่าไร เพราะตัวเขาก็ดูน่ากลัวไม่ยิ่งหย่อนไปจากสองคนนั้น รูปร่างสูงใหญ่ แผ่นอกหน้ากว้างที่อยู่ภายใต้เสื้อยืดสีเข้มที่ไม่รู้ว่าสีอะไรภายใต้ความมืดมิดนั้น ทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวไม่น้อยไปกว่าเดิม ร่างสูงหยุดนั่งลงข้างๆเธอ ทำให้เธอเห็นโครงหน้าที่ดูเหมือนนักรบในสมัยยุคกรีกสมัยโบราณ ดวงตาสีดำสนิทจ้องมาที่เธอราวกลับจะบอกเธอเป็นนัยๆว่าไม่ต้องกลัว
?เป็นอะไรไหมครับ? เสียงชายหนุ่มดังขึ้น ก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือมา แต่บ่งบอกด้วยสายตาให้ปิ่นมณีรับรู้ว่าเขาไม่ได้จะมาทำร้าย มือหนาใหญ่ที่จับลงบนต้นแขน แผ่ไอร้อนออกมาจากตัวเขา กลิ่นสาปปลาที่โชยมาไม่ได้ทำให้ปิ่นมณีกระอักกระอั้วใจเหมือนที่เคยเป็น เธอค่อยๆลุกขึ้นยืน แต่ทันใดนั้นความเจ็บที่ข้อเท้าก็ทำให้เธอล้มลงไปอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับมีท่อนแขนของนายสิงห์กันเอาไว้..ก่อนจะค่อยๆประคองปิ่นมณีให้นั่งลงช้าๆ


?ไปที่เรือผมก่อนไหมครับ ผมจะทำแผลให้? นายสิงห์เอ่ยบอกหญิงสาวที่เขามองเห็นเค้าหน้ารางๆในความมืด พลางคิดในใจว่า ?ก็สวยซะอย่างนี้ซิเล่า เจ้าพวกนั้นมันถึงอดใจไม่ไหว? นายสิงห์คิดอย่างยิ่มๆ ก่อนจะช้อนร่างบางขึ้น กลิ่นหอมอ่อนๆจากเส้นผม ทำให้นายสิงห์อดที่จะก้มมองร่างบางที่ก้มหน้างุดด้วยความเขินอายในอ้อมแขนไม่ได้
?ลูกตัวเหล่าใครกัน ถึงมาเดินเล่นท่าเรือขนปลาแถวนี้ ช่าง...ไม่ปลอดภัยกับตัวเองซะนิดเลย? นายสิงห์คิดอย่างไม่ชอบใจ ?นี่ท่าเป็นผู้หญิงของเขาล่ะก็ เขาจะไม่ยอมให้ออกมาเดินแบบนี้เลย? ?เอ้...ผู้หญิงของเขา?



นายสิงห์ตกใจกับความคิดของตัวเอง ชีวิตที่ต้องออกเรือไปเดือนหนึ่งกลับมาอยู่บนฝั่งอีกเดือนหนึ่ง
และก็กลับออกไปอีก มันจะมีผู้หญิงดีๆที่ไหนจะมารับคนอย่างเค้าได้ ยิ่งคุณหนูที่ดูบอบบางอย่างเธอคนนี้นี่แล้ว มันคงจะเป็นไปได้แค่ความฝัน..ความฝันที่ลมๆแล้งๆเท่านั้น นายสิงห์คิดอย่างขมขื่นใจ



แม่ของเขาก็ทิ้งพ่อของเขาไปด้วยสาเหตุนี้ เขาเติบโตมาโดยมีพ่อที่แสนจะเข้มแข็ง แต่ค่อนข้างจะโดดเดียวเหลือเกิน นายสิงห์ยังจำภาพแม่ตอนเด็กๆได้ แม่ร้องไห้...คิดถึงพ่ออยู่บ่อยๆตอนที่พ่อของเขาออกทะเลไป จำวันที่พ่อและแม่ของเขาทะเลาะกันอย่างรุนแรง จนกระทั้งแม่ของเขาจากไป...ไปแต่ตัว ออกไปตั่งแต่เช้ามืด โดยทิ้งแหวนทองเรียบๆหนึ่งวงไว้ให้เขา ซึ่งเขามารู้ที่หลังว่าเป็นแหวนที่พ่อให้กับแม่ครั้นเมื่อแม่ตัดสินใจมาอยู่ด้วย แม่เขาไม่ผิด...ไม่ผิดที่จะไม่อยากอยู่อย่างลำบาก ไม่มีใครที่อยากจะมีชีวิตอยู่อย่างลำบากหรอก เมื่อเวลาผ่านไป ความรักที่เริ่มจืดจาง สิ่งที่เคยเห็นว่าดี มันก็จางหายไปด้วยกัน นายสิงห์คิดพลางถอนหายใจ ก้มลงไปมองหญิงสาวในอ้อมแขนอีกครั้ง ภาพที่เค้าเห็นทำให้นายสิงห์เกิดความรู้สึกอ่อนโยนขึ้นในจิตใจ ภาพหญิงสาวแสนสวยหลับอย่างเหนื่อยอ่อน ใบหน้ามอมแมมไปด้วยเม็ดทราย นายสิงห์กระชับอ้อมแขนอีกครั้ง พาปิ่นมณีกลับไปที่เรือหาปลาที่ตกทอดมาจากพ่อของเขา...








ติดตาม ติ ชม และให้กำลังใจได้ที่นี้คะ
http://writer.dek-d.com/ploy-israwan/wr ... ?id=628668

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”