รักจ้าวสมุทร ตอนที่ 1 คู่หมั้น ช่วยเข้ามาอ่านเยอะๆนะคะ

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
ploy_israwan
โพสต์: 3
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 26 มิ.ย. 2010 7:45 pm

รักจ้าวสมุทร ตอนที่ 1 คู่หมั้น ช่วยเข้ามาอ่านเยอะๆนะคะ

โพสต์ โดย ploy_israwan »

ข้อมูลเบื้องต้น

เธอหนีภัยมาพึ่งเขา เขาที่ดูคล้ายชาวประมงเถื่อน โหดร้าย แต่เธอก็ไม่กลัว เพราะรู้ว่าเธอจะปลอดภัยเมื่ออยู่กับเขาร่วมกันค้นหาไปกับความรักของเขาและเธอ ที่มีอุปสรรคขวากหนามมากมาย แต่ชาวประมงเถื่อนที่แสนหวานสำหรับเธอคนนี้ก็พร้อมที่จะพาเธอผ่าฟันไปด้วยกัน




ตอนที่ 1 คู่หมั้น

งานเลี้ยงตอนรับการกลับมาของลูกชายคนเดียว ?คุณภานุวัฒน์ อัครวัฒน์? เจ้าภาพจึงแทบจะทุ่มเงินไม่อั่น เสียงไวโอลิน จังหวะบอลลูม ต่อด้วยจังหวะแทงโก้ ที่เร้าใจ เสียงหัวเราะของผู้คนในงานรื่นเริงดังไปทั่ว พนักงานเสริฟถือถาดที่มีแก้วแชมเปญเดินไปมาขวักไขว่ คุณหญิงคุณนายต่างใส่เครื่องเพชรประโคมกัน สะท้อนแสงโคมไฟระย้าส่องสว่างไปทั่วงาน หนุ่มเจ้าสำอางที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยสาวๆนั้น กำลังหัวเราะอย่างมีความสุข ดีกรีปริญญาโทจากประเทศอังกฤษที่เขาพึ่งได้มา คงเพียงพอจะทำให้สาวๆต่างคลั่งไคล้

?คุณภานุวัฒน์หายไปนานเลยนะคะ นีน่าคิดถึ้งคิดถึง ไปเรียนอังกฤษมาตั้งหลายปี
ลืมนีน่าไปบ้างรึยัง? สาวชุดราตรีสีแดงคอควานลึก อวดหน้าอกหน้าใจคับซี อันภาคภูมิใจของเธอ กดเบียดไปที่ต้นแขนของเขา ชายหนุ่งที่เริ่มจะเคลิ่มกับฤทธิ์ของแชมเปญ สบสายตาหวานช้ำของหญิงสาวที่ยั่วยวนเขาเหลือเกิน พลานให้เขาคิดถึงคู่หมั้นเขาไม่ได้ ปิ่นมณีสาวสวยรูปร่างอ่อนแอบอบบาง ที่เขาหมายจะครอบครอง แต่เจ้าตัวก็กลับเล่นตัวเสียเหลือเกิน

เมื่อสามปีก่อนที่เขาจะไปเรียนต่อประเทศอังกฤษ เพียงแค่จับมือเธอเท่านั้น ก็ทำเป็นหวงกับเขา ทั้งๆที่สำหรับเขา นายภาณุวัฒน์ อัศววัฒน์ ลูกชายของตระกูลนักการเมืองชื่อดัง ไม่เคยต้องง้อใคร แค่ได้ยินชื่อเสียงสาวๆก็มักจะเข้ามาหาเขาถึงเตียงโดยไม่ต้องไขว่คว้า ไม่ว่าจะเป็นดาราหรือนางแบบดังก็ตาม ถ้าคู่หมั้นเขาจะเร้าใจให้ได้สักครึ่งหนึ่งของสาวในอ้อมแขนเขาที่เป็นอยู่ เขาคงจะไม่ต้องทนเบื่อมากนัก เพราะที่จริง..เจ้าหล่อนก็สวยหวานอยู่แล้ว

?วัฒน์..แม่มีเรื่องจะคุยกับลูกหน่อย? เสียงมารดาของภานุวัฒน์เรียบเฉย แต่ดวงตาที่จ้องเขม่นนั้น ทำให้เขาเดาเรื่องได้ไม่ยาก ภานุวัฒน์เดินตามคุณหญิงจรัสไปด้วยสีหน้าเนือยๆ พร้อมหันกลับมาขยิบตากับนีน่า และสาวๆคนอื่นอย่างบอกว่า ?เดี๋ยวกลับมานะครับ? คุณหญิงจรัสเดินเชิดหน้านำลูกชายของตัวเองออกไปที่ระเบียงนอกห้องจัดเลี้ยงริมชายทะเลสุดลูกหูลูกตา ก่อนจะตะคอกออกมาว่า

?ทำไม! ลูกถึงทำตัวแบบนั้น?

?อะไรอีกละครับคุณแม่ ผมก็แค่คุยกับเพื่อนของผม?

?คุยอะไรของแกกัน เพื่อนแกแทบจะขึ้นมานั่งบนตักแกอยู่แล้ว แล้วนี่คู่หมั้นแกหายตัวไปไหน ลูกน้า...ลูก....แม่หาคนดีๆมาให้ล่ะไม่เคยสนใจเขา ผู้หญิงอย่างปิ่นมณีเนี่ยะหาไม่ได้แล้วนะ สวยก็สวย ชาติตระกูลก็ดี ที่บ้านก็ร่ำรวย ทำไมๆๆลูกถึงไปทำแบบนี้ ถ้าปิ่นมณีเห็นเขาจะทำยังไง? คุณหญิงจรัสตีลูกชายตัวเองด้วยความโมโห

?โอ้ย..แม่คร้าบ อะไรนักหนา ก็จะให้ผมทำยังไงล่ะครับ เอาแชมเปญให้ก็ไม่เอา บอกว่าไม่ดื่มแอลกอฮอล์ บอกว่าจะพาออกไปเต้นรำก็บอกว่าไม่ชอบเต้น พาไปรู้จักกับเพื่อนก็ยืนนิ่งเป็นใบ้ ผมละเบื่อจริงๆ? ภานุวัฒน์บอกด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ก่อนจะสะบัดมือออกจากคุณหญิงจรัส พร้อมพูดว่า

?ไม่เอาล่ะ ผมจะไปอยู่กับเพื่อนของผม ไปเรียนที่อังกฤษตั้งหลายปี พอกลับมาผมก็อยากจะสนุกบ้างสิครับ?

?ขอร้องล่ะ เรียนอะไรของแกกัน ไอ้มหาลัยห้องแถวที่แกจบมาเนี่ยะ ฉันต้องเสียเงินเสียทองไปเท่าไร กว่าแกจะจบมาได้ ไหนจะเงินที่แกพลานไปอีก ยังไงแกก็ต้องไปหาหนูปิ่นเดี๋ยวนี้ ถ้าเราสองตระกูลแต่งกันเมื่อไหร่ ปัญหาการเงินในบ้านเราจะได้จบลงซะที ช้านล่ะเบื่อจริงๆไหนพ่อแกก็จะเอาเงินไปหาเสียงอีก โอ้ย! ปวดหัวๆ แล้วเราจะเอาเงินที่ไหนกัน? สิ่งที่คุณหญิงจรัสโวยวาย ทำให้ภานุวัฒน์นิ่งคิด

?ใช่...ถ้าที่บ้านหมดเงินเมื่อไหร่ ฉันจะทำยังไง ไหนจะเพื่อนๆอีก ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน...?
?เอาว่ะไปเอาใจน้องปิ่นหน่อยก็ได้ แล้วพอได้แต่งกันเมื่อไร สมบัติที่มีมหาศาลของน้องปิ่นก็จะมาเป็นของเขา คราวนี้แหละ...แม่แม่งจะเที่ยวให้มันเลย?

?ก็ได้ครับแม่ เดี๋ยวผมจะไปหาน้องปิ่น?ภานุวัฒน์พูดอย่างอ่อนข้อ

?ดีมากลูก ดีมาก ไว้ลูกแต่งงานกับน้องปิ่นแล้ว ลูกอยากจะทำอะไรแม่จะตามใจให้หมดทุกอย่างเลย ตอนนี้คิดถึงชื่อเสียงของตระกูลอัศววัฒน์ไว้ก่อนนะลูก เครื่องเพชรที่แม่ใส่นี่ก็ซ้ำกับงวดก่อน พวกคุณหญิงคุณนายก็แอบซุบซิบแม่กันแล้ว แม่ละอายจริงๆ เมื่อไรแม่จะได้มีเงินมาเปลี่ยนใหม่ก็ไม่รู้ ลูกรัก ลูกต้องช่วยแม่นะ? คุณหญิงจรัสบีบมือลูกชายหัวแก้วหัวแหวน สบตาเว้าวอน

?ครับแม่ แม่ไม่ต้องห่วงนะ ลูกชายแม่ซะอย่างเดี๋ยวผมไปพูดจาหวานๆให้น้องปิ่นฟังหน่อย เค้าก็เคลิ้มผมเองแหละ? ภานุวัฒน์บอกด้วยน้ำเสียงเชื่อมั่น เพราะหน้าตาที่หล่อเหลาดูเป็นคุณชายของเขา รูปร่างสูงโปร่ง บวกกับประสบการณ์การจีบหญิงที่ผ่านมาของเขาทุกราย มันคงจะเป็นเครื่องการันตีเสน่ห์เชิงชายให้เขาได้ไม่ยาก

?จ้า...ให้มันเป็นอย่างนั้นเถอะ ที่จริงน่าจะแต่งๆกันได้เมื่อสามปีก่อน ทางนู้นก็โยกโย้อยากให้วัฒน์เรียนต่อให้เป็นหลักเป็นฐานมากกว่านี้ก่อน ไม่งั้นเราคงไม่ต้องมาลำบากกันถึงขั้นนี้ ไปกันเถอะลูกเราไปตามหาน้องปิ่นกัน?

แม่ลูกเดินออกจากระเบียงกลับเข้าไปห้องจัดเลี้ยง โดยลืมที่จะสำรวจไปว่าคนที่พวกเขากำลังหาอยู่นั้น อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนี่เอง

หญิงสาวรูปร่างแบบบาง ผิวขาว ผมยาวตรงเหยียดสีดำสนิท เงางาม ผมหน้าม้าปัดข้างตามสมัยนิยม ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เธอนั่งซุกตัว ตัวสั่นนิดๆอยู่ใต้พุ่มไม้ริมระเบียง.. เธอได้ยินทั้งหมด และไม่เสียใจเลยสักนิด เพราะเธอได้รู้เรื่องราวนี้มานานมากแล้ว จากเพื่อนสาวของเธอที่ไปได้ยินภานุวัฒน์พูดคุยกับเพื่อนร่วมคณะของเธออีกที เพราะฉะนั้นเธอจึงไม่เสียใจ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็อดเศร้าใจเล็กๆไม่ได้

? ใช่...เธอเป็นแบบนี้ ผู้หญิงหัวเก่าที่ไม่ชอบเที่ยวกลางคืน ชอบการอ่านหนังสืออยู่บ้าน ตกแต่งสวนยามเช้า นั่งถักผ้าอยู่ตอนเย็น เป็นผู้หญิงสมัยเก่าที่ไม่ชอบการถึงเนื้อถึงตัว หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เธอชอบทำอาหาร เลี้ยงนก ใช่...เธอเป็นผู้หญิงแบบนั้น ไม่ชอบใช้เงินสินเปลือง แม้ที่บ้านเธอจะมีเงินมากมายมหาศาลแค่ไหนก็ตาม แต่เธอกลับพอใจกับการใช้เงินไปกับการกุศลและเลี้ยงอาหารเด็กกำพร้าทั้งหลาย เธอเป็นเช่นนั้นจริงๆ? ปิ่นมณีลุกขึ้นปัดฝุ่นตามประโปรงยาวคลุมข้อเท้าสีชมพูอ่อนๆที่มีมุกประดับตามชายกระโปรงนั้นเบาๆ ตัวเสื้อช่วงบนแม้จะมีเพียงเส้นสายมุกที่รั้งไว้สองเส้นเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้ดูน่าเกลียดอะไร เนื่องจากเธอมีผ้าคลุมเนื้อบางเบาคลุมปิดอยู่ เธอเดินไปที่ริมระเบียง เอ่ยคำแผ่วเบาๆที่มีเพียงตัวเองได้ยินเท่านั้น

?แม่คะ หนูไม่ได้รักพี่วัฒน์เลย หนูไม่ชอบเค้า และเค้าก็คงไม่ชอบหนูเหมือนกัน แม่ช่วยหนูได้ไหมคะ ช่วยหนูที? ปิ่นมณีเอ่ยกับดวงดาวที่อยู่ฟากฟ้า ที่ๆเธอเชื่อว่าแม่ของเธอคงสถิตอยู่ที่นั่น แม่ของเธอตายไปหลังจากคลอดเธอได้เพียงไม่นาน เนื่องจากร่างกายแม่อ่อนแออยู่แล้ว หลังจากคลอดลูกชายคนแรก แต่พอรู้ว่าตั้งครรภ์เธออีก คุณแม่ก็ไม่ยอมให้คุณหมอเอาเธอออก บอกแต่เพียงว่าเธอต้องทำได้ แม้คุณหมอจะห้ามปราบสักแค่ไหนก็ตาม หลังจากคุณแม่ตายคุณพ่อเสียใจมาก แต่อาจเป็นเพราะเธอกับแม่เหมือนกันมาก เธอจึงเปรียบเสมือนสิ่งปลอบประโลมจิตใจของคุณพ่อให้คลายความเหงาจากความคิดถึงคุณแม่ได้บ้าง คุณพ่อไม่ได้แต่งงานกับใครอีก อาจมีผู้หญิงบ้างชั่วครั้งชั่วคราว แต่ก็ไม่มีใครที่จะขึ้นมาแทนที่คุณแม่ได้ เธอจึงเปรียบเสมือนทุกๆอย่างของคุณพ่อ


จนเมื่อสี่ปีก่อนที่คุณหมอบอกว่าคุณพ่อเธอเป็นมะเร็งลำไส้ระยะที่สอง โอกาสรักษาหายนั้นอยู่ที่ห้าสิบห้าสิบ คุณพ่อเธอเริ่มกังวลกับอนาคตของเธอที่จะไม่มีใครดูแล แม้เธอกับพี่ชายของเธอจะยืนยันบอกว่าเราทั้งสองสามารถดูแลกันและกันได้ แต่ด้วยความที่พี่ชายจะต้องรับผิดชอบบริษัทสืบต่อจากคุณพ่อ ซึ่งเป็นงานที่หนักหนาอยู่แล้ว ดังนั้นเราทั้งสอจึงแทบจะไม่มีเวลาเจอกัน ประกอบกับพี่เวหามักต้องเดินทางไปต่างประเทศเสมอๆ ทำให้เธอนั้นเหมือนอยู่ตัวคนเดียว


หลังจากที่คุณพ่อเธอพยายามเลือกบุคคลที่จะมาดูแลเธอต่อ คุณพ่อกลับมาถูกใจเข้ากับ
ตระกูลอัศววัฒน์....พี่ภานุวัฒน์ คนที่ไม่ว่าใครๆก็ไม่สามารถปฎิเสธได้ว่าเขาเพียบพร้อม ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา ชื่อเสียงวงค์ตระกูล แม้จะมีชื่อเสียงที่ไม่ค่อยดีเกี่ยวกับทรัพย์สินเงินทอง แต่ดูเหมือนคุณพ่อจะยอมที่จะมองข้ามจุดนี้ไป เพราะเชื่อการเลี้ยงดูของตระกูลอัศววัฒน์ว่าคงจะทำให้ลูกชายคนเดียวของตระกูลเป็นคนดี และเป็นคนเก่ง ที่พร้อมจะดูแลลูกสาวของเขาได้ ปิ่นมณีถอนหายใจ เธอไม่เคยนึกชอบพี่วัฒน์ แววตากรุ้มกริ่มเจ้าชู้ที่ดูไม่มีความจริงใจ และสายตาที่มองเธอทุกๆครั้งนั้น ไม่เคยทำให้เธออบอุ่นใจ มันกลับทำให้เธออึดอัดมากกว่าที่จะอยากมีเขาเคียงข้าง เธอบอกเรื่องนี้กับคุณพ่อ แต่ดูเหมือนท่านจะไม่เข้าใจ นอกจากหัวเราะเบาๆและบอกว่า


?ก็ลูกสวยซะขนาดนี้ ผู้ชายที่ไหนก็ต้องมองลูกอย่างน่ากลัวทั้งนั้นแหละ? แต่เธอรู้ว่าไม่ใช่ แม้เธอจะไม่เคยคบใครมาก่อน ไม่เคยรักใคร แต่เธอก็เคยมีรุ่นพี่มาจีบบ้าง สายตาที่ไม่ชวนอบอุ่นคู่นั้นทำให้เธอผวา และระแวดระวังตัวมากกว่าเดิม ไม่ว่าพี่วัฒน์จะพาไปดูหนังกี่ครั้ง กินข้าวกี่หน ความสัมพันธ์ของเธอและพี่วัฒน์ก็ไม่คืบหน้าไปมากกว่าคนที่เธอจะต้องจำใจมาด้วยเพื่อความสบายใจของพ่อ

ตอนนี้อาการของคุณพ่อก็ยังทรงๆอยู่ เธอไม่รู้ว่าเธอจะสามารถยืดเวลาการแต่งงานของตัวเองไปได้อีกนานแค่ไหน หลังจากเมื่อสามปีก่อนคุณแม่ของพี่วัฒน์เข้ามาเจรจากับคุณพ่อเรื่องการสู่ขอ ตอนนั้นเธอยังเรียนไปจบ อยู่ในช่วงพึ่งเข้ามหาวิทยาลัยมาหมาดๆ เธอจึงสามารถบอกปัดไปได้ไม่ยากว่า เธอยังอยากจะเรียนให้จบก่อน ประกอบกับคุณพ่อของเธอเองก็อยากให้พี่วัฒน์ไปเรียนเพื่อเพิ่มความรู้ให้มากกว่านี้
แต่ตอนนี้ทุกอย่าง...ดูเหมือน....ฟ้าคงจะไม่เข้าข้างเธออีกแล้ว เธอเรียนจบ พี่วัฒน์ก็เรียนจบกลับมา เธอจะท่วงเวลาเหล่านี้ไปได้อีกนานแค่ไหน


ปิ่นมณีเดินกลับเข้าไปในงานเลี้ยงเมื่อรู้สึกว่าอากาศเย็นลงทุกที พอกับเวลาที่ล่วงเลยมาถึงสี่ทุ่มแล้ว เหลืออีกเพียงอีกชั่วโมงเดียวเท่านั้น เธอคิด ?ฉันจะได้กลับบ้านซะที? เธอห่อไหล่ด้วยความหนาว ดึงประตูระเบียงปิดเข้ามาช้าๆ แต่ยังไม่ทันที่ประตูจะปิดสนิท เสียงที่เธอไม่อยากได้ยินก็ดังขึ้น

?น้องปิ่น..หายไปไหนมาครับ คุณแม่กับพี่เดินหากันให้ทั่ว? ภานุวัฒน์เอ่ยด้วยเสียงอ่อนหวาน พร้อยรอยยิ้มกว้างตามแบบฉบับหว่านเสน่ห์ของเขา

?เอ้อ..ปิ่นๆ..ปิ่นไปสูดอากาศมาค่ะ พอดีคนในงานมันเยอะ...ปิ่นมึนหัว?

?อีกแหละ น่าเบื่อจริงๆ? ภานุวัฒน์คิดแต่เขากลับเดินเข้าไปอังมือกับหน้าผากนวลบางแล้วพูดเสียงยิ่งอ่อนหวานตรงข้ามกับความคิดว่า

?ไม่สบายหรือครับคนดี ไม่นะ ตัวก็ไม่ร้อนนิ? ปิ่นมณีเบี่ยงตัวหลบมือของภานุวัฒน์เล็กน้อยก่อนจะเอ่ยว่า

?ไม่ได้เป็นไรค่ะ เพียงแค่มึนนิดหน่อย?

?พาน้องออกไปเดินเล่นสิลูก ชายหาดยามค่ำคืนสวยออก พาน้องเค้าไปเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง? คุณหญิงจรัสกล่าว...เธอเอื้อมมือไปจับต้นแขนของลูกชาย พร้อมกับบีบเบาๆ
ภานุวัฒน์เข้าใจได้ไม่ยาก รีบจับมือของปิ่นมณีพาเดินออกมาสูดอากาศนอกงานเลี้ยง

ภานุวัฒน์พาเธอเดินห่างออกไปค่อนข้างไกล ไม่มีผู้คน ทุกอย่างเงียบสงบจนเธอเริ่มกลัวคนข้างกาย

?ปล่อยๆค่ะ? ปิ่นมณีพยายามดึงมือออก แต่ภานุวัฒน์กลับไม่ยอมปล่อย

?ทำไมล่ะน้องปิ่นเราเป็นคู่หมั้นกันนะ แค่จับมือแค่นี้จะเป็นไรไป คู่อื่นที่เค้ายังไม่หมั้นกัน เค้าไปถึงไหนกันแล้ว? ภานุวัฒน์เอ่ยด้วยความขัดข้องใจ กลิ่นหอมอ่อนๆที่โชยออกมาจากปิ่นมณี ทำให้แอลกอฮอล์ในร่างกายเขาเดือดพล่าน ภานุวัฒน์ดึงรั้งร่างแบบบางเข้ามาใกล้ ปิ่นมณีขืนตัวสุดแรง แต่ไม่อาจต้านทานแรงที่เหนือกว่าได้


?พี่วัฒน์จะทำอะไร ปล่อยปิ่นนะคะ? ปิ่นมณีพูดด้วยเสียงสั่นๆ ดวงตาสั่นระริกด้วยความรังเกียร และหวาดกลัว ใช่...เธอรังเกียรเขา รังเกียรผู้ชายปลิ้นปล้อนหลอกลวง แต่เธอก็ไม่เข้มแข็งพอที่จะทำอะไรได้


?พี่ขอชื่นใจนิดเดียวเอง น้องปิ่นสวยมากเลย สวยมากๆ พี่อดใจไม่ไหว?


?แต่เรายังไม่ได้แต่งงานกันเลย ปล่อยปิ่นเถอะนะคะ? ปิ่นมณีพยายามขืนตัว แต่ภานุวัฒน์กลับทำสิ่งที่เธอไม่คาดคิด


ภานุวัฒน์ก้มศรีษะลงไปซุกซอกคอขาวผ่องของปิ่นมณี พร้อมจูบไปทั่วอย่างหื่นกระหาย หญิงสาวร้องด้วยความหวาดกลัว พยายามดิ้นจนกระทั่งทั้งสองร่างล้มไปที่ชายหาดด้วยกัน มือของภานุวัฒน์ช้อนหน้าของปิ่นมณีขึ้นมาหมายจะจูบที่ริมฝีปาก แต่เธอกลับหันหน้าหนี แล้วกรีดร้องออกมาสุดเสียง

?ปล่อยนะๆๆ ช่วยด้วยๆ? ภานุวัฒน์ใช้มือปิดเสียงร้องของปิ่นมณีไว้ เสียงที่ดังมีเพียงเสียงอู้อี้ในลำคอเท่านั้น

ภานุวัฒน์กำลังสนุกที่ได้เห็นปิ่นมณีหวาดกลัว เขายอมรับว่าเขาซาดิสต์ เขาชอบเซ็กซ์ที่เร้าใจ เขาต้องการเป็นผู้ล่า ยิ่งเขาเห็นปิ่นมณีทำเช่นนั้น ยิ่งปลุกอารมณ์ดิบเถื่อนภายในใจเขาให้ลุกโชนขึ้นมา


?ไม่ต้องร้องนะน้องปิ่น เดี๋ยวพี่จะมอบความสุขให้? ภานุวัฒน์ลูบไล้ไปทั่วร่างบางพยายามปลดสายมุกคล้องไหล่ทั้งสองข้างออก พร้อมกับล่วงมือเข้าไปบีบเค้นหน้าอกของหญิงสาวอย่างแรง


หญิงสาวน้ำตาไหลพล่าด้วยความเจ็บ และความกลัวจับใจ เสียงร้องที่ดังปริ่มขาดใจ ได้ยินในลำคอเท่านั้น ภานุวัฒน์ก้มลงไปหาความงดงามของดอกบัวที่ชูก้านสีชมพูอ่อนๆ
และครอบครองด้วยริมฝีปากอย่างรุนแรงดูดดึงเม้มอย่างเมามันในอารมณ์ ปิ่นมณีพยายามดิ้น แต่ทั้งสองมือที่ถูกกดไว้อยู่เหนือศรีษะด้วยมือข้างเดียวของภานุวัฒน์นั้น ทำให้เธอไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เธอเจ็บไปทั่วร่างที่ภานุวัฒน์ลากมือผ่าน เสียงครางกระเซ่าของภานุวัฒน์ดังอย่างมีอารมณ์
?โอ้...ปิ่น น้องปินของพี่ สวยจังเลย เห็นตัวเล็กๆแค่นี้ แต่เต็มไม้เต็มมือดีจะง? ภานุวัฒน์พึมพำพร้อมซุกเข้าไปหาความหอมหวานของหน้าอกอีกข้าง มือที่จับข้อมือทั้งสองของปิ่นมณีเอาไว้ปล่อยออกเมื่อเห็นว่าหญิงสาวหยุดดิ้นแล้ว ภานุวัฒน์สอดมือไปใต้แผนหลังดันร่างของปิ่นมณีให้แอ่นขึ้นมาเพื่อให้เขาครอบครองดอกบัวงามได้อย่างถนัดๆ เมื่อหญิงสาวไม่เอื่อยอำนวย
ภานุวัฒน์ดูดเม้มอย่างแรง ขบกัด จนหญิงสาวร้องออกมาแต่เสียงที่เล็ดลอดกลับไม่ดังกว่าเสียงกระซิบไปเท่าไรเนื่องจากฝ่ามือของภานุวัฒน์ปิดอยู่นั้น

ปิ่นมณีตัดสินใจนอนนิ่ง เมื่อไม่สามารถสู้แรงเขาได้ น้ำตาไหลนองหน้า ยอมรับชะตากรรมที่จะเกิดขึ้น แต่ทันใดนั้นเธอเหลือบไปเห็นขวดเหล้าที่วางท้งไว้บนหาดทราย คงมีนักท่องเที่ยวมาทิ้งเอาไว้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะนึกว่าคนที่นำมาทิ้งว่าทำลายธรรมชาติ แต่ตอนนี้เธอแทบจะกระโดดโลดเต้นด้วยความยินดี หากเธอนั้นทำได้ ขณะที่ภานุวัฒน์กำลังเมามันอย่างไม่สนใจอะไร หญิงสาวเอื้อมมือไปคว้าขวดเหล้าแล้วตีที่ศีรษะของภานุวัฒน์สุดแรง...

ร่างของภานุวัฒน์สลบลงเกือบจะในทันที ปิ่นมณีถดถอยร่างออกมา นั่งตัวสั่นร้องไห้ ดึงเสื้อที่หลุดลุ่ยขึ้นมาใส่ก่อนจะออกแรงวิ่งสุดฝีเท้าให้ห่างจากงานเลี้ยง ห่างจากภานุวัฒน์ ไปให้ไกลไกลออกไปทุกทีๆ... เธอล้มลงบนพื้นทรายหลายครั้ง รองเท้าทั้งสองข้างหายไปอย่างไม่รู้ตัว แต่เธอก็ยังออกวิ่ง..วิ่ง และวิ่ง เพราะกลัวว่าพี่วัฒน์อาจจะรู้สึกตัวขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้

ท่ามกลางลมกรรโชกแรงที่หอบเอาอากาศหนาวเย็นขึ้นมาจากฝั่งทะเล แสงไฟของงานรื่นเริงที่เหลือเพียงจุดเล็กๆ ณ สถานที่ที่ปิ่นมณียืนอยู่ หญิงสาวทรุดตัว...นั่งลงร้องไห้ ให้กับโชคชะตาที่พลิกผันของตน....


ติดตามเพิ่มเติมได้ที่นี้ แวะเข้ามาติชมให้กำลังได้นะคะ พรีสสส

http://writer.dek-d.com/ploy-israwan/wr ... ?id=628668

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”