ปริศนานักสืบสยอง (ตอนที่4)

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
complicated
โพสต์: 7
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 08 มิ.ย. 2010 7:59 am

ปริศนานักสืบสยอง (ตอนที่4)

โพสต์ โดย complicated »

?เมื่อวานนี้ DBHO โทรไปถามรายละเอียดเธอเหรอ?? ดวงตาถามด้วยสีหน้าตกใจ

?อื้ม ก็คงเพราะเราเขียนเบอร์ตัวเองลงไปในนั้นล่ะมั้ง? ฟ้าตอบ ?ว่าแต่ ฉันตกใจมากกว่าอีกนะที่พวกนั้นไปที่โรงยิมแล้วเจอเธอด้วย การแต่งตัวพวกนั้นฟังจากที่เธอเล่าก็ยังกับพวกเด็กแนวบ้าแฟชั่นเลย?

ไม่รู้แฟชั่นของประเทศไหนเหมือนกันถึงได้ดูเท่ห์ปนพิลึกแบบนั้น... สาวน้อยผู้ห้าวหาญคิดในใจ เอาเถอะน่า อย่างน้อยพวกนั้นก็ยังแต่งตัวดีกว่าเธอตอนไปเที่ยวสวนสนุกหลายเท่า เพราะคงไม่มีใครอื่นบนโลกอีกแล้วที่ใส่เสื้อยืดสีขาวโพลนกับกางเกงขาสั้นแบบยางยืดลายหมีแพนด้าไปเล่นบ้านผีสิงแถมยังตกใจตอนตุ๊กตาผีโผล่ออกมาและเผลอต่อยมันจนเกือบพังอีกต่างหาก

ว่าแต่... ทำไมเธอถึงได้รู้สึกคุ้นเคยกับสองคนนั้นจังนะ? เด็กสาวผู้เคยเกือบต่อยตุ๊กตาผีในบ้านผีสิงพังกำลังครุ่นคิดสงสัย

ในคาบเช้า ทุกคนพากันพูดคุยเรื่องคดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นในเมืองเมื่อสองวันก่อน ที่มีผู้ใหญ่สองคนเดินชนไหล่กัน แต่เพราะมีฝ่ายหนึ่งไม่ยอมขอโทษ อีกฝ่ายจึงโมโหวิ่งไปหยิบปืนในรถมายิงฝ่ายตรงข้ามจนเสียชีวิต ก่อนจะขับรถหนีไป เป็นคดีที่สะท้อนสภาพจิตใจของคนในสังคมปัจจุบันว่าเลวร้ายและขาดความอดทนได้ง่ายเพียงใด

ส่วนฝ้ายนั้น ก็กำลังนินทาดาราสาวเตยที่คราวนี้โฆษณาแชมพูว่าผมไม่เห็นจะสวยเลย ไปโฆษณาแชมพูได้อย่างไรกัน ดูท่าเธอจะเป็นพวกที่หมั่นไส้ใครแล้วจะขออาฆาตตามจองเวรไม่เลิกรา น่ากลัวยิ่งกว่าวิญญาณบางตนเสียอีก ไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงจากไหนมาอาฆาตแค้นคนอื่นคนไกลได้ถึงขนาดนั้น

อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันแข่งขันกีฬาบาสเก็ตบอลแล้ว ชมรมบาสของพวกเธอแพ้การแข่งระดับเขตติดต่อกันหลายปี ดังนั้นปีนี้จะแพ้อีกไม่ได้ อย่างน้อยพวกอาจารย์ก็ไม่อยากให้แพ้เพราะจะเสียชื่อเสียง จึงต้องซ้อมให้หนัก ทว่าเย็นวันนั้น การซ้อมกลับต้องหยุดชะงักลง เพราะอาจารย์ที่ปรึกษาขอลาหยุดหนึ่งวัน และแอนยังบอกอีกว่า อาจารย์เจอผีหลอกจนไม่กล้ามาโรงเรียน

?จริงเหรอ?? ฟ้ามีสีหน้าหวาดกลัว คงเป็นเพราะเธอเองก็เคยมีประสบการณ์ถูกผีหลอกมาก่อน

?รีบเล่ารายละเอียดมาด่วนจี๋เลยพวก? ดวงตาลากเก้าอี้มานั่งหน้าแอนในโรงยิม

?อื้ม เค้าลือกันว่า เธอเจอผีผู้หญิงชุดดำหัวขาดหลอกที่บ้านตัวเองน่ะ เป็นศีรษะของผู้หญิงกลิ้งออกมาจากใต้เตียง แถมตรงประตูก็มีร่างของผู้หญิงหัวขาดคนนั้นยืนขวางไว้อีกต่างหาก น่ากลัวชะมัดเลยเนอะ...? แอนเล่าพลางใส่อารมณ์ตัวเองลงไปในเรื่องด้วย พร้อมทั้งทำท่าประกอบด้วยอาการหวาดกลัวจนมากเกินปกติ

คล้ายกับที่เราเจอเลย แต่น่ากลัวกว่าอีก... ดวงตาคิดในใจพลางเหลือบมองฟ้า ทั้งสองแอบพยักหน้าให้กัน

อย่างไรก็ตาม สมาชิกชมรมยังคงตั้งหน้าตั้งตาซ้อมกันเอง ในขณะที่ท้องฟ้าภายนอกเริ่มมืดลงทุกขณะ จนต้องเปิดไฟในโรงยิม แต่ว่าหลังจากเปิดไฟไปได้เพียงสิบห้านาที จู่ๆทุกอย่างก็ตกอยู่ในความมืด

?ไฟดับเหรอ?? แอนส่งเสียงถามทุกคน ภายในโรงยิมไม่ถึงกับมืดสนิทจนมองไม่เห็นอะไร เด็กสาวจึงยังเดาะบอลได้อยู่ สัมผัสของลูกบาสเก็ตบอลหายไปเมื่อลูกบอลกระทบพื้นและกลับมาเมื่อลูกบอลกระเด้งขึ้นมาถูกมือเธอ เป็นแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า... ทว่าในตอนนั้นเอง ที่เธอรู้สึกว่า สัมผัสของลูกบาสมันแปลกไป

สิ่งนั้นไม่ใช่ลูกที่มีลักษณะทรงกลม หากแต่เป็นรูปทรงวงรีคล้ายลูกอเมริกันฟุตบอล... และความสากของอะไรบางอย่างที่สัมผัสได้นั้น มันคล้ายกับ... เส้นผม!!

แอนเหลือบมองสิ่งที่ถืออยู่ในมือตัวเอง แล้วก็กรีดร้องออกมาเสียงดังลั่น

สิ่งที่อยู่ในมือเธอคือศีรษะโชกเลือดของผู้หญิงผมยาว... และศีรษะนั้นยังเหลือกตาขึ้นมามองเธออีกด้วย!!

ในขณะที่เด็กสาวตกใจจนแทบสิ้นสติ ปากของศีรษะนั้นก็อ้ากว้างราวกับจะเปล่งเสียงอะไรบางอย่างออกมา

ไม่จำเป็นต้องเงี่ยหูฟัง เสียงอันแหบแห้งนั้นก็ดังชัดเจนอย่างน่าสะพรึงกลัว

?ชนะ....ซะ.....ที......สิ.....วะ.....?

ทันทีที่พูดจบ ศีรษะนั้นก็ดิ้นกระดุกกระดิกไปมาอย่างรุนแรงดุจมีชีวิต

ดวงตาที่ยืนอยู่ใกล้ๆก็เห็นภาพอันน่าสยดสยองนั้นเช่นกัน

?กรี๊ด!!!!!!!!!!!!!?

แอนส่งเสียงกรีดร้องพลางสะบัดศีรษะนั้นทิ้งลงกับพื้น แต่ผมของหญิงสาวกลับพันรอบมือเธอแน่นไม่ยอมปล่อย ยิ่งแก้ผมก็ยิ่งพันแน่นขึ้นทุกที ปากของศีรษะน้ำพร่ำพูดแต่ข้อความเดิมซ้ำๆกัน

?ชนะ....ซะ.....ที......สิ.....วะ.....? ?ชนะ....ซะ.....ที......สิ.....วะ.....? ?ชนะ....ซะ.....ที......สิ.....วะ.....? ?ชนะ....ซะ.....ที......สิ.....วะ.....? ?ชนะ....ซะ.....ที......สิ.....วะ.....? ?ชนะ....ซะ.....ที......สิ.....วะ.....?

ฟ้าและดวงตารีบวิ่งเข้าไปประคองร่างของแอนที่ล้มลง ประกอบกับที่ไฟในโรงยิมสว่างขึ้น ศีรษะของหญิงสาวกลับกลายเป็นลูกบาสเก็ตบอลดังเดิม มันตกลงบนพื้นส่งเสียงดัง ตุบ... ตุบ...

ร่างของแอนล้มลงไปกระแทกกองอุปกรณ์ข้างสนามจนล้มระเนระนาดลงมาฟาดใส่ร่างกายของเธออย่างแรง ส่งเสียงดังสนั่นน่าหวาดกลัว ทุกคนพากันตกตะลึง บางคนหลุดอุทานหรือส่งเสียงร้องออกมา แขนของเด็กสาวมีรอยช้ำและเลือดไหลลงมาเป็นทางยาว บรรดาเพื่อนร่วมชมรมรีบยกกองอุปกรณ์กีฬาออกจากร่างของเธอและอุ้มเธอออกมานอนพิงผนังด้านหนึ่งของโรงยิม ทุกคนมีท่าทางลุกลี้ลุกลน บ้างก็ทำอะไรไม่ถูก บ้างก็ตื่นเต้นจนจะทำอะไรก็พลาดไปหมด

ท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายนั้นเอง มือถือของฟ้าก็สั่นขึ้นมากะทันหันจนเด็กสาวสะดุ้งตกใจ แต่พอตั้งสติได้ก็ลนลานคว้ามือถือขึ้นมา ทุกอย่างเป็นไปตามที่เธอภาวนาไว้ทุกประการ มีใครบางคนส่งข้อความมา ไม่ปรากฏหมายเลขผู้ส่ง...

ขณะที่ทุกคนกำลังช่วยกันปฐมพยาบาลแอนที่หมดสติ ฟ้าก็เปิดข้อความอ่านทันที...

_____________________

เจอกันที่หน้าล็อกเกอร์ภายในสามสิบนาที มาคนเดียว

-DBHO

_____________________

หลังจากพาแอนไปส่งถึงโรงพยาบาลที่อยู่ไม่ไกลนัก ฟ้าก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่านักกีฬาตัวจริงอย่างแอนไม่สามารถลงสนามได้ทันภายในวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน ซึ่งการแข่งอาจจะต้องจบลงด้วยความพ่ายแพ้ หากไม่มีใครที่มีฝีมือพอกับเธอลงแข่ง อย่างไรก็ตาม เด็กสาวผู้ไม่อาจลงแข่งได้ก็บอกชื่อของคนที่เธอเลือกจะมาเป็นตัวแทนลงแข่งเอาไว้แล้ว

หลังจากได้รับฟังชื่อนั้น ฟ้าก็ราวกับตกอยู่ในภวังค์จนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่เดินโซเซมาที่ล็อกเกอร์ตามเวลานัด ไม่นานนักสักพักเด็กหนุ่มสาวสองคนที่น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอก็ปรากฏตัวออกมาให้เห็น ดูจากสภาพการแต่งตัวแล้วก็ตรงกับที่ดวงตาเล่าให้ฟังทุกประการ... ไม่ผิดแน่... คนพวกนี้นี่แหละคือ DBHO

?เราไขปริศนาได้แล้ว แต่เรื่องต่อจากนี้คงต้องขึ้นอยู่กับพวกเธอแล้ว? เด็กหนุ่มไม่พูดเกริ่นนำใดๆ แต่เข้าเรื่องสำคัญทันที ?วิญญาณตนนี้จะยิ่งร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ มีเพียงทางเดียวที่จะหยุดเธอได้?

?ยะ...ยังไงล่ะ? พวกฉันจะทำได้ยังไง?? ฟ้าถาม เธอไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง

?ฟังรายละเอียดให้ดีๆ วิญญาณตนนี้เคยเป็นโค้ชประจำชมรมบาสเกตบอลของโรงเรียนนี้เมื่อหลายปีก่อน และเธอเดิมพันชีวิตการเป็นครูพละกับการแข่งขันนัดหนึ่ง ซึ่งเป็นการแข่งชิงชนะเลิศระดับเขต เนื่องจากพ่อแม่เธอไม่อยากให้เธอเป็นครูพละ คนพวกนั้นเป็นพวกไฮโซใหญ่โตน่ะ ไม่อยากให้ตระกูลตกต่ำ แต่ลูกสาวไม่สนใจ พนันกับพ่อแม่ตัวเองว่าการแข่งขันนัดที่จะถึงพวกเธอต้องชนะระดับเขตได้แน่ ถ้าไม่ชนะจะยอมเลิกเป็นครู สุดท้ายเมื่อพ่ายแพ้ เธอจึงเจ็บใจมาก อีกทั้งครอบครัวก็ไม่อบอุ่นเลยเบื่อชีวิตและเกลียดพ่อแม่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว สุดท้ายจึงผูกคอตายในห้องเก็บของโรงยิมนั่นแหละ?

เรื่องที่ได้ฟังทำเอาเด็กสาวชมรมบาสถึงกับตกตะลึง ?เรื่องแค่นี้เนี่ยนะ??

?คนเราน่ะ ยิ่งนานวันอารมณ์ก็ยิ่งเก็บกดมากขึ้น อารมณ์ประมาณนั้นแหละนะ? เขาตอบพลางเอียงคอคลายอาการปวดเมื่อย ?เรื่องเล็กๆก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ อีกอย่าง สำหรับเธอคงคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก ไม่เห็นต้องโผล่มาหลอกคนอื่นเลย แต่สำหรับผีตนนี้ ตอนแรกที่เธอตายก็ไม่ได้ออกมาหลอกใคร ไม่งั้นก็คงเป็นเรื่องให้ลือกันไปนานแล้ว ขนาดแค่ไม่กี่วันที่ผ่านมายังลือกันได้ขนาดนี้เลยนี่นะ ...แต่สุดท้าย ไอ้เรื่องเล็กๆแค่นี้ที่ฟ้าบอกนี่แหละ ที่ผู้หญิงคนนั้นเก็บมาคิดตลอดสี่ปี ก็เพราะเธอตายไปแล้ว เป็นวิญญาณที่คิดเรื่องอื่นไม่ได้อีก ได้แต่คิดถึงเรื่องนี้ซ้ำๆ ยิ่งคิดยิ่งเจ็บ ยิ่งเจ็บยิ่งแค้น ต่อให้เป็นใครก็ตาม ถ้าต้องเคร่งเครียดกับปัญหาเล็กๆอย่างเช่นของโดนขโมยหรืออะไรก็ตามมาตลอดสี่ปี เรื่องเล็กแค่นั้นก็อาจสะสมกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้?

ฟ้าเองก็พอเข้าใจที่อีกฝ่ายพูด แต่ว่า...?แต่อาจารย์ที่ปรึกษาของฉันบอกว่าเค้าไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย?

?แต่พวกอาจารย์เก่าๆคนอื่นๆน่ะรู้ แต่แค่ไม่กล้าบอกเพราะเรื่องเงียบไปแล้ว ขืนบอกก็ไม่มีใครกล้าเข้าชมรม? เด็กหนุ่มพูด พร้อมด้วยเสียงสนับสนุนเจื้อยแจ้วว่า ?เชื่อท่านพี่เถอะค่ะ ท่านพี่อุตส่าห์ลงทุนสืบมาเลยนะคะ จริงๆแล้วก็แค่สืบหาว่ามีรายชื่อของใครบ้างที่เกี่ยวกับหมวดพละหรือว่าโรงยิมนี้ที่ผูกคอตาย เท่านี้ก็รู้ทุกอย่างได้แล้ว แหม เก่งจริงๆค่ะท่านพี่!!?

?ว่าแต่ พวกเธอเห็นผีด้วยเหรอ?? ฟ้าตัดสินใจถามสองคู่หู

?เห็นสิ แต่ใช้อุปกรณ์ช่วยน่ะ? เขาตอบพลางหยิบอุปกรณ์คล้ายเครื่องเล่นเอ็มพีสามขึ้นมา ?ผีตนนี้น่ะจะปรากฏตัวให้เฉพาะสมาชิกชมรมบาสหญิงได้เห็นเท่านั้น เพราะเธอยังมีปมฝังใจกับที่นี่ อยากให้พวกเธอชนะการแข่งขันระดับเขต จะได้หมดทุกข์หมดโศก ภาษาชาวบ้านเค้าเรียกว่างั้นใช่มะ แต่ที่ฉันเห็นเพราะมีอุปกรณ์นี่น่ะ ถ้ามันสัมผัสได้ว่ามีผี บางทีมันก็จะส่งเสียงเตือน แล้วแต่เราจะตั้งค่าไว้ จะไม่ให้มันมีเสียงเตือนก็ได้ ปกติฉันไม่ตั้งเสียงน่ะ แต่จะลองดูก็ได้?

ในตอนนั้นเอง มีเสียง ตื๊ด!! ดังมาจากอุปกรณ์ในมือเด็กหนุ่ม... ฟ้ากรีดร้องออกมา ?ว้าย! ระ...หรือว่า แถวๆนี้มีผี!??

?เปล่าหรอก มีคนทักมาใน Facebook น่ะ ฉันใช้โปรแกรมพิเศษตั้งเสียงเอาเอง มันก็เลยแปลกๆแบบนี้แหละ? เด็กหนุ่มตอบหน้าตาย เล่นเอาอีกฝ่ายถึงกับอ้าปากหวอ ทำอะไรไม่ถูก

?สมกับเป็นท่านพี่ รสนิยมในการเลือกเสียงดีจริงๆเลยค่ะ!!? น้องสาวของเขาทำตาเป็นประกายด้วยความชื่นชม

จะเชื่อถือสองคนนี้ได้มั้ยนะ? ...ฟ้าอดสงสัยในใจลึกๆไม่ได้

?อีกอย่างนะ ตอนที่ฆ่าตัวตาย คอของเธอไม่ได้ขาด แค่ผูกคอตายเฉยๆ แต่ขึ้นชื่อว่าผีน่าจะทำได้เกือบทุกอย่างอยู่แล้ว บางทีเธออาจจะทำภาพตัวเองให้น่ากลัวเพื่อขู่คนอื่นก็ได้ ช่วงนี้...เป็นช่วงเตรียมแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระดับเขต โรงเรียนเธอเล่นแพ้กราวรูดมาหลายปีติด หล่อนคงทนไม่ไหวออกมาหลอกซะหน่อย แต่ก็เล่นแรงไป การสะสมของอารมณ์วิญญาณตอนนี้รุนแรงมากจนอาจเกิดเรื่องแย่ๆได้เลยนะ ได้ข่าวว่าสมาชิกชมรมบาดเจ็บไปคนนึงแล้วนี่ ส่วนครูก็ถึงกับไม่สบาย กลัวจนมาโรงเรียนไม่ได้ หากคราวนี้ทีมโรงเรียนแพ้อีก จะเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ไม่รู้ อันตรายน่าดูเลย? ฝ่ายน้องสาวพูดบ้าง หลังจากเอ่ยปากชมท่านพี่มานาน

?แต่... เรากลัวจัง? สาวน้อยชมรมบาสพูดเสียงสั่นเครือพลางก้มหน้า

?ไม่เป็นไรหรอกน่า? สาวน้อยแห่ง DBHO ตบบ่าเธอเพื่อปลอบประโลม ?อย่างน้อยผีตนนั้นก็ยังไม่ได้มีเจตนาจะเอาชีวิตใครในตอนนี้สักหน่อย เธอก็แค่อยากเห็นชมรมบาสที่เคยเคยฝึกชนะในการแข่งขันสักครั้งก็เท่านั้นเอง?

?นั่นแหละที่เรากลัวมากกว่าผีซะอีก? ฟ้าเริ่มร้องไห้ออกมา ?เรามัน... เรามันก็แค่ตัวสำรองตลอดชาติ!! ...ได้แต่คอยเก็บลูกบาสอยู่ข้างสนาม แล้วมองดูตัวจริงเล่นกัน แม้จะแอบไปฝึกมาตลอด แต่ฝีมือก็ไม่ดีขึ้นเลย แล้วฉันต้องมาลงแข่งแทนแอนที่ขาดเจ็บด้วย ถ้าเป็นแบบนี้แล้วทีมของเราจะชนะในการแข่งได้ยังไงกันล่ะ!??

?แล้วทำไมต้องคิดว่าตัวเองฝีมือห่วยด้วยล่ะ? เสียงของดวงตาดังขึ้นจากด้านหลัง ทุกคนหันไปมองทันที เด็กสาวคงออกจากโรงพยาบาลมาเพื่อตามหาเพื่อนร่วมชมรม ?จริงๆเธอน่ะมีฝีมือรู้มั้ย คนอื่นๆในทีมก็คาดหวังกันทั้งนั้น แต่เพราะเธอไม่เคยมั่นใจในตัวเอง เลยชูทพลาดบ่อยครั้ง พวกเราเลยไม่ให้เธอเป็นตัวจริงไงล่ะ?

ฟังดูอย่างกับการ์ตูน แต่มันก็เป็นเรื่องจริง บนโลกนี้มีคนที่ดูถูกฝีมือตัวเองจนทำให้ไม่สามารถแสดงพรสวรรค์ออกมาได้อย่างเต็มที่ ฟ้าเองก็เช่นกัน หากเทียบกันในบรรดาตัวสำรอง เธอเก่งที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นจึงไม่แปลกหากทุกคนพร้อมใจจะยอมรับเธอมาเป็นตัวจริง นี่ไม่ได้เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อหรือน้ำเน่าเกินไปหรอก ถ้าจะเป็นแบบในการ์ตูนจริง ป่านนี้คงมีการฝึกพิเศษพิศดารๆแบบที่ไม่มีมนุษย์บนโลกคนใดที่จิตปกติคิดจะทำกัน เช่นชูทลูกบาสพร้อมกันทีเดียวห้าลูกโดยอ้างว่าเพื่อฝึกการควบคุมทิศทางลูก หรือมีตัวละครขี้เก๊กมาโชว์พาวเก่งเวอร์ก่อนจะสอนท่าไม้ตายให้ตัวเอก และทึ่งในพรสวรรค์ของคนที่ตนฝึกสอนให้ พลางคิดในใจว่า ?เกมพรุ่งนี้สนุกแน่ๆ? ไม่ก็มีการคำนวณแรงลม ค่าโปรเจกไตล์ ในการโยนลูกให้องศาพอเหมาะเพื่อจะได้ลงห่วงอย่างแม่นยำ อะไรประมาณนั้น เท่าที่อ่านมาพวกการ์ตูนกีฬามักไปแนวนี้กันหมด แต่มันก็เป็นสูตรสำเร็จที่สนุกและน่าติดตามไม่น้อยเลย

?อย่ากลัวไปเลยนะ เรามาถล่มทีมฝ่ายตรงข้ามให้ยับไปเลย!!? ดวงตาเริ่มฮึดสู้ขึ้นมา

?อื้ม? ฟ้าตอบ พลางยิ้มไปร้องไห้ไป ?ฉัน...จะพยายามนะ?

?มันต้องแบบนี้สิ? สาวน้อยแห่ง DBHO ยิ้มเริงร่า ?แล้วทุกอย่างก็จะดีเอง?

หลังจากนิ่งไปสักพัก สาวน้อยผู้กลายเป็นตัวจริงในชมรมบาสก็เอ่ยขึ้นว่า ?จะว่าไปตอนแรก ฉันแอบคิดว่าผีผู้หญิงคนนั้นจะมีความเกี่ยวข้องอะไรกับดวงตานะเนี่ย ทายผิดซะงั้นน่ะ?

สาวน้อยผู้ถูกพาดพิงได้แต่เอียงคอสงสัย ?ทำไมถึงคิดว่าเกี่ยวกันล่ะ??

?ก็ผีผู้หญิงพูดว่า ?ชนะซะทีสิวะ? ใช่มะ? พูดจาห้าวๆไม่เหมาะกับที่เป็นผู้หญิงเลย ถ้าพูดถึงผู้หญิงที่พูดลักษณะแบบนี้ เรานึกออกแค่ดวงตาคนเดียวเท่านั้นแหละ คิกๆๆ? ฟ้าหัวเราะชอบใจ

ดวงตาได้แต่คิดในใจว่า แหม... ผู้หญิงห้าวสมัยนี้มีออกตั้งเยอะตั้งเยอะ...ก็เธอไม่ใช่เด็กสาว ประเภทชอบเดินสะดุดมดล้ม แล้วก็แลบลิ้น ปลิ้นตา เอียงคอ พลางเอากำปั้นเขกศีรษะตัวเองเบาๆแล้วพูดว่า ?ต๊าย เรานี่ซุ่มซ่ามน่ารักจัง โฮะๆ? สักหน่อย

?ว่าแต่ พวกเธอเป็นพี่น้องที่ดีจังนะ ดีกว่าไอ้พี่น้องฮิปโปโปเตมัสในห้องเราเยอะเลย? เด็กสาวพูดเพื่อเปลี่ยนเรื่อง

?ฮิปโปโปเตมัส?? สองพี่น้อง DBHO ยกมือเกาศีรษะพร้อมกัน

และแล้วสองเด็กสาวชมรมบาสก็เริ่มต้นเล่าเรื่องพี่น้องสองหน่อที่เป็นลูกหลานของนักวิทยาศาสตร์ จึงไม่เชื่อเรื่องผีและวิญญาณ พร้อมทั้งพยายามหาศัพท์เทคนิกที่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องมาอธิบายจนน่าหมั่นไส้

?น่าเรียกผีมาหลอกพวกนั้นซะให้เข็ด? ฟ้าพูดปิดท้ายอย่างอารมณ์เสีย แต่สองพี่น้องกลับหัวเราะเล็กน้อย

?พวกนั้นน่ะ พูดถูกนะ? เด็กหนุ่มกล่าว ท่ามความประหลาดใจของทุกคนยกเว้นน้องสาวของเขา ?พวกเราเองก็สืบคดีเรื่องของผีๆโดยอาศัยหลักเทกนิควิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยบ้างเหมือนกันนี่นา เอาละ วันนี้หมดหน้าที่ของพวกเราแล้ว ขอให้พรึ่งนี้พวกเธอพยายามเข้าละ ชัยชนะคงอยู่ไม่ไกลหรอก ไปละ บาย...?

แล้วสองคนนั้นก็วิ่งหายไป เหมือนจะเท่ห์แต่จริงๆแล้วดูคล้ายโจรขโมยของวิ่งหนีตำรวจมากกว่า

_____________________

เมื่อการแข่งขันในวันรุ่งขึ้นมาถึง พวกนักเรียนจึงทุ่มสุดตัวจนสามารถคว้าชัยชนะมาได้

ไม่สิ... อะไรมันจะสรุปเรื่องกันเร็วขนาดนั้น ขอย้อนกลับมาที่การแข่งขันกันก่อน

ฟ้าลงสนามทั้งที่ยังรู้สึกตื่นกลัวอยู่ ตามปกติน่าจะมีเพื่อนร่วมทีมให้กำลังใจหรือไม่ก็ยอมรับไม่ได้ในการที่เธอเข้ามาเป็นตัวจริงและไม่คุยอะไรเลย แต่ความจริงที่เกิดขึ้นก็คือไม่มีใครคุยอะไรกันเพราะต่างฝ่ายต่างก็ตื่นเต้นจนไม่มีเวลาปลอบคนอื่น เนื่องจากทราบดีถึงแรงกดดันจากวิญญาณอดีตโค้ช จนแม้แต่โค้ชคนปัจจุบันก็ยังอดรู้สึกตึงเครียดไม่ได้

?ไงก็... สู้ๆนะ? อาจารย์ที่ปรึกษาชมรมพูดด้วยสีหน้าเหมือนกับจะยอมรับความพ่ายแพ้ตั้งแต่แรก

อีกฝ่ายเป็นถึงทีมบาสเก็ตบอลที่ครองอันดับหนึ่งมาตลอดหลายปีซ้อน และพิชิตทีมโรงเรียนเธอมาได้ตลอด แค่บรรยากาศการเชียร์ก็คนละเรื่องกันแล้ว แม้สถานที่แข่งขันจะอยู่ในถิ่นศัตรูแต่ฝ่ายตรงข้ามกลับขนกองเชียร์มาเพียบ เทียบกันแล้วฝั่งพวกเธอแม้จะเป็นเจ้าถิ่นแต่กองเชียร์กลับร่อยหรอเหลือเกิน เรียกได้ว่ากำลังใจแพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้งเลย

ทันทีที่เห็นสีหน้าของทีมฝ่ายตรงข้าม พวกดวงตาแทบอยากจะเก็บของกลับบ้านไปเล่น Facebook หรือทำอะไรที่สาวๆสมัยนี้เค้าชอบทำกันเพื่อความสุขเล็กๆน้อยๆเสียเหลือเกิน หากในอดีตมีเพชฌฆาตหญิงที่คอยถือดาบคมกริบรอตัดหัวนักโทษคนอื่นอยู่ละก็ คนพวกนั้นคงมีสีหน้าไม่ต่างกับนักกีฬาบาสสาวจากโรงเรียนมัธยมศาสตร์ผู้ดีศึกษาที่รอจะประหารพวกฟ้าจนแทบอดใจเอาไว้ไม่ไหว แค่ชื่อโรงเรียนของคนพวกนั้นก็ฟังดูน่าหมั่นไส้ไม่น้อย ไม่รู้คนก่อตั้งโรงเรียนละเมออะไรถึงได้ตั้งชื่อที่ฟังดูยโสแบบนั้น อยากเอาไฟแช็คไปลนก้นหมอนั่นให้เลิกละเมอแล้วรีบตื่นขึ้นมาเสียจริงๆ

การแข่งช่วงแรกก็เป็นไปตามคาด คือโดนถล่มยับ ฟ้าไม่สามารถปลุกความมั่นใจในตัวเองขึ้นมาได้ ยิ่งการแข่งดำเนินผ่านไปเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งกลัวจนทำพลาดมากขึ้นเรื่อยๆ และสะสมความรู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวถ่วงในทีมมากขึ้นทุกขณะ

...ว่าแล้วเชียว อย่างเรามันก็ได้แค่นี้แหละ...

เด็กสาวแทบจะร้องไห้ออกมาทั้งที่ยังแข่งขันอยู่ บรรยากาศในสนามเริ่มตึงเครียดอยู่ฝ่ายเดียว เพราะพวกเธอมีแรงกดดันจากความสยดสยองที่ใกล้จะปะทุทันทีที่แพ้เกมนี้นั่นเอง
ทว่า... ในตอนนั้นเอง
?ฟ้าสู้ๆ!!? มีเสียงเชียร์ดังสนั่นจากการตะเบ็งเสียงชายหญิงคู่หนึ่งดังขึ้น พอหันไปมองก็พบว่ากอล์ฟกับหมิวที่เธอไม่ค่อยถูกชะตาเท่าไหร่กำลังถือป้ายไฟแบบที่ใช้ในงานคอนเสิร์ตเป็นชื่อเธอกระพริบไปมา

?หวา น่าอายแทนจริงๆ? ดวงตาอดแซวไม่ได้ แต่ฟ้ากลับยิ้มขึ้นมา ?ไม่คิดเลยว่าสองคนนั้นจะมาเชียร์?

?ฮื่อ พี่น้องฮิปโปโปเตมัสคู่นั้นก็มีดีเหมือนกันแฮะ? เด็กสาวผู้ห้าวหาญเห็นด้วย

เท่านั้นยังไม่พอ สักพักก็มีเสียง ?ฟ้าสู้ๆ!!? ของเด็กสาวอีกคนตะโกนขึ้นมา แอนนั่นเอง... เธอส่งเสียงเชียร์ในสภาพที่ทั้งร่างกายเต็มไปด้วยผ้าพันแผล และไม่มีท่าทีโกรธเคืองที่ทีมของตนกำลังจะแพ้แต่อย่างใด

เอาละ... แพ้ชนะช่างมันก่อน สู้ให้ถึงที่สุดดีกว่า!!

บางครั้งสิ่งสำคัญกว่าความสามารถหรือพรสวรรค์ก็คือแรงใจ หากให้กอลฟ์วิจารณ์ละก็ เขาคิดว่าการแข่งขันครั้งก่อนๆมีอิทธิพลทางจิตใจของผู้เล่นทำให้รู้สึกหวาดกลัวคู่แข่งจนปล่อยความสามารถของตนออกมาได้ไม่เต็มที่ ทั้งที่ทักษะและพลังกายของทั้งสองทีมก็ไม่ต่างกันมากเท่าไหร่ แต่ความรู้สึกที่ฝังรากลึกมาในจิตใจว่าทีมของเราแพ้มาตลอดนั้นเป็นตัวปิดผนึกความสามารถของพวกเธอเอาไว้ ไหนจะกองเชียร์ที่น้อยเกินคาดนี่อีก เรียกได้ว่าแรงใจแทบไม่มีเหลือ

แต่ในตอนนี้ ฟ้ากลับมีแรงใจเต็มเปี่ยม เธอเริ่มแสดงฝีมืออกมาอย่างเต็มที่ จนผู้เล่นคนอื่นๆในทีมเริ่มรู้สึกฮึกเหิมตามจนกระทั่งเด็กสาวสามารถชูตนอกเส้นสามคะแนนได้เป็นครั้งแรกท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคน
?กรี๊ด! ทำได้แล้วๆ!!? ดวงตาตะโกนด้วยความดีใจพลางวิ่งมาเขย่าไหล่เพื่อนสาว ?เห็นมั้ยล่ะ? จริงๆแล้วเธอเก่งจะตาย?

?ฉะ...ฉัน? ฟ้าพูดตะกุกตะกักด้วยความเขินอายระคนตื่นเต้น ?ฉันจะพยายามเต็มที่ ฉันจะไม่ยอมแพ้อีกแล้ว ขะ... ขอให้ทุกคนก็อย่ายอมแพ้เหมือนกันนะ เราที่เพิ่งเป็นตัวจริงแค่ครั้งแรกมาพูดแบบนี้อาจจะฟังดูอวดเก่ง แต่เราไม่อยากให้ทีมเราแพ้ขาดลอยจริงๆ ...อยากให้ทุกคนทุ่มเทให้เต็มที่ไปเลยนะ ถือว่าฉันขอร้องล่ะ!!?เด็กสาวก้มศีรษะพนมมือขอร้องทุกคนทั้งที่ยังอยู่ในสนามแข่ง

สักพักสมาชิกคนอื่นๆก็ผลัดกันมาตบไหล่เธอ ?ไม่ต้องห่วงหรอก พวกเราก็ไม่อยากแพ้สักหน่อย ไอ้ทีมชื่อโรงเรียนน่าหมั่นไส้พรรค์นั้น ถ้าพวกเราอยากถล่มให้ยับก็น่าจะทำได้ง่ายๆอยู่แล้ว? หัวหน้าทีมพูดพลางยิ้มและเอามือปาดเหงื่อบนหน้าปาก ?เธอที่เป็นตัวจริงแค่ครั้งแรกโชว์ฟอร์มได้ดีขนาดนี้ พวกเรารู้สึกอายเป็นบ้าเลยล่ะ คงต้องขอแสดงฝีมือกู้หน้าบ้างแล้ว?

ฟ้ายิ้มทั้งน้ำตาทันที ?จ้ะ! สู้ๆ!!?

บรรดาสมาชิกในทีมก็เริ่มทำฟอร์มดีขึ้นผิดหูผิดตาจนเหล่าคู่แข่งเริ่มหน้าเสีย อีกทั้งกองเชียร์ก็เริ่มเพิ่มจำนวนขึ้น เพราะตอนแรกทุกคนคิดว่าการแข่งขันน่าจะจบที่ความพ่ายแพ้ แต่พอทีมโรงเรียนพวกเขาสามารถตีเสมอขึ้นมาได้ ทุกคนจึงเริ่มอยากไปให้กำลังใจและรอลุ้นผลการแข่งขันมากขึ้นจนกระทั่งจำนวนกองเชียร์ของทีมโรงเรียนมีมากกว่าฝ่ายตรงข้าม แม้จะฟังดูเน้นมิตรภาพของทีมหรือกำลังใจจากกองเชียร์มากไปหน่อย แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นกำลังสำคัญ หากสองพี่น้องกอล์ฟและหมิวไม่ได้ส่งเสียงเชียร์ และแอนไม่ได้มายืนให้กำลังใจอยู่ข้างสนาม ทุกอย่างก็คงไม่พลิกผันมาถึงขนาดนี้

จนกระทั่งในที่สุด ทีมโรงเรียนพวกฟ้าก็สามารถพลิกแต้มชนะได้แบบเฉียดฉิว ทั้งทีมโห่ร้องดีใจทั้งน้ำตาและกอดกันแน่น

ท่ามกลางกลุ่มคนดู ดวงตามองเห็นร่างของสตรีในชุดดำอยู่ที่แถวท้ายสุดริมประตู ใบหน้าของเธอไม่ได้บิดเบี้ยวอีกแล้ว แต่ดูมีความสุขคล้ายถูกปลดปล่อยจากพันธนาการ ก่อนที่ร่างของเธอจะหายวับไป

_____________________

?ยอดไปเลย? สมาชิกทีมทุกคนต่างผลัดกันมาตบไหล่ฟ้า ไม่เว้นแม้กระทั่งดวงตาและแอนที่มีสีหน้าชื่นชมจากใจจริง เด็กสาวถึงกับร้องไห้ออกมาในโรงยิมเย็นวันนั้นหลังจากการแข่งขันได้จบไปนานแล้ว

?แอน ฉันขอบคุณนะ ถ้าไม่ได้เธอเชียร์ละก็ ฉันคงไม่ฮึดสู้ขนาดนั้น? เธอพูดเสียงสั่นเครือ

?ไม่เป็นไรหรอกน่า ถ้าฉันไม่มาเชียร์เธอนี่สิถึงจะแปลก? แอนยิ้ม

?กอล์ฟกับหมิวก็ด้วย ถึงจะทำป้ายเชียร์ได้น่าอายไปหน่อย แต่ก็ทำให้ฉันรู้สึกดีจริงๆ? สาวน้อยนักบาสยิ้มด้วยท่าทีเขินอาย

?หิวจัง ฉันจะลงไปซื้ออะไรกินหน่อย มีใครเอาอะไรมั้ย?? ดวงตาถามทุกคน

ไม่มีใครปฏิเสธน้ำใจของเธอ ทุกคนจึงสนองตอบด้วยการลิสต์รายชื่อขนมยาวเป็นหางว่าวเพื่อใช้บริการเธออย่างเต็มที่ ลำบากฟ้าต้องอาสาลงมาช่วยแบกถุงขนมเป็นเพื่อน

ในตอนนั้นเอง ที่สองสาวก็เห็นกลอ์ฟกับหมิวกำลังเดินคุยกันอยู่

?เข้าไปขอบใจสองคนนั้นกันดีกว่า? ดวงตายิ้มซุกซนพลางค่อยๆย่องไปหาหมายจะให้อีกฝ่ายตกใจ

ทว่า... สิ่งที่ได้ยิน กลับทำให้พวกเธอถึงกับชะงัก

?ท่านพี่นี่ละก็... วันนี้ทำป้ายไฟได้สวยเกินคาดจริงๆนะคะ!!? หมิวพูดพลางมองพี่ชายด้วยแววตาชื่นชม

สองพี่น้องที่ปกติทะเลาะกันมาตลอด และหมิวไม่เคยเรียกกอล์ฟว่า ?พี่ชาย? เลยสักครั้ง มาบัดนี้กลับเรียกเขาว่า ?ท่านพี่?

ดวงตาและฟ้าได้แต่ยืนนิ่ง เพราะท่าทางของสองพี่น้องคู่นี้... ในตอนนี้ช่างเหมือนกับสองพี่น้อง DBHO ไม่มีผิด...

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”