กรงรักซาตาน บทที่3

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
chitchaya
โพสต์: 6
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 23 ก.พ. 2010 9:42 pm

กรงรักซาตาน บทที่3

โพสต์ โดย chitchaya »

บทที่ 3

หนึ่งสัปดาห์ที่นิชกานต์ต้องนอนอยู่ในโรงพยาบาล วันนี้กันตพลรับเธอกลับจากโรงพยาบาล เธอรู้สึกคุ้นตากับภาพบ้านสีขาวหลังใหญ่ที่ปรากฏตรงหน้า สวนหย่อมและลานน้ำพุหน้าบ้านที่จัดได้อย่างลงตัวทำเธอรู้สึกสดชื่น มีผู้หญิงอายุประมาณ 20 กว่าปีสองคนแต่งตัวชุดกระโปรงสีน้ำเงินมีผ้ากันเปื้อนสีขาวพันทับชุดนั้น หญิงสาวทั้งสองสวมหมวกสีขาวสะอาดตา
?ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะนายหญิง น้ำอ้อยค่ะ?
?น้ำอ้อย?
นิชกานต์ยิ้มให้ น้ำอ้อยยิ้มตอบรู้สึกดีใจจนบอกไม่ถูกที่นายหญิงได้กลับบ้านสักที
?ละมุดค่ะ นายหญิง?
?สวัสดีจ๊ะละมุด?
?เข้าบ้านได้แล้วจ๊ะ ข้างนอกร้อนออก?
กันตพลพูดจบจูงมือหญิงสาวเดินเข้าไปในบ้านเขาเดินนำหญิงสาวขึ้นชั้นบนและหยุดยืนหน้าห้องหันมาส่งยิ้มให้หญิงสาว ก่อนจะเปิดประตูห้องช้าๆ กันตพลเดินมายืนข้างหลังนิชกานต์โอบกอดเธอเอาไว้ ภาพห้องนอนขนาดใหญ่ที่จัดแต่งด้วยโทนสีฟ้าอ่อน รูปถ่ายของทั้งคู่วางตามที่ต่างๆ เต็มไปหมด ทั้งโต๊ะที่หัวเตียง โต๊ะเครื่องแป้ง บนตู้หนังสือ ฯลฯ นิชกานต์ก้าวเท้าเดินเข้าไปในห้อง เธอหมุนตัวไปรอบๆ และหยุดมองฝาผนังปลายเตียงนอน ซึ่งเป็นภาพถ่ายแต่งงานของเธอกับกันตพลขนาดเท่าโปสเตอร์โฆษณาติดไว้ กันตพลมองตามหญิงสาว เขาเดินไปโอบเอวของเธอ
?วันแต่งงานของเราครับ กันมีความสุขที่สุดเลยรู้มั้ย เจ้าสาวของกันสวยเหมือนนางฟ้า ผู้ชายค่อนเมืองพากันอิจฉากันใหญ่เลย?
?เรารู้จักกันก่อนแต่งงานหรือเปล่าค่ะ?
?รู้จักสิครับเราอายุเท่ากัน เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน กันเรียนวิศวะ ส่วนกานต์เรียนบัญชี กานต์สวยมากเป็นดาวมหาวิทยาลัย มีคนตามจีบเพียบเลย?
?รวมทั้งคุณด้วยหรือเปล่าค่ะ?
?ใช่จ๊ะ กานต์ไม่สนใจใครเลยนะตั้งใจเรียนมาก กันเลยไปที่บ้านของกานต์จนสนิทกับคุณพ่อคุณแม่เข้านอกออกในบ้านได้ กานต์ถึงจะยอมใจอ่อน เรียนจบปุ๊บกันขอแต่งงานเลยกลัวจะมีคนแย่งกานต์ไปจากกัน?
?ฉันมีบางอย่างจะบอกกับคุณค่ะ คือฉันรู้สึกอยากจะร้องไห้ บ่อยครั้งที่ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าคนที่ฉันรักได้จากฉันไป ไปที่ไหนสักแห่งฉันอยากไปหาเขาแต่ทำไม่ได้?
?ยอดรักของกัน ไม่มีใครหรือกานต์ไปไหนน่ะจ๊ะกันอยู่นี่ จะไม่ทิ้งกานต์ไปไหน กันสัญญา?
นิชกานต์ซบหน้าลงบนอกกว้างของชายหนุ่มกอดเขาไว้หลวมๆ กันตพลกอดตอบแม้หญิงสาวจะจำอะไรไม่ได้ แต่เธอก็ไม่ได้ขัดขืนหรือแสดงท่าทางรังเกียจเขา สัมผัสจากเขาอาจจะช่วยฟื้นความทรงจำของหญิงสาวให้กลับมาก็ได้
?พ่อแม่ของฉันล่ะค่ะ?
?เอ่อ....ท่านเสียไปหมดแล้วจ๊ะ และกานต์ก็ไม่มีพี่น้องด้วย?
?แย่จังเลยน่ะค่ะ?
?ไม่หรอกจ๊ะ คุณยังมีผมสามีที่พร้อมจะดูแลและปกป้องภรรยาตัวน้อยๆ คนนี้ตลอดไป กานต์จ๋ากานต์แทนตัวเองว่ากานต์รู้มั้ย และเรียกผมว่ากัน?
?กัน... ฉันรักคุณค่ะกัน?
?กานต์ว่าอะไรน่ะ กันไม่ได้ยิน?
นิชกานต์หน้าแดงระเรื่อก่อนจะตอบว่า
?คือตอนที่ฉัน เอ่อ...กานต์นอนเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลน่ะค่ะ ในสมองของกานต์จะได้ยินคำว่า ฉันรักคุณค่ะกัน ตลอดเวลาเลย?
กันตพลยิ้มกว้าง ในสายตาของนิชกานต์รอยยิ้มของเขาช่างดูดีเหลือเกิน กันตพลเชยคางของหญิงสาวขึ้น เขาก้มลงประทับริมฝีปากของเขา กับริมฝีปากสีชมพูระเรื่อนั้น ลิ้นอุ่นๆ ของเขาควานหาความหวานข้างในอย่างคุกคาม จูบที่อ่อนหวานและเนิ่นนานของเขา ทำให้หญิงสาวไม่มีเรี่ยวแรง นิชกานต์รู้สึกหายใจติดขัด อยากจะผลักไสเขาออกไป แต่หัวใจกลับเรียกร้องและโหยหาเหลือเกิน เธอรู้สึกเหมือนจะสำลักกับความสุขจากจูบที่เขามอบให้ กันตพลถอนริมฝีปากออกเบาๆ มองใบหน้าของหญิงสาวที่บัดนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มเพราะแรงสูบฉีดเลือดภายในกายของหล่อน กันตพลอุ้มร่างบางไปวางลงบนที่นอนนุ่มสีฟ้าอ่อน ชายหนุ่มก้มลงจูบหญิงสาวอีกครั้ง ครั้งนี้เต็มไปด้วยการเรียกร้อง ลมหายใจอุ่น ๆ ของเขารินรดเนื้อนุ่มนวลของหญิงสาว ส่งผลให้หญิงสาวร้อนวาบไปทั้งตัว ชายหนุ่มเลื่อนใบหน้าต่ำลงมาระดมจูบไปทั่วซอกคอของหญิงสาว
?อย่าค่ะ?
เสียงประท้วงเบาๆ ของเธอช่วยเตือนสติให้เขาหยุดการกระทำ เขาอาจจะเรียกร้องและเอาเปรียบเธอเกินไป การกระทำโดยพลการของเขาอาจจะทำให้เธอตกใจและหวาดกลัวจนต้องหนีเขาไปอีกครั้ง กันตพลสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ล่วงเกินเธอไปมากกว่านี้จนกว่าเธอจะเรียกร้องจากเขา ถึงแม้ความจำของเธอจะไม่กลับคืนมา เขาก็จะทำให้เธอรักและอยู่กับเขาตลอดไปให้ได้ กันตพลรู้ดีว่าการได้อยู่ใกล้ชิดกับเธอแบบนี้ก็ทำให้เขาแทบคลั่ง
?กานต์ กลัวหรือเปล่า?
?กานต์ขอโทษค่ะ กานต์ไม่พร้อม กันอย่าโกรธกานต์นะค่ะ?
อาการรู้สึกผิดที่เธอไม่สามารถให้เขามีความสุขได้ทำให้กันตพลหัวเราะเบาๆ
?ขำอะไรค่ะ?
นิชกานต์ส่งสายตาเขียวปั๊ดใส่เขา
?กานต์ไม่พร้อมก็ไม่ต้องกังวลใจขนาดนั้น ผมรอได้จ๊ะ?
?กานต์เหนื่อยค่ะอยากพักผ่อน?
?ได้เลยจ๊ะ ผมห่มผ้าให้น่ะ?
กันตพลจัดท่านอนให้หญิงสาวเพื่อให้เธอนอนหลับอย่างสบาย ชายหนุ่มดึงผ้ามาห่มให้หญิงสาวก่อนจะเดินออกไป
?กันค่ะ?
?ครับ?
?กานต์ไม่อยากนอนคนเดียวค่ะ กานต์หนาว กอดกานต์หน่อยได้มั้ยค่ะ?
?ได้สิจ๊ะยอดรักของกัน?
กันตพลปิดประตูห้อง และเดินกลับมานอนกอดหญิงสาว นิชกานต์ซุกหน้าแนบอกเขา เธอกอดตอบเขาและหลับไปพร้อมกัน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำให้กันตพลรู้สึกตัว เขาก้มลงมองหญิงสาวในอ้อมกอด ใบหน้าอิ่มเอิบด้วยความสุขสร้างความชุ่มชื่นใจให้กับเขา
?นายค่ะจะรับอาหารเย็นที่ไหนค่ะ?
?ตั้งโต๊ะแล้วกัน น้ำอ้อยช่วยจัดแจกันด้วยดอกคาร์เนชั่นสีโอโรสน่ะ?
?ค่ะ นาย?
น้ำอ้อยเดินลงบันไดไปแล้ว สาวน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาเริ่มขยับตัว นิชกานต์ยกขาขึ้นพาดไปบนขาของชายหนุ่ม เธอยกแขนขึ้นโอบกอดรอบคอเขาเอาไว้ เป็นท่านอนของเขากับเธอนั่นเอง
?จะยั่วกันไปถึงไหน กันจะบ้าตายอยู่แล้ว?
คำพูดของเขาทำให้นิชกานต์ตกใจลืมตาขึ้นจ้องมองแววตากรุ้มกริ่มของเขา
?ทำไมต้องบ้าตายด้วยค่ะ กานต์ไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย?
?กานต์รู้มั้ยท่านี้เป็นท่านอนของเราน่ะ กานต์จะยกแขนขึ้นกอดคอกัน และยกขาขึ้นพาดขาของผมไว้แบบนี้ ก่อนจะบอกว่า ราตรีสวัสดิ์ค่ะกัน?
?กานต์นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกสักที ไม่เห็นภาพ แต่รู้สึกว่าร่างกายอยากทำนั่นทำนี่ตลอดเลย?
?จิตใต้สำนึกของกานต์ที่มีต่อกันไงจ๊ะ หิวหรือยัง ไปทานข้าวกันเถอะ?
นิชกานต์ลุกขึ้นอย่างว่าง่ายเขาพาหญิงสาวไปอาบน้ำพร้อมกันซึ่งตอนแรกเธอขัดขืนเพราะเขินอายแต่การแสดงออกที่นุ่มนวลและไม่บุ่มบ่ามของเขาทำให้เธอใจชื้นและยอมให้เขาอาบน้ำให้ แต่งตัวเสร็จแล้วเขาจูงมือเธอลงมาข้างล่างเดินผ่านห้องรับแขกไปยังห้องอาหาร น้ำอ้อย กับละมุดยืนยิ้มต้อนรับนายทั้งสองคน
แจกันดอกคาร์เนชั่นสีโอโรสถูกจัดไว้กลางโต๊ะ นิชกานต์รู้สึกปวดหัวจี๊ดๆ กันตพลเลื่อนเก้าอี้ให้หญิงสาวนั่ง เธอจ้องมองดอกคาร์เนชั่นไม่วางตา ภาพกันตพลยืนยิ้มถือดอกคาร์เนชั่นปรากฏขึ้น ภาพรอบตัวของหญิงสาวเป็นร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ตกแต่งไว้อย่างหรูหรา กันตพลส่งดอกคาร์เนชั่นให้หญิงสาว เขานั่งคุกเข่าลงข้างหน้าเธอ
?กานต์ คุณเปรียบเสมือนคาร์เนชั่นสีโอโรส สวย อ่อนหวาน น่ารัก กลิ่นหอมอ่อนๆ แต่แข็งแรงเหมือนต้นคาร์เนชั่น กันหลงรักคาร์เนชั่นดอกนี้จนถอนตัวไม่ขึ้น รับรักของกันไว้น่ะกานต์?
หญิงสาวจำความรู้สึกสุขใจและตื้นตันใจในคืนนั้นได้เป็นอย่างดี เธอก้มลงรับดอกคาร์เนชั่นจากเขา ชายหนุ่มหยิบกล่องกำมะหยี่สีฟ้าออกมาจากกระเป๋า สีฟ้าเป็นสีที่เธอชอบมากที่สุดของขวัญที่เขามอบให้เธอเกือบทุกชิ้นจะมีสีฟ้าเป็นส่วนประกอบเสมอ กันตพลเปิดฝากล่องกำมะหยี่หยิบแหวนเพ็ชรสีโอโรสรูปหัวใจตัววงทำด้วยทองคำขาวออกมา
?แต่งงานกับกันน่ะกานต์?
หญิงสาวตื้นตันใจจนน้ำตาไหลเธอส่งมือซ้ายให้เขา ชายหนุ่มบรรจงสวมแหวนลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของหญิงสาว เสร็จแล้วยกมือขึ้นมาจูบเบาๆ
?กานต์ กานต์ ร้องไห้ทำไม?
กันตพลเขย่าตัวของหญิงสาวเบาๆ นิชกานต์โผเข้ากอดเขาไว้แน่นน้ำตาของเธอเปื้อนรอยเสื้อของเขาจนเปียกชุ่ม ทำให้ชายหนุ่มตกใจกับพฤติกรรมของหญิงสาว
?กานต์รักคุณค่ะกัน?
?กานต์คุณหมายถึง....?
?กานต์เห็นวันที่คุณขอกานต์แต่งงานค่ะ กานต์ดีใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่?
?อา..กานต์ผมดีใจเหลือเกินที่คุณจำวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเราได้?
?กานต์ก็ดีใจค่ะ ตลอดเวลากานต์สับสน หวาดระแวงกลัวจะโดนหลอก ถึงร่างกายของกานต์รู้สึกถึงความรักที่กันมีให้แต่ใจก็คัดค้านมาโดยตลอด แต่ตอนนี้กานต์รู้สึกสบายใจมากค่ะ กานต์รู้แล้วว่าเรารักกันมากแค่ไหน?
?ทานข้าวกันเถอะจ๊ะ?
นิชกานต์เห็นด้วยกับเขาตั้งแต่เช้าจนใกล้จะทุ่มแล้วเขากับเธอยังไม่ได้ทานอะไรเลย น้ำอ้อยกับละมุดช่วยกันดูแลเจ้านายเป็นอย่างดี สาวใช้ทั้งสองคนรู้สึกว่ารังสีแห่งความอบอุ่นของบ้านหลังนี้กลับมาอีกครั้ง

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”