ตอนที่ 30 ฮันนีมูนแสนหวาน (100% จ้า)

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
athita
โพสต์: 41
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 11 เม.ย. 2009 11:15 pm

ตอนที่ 30 ฮันนีมูนแสนหวาน (100% จ้า)

โพสต์ โดย athita »

ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยค่ะ ที่บอกทุกท่านไปผิดในตอนที่แล้ว เพราะที่จริงต้องตอนนี้ต่างหากที่มีบทบรรยายเยอะมากกกกก.....แหะ ๆ ๆ เบลอค่ะเบลอ หวังว่าในตอนนี้จะเห็นภาพวิวทิวทัศน์อย่างที่คนเขียนบรรยายนะคะ ขอบคุณแฟนคลับ (ทั้งจากในเน็ตและตัวเป็น ๆ) เหนียวแน่นทั้งหลายที่ส่งกำลังใจมาให้ไม่ขาดสาย....ซาบซึ้งมากค่ะสุดท้ายนี้หวังว่าฮันนีมูนนี้จะหวานพอนะคะ....อ่านตอนนี้แล้วใครยังจะยืนยันว่าคนแต่งใจร้ายเพราะคอยทำให้หนูอัณณ์ร้องไห้ฟูมฟายอยู่ฝ่ายเดียวหรือเปล่าเอ่ย.......อาทิตา

ปล. พบกับตอนที่ 31 ในวันศุกร์ที่ 31 นี้ค่ะ


ตอนที่ 30 ฮันนีมูนแสนหวาน (100% จ้า)

หลังจากแน่ใจแล้วว่าแฟนหนุ่มคงไม่เปลี่ยนความตั้งใจในการแก้แค้น พิชญธิดาก็นั่งซึมอยู่ในอ้อมแขนของวิชญ์นานเกือบสิบนาทีโดยที่ไม่มีคำพูดใด ๆ เล็ดลอดออกมาจากปากบางแม้แต่คำเดียว วิชญ์รู้ว่าขณะนี้คนรักคงกำลังใช้ความคิดและคงพยายามทำใจกับเรื่องที่เพิ่งได้รับรู้ไป เรื่องใหญ่ของชีวิตลูกผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ต้องมาทนเห็นชายคนรักเข้าพิธีวิวาห์กับหญิงอื่น วิชญ์จึงจำใจต้องปล่อยให้พิชญธิดาได้อยู่เงียบ ๆ แต่ไม่ลำพังเพราะมีอ้อมแขนของเขาเป็นหลักพักพิงให้เธอได้อบอุ่นในค่ำคืนนี้ เขากอดกระชับร่างบางให้แน่นขึ้นเพื่อที่จะได้ใช้ภาษากายบอกให้เธอได้รับรู้ว่า.....เขาขอโทษ และขอบคุณในสิ่งที่เธอกำลังจะทำเพื่อเขา

?คุณวิชญ์ยังอยากจะไปเที่ยวที่ไหนกับอัณณ์แค่สองคนไหมคะ? พิชญธิดาเอ่ยถามทำลายความเงียบออกมาในที่สุด

?อยากสิครับ อัณณ์อยากจะไปไหนล่ะ? วิชญ์กระตือรือร้นที่จะได้ยินคำตอบจากคนรัก วิธีไหนที่อาจจะช่วยคลายทุกข์ให้คนรักได้บ้าง เขาก็ยินยอมที่จะทำ

?อัณณ์อยากไปภูเก็ตค่ะ? พิชญธิดาเลือกที่จะย้อนกลับไปหาจุดเริ่มต้นของความรักอีกสักครั้ง เธออยากกลับไปยังสถานที่ที่ทำให้เธอแน่ใจว่าเริ่มมีใจให้กับเขา อยากกลับไปรำลึกถึงความทรงจำที่สวยงามอีกสักครั้งเพื่อเติมพลังและกำลังใจให้กับตนเองว่า เขาแค่ไปทำ ?ภารกิจแค้น? เท่านั้น ไม่ใช่เรื่องยากที่จะย้อนไปหาสถานที่ที่มีความทรงจำที่งดงาม และแม้ว่าจะสามารถย้อนเวลากลับไปได้ เธอก็ยังยืนยันที่จะรักเขา....ไม่เปลี่ยนแปลง

?ได้สิ ไปเมื่อไรดีล่ะครับ? วิชญ์ก้มลงจูบกระหม่อมของแฟนสาวก่อนที่จะละมาที่แก้มนวลแล้วจึงสูดความหอมเข้าไปเต็มปอด

?ไปอาทิตย์หน้าได้ไหมคะ เราไปเที่ยวภูเก็ตกันตามลำพังนะคะ อัณณ์อยากอยู่กับคุณสองคนก่อนที่.....ก่อนที่คุณจะต้องแต่งงาน....กับคุณญาดา? พิชญธิดาบอกออกไปด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยที่กระแทกใจผู้ฟังเป็นอย่างมาก วิชญ์จึงได้แต่ปลอบกลับมาว่า

?อีกไม่นานแล้วอัณณ์ ทนอีกนิดนะที่รัก?

************************

?ป๊าคะ ป๊าคะ คุณวิชญ์โทรมาบอกว่าได้ฤกษ์แต่งของด้าแล้วล่ะค่ะ? ญาดาบอกผู้เป็นพ่อทันทีที่ผลักประตูห้องทำงานของบิดาเข้ามาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มบ่งบอกความสุขอย่างล้นปรี่

?ฤกษ์อะไรนะลูกดา? นายเมธินทร์ฟังไม่ถนัดจึงต้องถามลูกสาวเพื่อความแน่ใจ

?ก็ฤกษ์แต่งงานของด้ากับคุณวิชญ์น่ะสิคะ นี่คุณวิชญ์เพิ่งโทรมาบอกด้าเมื่อตะกี้ว่าได้ฤกษ์แต่งวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 ค่ะ วันดีเลยนะคะป๊า? ญาดายังยิ้มไม่ยอมหุบตั้งแต่ได้รับข่าวดีจากว่าที่เจ้าบ่าวเมื่อครู่ที่ผ่านมา

?อะไรกัน! ตอนหมั้นก็ปุ๊บปั๊บไปทีหนึ่งแล้ว นี่ตอนแต่งยังจะไม่ให้มีเวลาให้เราได้เตรียมตัวอีกเหรอ? นายเมธินทร์ในฐานะฝ่ายเจ้าสาวอดที่จะทักท้วงไม่ได้

?แหม! ป๊าก็ เหลือเวลาอีกตั้ง 3 อาทิตย์นะคะ ทันถมเถไป เดี๋ยวนี้เราไม่ต้องทำอะไรเองแล้วนะคะ เราสามารถใช้บริการพวกออร์การ์ไนเซอร์ให้จัดการแทนเราได้หมดเลย ง่ายและสะดวกจะตายไป? ญาดาเถียง

?แล้วคุณวิชญ์เขาจะเข้ามาพูดเรื่องนี้อย่างเป็นทางการเมื่อไรล่ะ พ่อจะได้เตรียมตัวถูก?

?ก็เขาโทรมาบอกด้าแล้วนี่คะ คุณวิชญ์บอกว่าให้ด้าจัดการตามที่ชอบได้เลย เขาตามใจด้าทุกอย่างค่ะ ทั้งเรื่องสถานที่ การ์ดเชิญ รูปแบบของงาน และของชำร่วยด้วย คุณวิชญ์บอกให้ด้าเป็นคนตัดสินใจทั้งหมดได้เลยไม่ต้องรอถามเขาหรอก งบไม่จำกัดด้วยนะคะป๊า? ญาดาหน้าบานเพราะดีใจที่วิชญ์ให้สิทธิ์ขาดทุกอย่างแด่เธอผู้เดียวในการจัดงานครั้งนี้

?แล้วเขาไม่คิดจะให้ผู้ใหญ่ฝ่ายเขามาพูดสู่ขอเราจากป๊าก่อนเหรอ ทำไมข้ามขั้นตอนกันแบบนี้ล่ะ? นายเมธินทร์เริ่มเดือดที่วิชญ์ดูเหมือนจะข้ามขั้นตอนสำคัญไปสักหน่อย

?เอ่อ....คุณวิชญ์ไม่ได้พูดอะไรนี่คะ บอกแค่ว่าได้ฤกษ์มาเร็ว อะไรที่รีบจัดการได้ก็ให้ด้าจัดการได้เลย? ลูกสาวตอบด้วยน้ำเสียงอ่อย ๆ ถึงแม้จะเห็นด้วยกับบิดาแต่ก็เข้าข้างว่าที่สามีในอนาคตมากกว่า

?อ้าว! แล้วเขาไม่คิดจะมาช่วยเราบ้างเหรอ ทำไมปล่อยให้ลูกจัดการอยู่คนเดียว งานแต่งงานของสองคนก็ต้องช่วยกันสิมันถึงจะถูก?

?ใครบอกป๊าล่ะคะว่าคุณวิชญ์เขาจะปล่อยให้ด้าจัดการทั้งหมดคนเดียวน่ะ เดี๋ยวคุณวิชญ์เขาจะส่งทีมออร์การ์ไนเซอร์มาคุยรายละเอียดกับด้าเลยค่ะ นี่คุณวิชญ์เขานัดไว้ให้เรียบร้อยแล้วด้วย เป็นทีมที่รับจัดงานแต่งใหญ่ ๆ ให้พวกเศรษฐีทั้งนั้นนะคะ? ญาดาอธิบายด้วยความภาคภูมิใจ

?แล้วตัวเขาไม่มาด้วยเหรอ? นายเมธินทร์ยังคงซักลูกสาวต่อ

?คงไม่มั้งคะ เห็นบอกว่าต้องรีบเคลียร์งานทั้งหมดก่อนงานแต่ง อาทิตย์หน้าก็จะไม่อยู่เพราะต้องไปประชุมที่ต่างประเทศอีกเป็นอาทิตย์ เขาบอกว่าถ้าด้ามัวรอเขาอยู่ ก็คงจะเตรียมงานไม่ทันกันพอดี อุ๊ย! ด้าไม่คุยกับป๊าแล้วดีกว่า เดี๋ยวด้าจะไปนั่งเลือกชุดแต่งงานไปพลาง ๆ ก่อน และก็ว่าจะลองแพลนงานดูคร่าว ๆ ด้วย อ้อ! ป๊าอย่าลืมเตรียมรายชื่อแขกที่จะส่งบัตรเชิญให้ด้าด้วยนะ?

?ได้ ๆ เออ! แล้วพิธียกน้ำชาไหว้ญาติผู้ใหญ่ล่ะ ลูกจะทำที่ไหน ที่โรงแรมที่จัดงานหรือที่บ้านเราดี?

?อุ๊ย! ด้าว่าไม่ต้องยกน้ำชงน้ำชาหรอกค่ะ ฝั่งคุณวิชญ์เขาก็ไม่มีเชื้อจีน เอาแบบสมัยใหม่ก็แล้วกัน แค่กินเลี้ยงก็พอมั้งคะจะได้ไม่ต้องยุ่งยาก นี่ด้าว่าจะเอาแบบบุฟเฟ่ต์เสียด้วยซ้ำ โต๊ะจีนมันเกร่อแล้ว?

?ไม่ได้นะลูกดา! แขกผู้ใหญ่ตั้งเยอะตั้งแยะ ต้องเลี้ยงโต๊ะจีนนั่นแหละถึงจะเหมาะสม แต่งงานลูกสาวคนเดียวของป๊าทั้งที จะมาทำเล่น ๆ ไม่ได้หรอก ไอ้บุฟเฟ่ต์น่ะเก็บเอาไว้เลี้ยงเฉพาะหนุ่มสาวไม่ดีกว่าเหรอ?

?โอ๊ยป๊านี่! เรื่องมากจริง งานของด้านะคะให้ด้าจัดการเองได้ไหมคะ ป๊าแค่เตรียมรายชื่อแขกให้ด้าก็พอ จะกี่ร้อยกี่พันก็ได้ เพราะทางคุณวิชญ์เขามีญาติผู้ใหญ่แค่ไม่กี่คนเท่านั้น แขกของเขาก็อาจจะมีแค่ลูกค้าสำคัญ ๆ เท่านั้น แต่เขาให้ทางเราเชิญแขกได้เต็มที่เลย ป๊าจะให้ใครมาเป็นประธานฝ่ายเรา ป๊าก็เตรียมไว้ด้วยนะ ด้าว่าเอาเพื่อนป๊าคนที่เป็นรัฐมนตรีอะไรนั่นก็น่าจะดีนะคะ อุ๊ย! ใกล้เวลาแล้ว ด้าไปรอรับพวกออร์การ์ไนเซอร์ก่อนนะคะป๊า น่าจะใกล้มาถึงกันแล้ว อ้อ! แล้วป๊าก็อย่าเพิ่งออกไปไหนล่ะ เผื่อด้าจะเข้ามาถามเรื่องการจัดงานอีกนิด ๆ หน่อย ๆ ด้าไปนะคะ? ญาดาเดินออกไปจากห้องทำงานของผู้เป็นพ่อโดยไม่ได้หันมาดูสีหน้าของบิดาบังเกิดเกล้าเลยว่ารู้สึกอย่างไรกับการจัดงานแต่งงานแบบรวดเร็วปานสายฟ้าแลบของลูกสาวเพียงคนเดียว งานแต่งงานที่ฟังดูทะแม่ง ๆ เพราะอะไร ๆ ก็แล้วแต่เจ้าสาว นายเมธินทร์ได้แต่หวังว่าคงเป็นเพราะเจ้าบ่าวหลงรักเจ้าสาวมากถึงยอมมอบความรับผิดชอบทั้งหมดให้เจ้าสาวจัดการแต่ผู้เดียว

************************

วิชญ์และพิชญธิดาเดินทางมาถึงภูเก็ตโดยเครื่องบินโดยสารในเวลาบ่ายโมงเศษ ๆ ทั้งคู่เลือกที่จะไม่ขับรถมาเองเพราะต้องการใช้เวลาด้วยกันให้คุ้มค่าที่สุด เมื่อมาถึงสนามบินนานาชาติภูเก็ต ปรากฏว่าคนขับรถจากโรงแรม ณ นิมมานรดี รีสอร์ตแอนด์โฮม มารอรับเจ้านายหนุ่มอยู่แล้ว ครั้งนี้วิชญ์ตั้งใจจะพาแฟนสาวไปพักที่โรงแรมของเขาเอง เพราะที่นั่นเขามีวิลล่าส่วนตัวที่สามารถจะใช้เวลาพักผ่อนอย่างมีความสุขกับคนรักโดยปราศจากการรบกวน

เมื่อมาถึง โรงแรม ณ นิมมานรดี รีสอร์ตแอนด์โฮม ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาที่อยู่ปลายสุดของเกาะภูเก็ตและต้องใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงในการเดินทางจากสนามบินซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะมายังทางตอนใต้สุดของเกาะภูเก็ต แต่เวลาในการเดินทางร่วมหนึ่งชั่วโมงก็คุ้มค่ากับการรอคอยเพราะ โรงแรม ณ นิมมานรดี รีสอร์ตแอนด์โฮม ซึ่งก่อสร้างในลักษณะวิลล่าเป็นหลัง ๆ และอยู่ห่างกันพอสมควรเพื่อความเป็นส่วนตัวของแขกที่มาพักนั้นสวยสมกับการรอคอย และที่พิเศษกว่านั้นก็คือ หากความงามของวิลล่าและธรรมชาติโดยรอบโรงแรมและรีสอร์ตแห่งนี้สวยพอจะติดตาตรึงใจแบบลืมไม่ลงแล้ว แขกที่มาพักก็สามารถจะซื้อวิลล่าพร้อมบริการระดับห้าดาวเพื่อเป็นเจ้าของได้ในทันที วิลล่าของที่นี่กว่าครึ่งจึงถูกถ่ายโอนไปเป็นของลูกค้ากระเป๋าหนักที่อยากหาบ้านพักตากอากาศในเกาะที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเมื่อธุรกิจไปได้ดีขนาดนี้ วิชญ์จึงกว้านซื้อที่ดินข้าง ๆ เพื่อขยายโครงการที่มีการจับจองไปแล้วเกือบครึ่งเพราะวิวทิวทัศน์ที่สวยไม่เป็นสองรองใคร อีกทั้งยังได้เป็นเจ้าของชายหาดส่วนตัวไปโดยปริยายเนื่องจากที่ดินของเขานั้นฝั่งหนึ่งติดถนนใหญ่เส้นรอบเกาะและอีกฝั่งก็จรดทะเลอันดามัน วิลล่าแต่ละหลังจึงมีทางเดินลงไปยังชายหาดด้านล่างได้โดยไม่มีการรบกวนจากคนนอก วิลล่าทั้งหมดของเขาถูกสร้างอยู่บนเนินเขาอย่างลดหลั่นกันไป เพื่อที่แขกที่มาพักหรือเจ้าของวิลล่าในแต่ละหลังจะได้ชื่นชมความงามของธรรมชาติและชื่นชมบรรยากาศได้อย่างเท่าเทียมกัน

วิชญ์พาพิชญธิดามาถึงวิลล่าส่วนตัวของเขา วิลล่าที่เขาเลือกทำเลที่สวยที่สุดของภูเขาลูกนี้เพื่อที่จะได้ดื่มด่ำกับภาพพระอาทิตย์ตกน้ำที่สวยที่สุดของเกาะภูเก็ต วิลล่าหลังนี้ถูกเสนอซื้อในราคาที่แพงลิบลิ่วมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่วิชญ์ก็ปฏิเสธที่จะขายมันเพราะอยากเก็บไว้เป็นที่ ?ชาร์จแบต? เพิ่มพลังให้กับตัวเองหลังจากการทำงานหนัก วิลล่าหลังงามของวิชญ์ตั้งอยู่บนเชิงเขาที่มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมให้ร่มเงาและความร่มรื่น วิลล่าของเขามีลักษณะเหมือนบ้านทรงไทยขนาดใหญ่ และมีสองชั้นเหมือนวิลล่าหลังอื่น ๆ ที่ชั้นล่างจะเปิดโล่งเพื่อใช้เป็นห้องรับแขกขนาดใหญ่ที่ตกแต่งด้วยโซฟายาว และชุดรับแขกขนาดจุคนได้หลายสิบคนตั้งหันหน้าออกสู่สระว่ายน้ำรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า สระว่ายน้ำที่ให้ความรู้สึกอิสระแก่ผู้ว่ายได้อย่างเต็มที่ เพราะเบื้องหน้า คือ ท้องทะเลผืนกว้างสุดลูกหูลูกตา ด้านหลังชุดรับแขกจะมีโต๊ะไม้สีโอ๊คและเก้าอี้เข้าชุดสำหรับ 6 คนนั่งรับประทานอาหาร และเยื้องไปทางซ้ายของโต๊ะจะเป็นมุมห้องครัว ?แพนทรี่? และบาร์เครื่องดื่มขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปและเหมาะที่จะใช้จัดเตรียมอาหารมากกว่าต้องลงมือทำเอง ถัดไปริมสุดของตัวบ้านด้านขวาก็จะเป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัวจำนวนหนึ่งห้องนอนซึ่งเป็นห้องประจำของกฤตธีและธีรวีร์ที่ใช้ในยามที่มาพักผ่อนที่นี่

ด้านขวาของสระว่ายน้ำมีศาลาทรงไทยที่เปิดโล่งทั้งสี่ด้านเพื่อรับลมทะเลได้เต็มที่ และเพื่อใช้พักผ่อนอิริยาบทได้หลายโอกาส นอกจากนั้นรอบ ๆ สระว่ายน้ำก็มีเก้าอี้ชายหาดหลายตัวไว้ให้ผู้พักอาศัยได้นอนอาบแดดให้ผิวสีแทนสมใจ เพราะความที่วิลล่าแต่ละหลังอยู่ห่างกันพอสมควร บรรยากาศโดยรอบจึงค่อนข้างสงบและมีความเป็นส่วนตัวเหมาะแก่การมาพักผ่อนอย่างแท้จริง วิลล่าแต่ละหลังจะมีทางเดินแบบขั้นบันไดทอดยาวลงไปยังชายหาดขาวสะอาดที่อยู่ด้านล่าง เพื่อให้แขกผู้มาเยือนได้สัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเดินเล่นย่ำเท้าเปล่าไปบนหาดทรายขาว หรือจะลงแหวกว่ายในน้ำทะเลใสเป็นเพื่อนปูปลาก็สุดแล้วแต่ใจปรารถนา

ในส่วนของชั้นสองของตัวบ้านนั้นจะต้องใช้บันไดที่สร้างอยู่นอกตัวบ้านเดินขึ้นไป ที่ชั้นบนมีห้องนอนเดี่ยวขนาดใหญ่มากเพราะใช้พื้นที่ทั้งชั้นของบ้าน ห้องน้ำในห้องนี้ก็เลยพลอยมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษไปด้วย ในห้องนอนมีเตียงกว้างที่ถูกวางให้หันหน้าออกสู่บานประตูกระจกที่ยาวจากเพดานจรดพื้นจึงทำให้มองเห็นทะเลได้กว้างสุดลูกหูลูกตา เจ้าของห้องจึงสามารถชมบรรยากาศท้องทะเลในยามค่ำคืนก่อนเข้าสู่ห้วงนิทรา และชื่นชมท้องฟ้ากว้างสดใสในยามเช้าที่ตื่นขึ้นมารับอรุณโดยไม่มีอะไรมาบดบังสายตาได้เลย เมื่อเปิดประตูกระจกออกไปจะพบระเบียงกว้างไว้ยืนรับลมและชมวิว ซึ่งมีเก้าอี้หวายรูปวงกลมที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณสองเมตรครึ่ง มีพนักพิงด้านหลังซึ่งสูงเพียงคืบเศษ ๆ โดยมีหมอนอิงหลากสีสันน่าหนุนนอนหลายใบวางไว้ เก้าอี้ตัวนี้น่าจะเอาไว้ให้นั่งเอกเขนกหรือนั่งเล่นรับลม ชมดาว และดวงจันทร์ในยามค่ำคืน หรือจะแอบดูพรรคพวกเริ่งร่าในสระว่ายน้ำก็ย่อมได้ และที่ริมสุดของระเบียงก็ยังมีอ่างจากุชชี่ขนาดใหญ่ไว้ให้เจ้าของห้องได้ใช้พักผ่อนอย่าง ?ส่วนตั๊ว ส่วนตัว? กับคนพิเศษ

พิชญธิดาเดินสำรวจวิลล่าหรูอย่างตื่นตาตื่นใจ วิชญ์เองก็พาเดิน ?อวด? ไปทุกซอกทุกมุมด้วยความภาคภูมิใจเพราะที่นี่เป็นที่ที่เขาสร้างขึ้นมากับมือของตัวเอง วิชญ์ดีใจที่จะได้ใช้เวลาพิเศษกับคนพิเศษที่สุดในที่ที่สวยงามและมีความหมายทั้งสำหรับเขาและเธอ

?สวยจังเลยค่ะ รู้อย่างนี้มาพักเสียตั้งแต่คราวที่แล้วซะก็ดี ถ้าปรัชญ์มาเห็นสงสัยจะกรี๊ดสลบ? พิชญธิดาอดเสียดายแทนเพื่อนสนิทไม่ได้

?โอ้โห! ทำไมเตียงกว้างขนาดนี้ล่ะคะ ใหญ่จังเลย? พิชญธิดากระโดดขึ้นไปนั่งเด้งดึ๋ง ๆ อยู่บนเตียงอย่างชอบใจ

?ผมสั่งทำเป็นพิเศษนะครับ เพราะแขกของที่นี่ส่วนหนึ่งก็เป็นชาวต่างชาติที่มีขนาดตัวไม่เล็กเลย ผมอยากให้เขาได้นอนพักผ่อนสบาย ๆ งั้นคืนนี้อัณณ์นอนห้องนี้นะ จะได้นอนสบาย ๆ หรือจะออกมานั่งชมดาวที่ระเบียงก็ได้นะครับ? วิชญ์ยอมเสียสละห้องพักส่วนตัวให้แฟนสาวอย่างไม่เสียดาย

?ถ้าอัณณ์นอนห้องนี้ คุณจะไปนอนที่ไหนล่ะคะ? พิชญธิดาทราบดีว่าห้องนี้เป็นห้องของเขาเพราะมีทั้งรูปครอบครัวในสมัยที่ทุกคนยังมีชีวิตอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา และรูปของพ่อเลี้ยงพาครและแม่เลี้ยงปวีณาตั้งโชว์หราอยู่บนชั้นวางเครื่องเสียงหน้าประตูห้องน้ำ

?ผมนอนห้องข้างล่างก็ได้ครับ แต่ถ้าอัณณ์จะอนุญาตให้ผมขึ้นมานอนด้วย ผมก็ยินดีมาก ไม่ขัดข้องแต่ประการใด ให้ผมนอนที่ระเบียงยังได้เลย? วิชญ์พูดเอาประโยชน์เข้าตัวอย่างโต้ง ๆ ทำเอาคนฟังหน้าแดง หูแดง ไปหมด

?ไม่อนุญาตค่ะ? พิชญธิดาตอบโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด โดยละประโยคต่อท้ายเอาไว้ในใจ ?ขอเวลาทำใจอีกนิดนะคะ?

หลังจากชมความงามของบ้านกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว วิชญ์จึงพาแฟนสาวลงไปเดินเล่นที่ชายหาด ทั้งสองเดินทอดน่องปล่อยอารมณ์ไปตามเสียงคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งเป็นระลอก ๆ โดยไม่ต้องมีคำพูดใด ๆ แค่มีเพียงสายใยรักที่ถ่ายทอดผ่านปลายนิ้วให้กันและกันก็เกินพอแล้ว สายใยรักที่จะเป็นแรงพลังผลักดันให้คนทั้งคู่ได้ข้ามพ้นอุปสรรคอันใหญ่หลวงในวันข้างหน้านี้ไปให้ได้

************************

วิชญ์และพิชญธิดาใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุขในช่วงสามวันที่ผ่านมาเพราะไม่มีเรื่องงานเข้ามาเกี่ยวข้องแม้แต่สักนิด นับว่าเป็นการพักผ่อนที่แท้จริงครั้งแรกในรอบหลายปีที่เขาได้เริ่มทำงานมา ในวันที่สองที่มาถึงวิชญ์พาพิชญธิดานั่งเรือยอร์ชลำเก่งของเขาไปยังเกาะ ๆ หนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากภูเก็ตไปราวสองชั่วโมง ตลอดบ่ายของวันนั้นทั้งคู่ต่างก็ดำผุดดำว่ายเพื่อชมความงามของใต้ท้องทะเลไทยอย่างจุใจ ส่วนเมื่อวานนี้ในช่วงเช้านั้น วิชญ์ก็พาแฟนสาวไปเรียนทำผ้าบาติกจากพนักงานของโรงแรมที่เป็นกิจกรรมที่ทางโรงแรมจัดขึ้นเพื่อให้แขกในโรงแรมได้เรียนรู้และร่วมสนุกในระหว่างที่มาพักผ่อนอยู่ที่นี่ ส่วนในช่วงบ่ายนั้น พิชญธิดาก็ขอนอนอาบแดดให้ผิวเป็นสีน้ำผึ้งให้สมกับที่ได้มาเที่ยวทะเล ก่อนที่จะให้พนักงานแผนกสปามานวดน้ำมันให้เธอที่ศาลาข้างสระว่ายน้ำ โดยปล่อยให้วิชญ์ (ที่อ้างว่า) ไปประชุมกับลูกน้องที่ดูแลที่นี่ตามลำพัง พิชญธิดาไม่ได้ระแวงหรือสงสัยสักนิดเลยว่าแฟนหนุ่มนั้นแท้จริงแล้วออกไปวางแผนเพื่อที่จะมอบของขวัญชิ้นพิเศษที่สุดให้กับเธอ

ตลอดสามวันที่ผ่านมานั้น คู่รักทั้งคู่มีความสุขร่วมกันประหนึ่งว่าโลกทั้งใบมีแค่พวกเขาสองคน ทั้งวิชญ์และพิชญธิดาใช้เวลาร่วมกันเกือบจะตลอดเวลาเริ่มตั้งแต่มื้อเช้าในศาลาริมสระ มื้อเที่ยงในห้องรับแขก และมื้อเย็นสุดหรูที่ห้องอาหารริมหาด รวมทั้งทุกกิจกรรมที่ทำร่วมกันก็จะถูกบันทึกเป็นภาพถ่ายโดยฝีมือของพิชญธิดาบ้าง ของวิชญ์บ้าง รวมทั้งขอความช่วยเหลือจากผู้คนโดยรอบบ้างเพื่อที่จะได้รูปคู่กลับไปเป็นที่ระลึก.....ระลึกถึงความสุขในยามที่ต้องเจ็บปวดจากรัก ส่วนในยามค่ำคืนวิชญ์ก็จะขึ้นมานอนจิบไวน์ดูดาวกับแฟนสาวบนเก้าอี้หวายตัวเก่ง ก่อนที่จะเดินหน้าเศร้ากลับลงไปนอนพักที่ห้องของตนเองที่ชั้นล่างหลังจากได้ชิมไวน์ผ่านปากสีกุหลาบแดงของคนรักจนพอใจแล้ว ทั้งวิชญ์และพิชญธิดาต่างตักตวงความสุขให้ตนเองและให้กันและกันอย่างเต็มที่ เหมือนจะล่วงรู้ว่าเวลาแห่งความสุขนั้นกำลังจะหมดไปในไม่ช้า ไม่มีใครพูดถึงคนอื่น ๆ หรือพูดถึงการแก้แค้น หรือการแต่งงาน แค่เก็บงำเรื่องเหล่านั้นไว้ในใจก็เจ็บพอแล้ว ใยจะต้องพูดออกมาให้เจ็บช้ำไปมากกว่านี้ และ ณ เวลานี้ที่เป็นช่วงเวลาสำหรับคนเพียงสองคนเท่านั้น เวลาแห่งความสุขที่จะอยู่กับพวกเขาตลอดไป......ตราบนานเท่านาน โดยมีน้ำทะเลจรดขอบฟ้ากว้าง หาดทรายขาว และแสงแดดจ้า เพียงเท่านั้นที่เป็นสักขีพยานแห่งความสุขนี้

?อัณณ์ พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้าหน่อยนะครับ? วิขญ์บอกคนรักหลังจากดื่มไวน์แก้วสุดท้ายของคืนนี้หมดลง

?เราจะไปทำอะไรกันเหรอคะ?

?ไว้พรุ่งนี้อัณณ์ก็จะรู้เอง เซอร์ไพร์สครับ เอาเป็นว่าคืนนี้อัณณ์รีบเข้านอนเถอะเพราะพรุ่งนี้อัณณ์ต้องใช้แรงทั้งวันแน่? วิชญ์ยิ้มกริ่มแต่ไม่ยอมเผยความลับที่ว่า

?งั้นก็กู๊ดไนท์นะคะ เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ? พิชญธิดาบอกหลังจากได้มอบจุมพิตหวานให้คนรักไปเรียบร้อย หญิงสาวเดินตรงไปยังเตียงกว้างอย่างไม่เกี่ยงงอนเพราะรู้ดีว่าทุกสิ่งที่วิชญ์เตรียมไว้ให้นั้น มาจากใจเขาเสมอ

************************

เช้ามืดวันรุ่งขึ้นพิชญธิดาถูกปลุกให้ลุกขึ้นมาตั้งแต่ตีห้า หลังจากอาบน้ำเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็ถูกจับ ?แปลงโฉม? ให้อยู่ในชุดเจ้าสาวสีงาช้าง ชุดที่สาว ๆ ทุกคนต่างก็อยากมีโอกาสสักครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะได้สวมมัน พิชญธิดาสวมชุดเจ้าสาวเกาะอกที่ตกแต่งด้วยผ้าลูกไม้ลายเถากุหลาบ และมีชายกระโปรงบานฟูฟ่องได้อย่างพอดีตัว ในหน้าถูกแต่งแต้มให้ดูสวยหวานสมกับชุดที่สวมใส่ ผมยาวถูกทีมงานม้วนให้เป็นลอนใหญ่ ๆ แล้วปล่อยให้สยายเต็มหลังก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นเกล้าและเก็บทั้งหมดเมื่อพิชญธิดาเปลี่ยนมาใส่ชุดเจ้าสาวอีกชุดในช่วงสาย แม้จะงง ๆ อยู่บ้างในตอนแรกว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ แต่พิชญธิดาก็ไม่ต้องแปลกใจอยู่นานเพราะเหลือบไปเห็นโลโก้บนเสื้อยืดสีขาวที่ทางทีมงานทุกคนใส่ในวันนี้ ?L?amour* Studio? (ลามูร์ สตูดิโอ) หญิงสาวยิ้มออกมาเมื่อพอจะเดาออกว่าเธอกำลังเผชิญอยู่กับอะไร หลังจากนั้นพิชญธิดาก็ถูกนำตัวลงมายังชายหาดด้านล่าง ที่ซึ่งแฟนหนุ่มและทีมงานถ่ายภาพรออยู่แล้ว วิชญ์ที่อยู่ในชุดทักซิโด้สีเดียวกันกับชุดของเธอก็เดินเข้ามาหาเจ้าสาวแสนสวยของเขาในทันที
* L?amour แปลว่า ความรัก

?อัณณ์....อัณณ์สวยมากเลยครับ? วิชญ์กล่าวชมและอดไม่ไหวที่จะมอบจุมพิตแรกแห่งวันไว้บนหน้าผากมนของเจ้าสาว เพราะไม่อยากให้ทีมงานแต่งหน้าต้องลุกมาเติมลิปสติกให้ริมฝีปากบางอีก และภาพนี้ก็ คือ ภาพแรกของ ?อัลบั้มรัก? ของคนทั้งคู่ที่ถูกทีมงานที่เตรียมพร้อมอยู่แล้วบันทึกภาพไว้ได้อย่างทันเวลา

?ขอบคุณนะคะ ขอบคุณมากที่ทำให้อัณณ์ได้เป็นเจ้าสาวคนแรกของคุณ ขอบคุณมากค่ะ? พิชญธิดากล่าวขอบคุณชิดริมฝีปากของแฟนหนุ่ม ก่อนที่จะยิ้มหวานไปทั้งตาและปากให้อีกครั้ง

ทั้งคู่ถูกถ่ายภาพแทบทุกอิริยาบท ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจให้ถ่ายเพราะวิชญ์ได้สั่งทีมงานไว้แล้วว่าอยากได้ภาพหลุด ๆ และเป็นธรรมชาติมากกว่าภาพตั้งใจ วิชญ์อนุญาตให้ทีมงานของ ?L?amour* Studio? สามารถใช้สถานที่ทุกซอกทุกมุมในโรงแรมและรีสอร์ตของเขาในการบันทึกภาพครั้งนี้ เพราะอยากที่จะได้ภาพแต่งงานที่สวยที่สุดและไม่ซ้ำกับใครเพื่อเป็นของขวัญให้กับหญิงสาวที่เขารักสุดหัวใจ ไม่ว่าจะเป็นมุมเก้าอี้หวายสุดโปรดของทั้งคู่ หรือมุมศาลาไทยอย่างที่พิชญธิดาต้องการ รวมไปถึงมุมหวาน ๆ บนเตียงนอนกว้างอย่างที่ทีมงานแนะนำ วันนี้แขกของโรงแรมที่มาพักผ่อนตลอดทั้งพนักงานของโรงแรมเองต่างก็ได้ร่วมชื่นชมความเหมาะสมของเจ้าบ่าวเจ้าสาวกันอย่างถ้วนหน้า ทั้งในส่วนล็อบบี้รับแขกของโรงแรม สวนสวยและบ่อปลา และสะพานไม้ที่ยื่นยาวลงไปในทะเล นอกจากนั้นพิชญธิดาที่เคยเห็นรูปแต่งงานของเพื่อน ๆ มาไม่น้อย จึงอาสาควบตำแหน่งผู้กำกับไปอีกหนึ่งตำแหน่ง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากเจ้าบ่าวรูปหล่อที่ยอมละทิ้งความอายที่ต้องมาถูกถ่ายรูปต่อหน้าทีมงานจำนวนมาก แล้วต้องมาโพสท่าตามแต่ผู้กำกับคนสวยจะออกคำสั่ง ไม่ว่าจะเป็นรูปที่วิชญ์จะต้องยืนอุ้มเธออยู่ในทะเล หรือรูปที่ฝ่ายหญิงได้ขี่หลังฝ่ายชาย หรือรูปที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวลงไปแช่อยู่ในอ่างจากุชชี่โดยที่ยังใส่เสื้อผ้าอยู่เต็มยศด้วยกันทั้งคู่ แต่รูปที่นอกเหนือคำสั่งก็คือ รูปที่ฝ่ายหญิงกำลังวิ่งไล่ฝ่ายชายอยู่บนชายหาดเพราะฝ่ายชายแกล้งสะบัดน้ำทะเลใส่ชุดเจ้าสาวแสนสวยของเธอ รูปนี้เป็นรูปที่ทีมงานต่างก็ออกปากชมว่าสวยและดูเป็นธรรมชาติอย่างมากเพราะฝ่ายชายกำลังหัวเราะลั่นที่ได้ยั่วแฟนสาวให้โมโหได้ ส่วนฝ่ายหญิงนั้นก็ยอมถอดรองเท้าและถกกระโปรงยาววิ่งไล่ชายหนุ่มอย่างไม่ยอมลดละ รูปนี้จึงเป็นอีกรูปที่วิชญ์บอกออกมาว่าชอบมากเพราะ

?ไม่ต้องเก๊กและสร้างอารมณ์?

หลังจากตะวันตกดินไปแล้ว และทางทีมงานที่เหนื่อยล้าเพราะต้องทำหน้าที่ตั้งแต่เช้ามืดจนจวบค่ำต่างก็ลากลับไป และสัญญาว่าอีกสองวันจะนำรูปที่รีทัชแล้วมาให้ทั้งคู่ได้เลือกชมก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ และหนึ่งในรูปที่พิชญธิดารีบออกปากว่าจะต้องขยายใหญ่ทันทีที่ได้เห็นจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ของทีมงานตั้งแต่ถ่ายเสร็จเมื่อช่วงเย็น คือ รูปที่วิชญ์กำลังมอบจุมพิตหวานให้เธอโดยมีพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกน้ำเป็นฉากหลังที่สุดแสนจะโรแมนติค รูปที่ไม่มีใครกำกับแต่นักแสดงอาสาที่จะเล่นโชว์เอง ทั้งคู่ต่างถ่ายทอดความรู้สึกของกันและกันผ่านดวงตาคู่งามที่กำลังมองประสานกันอย่างหวานซึ้ง ภาพตรงหน้าทำให้ช่างภาพต้องรีบเก็บภาพที่สวยและดูเป็นธรรมชาติไว้อย่างทันท่วงที เสียงรัวชัตเตอร์จึงดังไม่ยั้งมืออยู่ตลอดเวลา ช่างภาพต้องรีบทำงานแข่งกับเวลา เพราะแสงสีส้มของพระอาทิตย์ข้างหลังกำลังจะลาลับขอบฟ้าของวันไปแล้ว.....ที่สำคัญ รูปนี้ฝ่ายชายเป็นผู้กำกับท่าทางเสียเอง

************************

?เหนื่อยไหมครับ คนสวย? วิชญ์ที่เดินเข้ามาสวมกอดแฟนสาวจากทางด้านหลัง ทันทีที่ทีมงานได้เก็บของและยกขบวนลากลับไปแล้วเอ่ยถามคนในอ้อมกอด

?เหนื่อยค่ะ เหนื่อยมาก แต่ก็มีความสุขมากที่สุดด้วย วันนี้เป็นวันที่อัณณ์มีความสุขที่สุดเลย? พิชญธิดาตอบเสร็จแล้วจึงค่อย ๆ หันตัวเข้ามาสู่อ้อมกอดของคนรัก แล้วพูดต่อขึ้นว่า

?ขอบคุณนะคะที่ทำให้อัณณ์ ขอบคุณจริง ๆ? ถึงแม้จะไม่มีพิธีแต่งงานที่ถูกต้องตามหลักศาสนาหรือตามกฎหมาย แต่เมื่อถูกจัดขึ้นด้วยใจ เพียงแค่นี้ก็สุขใจพอแล้ว

?อ้าว! ไหนบอกว่ามีความสุข แล้วร้องไห้ทำไมล่ะครับ คนดี? วิชญ์รีบจูบซับน้ำตาให้แฟนสาวก่อนที่ทำนบจะแตก

?ก็มันมีความสุขมากไงล่ะคะ? พิชญธิดาตอบและรีบห้ามต่อมน้ำตาของตัวเองให้หยุดทำงาน วิชญ์จึงโอบแฟนสาวให้มานั่งลงที่เก้าอี้หวาย

?อะไรที่ทำให้อัณณ์มีความสุข ผมจะทำ เพราะที่ผ่านมาผมทำให้อัณณ์ทุกข์มามากแล้ว? วิชญ์รั้งแฟนสาวให้นั่งลงในอ้อมแขนของเขา ก่อนที่จะวางคางของตนไว้บนบ่าของพิชญธิดา

?อัณณ์รู้ไหมว่าผมอยากจะพูดอะไรกับอัณณ์มากที่สุดในตอนนี้?

?คุณอยากจะพูดอะไรล่ะคะ?

?ผมอยากจะบอกกับอัณณ์ว่า.....แต่งงานกับผมนะ......ผมรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ในตอนนี้ แต่สักวันหนึ่งมันจะต้องเป็นจริง ผมสัญญา?

?อัณณ์บอกแล้วไงคะว่าเราจะไม่พูดถึงเรื่องนั้นกันในเวลานี้ ไหนคุณลองพูดสิคะ อัณณ์อยากจะฟัง?

?แต่งงานกับผมนะอัณณ์? วิชญ์กระซิบข้างใบหูของพิชญธิดา เสียงถามเพียงเบา ๆ แต่กลับซาบซ่านไปถึงหัวใจ

?พูดอีกครั้งได้ไหมคะ? เพราะมันไพเราะเหลือเกิน

?แต่งงานกับผมนะอัณณ์? วิชญ์ไม่อิดออด เพราะเขาเองก็อยากพูดประโยคนี้มานานแล้ว

?ค่ะ อัณณ์จะแต่งงานกับคุณ? พิชญธิดาไม่ลังเลที่จะตอบกลับไป แม้จะรู้ว่าเขาไม่อาจจะทำได้อย่างที่ถามออกมา

เมื่อพิชญธิดาตอบรับแล้ว วิชญ์จึงหยิบแหวนทองคำขาวที่มีเพขรเม็ดเล็ก ๆ ฝังอยู่โดยรอบออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเขา แล้วบรรจงสวมลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของหญิงสาวที่ยังคงนั่งตกตะลึงกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า เพราะแค่คำขอแต่งงานจากใจของเขาก็ทำให้หัวใจเธออ่อนยวบ.....และพร้อมที่จะรอให้ถึงวันนั้น แต่นี่เขายังมีแหวนแต่งงานมาทำให้ทุกอย่างครบถ้วนสมบูรณ์เข้าไปอีก ถึงแม้จะไม่มีใครมาเป็นสักขีพยานให้ทั้งสอง แค่เพียงดวงดาวนับพันบนท้องฟ้า และแสงไฟดวงเล็ก ๆ นับร้อยจากเรือหาปลากลางท้องทะเล.....แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ดังนั้นน้ำตาที่คิดว่าจะไม่ต้องถูกใช้งานในคืนนี้จึงค่อย ๆ ไหลออกมาอย่างช้า ๆ จากดวงตาคู่สวยที่ยังคงฉายแววความรักออกมาให้กับชายคนรักอย่างชัดเจน......รักหมดใจ

?ขอบคุณที่รักอัณณ์ และขอบคุณที่ทำเพื่ออัณณ์ขนาดนี้?

?ผมสิที่ต้องขอบคุณอัณณ์ ขอบคุณที่อัณณ์ศรัทธาในความรักที่มีให้ผม ขอบคุณที่อัณณ์จะเคียงข้างผม และขอบคุณที่มอบหัวใจให้ผมดูแล ผมรักอัณณ์นะครับ?

?อัณณ์ก็รักคุณค่ะ? พิชญธิดาสบตาวิชญ์ที่กำลังทอประกายความหวานไม่แพ้ดวงตาโตของเธอ ความหวานที่ทำให้เกิดแรงดึงดูดระหว่างคนสองคน.....ให้โน้มหน้าเข้าหากันในที่สุด

เมื่อความรักสุกงอมจนได้ที่ เมื่อสองใจพร้อมที่จะรวมเป็นหนึ่งเดียว และเมื่อภาษาใจได้ถูกถ่ายทอดให้กันและกันอย่างหวานซึ้งแล้ว การ ?รัก? ด้วยภาษากายจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ไม่มีใครต้องฝืนและไม่มีใครต้องรุก ต่างฝ่ายต่าง ?ให้? กันและกัน วิชญ์และพิชญธิดาต่างมอบจุมพิตหวานให้กันและกันครั้งแล้วครั้งเล่า.....จุมพิตที่ทั้งหวานฉ่ำและเร่าร้อนอยู่ในตัว ความหวานของมันทำให้พิชญธิดาลืมสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง คงมีเพียงสัมผัสรักที่อบอวลไปทั่วห้องนอน.....ห้องนอนของสองเราในค่ำคืนนี้ ทั้งคู่ต่างช่วยกันขับขานบทเพลงแห่งรักโดยมีเสียงเกลียวคลื่นที่ซัดสาดเข้าหาฝั่งตลอดทั้งค่ำคืนคอยช่วยบรรเลงขับกล่อมควบคู่ไปด้วย วิชญ์และพิชญธิดามอบความรักให้แก่กันอย่างต่อเนื่องและยาวนานตลอดทั้งราตรีกาล...........ราวกับว่าค่ำคืนนี้เป็นคืนส่งตัวเข้าหอหลัง (ถ่ายรูป) งานแต่งงานของเจ้าสาวและเจ้าบ่าวก็ไม่ปาน

************************

ขอคอมเม้นต์ด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”