มาแล้วค่ะ ตอนที่ 29 แบบครบ 100% ตอนนี้บรรยายเยอะหน่อยนะคะ เพราะอยากให้คนอ่านได้เห็นภาพเดียวกันกับผู้เขียน (เห็นหรือเปล่าคะ...ช่วยบอกที) ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ ที่ช่วยเป็นแรงทั้งผลักทั้งดันให้นิยายเรื่องนี้ใกล้ความจริงเข้าไปเรื่อย ๆ......พบกับ ตอนที่ 30 ฮันนีมูนแสนหวาน ได้เร็ว ๆ นี้ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ........อาทิตา นิมมานรดี (แย่จังที่ลืมใส่นามสกุลมาตลอดเลย)
ตอนที่ 29 The Wedding (ครบ 100%)
เช้าวันจันทร์ที่สุดแสนจะวุ่นวายสำหรับคนในเมืองหลวงที่ต่างก็ต้องรีบเร่งออกจากบ้านไปทำหน้าที่ของตนเอง แต่สำหรับคู่รักที่ได้ปรับทุกข์และสุขจนเข้าใจกันเป็นอย่างดีแล้วดูจะสดใสเป็นพิเศษ อะไร ๆ ก็ดูสวยงามไปหมดเพราะโลกเป็นสีชมพูนี่เอง พิชญธิดาที่ได้นอนหลับพักผ่อนจนเต็มอิ่ม อิ่มทั้งร่างกายและจิตใจ ตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของชายคนรัก ถึงแม้เธอจะผ่านค่ำคืนที่พิเศษแต่ไม่มีอะไรในกอไผ่ก็ตาม หญิงสาวก็ยังรู้สึกขัดเขินจนไม่กล้าลุกออกจากเตียงเพราะเกรงว่าจะทำให้คนร่วมเตียงรู้สึกตัวและตื่นได้ เธอไม่อยากให้วิชญ์เห็นเธอในสภาพที่เพิ่งตื่นนอนเลย สภาพที่สาว ๆ ต่างก็รู้ดีว่ามันเป็น ?ธรรมชาติ? เสียขนาดไหน พิชญธิดาจึงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นช้า ๆ เพื่อลอบสังเกตว่าคนรักตื่นนอนหรือยัง เธออยากรู้ว่าคนหล่อแถมหุ่นล่ำอย่างเขาจะมีสภาพเช่นไรในตอนเช้า หญิงสาวกลั้นลมหายใจก่อนที่จะไล่ดูตั้งแต่คางของชายหนุ่มที่เริ่มมีไรเขียวจาง ๆ ของหนวดและเครา......ถัดไปที่ริมฝีปากที่ไร้สีลิปสติกแต่สามารถให้ความหวานฉ่ำกับเธอได้.....สูงขึ้นไปก็เป็นจมูกโด่งคมสันที่ได้สัมผัสแก้มนิ่มของเธอไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา......และดวงตาคมเข้มที่ทอประกายความหวานตั้งแต่เช้า!!! เขาตื่นนอนแล้วและกำลังจ้องมองเธออยู่เช่นกัน
?อรุณสวัสดิ์ครับคนสวย เมื่อคืนหลับฝันดีไหมเอ่ย? วิชญ์เอ่ยทักทายในยามสายเพราะเห็นนาฬิกาที่หัวเตียงที่ไม่ได้ถูกหยุดเวลาบอกเวลาเกือบสิบโมงแล้ว
?อะ....อรุณสวัสดิ์ค่ะ? เมื่อนึกขึ้นได้ว่า ?เราก็ใช้เด็นทิสเต้นี่นา? พิชญธิดาก็มีความมั่นใจที่จะพูดมากยิ่งขึ้น
?มอร์นิ่งคิสครับ? วิชญ์เพียงสัมผัสเบา ๆ ไปที่ริมฝีปากบางได้รูปของแฟนสาว แค่นี้ก็เพิ่มพลังกายและใจให้กับเขาได้อย่างมากมายมหาศาล และเมื่อเห็นแก้มแดงเรื่อของคนในอ้อมกอด วิชญ์ก็อดไม่ได้ที่จะหอมแก้มนวลไปอีกฟอด
?อยากตื่นมาเจอหน้าอัณณ์เป็นคนแรกทุกวันจังเลย? วิชญ์เริ่มขายขนมจีบรสหวานตั้งแต่ลืมตา
************************
กว่าที่สองหนุ่มสาวจะมาถึงที่ทำงานก็ปาเข้าไปเกือบบ่ายสองโมงครึ่ง หน้าตายิ้มระรื่นมาทั้งคู่เพราะอิ่มทั้งใจและอิ่มทั้งท้องมาแล้วจากห้องอาหารที่อยู่ใต้คอนโดหรูของวิชญ์ที่ต้องกลับไปเปลี่ยนชุดทำงาน
?นายครับ นี่มันจะบ่ายสามแล้ว อีกไม่ถึงสองชั่วโมงก็จะเลิกงาน นายจะเข้ามาทำอะไรเหรอครับ? กฤตธีเปิดศึกก่อนเพราะถือคติว่าฝ่ายรุกมักจะได้เปรียบกว่า พิชญธิดาที่เดินมาคู่กันจึงต้องรีบเข้าไปหลังโต๊ะทำงานของเธอเพราะกลัวจะโดนลูกหลงไปด้วย
?ก็เข้ามาดูว่าพวกแกอู้งานไหม และทำงานคุ้มกับเงินเดือนไหมนะสิ?
?โห....เขี้ยวว่ะ จะเอาไหมครับกุญแจหอคอยของเจ้าหญิงน่ะ เดี๋ยวก็ไม่ให้ซะเนี่ย?
?เอามาเลยไอ้คุณกฤตธี เออ...แล้ววันนี้มีอะไรเร่งด่วนหรือเปล่า? วิชญ์แกล้งถามกลับแล้วรีบหย่อนกุญแจบ้านของแฟนสาวเข้ากระเป๋ากางเกงไปทันที
?มีครับ มีประชุมสรุปผลของไตรมาสที่สองตอนเก้าโมงเช้า แต่นายดันไม่มาเพราะเห็นเรื่องอื่นสำคัญกว่างานไปเสียแล้ว คุณยาก็เลยต้องแจ้งยกเลิก? กฤตธีตอบกลับกึ่งประชดและต้องอมยิ้มเพราะได้เห็นอาการเขินของคู่พระนาง โดยเฉพาะฝ่ายหญิงสาวนั้นแดงระเรื่อไปทั้งหน้าแล้ว
?แล้วมีอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีฉันจะกลับแล้ว วันนี้ว่าจะพาแฟนไปเดตและดินเนอร์สักหน่อย? วิชญ์พูดพร้อมเหล่ไปมองทางสาวที่ว่าซึ่งตอนนี้กำลังเขินบอดี้การ์ดหนุ่มทั้งสองจนมือไม้สั่นและเกือบจะหาปุ่มเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่เจอ
?สรุปว่านายจะเข้ามาทำไมครับเนี่ย? กฤตธียังกัดไม่เลิก แต่เมื่อเห็นสายตาโหดเสมอสำหรับลูกน้องแต่หวานสุด ๆ สำหรับแฟนสาวก็ต้องเก็บปากเก็บคำในทันที
?เอ่อ....มีครับนาย คือ ตอนนี้คุณญาดามารออยู่ข้างในแล้วครับ เธอมาสักครึ่งชั่วโมงได้แล้ว หลังจากที่โทรเข้ามาเช็คเกือบจะทุกชั่วโมงตั้งแต่เช้า? ธีรวีร์รายงานอย่างเป็นการเป็นงาน วิชญ์หันมาดูท่าทีของพิชญธิดาที่บังเอิญเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขาอย่างพอดี เมื่อเห็นหญิงสาวยิ้มบาง ๆ และพยักหน้า ?อนุญาต? ชายหนุ่มก็เตรียมพร้อมที่จะก้าวเข้าไปในห้องทำงาน แต่ออกเดินได้เพียงสองก้าวเท่านั้น ประตูห้องทำงานก็เปิดออกจากคนข้างใน
?อ้าว! คุณวิชญ์มาถึงแล้วเหรอคะ ทำไมไม่มีใครไปบอกด้าเลยล่ะคะ? ญาดาถามและมองกราดไปที่กฤตธี ธีรวีร์ และพิชญธิดาตามลำดับ เธอหยุดสายตาอยู่ที่เลขาฯสาวหน้าหวานที่เธอได้รับข้อมูลจากเมธปรียามาว่า
?น้องอัณณ์จะเข้ามาทำงานในช่วงบ่ายค่ะ เพราะติดธุระในช่วงเช้าค่ะ?
?เอ๊ะ! มาพร้อมกันหรือคะ? ญาดาถามโดยละประธานของประโยค แต่คนฟังก็เข้าใจกันทุกคนว่าเธอหมายถึงใคร
?ใช่ครับ เราไปทานข้าวกันมาหลังจากพบลูกค้า? หากว่าญาดาต้องการหาพิรุธก็คงยากที่จะเจอเพราะวิชญ์อธิบายด้วยน้ำเสียงเนิบ ๆ แต่ชัดเจน และสบตากับคนตั้งคำถามตลอดเวลาที่ตอบ แม้กระนั้นญาดาก็อดสงสัยและระแวงไม่ได้เพราะเมธปรียาบอกกับเธอว่าพิชญธิดาติดธุระในช่วงเช้า ซึ่งขัดกับคำพูดของวิชญ์ ?มันต้องมีอะไรในกอไผ่แน่ ๆ?
?เหรอคะ แล้วทำไมใคร ๆ ถึงติดต่อคุณไม่ได้เลยล่ะคะ นี่ด้ามารอคุณเป็นชั่วโมงแล้วนะคะ? ญาดาเดินเข้าไปควงแขนวิชญ์เพื่อประกาศความเป็นเจ้าของก่อนที่จะลอบมองสังเกตท่าทางของพิชญธิดา
?ครึ่งชั่วโมงพอดิบพอดีต่างหาก? ธีรวีร์คิดแน่ใจหลังจากเหลือบดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ
?ผมปิดมือถือเวลาที่คุยกับลูกค้าครับ คุณด้ามีธุระอะไรกับผมเหรอครับ?
?แหม! เราเป็น ?คู่หมั้น? กันนะคะ ไม่มีธุระนี่ด้ามาหาคุณไม่ได้เหรอคะ? ญาดางอนใส่วิชญ์ด้วยใบหน้าง้ำ ญาดาย้ำคำว่า ?คู่หมั้น? อย่างชัดเจนเพื่อเป็นการเตือนให้คนที่คิดจะหวังสูงรู้สึกตัว
?ได้สิครับ แต่ที่นี่มันที่ทำงานผมก็นึกว่าคุณด้าจะมาคุยเรื่องงานนะสิครับ? วิชญ์ย้อนกลับด้วยคำพูดธรรมดาแต่ก็ทำให้ญาดารู้สึกแสบ ๆ คัน ๆ อยู่บ้าง
?แต่ที่จริงที่ด้ามาวันนี้ก็เพราะด้ามาพูดธุระแทนป๊าน่ะค่ะ? ญาดารีบแก้ตัว
?งั้น เชิญในห้องทำงานผมดีกว่าครับ? วิชญ์ผายมือเชิญ แต่ญาดาไม่ยอมออกเดินนำ หญิงสาวยังคงควงแขนวิชญ์ไว้และรั้งให้เดินไปคู่กัน ญาดาไม่ใช่สาวไร้เดียงสา เธอพอจะมองเห็นเค้าลางของความผิดปกติ เธอชักจะไม่แน่ใจในความสัมพันธ์ระหว่างวิชญ์กับพิชญธิดา แต่พอได้นึกไตร่ตรองดูแล้วว่าวิชญ์อาจจะเป็นสมภารที่กินไก่วัดจริง แต่เขาก็เลือกที่จะยกย่องเธอออกหน้าออกตาด้วยการหมั้นหมาย นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่าใครคือตัวจริง และใครคือของทานเล่นฆ่าเวลา เมื่อรู้เช่นนั้น ไยเธอจะต้องทุกข์ เธอยอมรับได้หากเขาจะหาเศษหาเลยบ้างก่อนแต่งงานกับเธอ เพราะเป็นเรื่องตามธรรมชาติและแสนจะธรรมดาของผู้ชายรวย ๆ อย่างเขา แต่อย่าคิดว่าวิชญ์จะทำตามใจได้เพียงฝ่ายเดียว เพราะเธอก็มีความต้องการทางธรรมชาติเหมือนกัน!!!
************************
นับจากวันนั้น ญาดา พัฒนไพศาล ก็หมั่นและขยันมาเฝ้าคู่หมั้นหนุ่มแทบทุกวัน และหญิงสาวที่เจนจัดอย่างเธอก็เลือกที่จะมาในช่วงใกล้เที่ยงเพื่อที่จะได้ ?ดูแล? คู่หมั้นไม่ให้นอกลู่นอกทาง ดังนั้นมื้อเที่ยงของวิชญ์จึงต้องขาดคนรักมาร่วมโต๊ะไปโดยปริยาย พิชญธิดาต้องระเห็จไปรับประทานอาหารเที่ยงกับเมธปรียาแทนที่ห้องอาหารสำหรับพนักงานของโรงแรม พิชญธิดาเลี่ยงการเผชิญหน้ากับญาดาโดยบอกกับวิชญ์ว่าไม่อยากไปเห็นภาพบาดตาบาดใจของวิชญ์และญาดา รวมทั้งอยากรับประทานมื้อเที่ยงอย่างมีความสุขและที่สำคัญก็คือเธอไว้ใจเขา แต่พิชญธิดาก็ยังไม่วายและย้ำนักย้ำหนาว่าเขาจะต้องพาบอดี้การ์ดไปด้วยทุกครั้ง.....กันไว้ดีกว่าแก้
นอกจากญาดาจะพยายามมาคุมคู่หมั้นหนุ่มให้ได้ทุกวันแล้ว เธอยังพยายามพาเขาไปออกงานสังคมต่าง ๆ อีกด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะประกาศให้คนในวงสังคมได้รับรู้ถึงความรักของคนทั้งคู่ และเพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นได้มีโอกาสเอ่ยปากถามคำถามสำคัญกับปากวิชญ์ด้วยตัวเอง
?เมื่อไรจะมีข่าวดีคะ?
?จะแจกการ์ดเมื่อไรครับเนี่ย?
?ได้ฤกษ์หรือยังคะเนี่ย?
ญาดาคิดเอาเองว่าวิธีนี้น่าจะทำให้ ?จับ? วิชญ์ได้อยู่หมัด และช่วยเป็นตัวเร่งให้วิชญ์จัดงานแต่งงานกับเธอได้เร็วขึ้นเพราะแรงบีบจากคนรอบข้าง แต่ญาดาก็ไม่ได้งอมืองอเท้าเพียงแค่นั้น ดังนั้นเพื่อเร่งปฏิกิริยาของวิชญ์อีกทาง หลังอาหารมื้อเที่ยงของทุกวัน ญาดาก็จะขึ้นมานั่งจิบกาแฟในห้องทำงานของวิชญ์อยู่อีกครึ่งชั่วโมงเป็นอย่างน้อยถึงจะลากลับไปทำงานต่อ หญิงสาวจะชวนเขาพูดคุยเรื่องต่าง ๆ โดยอ้างว่าเพราะหมั้นหมายกันเร็วจึงยังไม่ค่อยได้รู้จักกันสักเท่าไร ดังนั้นช่วงนี้จึงควรทำความรู้จักกันและกันไว้ให้มากก่อนที่จะแต่งงานกัน วิชญ์ที่เริ่มอึดอัดกับบ่วงพิศวาสของญาดาเพราะทำให้เขากระดิกกระเดี้ยไปไหนไม่ได้ ที่สำคัญเขากลัวว่าญาดาจะมาทำให้เกิดช่องว่างระหว่างเขากับพิชญธิดา แต่เขาก็แก้ไขอะไรไม่ได้อีกเช่นกันเพราะบ่วงนี้เขาเป็นคนผูกมันขึ้นมาเอง ถึงแม้จะหนักใจกับเรื่องการตามติดเป็นเงาของญาดาแต่เรื่องที่สร้างความหนักใจให้กับเขามากกว่า ก็คือ คำพูดของนายเมธินทร์ที่ฝากญาดามาบอกกับเขาเมื่อหลายวันก่อน
?คุณวิชญ์คะ ป๊าฝากมาบอกว่า ป๊าจะให้คุณวิชญ์ลงหุ้นด้วยหลังแต่งงานกับด้าแล้วน่ะค่ะ เพราะตอนนี้ป๊ายังไม่ค่อยสะดวก เนื่องจากต้องไปถามผู้ถือหุ้นคนอื่น ๆ ก่อนว่าควรจะเพิ่มการลงทุนอีกสักเท่าไรดี?
วิชญ์อ่านเกมของนายเมธินทร์ออกตั้งแต่ญาดาพูดไม่ทันเสร็จ แต่เขาก็ยังทำใจเย็นและแกล้งให้ความหวังกับญาดาไปว่า
?งั้นเราก็ต้องรีบแต่งงานกันแล้วสิครับ?
?เอาอย่างนั้นหรือคะ ด้านึกว่าเราจะค่อย ๆ เรียนรู้กันไปก่อนเสียอีก?
?คุณด้ายังไม่อยากแต่งกับผมหรือครับ?
?ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ เอาเป็นว่าเรื่องนี้ด้าให้คุณวิชญ์เป็นคนตัดสินใจเองก็แล้วกันค่ะ?
?งั้นผมขอปรึกษาลุงกับป้าดูก่อนนะครับ จะได้ให้พวกท่านไปหาฤกษ์หายามให้ด้วย? เพียงลมปากแค่นี้ญาดาก็ยิ้มแก้มแทบปริและรีบลากลับเพื่อไปรายงานผู้เป็นพ่อทันที
คล้อยหลังญาดาได้สักพักหนึ่ง วิชญ์ที่นั่งใช้ความคิดอยู่คนเดียวก็ตัดสินใจโทรไปปรึกษากับผู้เป็นลุง เพื่อที่เขาจะได้เดินหมากต่อไปได้ถูกต้องและจบเกมได้เร็วยิ่งขึ้น เขาต้องการหาหลักฐานปลอมในการยักยอกหุ้นให้เจอ และยังต้องหาหลักฐานมาเพิ่มเติมในคดีฆาตกรรมอำพรางของครอบครัวของเขา ?ครอบครัวพงศ์อุดม? เพราะเพียงคำให้การแค่ปากเดียวของอดีตคนสนิทคนหนึ่งของนายเมธินทร์ที่ปัจจุบันได้บวชเป็นพระแล้วนั้น ไม่น่าจะมีน้ำหนักเพียงพอในการชี้ตัวว่านายเมธินทร์เป็นคนวางแผนชั่วร้ายทั้งหมดขึ้น เขาต้องรอบคอบและรัดกุมเพื่อที่จะไม่ให้มีความผิดพลาดใด ๆ เกิดขึ้น มิฉะนั้นไอ้เมธินทร์อาจจะไหวตัวทันและอาจจะแก้ลำเขาได้ และนั่นหมายถึงว่าเกมนี้จะต้องยืดเยื้อออกไปอีก......ยิ่งต่อเวลาเขาก็ต้องทนเห็นคนรักทุกข์ใจนานขึ้น
************************
?เป็นอะไรไปอัณณ์ ฉันเห็นแกนั่งเขี่ยข้าวไปมาอยู่ตั้งนานแล้ว มีอะไรก็เล่ามา อย่าเก็บไว้บ้าคนเดียว แบ่ง ๆ มาให้ฉันบ้างก็ได้ย่ะ? วรปรัชญ์ที่แอบเห็นเพื่อนรักทำหน้าอมทุกข์อยู่นานสองนานแล้วก็อดไม่ได้ที่จะต้องถามให้หายสงสัย
?ฉันจะมีเรื่องอะไรให้ปวดหัวได้อีกล่ะ?
?เรื่องที่คุณวิชญ์ของแกขยันเป็นข่าวรายวันกับแม่ดักแด้ผ้าไหมนั่นนะเหรอ? วรปรัชญ์ผู้ซึ่งติดตามข่าว ?นินทา? ของแวดวงคนดังอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งในช่วงนี้ข่าวที่เป็นทอล์กออฟเดอะทาว์นก็คงจะหนีไม่พ้นคู่หมั้นสายฟ้าแลบ เพราะใคร ๆ ต่างก็จับมองฝ่ายหญิงว่าจะมีป่องก่อนแต่งหรือไม่ นอกจากนั้นในช่วงนี้คนทั้งคู่ยังควงกันออกงานให้ได้เห็นกันบ่อย ๆ ขนาดตัวเขาเองที่รู้ว่าเรื่องนี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังยังเกือบจะเชื่อตามกระแสว่าคนทั้งสองรักกันจริง เพราะขยันสร้างภาพกันเหลือเกิน
?อืม.....ก็เรื่องคุณญาดานั่นแหละ อย่างที่ฉันบอกกับแกว่าตอนนี้เขาคุมคุณวิชญ์ของฉันแจเลย ตอนเที่ยงก็มากินข้าวด้วยแทบทุกวัน ส่วนตอนเย็นก็ชอบโผล่มาเวลาใกล้เลิกงาน แล้วก็ชวนคุณวิชญ์ไปโน่นไปนี่อยู่เรื่อย กลับค่ำ ๆ มืด ๆ อยู่บ่อย ๆ? พิชญธิดาเล่าโดยไม่มีการอิดเอื้อนเพราะต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้ว
?สรุปว่าแกก็เลยไม่ค่อยได้จู๋จี๋กับแฟน.....ใช่ไหมล่ะ? วรปรัชญ์ ?กัด? เพื่อนรักได้ตรงจุด
?ก็ใช่นะสิ?
?ขนาดไม่ค่อยได้จู๋จี๋ ยังรู้ลึกรู้ดีอีกนะ แกไปรู้ได้ไงว่าเขากลับดึก ๆ ดื่น ๆ ที่จริง......เขาอาจจะไม่กลับเลยก็ได้?
?นังปาด! เขาเล่าให้ฉันฟังเองย่ะ คุณวิชญ์เขาไม่โกหกฉันหรอก เพราะเราเข้าใจกันดี แกอย่ามายุให้รำตำให้รั่วหน่อยเลย ไม่ได้ผลหรอก?
?เออดีแล้ว ที่รักกันมั่นคงปานจะกลืนกินน่ะ แกจะได้ไม่ต้องมานั่งเป่าปี่ให้ฉันฟังอีก?
?แต่แกรู้อะไรไหมปรัชญ์ ไอ้ไม่ค่อยได้จู๋จี๋น่ะยังพอว่า แต่นี่ ฉันยังต้องมาทนเห็นเขาจู๋จี๋กันอีกนี่สิ เซ็งอ่ะ แถมคุณญาดานั่นน่ะ ร้ายลึกนะย่ะ เพราะชอบมาแซวว่าฉันน่ะเหมาะกับคุณกฤตมากกว่าคุณวีร์เข้าไปอีก เชียร์คุณกฤตจนออกนอกหน้าเลยล่ะ ฮึ ยัดเยียดกันเห็น ๆ แต่ที่เด็ดสุดนะ ก็คือ คุณเธอชอบมาพูดเรื่องพวกนี้ต่อหน้าคุณวิชญ์ แล้วก็พยายามให้คุณวิชญ์น่ะเออออห่อหมกด้วย เหมือนจะบอกเป็นนัย ๆ ให้คุณวิชญ์น่ะเลิกยุ่งกับฉันซะยังไงอย่างงั้นเลย นี่ขนาดฉันอยู่เฉย ๆ นะ ยังอุตส่าห์มาระแวงกันอีก? พิชญธิดาบ่นออกมาเสียยาวยืดพร้อมแสดงสีหน้าเซ็งสุดขีด
?ก็แกกับคุณวิชญ์อาจจะแอบส่งสายตาปิ๊ง ๆ ๆ ให้กันน่ะสิ ยายนั่นคงเห็นเข้าก็เลยระแวง และก็รีบจับคู่ให้แกแทน ฉลาดไม่เบานะยะคู่ชกแกนี่อ่ะ?
?คงงั้นมั้ง มิน่าล่ะวันนี้ก่อนเลิกงานพี่ยาถึงมาแนะฉันว่า ให้ฉันเล่นบทสวีตหวานแหววกับคุณกฤตบ้าง คุณญาดาจะได้เลิกหวาดระแวง ชักจะบ้าไปกันใหญ่แล้ว?
?แหม! น่าอิจฉาล่ะไม่ว่า เป็นฉันหน่อยไม่ได้ จะเล่นให้สมบทบาทสุด ๆ ไปเลย ยิ่งกับคุณกฤตคุณวีร์ด้วยแล้ว ไม่คิดค่าตัวเลยก็ยังได้ ฮิ ฮิ ฮิ แค่นึกก็เปรี้ยวปากซะแล้ว? วรปรัชญ์ยังไม่วาย ?ใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส? ในสถานการณ์คับขันแบบนี้
?เวร! แทนที่จะมาช่วยกันคิด ก็เป็นซะแบบนี้ไงล่ะ ฉันเลยไม่ค่อยอยากจะปรึกษาอะไรกับแกสักเท่าไร?
?โอ๋ ๆ ๆ ขอโทษนะจ๊ะ กลับเข้าเรื่องก็ได้.....นังอัณณ์ งั้นแกก็ต้องอดทนสิ เพราะไม่มีวิธีไหนที่แกจะทำได้ จะแสดงตัวว่าเป็นแฟนกับคุณวิชญ์ก็ทำไม่ได้ จะเล่นเป็นแฟนคุณกฤตจนออกนอกหน้าคุณวิชญ์ก็คงไม่ยอม เพราะฉะนั้นแกก็ต้อง....อด...ทน....อย่างเดียวจ้า แต่แกบอกฉันว่าคุณวิชญ์บอกว่าอีกไม่นานไม่ใช่เหรอที่ทุกอย่างมันจะจบน่ะ?
?ไม่นาน แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไร ยิ่งตอนนี้ยังหาหลักฐานเอาผิดนายเมธินทร์นั่นไม่ได้เลยสักกะอย่าง นี่คุณวิชญ์ก็เปรย ๆ ว่าสงสัยหลักฐานทั้งหมดคงเก็บอยู่ในบ้านนายเมธินทร์ ถ้าจะหาให้เจอก็ต้องเข้าไปค้นในบ้าน เฮ้อ! เรื่องนี้ยุ่งชะมัด แกคิดว่ามันจะจบได้เร็ว ๆ นี้ไหมล่ะ?
?เออ! ยุ่งทั้งพ่อทั้งลูกเลยล่ะ แล้วใครเขาจะยอมให้คนอื่นเข้าไปค้นหาของในบ้านได้ง่าย ๆ ถ้าไม่ใช่คนในครอบครัว? พิชญธิดาสะดุดกับคำพูดของวรปรัชญ์ ?คนในครอบครัว?
?แกหมายความว่าไงอ่ะปรัชญ์?
?ก็อย่างที่แกกำลังคิดนั่นแหละ จะเป็นคนในครอบครัวได้ก็ต้อง.....แต่งงานไงล่ะ?
?โอ๊ย! ฉันไม่ยอมหรอก แค่หมั้นนี่ก็สุด ๆ แล้วน่ะ ถ้ามีแต่งสงสัยฉันต้องบ้าแน่ ๆ? พิชญธิดาโวยวายลั่น แต่หญิงสาวไม่รู้เลยว่าในอนาคตอันใกล้นี้เธอจะต้องกลืนน้ำลายตัวเอง
?ก็ถือซะว่าแกกำลังโดนสวรรค์ทดสอบความอดทนในความมั่นคงของความรักของแกไงล่ะ และถ้าแกผ่านมันไปได้นะ ผลตอบแทนที่แสนหวานก็จะรอแกอยู่ที่ปลายฟ้าโน่น? วรปรัชญ์ไม่พูดเปล่ายังทำไม้ทำมือประกอบการพูด โดยกางมือข้างหนึ่งแล้วชี้ขึ้นไปยังท้องฟ้า ส่วนมืออีกข้างก็กางลงเป็นแนวทแยงกันพอดิบพอดีอย่างกับกำลังเต้นบัลเล่ต์อยู่กลางฟลอร์ แต่ในเวลาแบบนี้เพื่อนสาวกลับไม่มีอารมณ์ร่วมขำไปด้วย
?จะมีวันนั้นของฉันไหมก็ยังไม่รู้เลย? พิชญธิดาพูดอย่างปลงตก
?มีสิ อย่าเพิ่งท้อสินังอัณณ์ สู้ ๆ ชีวิตมีไว้ให้สู้ ไม่ใช่ให้ท้อ? วรปรัชญ์พยายามให้กำลังใจเพื่อนรัก
?ไม่ได้ท้อ แต่ก็ไม่กล้าหวัง กลัวผิดหวังอ่ะ ปรัชญ์แกรู้ไหมว่าตอนนี้ฉันเหนื่อยเหลือเกินแล้ว ไม่คิดว่าความรักที่ไม่มีอุปสรรคเรื่องมือที่สามของฉัน กลับจะต้องมาผจญเวรผจญกรรมกับเรื่องแบบนี้แทน เฮ้อ! เหนื่อยชะมัด? พิชญธิดารำพึงรำพันอย่างท้อแท้
?งั้นแกอยากได้แบบมือที่สามแทนไหมล่ะ เดี๋ยวฉันจัดให้? วรปรัชญ์ยังไม่วายประชดใส่เพื่อนสาว
?ไม่ต้องเลย ไม่ต้องสาระแนเลยแก แค่นี้ก็ปวดหัวพอแล้ว แค่นี้ฉันก็ยังไม่รู้ว่าจะเอาตัวรอดไหมเลย?
?งั้นแกก็ไม่ต้องรอและไม่ต้องทนเหนื่อยอีกต่อไป ฉันขอแนะนำอีกวิธีที่ไม่ต้องอดทน ก็คือว่า ให้แกไปบอกคุณวิชญ์ของแกเลยว่า แกไม่ไหวแล้ว แกขอบายไปก่อน รอให้มันจบเรื่องจบราวแล้วค่อยมาว่ากันใหม่ วิธีนี้ดีไหมล่ะ? วรปรัชญ์แนะนำวิธีเดิมให้เพื่อนสาว......วิธีที่พิชญธิดาไม่มีวันที่จะทำได้
?บ้า! ไม่เอาหรอก ถ้าไม่มีความคิดดี ๆ ก็เงียบ ๆ ไปเลยแก เรื่องอะไรมายุให้คนเขาเลิกกัน ฉันยอมเหนื่อยดีกว่ายอมเลิก? พิชญธิดาลั่นวาจา.....ที่ยังไม่รู้ว่าจะทำได้อย่างที่ปากว่าหรือเปล่า
************************
ภาพชายหญิงสองคนที่กำลังนอนกอดก่ายกันบนเตียงกว้างโดยปราศจากเครื่องนุ่งห่มใด ๆ นั้น ย่อมแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ขั้นลึกซึ้งระหว่างคนทั้งสองได้เป็นอย่างดี หลังจากสิ้นสุด ?ความต้องการทางธรรมชาติ? แล้ว ญาดาก็เตรียมที่จะลุกออกจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกายก่อนที่จะกลับไปทำงานในช่วงบ่าย
?อะไรกันครับด้า จะกลับแล้วเหรอ ผมยังไม่ ?อิ่ม? เลยนะ เราไม่เจอกันตั้งสองอาทิตย์แล้วนะ จะรีบกลับไปไหนล่ะครับ? ธีรุตม์พูดไปพลางก็คว้าเอวคอดของ ?คู่นอน? ให้หงายหลังกลับมานอนแผ่บทเตียงอีกครั้ง
?ก็ด้าต้องกลับไปทำงานนี่คะ ปล่อยด้าเถอะค่ะ? ญาดาที่ถึงแม้จะยังไม่อิ่มเช่นกัน แต่ก็ต้องตัดใจกลับไปทำงานเพราะทิ้งงานให้ค้างเติ่งมานานหลายวันแล้ว เนื่องจากเธอมัวแต่เอาเวลาไปเฝ้าคู่หมั้นหนุ่มอยู่แทบทุกวี่ทุกวัน งานการเลยไม่ค่อยจะเดินสักเท่าไร วันนี้เธอจะต้องรีบกลับไปเคลียร์งานที่คั่งค้างเพราะพรุ่งนี้มีประชุมสรุปผลประจำเดือนที่เธอต้องเสนอรายงานในที่ประชุม
?ไม่ปล่อยครับ เดี๋ยวค่อยกลับไปทำงานนะ ขอผมชื่นใจต่ออีกนิดนะ ไม่นานหรอก รับรองคุณมีเวลากลับไปทำงานทันแน่? ธีรุตม์ยังอ้อนคู่นอนสาวสวยไม่เลิก ถึงแม้เขาเองจะมีคู่ควงมามากต่อมากแล้วก็ตาม แต่ก็แปลกที่มาหลงใหลอย่างหัวปักหัวปำกับญาดาจนแทบถอนโตไม่ขึ้นทั้ง ๆ ที่หญิงสาวก็ไม่ได้มีอะไร ?พิเศษเลิศเลอ? ไปกว่าคู่ควงคนอื่น ๆ ของเขา ยิ่งช่วงนี้ที่เขาได้ข่าวมาว่าเธออาจจะแต่งงานเร็ว ๆ นี้กับคู่หมั้นหนุ่มคนดัง เขาก็ยิ่งร้อนใจจนต้องนัดเธอออกมา ?นอนคุย? กันอย่างนี้ตั้งแต่ช่วงสาย
?ไม่ได้จริง ๆ ค่ะรุตม์ พรุ่งนี้ด้ามีประชุมแต่เช้า ยังไม่ได้เตรียมเอกสารอะไรเลย ปล่อยเถอะค่ะ ด้าต้องไปแล้ว?
?ผมหวังว่าที่พูดมาจะเป็นเรื่องจริงนะด้า ไม่ใช่ไอ้ที่รีบ ๆ จะกลับไปนี่ ก็เพราะจะรีบกลับไปกินข้าวกับคู่หมั้นของคุณหรอกนะ? ธีรุตม์พูดประชดดักคอญาดาที่ขยันเป็นข่าวพาคู่หมั้นหนุ่มไปนั่งดินเนอร์กันสองต่อสองตามร้านดัง ๆ ในช่วงนี้ แต่เขาก็ต้องยอมรับกับตัวเองว่ารู้สึกเจ็บลึก ๆ อยู่เช่นกันที่เป็นได้แค่คู่นอนของหญิงสาวที่เขาอยากเป็นมากกว่านั้นหากเป็นไปได้
?นี่รุตม์หึงด้าเหรอคะ? ญาดาหันมามองหน้าคนถูกถามก่อนที่จะยิ้มหวานอย่างยั่วยวนให้ เพราะเธอรู้สึกดีชะมัดที่มีคนมาหึง ถึงแม้จะอยากให้เป็นอีกหนุ่มหนึ่งมากกว่าก็ตาม
?ก็ใช่นะสิครับ หึงมากด้วย? ธีรุตม์ตอบตามความเป็นจริงตามนิสัยของผู้ชายที่มักหวงของ ๆ ตนเอง ญาดาที่พึงพอใจกับคำตอบเลยต้องเปลี่ยนใจยอมยืดเวลาที่จะกลับไปทำงานเพิ่มออกไปอีกนิดเพื่อปลอบใจคนขี้หึง ถึงแม้จะรู้สึกอิ่มเอมกับการถูกหวงแต่ญาดาก็ยังผิดหวังที่ไม่เคยเห็นวิชญ์มีอาการหึงหวงเธอบ้างเลย.....สงสัยเธอต้องกระตุ้นต่อมหึงของเขาให้ทำงานบ้างเสียแล้ว
************************
ณ คอนโดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาของวิชญ์ ที่วันนี้หลังเลิกงานไร้เงาของคู่หมั้นกำมะลอ เขาจึงรีบพาแฟนสาวตัวจริงกลับมายังคอนโดหรู เพื่อมาทำอาหารรับประทานกันเองเพราะพิชญธิดาไม่อยากออกไปนั่งรับประทานที่ร้านอาหาร เธอบอกกับวิชญ์ว่าอาจจะมีคนเห็นและคาบข่าวไปบอกให้ญาดารู้ได้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นแผนการของวิชญ์ก็จะยุ่งยากเข้าไปอีก
?ทานที่นี่ก็ดีออกนี่คะ เรามีความเป็นส่วนตัวมากกว่า ไม่ต้องเกรงกลัวสายตาของใครต่อใครอีกด้วย ที่สำคัญคุณญาดาก็ไม่มีทางมาเห็นได้?
วิชญ์ขอบคุณแฟนสาวที่เข้าใจทุกอย่างและพยายามทำทุกอย่างเพื่อเขา แต่พิชญธิดากลับบอกกับเขาว่า
?อัณณ์ทำเพื่อตัวเองต่างหากล่ะคะ อัณณ์อยากให้มันจบเร็ว ๆ ไม่อยากให้มันยุ่งยากและยืดเยื้อนานไปกว่านี้อีกแล้ว? วิชญ์จึงโอบกระชับร่างนุ่มนิ่มของแฟนสาวเข้าในอ้อมกอดพร้อมทั้งสัญญากับตัวเองว่าเขาจะรักและดูแลผู้หญิงหัวใจเด็ดคนนี้ให้ดีที่สุด
หลังจากรับประทานอาหารฝรั่งฝีมือเจ้าของบ้านที่อยากโชว์ความสามารถเรียบร้อยแล้ว วิชญ์ก็พาพิชญธิดาออกมานั่งรับลมและชมดาวที่สระว่ายน้ำ วันนี้เขาไล่ให้สองหนุ่มบอดี้การ์ดไปพักผ่อนตามอัธยาศัยได้เพราะเขามีธุระสำคัญที่จะต้องตกลงกับพิชญธิดาตามลำพัง และธุระนั้นอาจจะทำให้แฟนสาวต้องเสียน้ำตาอีกครั้ง เขาจึงไม่อยากให้เธอต้องสะกดกลั้นอารมณ์ต่อหน้ากฤตธีและธีรวีร์ วิชญ์อยากให้พิชญธิดาใช้อกแกร่งของเขาเป็นที่ซับน้ำตา....น้ำตาที่เกิดจากน้ำมือของเขาอีกแล้ว
?ทำไมคุณต้องแต่งงานกับญาดาด้วย ไม่มีวิธีอื่นแล้วเหรอคะ? พิชญธิดาที่หายตกใจหลังจากฟังธุระของแฟนหนุ่มจบลงตั้งคำถามออกไป เธอไม่มีน้ำตาให้เขาได้เห็น เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เธอคาดเดาไว้อยู่แล้ว แต่ที่ตกใจจนอึ้งอยู่นานสองนานเพราะไม่นึกว่ามันจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้แล้ว
?ถ้าผมยังไม่ยอมแต่งงานกับลูกสาวของมัน ไอ้เมธินทร์นั่นมันจะไม่ยอมให้ผมลงหุ้นด้วย และถ้าผมแต่งงานแล้ว ผมก็จะเข้าออกบ้านมันได้สะดวกยิ่งขึ้นไง ผมจะได้ค้นหาหลักฐานในบ้านของมันด้วย?
?รวมทั้งเข้าถึงห้องนอนคุณญาดาได้สะดวกด้วยใช่ไหมคะ? พิชญธิดาอดหวงแฟนหนุ่มไม่ได้ น้ำตาลใกล้มดจะเหลือหรือ
?อัณณ์ ผมสัญญากับอัณณ์แล้วว่าจะไม่มีอะไรกับเขาเด็ดขาด ที่สำคัญตอนนี้ผมมีอัณณ์ครองใจผมทั้งดวงแล้ว ไม่เหลือไปให้ใครหรอกครับ อัณณ์มั่นใจได้เลยว่าผมจะรักษาสัญญานั้นเท่าชีวิต ถึงผมเป็นผู้ชายเต็มร้อยก็จริง แต่ผมก็เลือกนะ ผมไม่ไปนอนกับลูกของคนที่ฆ่าพ่อฆ่าแม่ผมหรอก? ประกายหวานในดวงตาของชายหนุ่มถูกกลบด้วยแววอาฆาตทันทีที่พูดถึงผู้บังเกิดเกล้าที่ล่วงลับไปแล้ว
?เอ่อ...อัณณ์ขอโทษนะคะที่ไม่เชื่อใจคุณอีกแล้ว? พิชญธิดารีบกล่าวขอโทษคนรัก หญิงสาวที่เป็นคนมีเหตุผลและไม่ได้พูดยากเหมือนสาว ๆ ที่งี่เง่าหลายต่อหลายคน ในเมื่อแฟนหนุ่มมาเคลียร์จนขาวสะอาดหมดจดขนาดนั้นแล้ว เธอก็ต้องใช้ใจเชื่อเขาจริง ๆ
?แล้วคุณจะมั่นใจได้แค่ไหนล่ะคะว่าวิธีนี้จะได้ผล ถ้าไม่เต็มร้อยอัณณ์ว่าคุณอย่าเสี่ยงเลยค่ะ เพราะพวกเขาจะรู้ทันเราถ้าเราเกิดพลาดขึ้นมา และอีกอย่างที่อัณณ์เป็นห่วงก็คือ คุณอย่าลืมนะคะว่าคุณต้องไปอยู่ในถิ่นของเขาน่ะ อันตรายนะคะ?
?ผมรู้ ผมจะระวังตัวเองให้มาก เพราะผมรู้ว่ามีคนห่วงผมอยู่ทั้งคน....คนที่ดูแลหัวใจผมทั้งดวง? วิชญ์เชยหน้าแฟนสาวขึ้นแล้วจึงมอบจุมพิตบนหน้าผากนูนเพื่อแทนคำมั่นสัญญาว่าจะรอดปลอดภัยกลับมา แล้วจึงพูดต่อว่า
?ผมคิดว่าวิธีนี้น่าจะได้ผลที่สุด เพราะนอกจากพวกมันจะตายใจยอมให้ผมลงหุ้นด้วยแล้ว ผมยังจะหาโอกาสหาหลักฐานการคดโกงและการฆาตกรรมได้สะดวกขึ้นอีกด้วย ถ้าผมหาหลักฐานที่พวกมันปลอมแปลงขึ้นเจอได้เร็วเท่าไร เรื่องนี้ก็จะจบได้เร็วเท่านั้นนะ เพราะหลักฐานปลอมของพวกมันจะเป็นหลักฐานสำคัญที่สามารถใช้เป็นมูลเหตุในการวางแผนฆาตกรรมได้?
?แล้ว....ต้องแต่งเมื่อไรคะ? พิชญธิดากลั้นใจถามออกไป
?อีกสามอาทิตย์ พรุ่งนี้ผมจะไปบอกกับญาดา? วิชญ์มองปฏิกิริยาของแฟนสาวที่ทวนคำพูดของเขาขึ้นว่า
?อีกสามอาทิตย์เหรอคะ! ทำไมเร็วจังเลย? น้ำตารื้นขึ้นกลบดวงตากลมโตในทันที หลังจากรับรู้แล้วว่าเรื่องที่เธอไม่อยากให้มันเกิดขึ้นนั้นกำลังจะใกล้ความจริงเข้าไปทุกทีแล้ว
?และมันก็จะจบเร็วด้วยไงล่ะอัณณ์ อดทนอีกนิดนะคนดี? วิชญ์กอดปลอบแฟนสาวแน่น เขาทั้งสงสารในโชคชะตาของตัวเองและคนรักที่ต้องมาเป็นทุกข์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แถมครั้งนี้ยังเป็นทุกข์ที่ใหญ่หลวงที่สุดอีกด้วย แต่เขาและพิชญธิดาจะต้องฟันฝ่ามันไปให้ได้......วิชญ์คิดอย่างมั่นใจ
************************
ขอคอมเม้นต์ด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 29 (ครบ 100%)
Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี