ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 27 (อัพเพียง 50 % ก่อนนะคะ)

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
athita
โพสต์: 41
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 11 เม.ย. 2009 11:15 pm

ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 27 (อัพเพียง 50 % ก่อนนะคะ)

โพสต์ โดย athita »

คอมพ์เสียอยู่หลายวัน + ญาติมาเยี่ยมเยียน งานเลยไม่เดินสักเท่าไร จะเร่ง ๆ ๆ ๆ ให้เร็วขึ้น หากทำได้......ขอบคุณสำหรับแรงใจทั้งหลายที่เร่งวันเร่งคืนให้อัพ ๆ ๆ ๆ จะพยายามเต็มที่จ้า.....อาทิตา


ตอนที่ 27 หมอกบาง ๆ ที่กั้นกลางระหว่างสองเรา

เมื่อเข้ามาอยู่กันตามลำพังในห้องทำงาน วิชญ์ที่พยายามหาสาเหตุว่าอะไรทำให้แฟนสาวถึงงอนเขาขึ้นมาอีก ชายหนุ่มจึงหันหน้าออกไปชมวิวนอกหน้าต่างในยามสายเกือบเที่ยงของเมืองหลวงพลางใช้ความคิดอย่างหนัก และเขาเองก็อยากให้พิชญธิดา ?สงบ? ลงเสียก่อนที่จะพูดคุยกันต่อ เพราะไม่เช่นนั้นเรื่องนี้อาจจะลุกลามกลายเป็นเรื่องใหญ่โตไปได้อีก วิชญ์ยังจำคราวที่แล้วที่เธอเข้าใจเขาผิดได้ และกว่าเขาจะง้องอนได้สำเร็จก็ไม่ใช่ง่าย ๆ วิชญ์ไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีก แต่ความเป็นผู้ใหญ่และมีเหตุผลของพิชญธิดาหายไปหมดแล้วในยามนี้ เธอจึงไม่รอให้ใจเย็นลงอย่างที่วิชญ์อยากให้เป็น ดังนั้นทันทีที่เข้ามายืนในห้องเจ้านายหนุ่มผู้เป็นโจทก์ หญิงสาวที่ควบทั้งตำแหน่งแลขาฯและหวานใจก็เปิดฉากรุกโดยไม่รอให้อีกฝ่ายได้ตั้งหลักทัน

?เรียกดิฉันเข้ามา มีอะไรก็พูดมาสิคะ ดิฉันมีงานค้างอยู่อีกค่ะ ไม่ได้ว่างมากนัก?

?อัณณ์เป็นอะไรครับ ทำไมต้องพูดประชดผมแบบนั้น หรือโกรธที่ผมแซว เมื่อกี้ผมแค่พูดเล่นเองนะ ผมไม่เคยคิดว่าการไปรับไปส่งอัณณ์เป็นเรื่องลำบากอะไรเลย ผมเต็มใจนะครับ? วิชญ์หันหน้ามามองแฟนสาวอย่างเต็มตา ?เธอไม่ปกติแน่ ๆ แต่เพราะอะไรล่ะ?

?แต่ต่อไปไม่ต้องไปรับไปส่งแล้วค่ะ ฉันไปกลับเองได้ ขอบคุณค่ะ? พิชญธิดายังไม่ยอมวางศักดิ์ศรีบนบ่าลง

?อัณณ์ เราโต ๆ กันแล้วนะ มีอะไรก็พูดกันด้วยเหตุผลสิครับ อัณณ์บอกได้ไหมว่าโกรธหรือไม่พอใจผมเรื่องอะไร? วิชญ์สาวเท้าเข้ามาหาแฟนสาว ยิ่งเข้าใกล้เขาก็ได้เห็นใบหน้าเธอชัดขึ้น และเมื่อมองในระยะใกล้ ๆ เครื่องสำอางจึงช่วยปิดบังรอยหมองเศร้าได้ไม่ทั้งหมด

?ใช่ก็เพราะว่าฉันโตแล้วนะสิ ฉันถึงบอกว่าต่อไปนี้ไม่ต้องมารับมาส่งอีก? วิชญ์ที่รู้ว่าแฟนฉันยังโกรธอยู่ จึงได้แต่ถอนใจก่อนที่จะเพ่งมองไปที่หน้าแฟนสาวพร้อมทั้งสาวเท้าเข้าไปใกล้

?อัณณ์ร้องไห้มาเหรอ ทำไมร้องไห้ล่ะครับ เป็นอะไรหรือเปล่า? วิชญ์เชยใบหน้าของพิชญธิดาให้เงยขึ้นเพื่อที่จะมองให้ถนัดแต่หญิงสาวก็พยายามจะปัดมือเขาออก เธอไม่อยากให้เขามาสงสารเธออีก

?เรื่องของฉัน! คุณไม่เกี่ยว!? พิชญธิดาเริ่มพาลและออกอาการฉุนเฉียวมากขึ้น หญิงสาวรวบรวมเอาเรื่องที่รกสมองอยู่ทั้งหมดมารวมกันโดยไม่คำนึงว่าอะไรคือเรื่องจริง อะไรคือเรื่องที่เธอคิดไปเอง อะไรคือคดีเก่า และอะไรคือคดีใหม่สด ๆ ร้อน หญิงสาวนำทั้งหมดมาปะปนกันจนสับสนและเมื่อได้รวมกับอารมณ์กรุ่น ๆ ของเธอ เรื่องเล็ก ๆ จึงเริ่มบานปลายขยายวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ

?อัณณ์ หยุดโมโหก่อนได้ไหม สงบสติอารมณ์ก่อนสิ? วิชญ์ปรามแฟนสาว

?ไม่หยุด! จะทำไม! ไม่ต้องมายุ่งเลย!? พิชญธิดาเห็นช้างตัวเท่ามดไปเสียแล้ว หญิงสาวลืมคิดไปว่าคนตรงหน้าไม่ได้เป็นแค่คนรักของเธอเท่านั้น แต่เขายังเป็นหัวหน้าของเธออีกด้วย หัวหน้าที่ไม่ชอบให้ใครมาออกคำสั่งกับเขาเสียด้วยสิ

?อัณณ์! ผมบอกให้หยุดเดี๋ยวนี้! หยุดโวยวายเสียที! แล้วมาคุยกันแบบผู้ใหญ่!? วิชญ์ตะคอกใส่แฟนสาวเสียงดังลั่น จนเมธปรียา กฤตธี และธีรวีร์ที่รอลุ้นอยู่ข้างนอกยังสะดุ้งไปตาม ๆ กัน นับประสาอะไรกับพิชญธิดาที่ยืนประจันหน้าอยู่กับเขา หญิงสาวตกใจกลัว เธอยืนนิ่ง ดวงตาฉายแววตระหนก เธอไม่เคยเห็นวิชญ์ในมุมนี้มาก่อน

?คุณเป็นอะไรฮะอัณณ์ ทำไมทำตัวเหมือนเด็ก ๆ แบบนี้? เสียงของเขายังแข็งกร้าว

?เราจะคุยกันดี ๆ ได้ไหม ใช้เหตุผลสิ ไม่ใช่อารมณ์ ทำได้ไหม? วิชญ์ยังแผดเสียงลั่นใส่แฟนสาว ถึงแม้จะไม่ดังเท่าครั้งแรกแต่ก็ไม่เบาเลยสำหรับคนที่ยืนอยู่ใกล้เขาแค่นี้ พิชญธิดายังคงนิ่งงัน อารมณ์เธอสงบลงบ้างแล้วตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาระเบิดอารมณ์ใส่กลับ แต่เธอยังไม่มีสติที่พอจะโต้ตอบเขาได้ เมื่อเธอนิ่งเงียบเธอจึงโดนวิชญ์ต่อว่าอีกชุด และเป็นชุดที่ทำให้สถานการณ์ที่กำลังจะดีขึ้นกลับพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ

?ทำไมคุณไม่มีเหตุผลเลย ทำไมต้องทำตัวงี่เง่าแบบเด็ก ๆ ไปได้? วิชญ์ที่ยังไม่หยุดหัวเสียยังต่อว่าแฟนสาวต่อ อันที่จริงเขาต้องการพูดเตือนสติเธอเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาต่อว่าให้เธอต้องเจ็บช้ำน้ำใจเลย เขาจึงไม่รู้ตัวว่าได้เติมเชื้อเพลิงกลับเข้าไปในกองไฟอีกชุดใหญ่ และครั้งนี้อารมณ์ที่เริ่มสงบลงของพิชญธิดาก็ปะทุขึ้นมาอีกจนได้ คราวนี้เธอโกรธที่โดนเขาต่อว่า สำนึกส่วนดีของหญิงสาวจึงหยุดทำงานไปชั่วขณะ เมื่อเขาว่าเธอให้เจ็บได้ เธอก็จะเอาคืนบ้าง ตอนนี้หญิงสาวคิดแค่เพียงว่าวิชญ์และเธอคือคู่รักที่กำลังทะเลาะกัน หญิงสาวไม่ได้คำนึงว่าสถานที่เกิดเหตุนั้นเป็นสถานที่ทำงานของคนทั้งคู่ด้วย พิชญธิดาที่เคยคิดไว้ว่าหากวันใดวันหนึ่งที่พวกเธอต้องทะเลาะกันโดยเฉพาะในที่ทำงานนั้น เธอจะเป็นคนยอมถอยออกมาสักก้าวเอง ทั้งในฐานะคนรักและลูกน้องที่ควรให้เกียรติเจ้านาย เธอจะรอให้อารมณ์ของทั้งสองฝ่ายเย็นลงเสียก่อนแล้วจึงค่อย ?เคลียร์? กันทีหลัง แต่พอเอาเข้าจริงอย่างเหตุการณ์ตรงหน้านี้หญิงสาวกลับควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ อารมณ์โกรธ อารมณ์น้อยใจ และอารมณ์เสียใจที่เกิดขึ้นพร้อม ๆ กันทำให้เธอต้องการตอบโต้วิชญ์กลับไปโดยไม่คิดหน้าคิดหลังให้รอบคอบ

?ใช่สิ! ฉันเป็นคนไม่มีเหตุผลนี่ ใครจะไปมีเหตุผลเหมือนคุณได้ล่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณทำมีเหตุผลดี ๆ ทั้งนั้นเลยนี่? พิชญธิดาประชดใส่ตามนิสัยของผู้หญิงที่ชอบเหน็บแนมในยามลืมตัว

?อัณณ์หมายความว่าไง พูดมาตรง ๆ เลยดีกว่า ผมไม่ชอบที่อัณณ์มาประชดประชันกันแบบนี้? วิชญ์ถามด้วยท่าทางถมึงทึงน่ากลัวไม่ใช่เล่น

?ก็ไอ้เหตุผลที่คุณเอามาบังหน้าในการแก้แค้นไงล่ะ? พิชญธิดาที่โมโหจนลืมตัวกลัวตาย เธอจึงพูดออกมาโดยไม่ได้ไตร่ตรองเสียก่อน พิชญธิดาลืมไปว่าคำพูดก็ฆ่าคนได้เช่นกัน.....ฆ่าให้ตายทั้งเป็น

?อัณณ์คุณหมายถึงอะไร!?

?ก็ที่คุณใช้การแก้แค้นมาบังหน้าเพื่อที่จะได้จับปลาสองมือไงล่ะ แบบนี้ไม่งี่เง่าแต่ฉลาดใช่ไหมล่ะ? สิ้นเสียงของพิชญธิดา ดวงตาของผู้ฟังก็วาวขึ้นด้วยความโกรธจัด เขาโกรธที่เธอตีค่าความรักของเขาผิดไป เขาโกรธที่เธอไม่ยอมบอกความรู้สึกแท้ ๆ ลึก ๆ ของเธอให้เขาได้รับรู้ตั้งแต่แรก เธอเก็บมันเอาไว้ในใจอยู่ตลอดเวลาสินะ และวันนี้เธอก็เพิ่งเปิดออกมาให้เขาได้รับรู้ว่าที่แท้จริงแล้วเธอคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา.....เธอเคยเชื่อใจเขาบ้างไหม

?ที่แท้......คุณก็ไม่เคยเข้าใจผมเลย? วิชญ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงผิดหวังก่อนที่จะกล่าวต่อว่า

?ผมนึกว่าคุณจะเป็นคนที่เข้าใจผมที่สุด แต่ที่จริงแล้วมันไม่ใช่ คุณไม่เข้าใจอะไรเลยต่างหาก? พิชญธิดาสะอึกกับคำพูดของวิชญ์

?ใครบอก ฉันเข้าใจทุกอย่างดีต่างหาก เข้าใจทั้งหมด แต่จะให้ฉันทำใจรับมันได้อย่างหน้าชื่นตาบานแล้วล่ะก็ ฉันคงทำไม่ได้ ฉันคงทำอย่างคุณไม่ได้ เพราะ...ฉัน...ไม่...เหมือน...คุณ!? พิชญธิดาตอบไปด้วยอารมณ์โมโหที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

?ไม่เหมือนตรงไหน! บอกมาสิว่าผมเป็นยังไง!? วิชญ์ตวาดถามกลับมาในทันทีเพราะอารมณ์โกรธที่รุนแรงไม่แพ้กัน

?ไม่เหมือนตรงที่ คุณยิงปืนนัดเดียวแต่ได้นกถึงสองตัว ได้ทั้งแก้แค้นได้ทั้งลูกสาวของศัตรูคู่อาฆาต? พิชญธิดาสวนกลับอย่างไม่ยอมลดลาวาศอก

?ผมมองคุณผิดไปจริง ๆ ผิดไปจริง ๆ? วิชญ์พูดออกมาเบา ๆ แต่พิชญธิดาได้ยินชัดทุกถ้อยทุกคำ ?เขาบอกว่าเขามองเธอผิดไปอย่างนั้นหรือ ผิดอย่างไร ผิดตรงไหน หรือผิดที่เขามารักเธอ?

?ใช่! ฉันมันไม่ดีเอง ใครจะไปดีเท่าคุณญาดาของคุณล่ะ ฉันเป็นได้เท่านี้แหละ รับได้ก็รับรับไม่ได้ก็ไม่ต้องรับ อ้อ! ฉันก็ขอบอกคุณไว้เหมือนกันนะ ว่าไม่ใช่แค่คุณหรอกนะที่มองคนอื่นผิดไป ฉันเองก็มองคุณผิดไปเช่นกัน? นอกจากพิชญธิดาจะตีความ ?สาร? ของวิชญ์ผิดไปแล้ว เธอยังต้องการตอกหน้าแฟนหนุ่มกลับไปอีก หญิงสาวจึงแผลงฤทธิ์ใส่เขาอย่างไร้เหตุผล และมันก็ทำให้วิขญ์อดโมโหเธอไม่ได้

?ญาดามาเกี่ยวอะไรด้วย นี่มันเรื่องของเราสองคนเท่านั้นนะ คนอื่นไม่เกี่ยว ญาดาก็ไม่เกี่ยว? วิชญ์พูดไปตามเนื้อผ้า

?ทำไมจะไม่เกี่ยว ก็คุณญาดานั้นแหละคือปลาอีกตัวที่คุณกำลังจะจับอยู่ ปลาสาวและสวยอย่างนั้น คุณคงไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ หรอกนะ ยิ่งตอนนี้ที่ได้หมั้นกันแล้วยังจะมาบอกว่าไม่เกี่ยวกันอีก? พิชญธิดารู้สึกน้อยใจแฟนหนุ่มมากที่ออกมาปกป้องหญิงสาวอีกคนต่อหน้าเธอแบบนี้ หญิงสาวจึงพาลใส่แฟนหนุ่มเพราะอารมณ์ที่หลากหลาย ทั้งโกรธ ทั้งความอยากเอาชนะในการโต้เถียง บวกกับน้อยใจและเข้าใจผิดเรื่องหญิงสาวอีกคน คนที่ได้สวมแหวนหมั้นจากเขาแทนเธอ การพูดโดยไม่ยั้งคิดของพิชญธิดาจึงส่งผลให้วิชญ์ ?ฟิวส์ขาด? ในที่สุด

?ปัดโธ่เว้ย! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ ยิ่งพูดยิ่งเลอะเทอะไปกันใหญ่แล้ว บ้าชิบ!? วิชญ์ที่ตอนนี้อารมณ์ฉุนเฉียวมาก เขาเลยไประบายออกกับกองแฟ้มเอกสารที่วางซ้อนกันอยู่บนโต๊ะ ชายหนุ่มปัดแฟ้มทั้งหมดลงพื้นอย่างหัวเสีย ?โครม!? ก่อนที่เขาจะเดินหายเข้าไปในห้องพักผ่อนที่อยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานโดยไม่เหลียวมามองคู่กรณีที่ยังยืนตกใจค้างอยู่เลย เสียงปิดประตูห้องดัง ?โครม!? ก้องกังวานในหัวใจของคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง วิชญ์ต้องการเข้าไปดับอารมณ์โกรธของตนเองให้มอดลง แล้วจึงจะออกมาคุยกับคนรักให้เข้าใจกันใหม่ แต่พิชญธิดาที่ถูกทิ้งให้ยืนคว้างอยู่กลางห้องคนเดียวกลับคิดไปว่า เขาเดินหนีเธอไปเพราะไม่อยากพูดและปรับความเข้าใจกับเธอ หญิงสาวพยายามสะกดกลั้นอารมณ์น้อยใจไว้ข้างใน ณ นาทีนี้ที่เธอเริ่มคิดได้ว่าตัวเอง ?งี่เง่า? มากขนาดไหน หญิงสาวจึงเลือกที่จะยืนรอเพราะแอบหวังว่าเขาอาจจะเปลี่ยนใจแล้วกลับออกมา ?ง้อ? เธอเหมือนเช่นทุกครั้ง และถ้าเป็นเช่นนั้นเธอก็จะยอมหายโกรธเขาแต่โดยดี พิชญธิดาจึงก้มลงเก็บแฟ้มที่กระจายเกลื่อนพื้นขึ้นมาวางบนโต๊ะทำงานให้เขา ระหว่างที่เธอจัดโต๊ะให้เขาอยู่นั้นสายตาของเธอก็หันไปเห็นกระดาษโน้ตที่แปะอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คของเขา เธอจำได้ในทันทีว่าเป็นลายมือของเมธปรียา หญิงสาวยืนนิ่งอ่านข้อความนั้นทวนไปทวนมาหลายรอบจนแน่ใจว่าเธออ่านถูกต้องทุกคำ ทุกตัวอักษร เขาคงไม่ออกมาง้อแล้ว และถึงเขาง้อ เธอก็คงไม่หายโกรธ เพราะเธอไม่ได้มองอะไรผิดไปเลย ทุกอย่างมันฟ้องออกมาแล้ว

?คุณญาดาคอนเฟิร์มเรื่องนัดบ่ายนี้ค่ะ สามโมงตรงนะคะ เมธปรียา? ความวัวไม่ทันหาย ความควายก็ดันเข้ามาแทรก เรื่องเล็กเท่าปลายนิ้วก้อยจึงลุกลามมาถึงนิ้วโป้งเข้าจนได้

เมื่ออ่านข้อความนั้นจบในรอบสุดท้ายพิชญธิดาก็รีบเดินออกจากห้องทำงานของ ?คนใจร้าย? ในทันที หญิงสาวเดินอย่างคนหมดแรงออกมาจากห้องนั้น พิชญธิดาเดินออกมาด้วยดวงตาที่พร่าเลือนเพราะปริ่มไปด้วยน้ำตาที่พร้อมจะรินไหล เธอตรงไปยังห้องน้ำหญิงที่อยู่หลังมุมกาแฟโดยมีสายตาของกฤตธี ธีรวีร์ และเมธปรียามองตามด้วยความเป็นห่วง ทั้งสามไม่ต้องถามรายละเอียดเพราะได้ยินทุกสิ่งทุกอย่างชัดเจนทุกถ้อยคำอยู่แล้ว ต่างจึงหันมามองหน้ากันแล้วก็ถอนหายใจพร้อม ๆ กัน ?นี่แหละหนา เขาถึงว่าไม่ควรมีแฟนในที่ทำงาน ถ้าไม่ทะเลาะเรื่องงานก็ต้องทะเลาะกันให้เพื่อนร่วมงานได้ยิน?

************************

ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเมธปรียาเคาะประตูห้องน้ำหนึ่งในสามห้อง ประตูห้องนี้ถูกปิดนานกว่าสิบนาทีแล้ว

?น้องอัณณ์ เป็นไงบ้างจ๊ะ นี่พี่ยาเองจ้ะ?

?เอ่อ....อัณณ์ไม่เป็นไรค่ะพี่ยา? เสียงตอบอู้อี้ดังมาจากคนข้างในพร้อมเสียงสูดน้ำมูก

?อัณณ์ เอ่อ....ออกมาเอากระเป๋าเถอะ พี่เก็บของมาให้แล้ว วันนี้อัณณ์กลับไปพักที่บ้านเสียดีกว่า เดี๋ยวงานทางนี้พี่จะจัดการเอง? เมธปรียาเรียกให้หญิงสาวออกมาจากห้องน้ำที่เธอเข้าไปซ่อนตัวอยู่นานหลายนาทีแล้ว

เมื่อได้ยินดังนั้นพิชญธิดาจึงแง้มประตูเปิดออกมา ดวงตาของเธอแดงก่ำและช้ำจนเห็นได้ชัด มันสามารถสื่ออารมณ์ความรู้สึกของเธอให้เมธปรียาได้รับรู้เป็นอย่างดี โดยไม่ต้องมีคำพูดใด ๆ เอื้อนเอ่ยออกมาอีก

?ขอบคุณค่ะพี่ยา? หญิงสาวยื่นมือไปรับกระเป๋าสะพายมาจากมือของรุ่นพี่ เมธปรียาจึงรวบตัวเธอเข้ามากอดเพื่อให้กำลังใจ

?อัณณ์ กลับไปบ้านนะ ไปทบทวนว่าจะแก้ไขเรื่องนี้ยังไง จะให้มันดีขึ้นหรือ.......แย่ลงในแบบไหน มันอยู่ที่อัณณ์นะ พี่ไม่มีคำแนะนำให้อัณณ์หรอกนะ เพราะพี่ไม่สามารถรับผิดชอบในสิ่งที่พี่จะแนะนำให้อัณณ์ได้ อัณณ์ตัดสินใจเอาเองแล้วกัน ใช้เวลาคิดทบทวนดูให้ดี อย่าให้อารมณ์มาอยู่เหนือเหตุผล อัณณ์ลองคิดในมุมกลับกันบ้าง ลองคิดว่าถ้าอัณณ์เป็นคุณวิชญ์ อัณณ์จะทำแบบที่เขาทำไหม หรืออัณณ์จะทำยังไงต่อไป ลองมองให้หลาย ๆ มุมและต่างมุมดูบ้าง เอาใจเขามาใส่ใจเราดูนะ? เมธปรียาให้คำแนะนำอย่างแยบยล ก่อนที่จะสรุปทิ้งท้ายสอนใจรุ่นน้องคนสวยไว้ว่า

?อัณณ์จ๊ะ ความรักมันเกิดขึ้นจากคนสองคนนะ เพราะฉะนั้นก็ต้องเป็นหน้าที่ของสองคนที่จะต้องประคับประคองมันไปด้วยกัน ไม่ใช่คนใดคนหนึ่งเพียงคนเดียวนะ หากว่ามันต้องพังลงก็เพราะว่าเกิดจากคนสองคนที่ไม่ช่วยกันประคับประคองมันให้ดี ไม่มีความรักไหนพังได้ด้วยมือของคนเพียงคนเดียวหรอกนะ จำคำของพี่ไว้?

************************

ขอเม้นต์หน่อยจ้าคนอ่านจ๋า

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”