ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 25 (เพียง 50%)

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
athita
โพสต์: 41
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 11 เม.ย. 2009 11:15 pm

ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 25 (เพียง 50%)

โพสต์ โดย athita »

แจ้งข่าวจ้า (ข่าวร้ายของคนเขียน) คาดว่าคงไม่สามารถจบ ?ภารกิจรัก ภารกิจแค้น? ให้ลงที่ 30 ตอนได้แล้วค่ะ อาจจะเลยไปถึง 35 ตอนหรือมากกว่านิดหน่อย ยังไงก็อย่าเพิ่งขี้เกียจตามอ่านและคอมเม้นต์ให้นะคะ สุดท้ายนี้อาทิตาขอขอบคุณทุก ๆ กำลังใจนะคะทั้งหน้าประจำแฟนคุณวิชญ์และขาจรที่เพิ่งแวะมา ขอบคุณจากใจจริง ๆ ค่ะ อาทิตาจะพยายามปั่นให้เร็วสุดความสามารถ คิดว่าหลัง 26 มิ.ย.นี้จะอัพเร็วขึ้นค่ะเพราะเริ่มว่าง (งาน) แล้ว.....รักคนอ่านค่ะ......อาทิตา

ตอนที่ 25 ประกาศหมั้น

ในงานเลี้ยงเปิดตัวโครงการ ?ณ นิมมานรดี เรสซิเด้นท์ เขาใหญ่? ที่จัดได้อย่างอลังการสมเป็นการเปิดตัวโครงการยักษ์ใหญ่แห่งวงการอสังหาริมทรัพย์แห่งปี ห้องจัดเลี้ยงของ ณ นิมมานรดี แกรนด์ โฮเตล ที่จุคนได้เกือบ 3000 คนดูเล็กลงไปถนัดตาเมื่อพบกับกองทัพนักข่าวสายธุรกิจที่ทางเจ้าของโครงการได้เชิญมาร่วมเป็นสักขีพยานในการเปิดตัวครั้งนี้ รวมทั้งแขกผู้มีเกียรติและลูกค้าเก่าแก่ที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตใน ?คอนโดหรู? ต่างก็มาร่วมงานนี้เพื่อที่จะได้จับจองและสะสม ?ที่พัก? เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแห่งเอาไว้ในกรุสมบัติของตนตามประสาคนที่มีเงินเหลือกินเหลือใช้

ในห้องจัดเลี้ยงได้จัดแสดงภาพถ่ายของโครงการที่ได้เริ่มก่อสร้างไปแล้วประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ไว้โดยทั่ว โดยมีพริ้ตตี้สาวสวยหลายนางคอยให้รายละเอียดแก่ผู้ที่สนใจ ส่วนบริเวณตรงกลางของห้องจัดเลี้ยงนั้นก็มีโมเดลขนาดความสูง 1.5 เมตรของ ?ณ นิมมานรดี เรสซิเด้นท์ เขาใหญ่? ตั้งเด่นเป็นสง่าให้ลูกค้าได้ชมอย่างถนัดถนี่ รวมทั้งทางเจ้าของโครงการยังใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการนำเสนอตัวอย่างของห้องพักจำลองโดยไม่ต้องสร้างห้องจำลองมาวางให้เสียพื้นที่ แต่กลับใช้การฉายภาพแบบสามมิติลงบนฝาผนังซึ่งทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังอยู่ในสถานที่จริง ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหราครบครัน ห้องครัวขนาดพอดีเพราะเป็นคอนโดสำหรับการมาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติที่บริสุทธิ์ เครื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น สวนสวยที่ช่วยเพิ่มอ็อกซิเจน หรือสระว่ายน้ำขนาดใหญ่สำหรับการพักผ่อนและออกกำลังกาย หรือจะเป็นวิวทิวทัศน์ตามสภาพจริงของบรรยากาศโดยรอบที่พักซึ่งต่างก็สร้างแรงกระตุ้นและยั่วกิเลสให้ผู้ชมทั้งหลายอยากเห็นสถานที่จริง และอยากจับจองเป็นเจ้าของคอนโดนี้กันทั้งนั้น

วิชญ์ที่ค่ำคืนนี้อยู่ในชุดสูทสีดำยี่ห้อดังซึ่งตัดเย็บด้วยช่างมีฝีมือจากต่างประเทศ กำลังยืนพูดคุยกับพีรภาสหุ้นส่วนอีกคนของโครงการนี้อยู่ที่บริเวณหน้างาน ทั้งสองต่างก็ช่วยกันต้อนรับแขกโดยมีประวีณคอยประกบอยู่ไม่ห่างในฐานะผู้จัดการโครงการและธีรวีร์ที่คอยรับใช้ดูแลเจ้านายหนุ่มหากต้องการสิ่งใดเพิ่มเติมรวมทั้งระแวดระวังรักษาความปลอดภัยไปในคราวเดียวกัน แขกที่มาร่วมงานส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเก่าแก่ของบริษัทนิมมานรดี ที่ต่างก็ถูกใจกับการมีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจเป็นของตนเองตามเมืองใหญ่ ๆ และตามสถานที่อันขึ้นชื่อของประเทศ ลูกค้าและแขกที่มาร่วมงานอีกบางส่วนก็มางานนี้เพราะบารมีของพ่อเลี้ยงพาครและแม่เลี้ยงปวีณาที่จะเป็นประธานเปิดงานในคืนนี้ตามคำเชื้อเชิญของหลานชาย รวมทั้งแขกวีไอพีอีกส่วนหนึ่งที่ต่างก็ได้รับบัตรเชิญเพราะทางฝ่ายการตลาดของบริษัทมั่นใจแล้วว่า มีกำลังทรัพย์เพียงพอที่จะอุดหนุนโครงการนี้โดยไม่กระทบกระเทือนขนหน้าแข้งสักเส้น ในค่ำคืนนี้ห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ของ ณ นิมมานรดี แกรนด์โฮเตล จึงคราคร่ำไปด้วยผู้ดีมีอันจะกินซึ่งมารวมตัวกันอย่างหนาแน่น บรรดาแขกผู้มีเกียรติและมีเงินต่างทยอยกันเดินเข้างานโดยต้องลงทะเบียนที่หน้างานเพื่อรับของที่ระลึก และรอลุ้นหางบัตรว่าจะโชคดีได้รับคอนโดฟรีที่ทางเจ้าภาพกล้านำมาให้ร่วมชิงโชคหรือไม่ รวมทั้งส่วนลดในการจับจองเป็นเจ้าของคอนโดหรูหากทำสัญญาและวางเงินมัดจำภายในวันนี้

ส่วนพิชญธิดาที่สวยหวานในชุดราตรีสั้นสีขาวก็กำลังเดินดูความเรียบร้อยของงานโดยรอบ คืนนี้หญิงสาวปล่อยผมที่ดัดเป็นลอนสลวยให้ยาวสยายเคลียไหล่ขาวนวลเนียนน่าสัมผัส โดยมีหน้าม้าปัดเฉียงอยู่ด้านหน้าเพื่อเพิ่มความหวานให้กับใบหน้า พิชญธิดาไม่สวมสร้อยคอแต่เลือกใช้ต่างหูเพชรระย้าเป็นเครื่องประดับเพียงชิ้นเดียวแทน หญิงสาวมาถึงงานตั้งแต่บ่ายเพื่อมาตรวจความเรียบร้อยและความพร้อมในทุกส่วน และเมื่อแน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยสมบูรณ์ดีแล้ว เธอจึงขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวบนห้องพักที่เจ้านายหนุ่มเปิดให้ใช้ในคืนนี้เพื่อความสะดวก และเพื่อให้เธอได้ค้างคืนแทนที่จะต้องเดินทางกลับบ้านในยามดึกดื่น แต่กว่าที่พิชญธิดาจะสามารถลงมาจากห้องแต่งตัวได้นั้นก็ต้องแต่งหน้าอยู่หลายรอบ เพราะเจ้านายหนุ่มที่ขึ้นมาแต่งตัวอยู่ห้องข้าง ๆ คอยแต่จะมา ?เอาสีลิปสติกของเธอออก? หลายต่อหลายครั้ง ด้วยเหตุผลที่ว่า ?อยากได้กำลังใจ? ซึ่งเหตุผลที่ว่าก็ฟังแล้วพอรับได้ แต่กับ ?ก็คุณอยากสวยและหวานไปทั้งตัวทำไมล่ะ? อันนี้ฟังดูค่อนข้างจะเอาแต่ใจตัวเองไปสักหน่อย แต่เจ้าของริมฝีปากหวานก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีไม่อิดเอื้อนแต่อย่างใดเพราะเธอหันมานับถือสโลแกนที่ว่า ?ทำวันนี้ให้มีความสุข? และเริ่มจะเชื่อว่า ?ความสุขมักอยู่กับคนเราได้ไม่นาน? จึงต้องรีบตักตวงเอาไว้ พิชญธิดาเองก็อยากได้กำลังใจจากวิชญ์อยู่ไม่น้อยเพราะสิ่งที่วิชญ์กำลังจะ ?เซอร์ไพรส์? ญาดาในคืนนี้นั้นช่างหนักหนาและสาหัสสำหรับเธอเสียเหลือเกิน ทั้ง ๆ ที่เธอรู้ตัวล่วงหน้าและพอมีเวลาทำใจมากว่าสองวันแล้วก็ตาม แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่วิชญ์บอกกับเธอเมื่อวานซืนหลังจากพาญาติผู้ใหญ่ทั้งสองไปส่งยังที่พักแล้ว พิชญธิดาก็ได้แต่สร้างความหวังให้กับตนเอง....หวังว่าวันคืนที่ต้องเจ็บปวดจะจบไปเร็ว ๆ และวันชื่นคืนสุขจะหมุนเวียนมาหาเธอบ้างในไม่ช้า....เธอได้แต่หวังว่าความหวังของเธอจะเป็นจริงได้ในเร็ว ๆ นี้

หญิงสาวยังคงยืนนิ่งและคิดย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อสองวันก่อน......

?คุณวิชญ์แน่ใจแล้วหรือคะที่จะทำแบบนี้น่ะ อัณณ์ว่าคุณญาดาเขาไม่ได้รู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรอกคะ อย่าดึงเธอเข้ามาเกี่ยวด้วยเลย แค่นี้เธอก็ต้องผิดหวังมากพอแล้ว? พิชญธิดาตัดสินใจพูดความรู้สึกของเธอที่มีต่อเพื่อนผู้หญิงด้วยกันออกไป นอกจากจะได้ช่วยญาดาแล้ว เธออาจจะช่วยตัวเองได้ด้วย วิชญ์รับฟังแต่ไม่เห็นด้วย

?เขาเกี่ยวเต็ม ๆ เลยล่ะอัณณ์ เพราะเขาเป็นลูกสาวของคนที่ฆ่าพ่อแม่และน้องสาวของผม? วิชญ์ยังคงผูกใจเจ็บ

?แต่คนที่ทำคือนายเมธินทร์นะคะ ไม่ใช่คุณญาดา พ่อกับลูกคนละคนกัน? พิชญธิดาแย้ง

?คนที่ตายก็ไม่ใช่แค่พ่อผม แต่มีแม่และน้องสาวของผมด้วย? วิชญ์ขึ้นเสียงอย่างไม่ลดละ

?คุณไม่กลัวบาปกรรมบ้างหรือคะที่จะไปรังแกคนบริสุทธิ์น่ะ คุณญาดาไม่น่าจะต้องมารับกรรมเรื่องนี้แทนพ่อของเธอ? พิชญธิดาที่ยังใจเย็นและยังคงพยายามกล่อมวิชญ์ให้คล้อยตาม

?อัณณ์ ผมไม่ได้คิดจะฆ่าญาดาอย่างที่พ่อเขาทำกับครอบครัวของผมนะ ฉะนั้นที่ผมจะทำคงไม่บาปเท่าไรมั้ง ผมไม่ได้เอาชีวิตใคร ผมแค่จะเอาบริษัทของผมคืนแต่ถ้าพ่อของเขาจะกระอักเลือดที่ต้องเห็นลูกสาวเจ็บช้ำบ้าง ผมก็คงช่วยอะไรไม่ได้? วิชญ์หันมามองหน้าแฟนสาวก่อนที่จะตัดสินใจตัดบทว่า

?เอาล่ะ เราอย่ามัวพูดเรื่องนี้กันอีกเลย ผมแค่อยากให้อัณณ์รับรู้ว่าสิ่งที่ผมจะทำลงไปนั้นไม่ได้เกิดจากความรักความพิศวาสในตัวเขา มันเป็นแค่เกมการแก้แค้น อัณณ์เข้าใจผมนะ อย่าห้ามผมเลย ผมแค่ต้องการทวงของ ๆ ผมคืนเท่านั้น และผมจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับอัณณ์ อัณณ์ไว้ใจผมนะ ผมสัญญาจะรีบจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด? พิชญธิดารู้ว่าคงยากที่จะโน้มน้าวจิตใจของวิชญ์ จิตใจของคนที่ต้องสูญเสียทุกคนอันเป็นที่รักไปและต้องเผชิญโลกกว้างอย่างอ้างว้างตามลำพัง เธอคงเข้าไม่ถึงความรู้สึกนั้นของเขา......อกของลุงกับป้าไฉนเล่าจะอุ่นเท่าอกพ่ออกแม่ ?อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด รวมทั้งเธอและญาดาที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วยเลย สงสัยคงเป็นเพราะกรรมเก่าที่พวกเธอเคยทำเอาไว้เลยต้องมาพันผูกกันอีกในชาตินี้?

************************

พิชญธิดายืนชะเง้อรอคอยวรปรัชญ์เพื่อนสนิทที่อาสาและเสนอตัวจะมานอนค้างเป็นเพื่อนเธอโดยมีเหตุผลที่พอฟังได้ว่า

?อยากตื่นขึ้นมาในห้องพักของโรงแรมระดับเจ็ดดาวสักครั้งหนึ่งในชีวิต? เธอเลยแกล้งแซววรปรัชญ์ว่า

?ฉันเพิ่งรู้ว่าแกเป็นกินเนสบุ๊คส์เคลื่อนที่ อะไร ๆ ก็ต้องครั้งหนึ่งในชีวิต? เธอเลยโดนแซวกลับบ้างว่า

?เออ! ใครจะเหมือนแกล่ะ ครั้งเดียวในชีวิตไม่เคยพอ กับคุณวิชญ์น่ะ จูบกันไปกี่ครั้งแล้วล่ะ เอ...หรือมีมากกว่าจูบแล้วย่ะ?
?นังปาด! ฉันไม่ได้ไวไฟเหมือนแกนี่ย่ะ?

ตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียงครึ่งชั่วโมงก็จะถึงเวลาเปิดงานแล้วแต่วรปรัชญ์ก็ยังมาไม่ถึงเสียที พิชญธิดาจึงต้องไหว้วาน กฤตธีให้ช่วยเป็นหูเป็นตาให้เธอแทนเพราะเธอจะต้องไปรอต้อนรับประธานของงาน และเมื่อพิชญธิดาเห็นบุคคลสำคัญของงานกำลังเดินผ่านซุ้มดอกไม้และน้ำพุจำลองที่หน้าประตูเข้ามา เลขาฯคนเก่งก็รีบตรงเข้าไปต้อนรับและพาท่านทั้งสองไปยังมุมรับรอง พ่อเลี้ยงพาครดูหล่อเหลาภูมิฐานสมวัยในสูทเนื้อดีสีดำสนิท ส่วนแม่เลี้ยงปวีณานั้นก็ดูสวยสง่าในชุดผ้าไหมสีทอง และยิ่งดูโดดเด่นด้วยสร้อยเพชรเส้นโตที่เข้าชุดกับต่างหูและกำไลข้อมือที่แข่งขันกันส่องประกายแวววาวจนเข้าตาแขกท่านอื่น ๆ เมื่อพาประธานกิตติมศักดิ์ทั้งสองท่านไปนั่งรอฤกษ์สะดวกสำหรับใช้เปิดงานแล้ว พิชญธิดาก็ขอตัวไปดูแลงานด้านอื่น ๆ ต่อทันที โดยทิ้งพนักงานสาวจากฝ่ายต้อนรับของโรงแรมไว้หนึ่งคนให้ช่วยรับรองญาติผู้ใหญ่ทั้งสองของท่านประธานกรรมการ

************************

ก่อนเวลาเปิดงานอย่างเป็นทางการเพียงเล็กน้อยญาดาและนายเมธินทร์ก็มาถึงบริเวณจัดงาน คืนนี้หญิงสาวนักธุรกิจหน้าใหม่ของวงการผ้าไหมแต่งกายมาในชุดกระโปรงยาวสีขาวซึ่งตัดเย็บจากลูกไม้ฝรั่งเศสทั้งตัว ชุดนี้ช่วยส่งให้เรือนร่างของเธอดูเย้ายวนน่าหลงใหลมากยิ่งขึ้น ?อกเป็นอก เอวเป็นเอว สะโพกเป็นสะโพก? อย่างที่โกโก้ได้กล่าวชมพิชญธิดาไว้ แต่เมื่อชุดนี้มาอยู่บนตัวญาดามันทำให้เธอดูเร่าร้อนและน่าค้นหามากกว่า ชุดนี้เหมาะกับ ?สาวกร้าน? อย่างญาดามากกว่า ?สาวใส? อย่างพิชญธิดา หนุ่ม ๆ ในงานต่างเหลียวมามองเธอกันแทบทั้งนั้น คืนนี้ญาดาสวย เซ็กซี่และพร้อมที่จะรับ ?เซอร์ไพรส์? ของวิชญ์อย่างมั่นใจไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม วิชญ์ยิ้มทักทายให้หญิงสาว.....ยิ้มบาง ๆ เพียงเท่านั้น เขาไม่ได้กล่าวชื่นชมในความงามของเธอ เพราะมีพีรภาสที่ทำหน้าที่นั้นอยู่แล้ว ส่วนประวีณยังกล้า ๆ กลัว ๆ ไม่กล้าชมความงามของญาดาเพราะไม่แน่ใจว่า ?เป็นคนของวิชญ์? ด้วยหรือเปล่า เขายังเข็ดกับวีรกรรมที่ตนเองก่อไว้คราวที่แล้วไม่หายเลยต้องนิ่งไว้ก่อน

?คืนนี้คุณญาดาสวยมากเลยนะครับ สวยจริง ๆ สวยอย่างกับเจ้าสาวเลยนะครับ? พีรภาสกล่าวชมอย่างจริงใจ

?อุ๊ย! เจ้าสงเจ้าสาวอะไรกันคะคุณพีรภาส ชมกันเกินไปหรือเปล่า นี่แค่ชุดออกงานธรรมดา ๆ เองค่ะ ถ้าด้าจะแต่งงานล่ะก็ ชุดเจ้าสาวต้องสวยกว่านี้อีกร้อยเท่าเลยล่ะค่ะ เพราะเป็นครั้งเดียวในชีวิตลูกผู้หญิงนี่คะ?

?แล้วจะมีข่าวดีเมื่อไรล่ะครับ ยังไงก็อย่าลืมเชิญผมนะครับ? พีรภาสยังคุยติดลม

?รับรองค่ะว่าต้องเชิญแน่ แต่จะแต่งเมื่อไรก็ยังไม่รู้นะคะเพราะยังไม่มีใครมาขอเลยค่ะ? ญาดาเหลือบมองวิชญ์ที่ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ใด ๆ นับตั้งแต่เธอเดินเข้างานมานอกจากพยักหน้าและยิ้มทักทาย ญาดารู้สึกผิดหวังที่วิชญ์ไม่พูดอะไรออกมา

นายเมธินทร์ที่มาพร้อมกับลูกสาวจึงหันมาแสดงความยินดีกับวิชญ์บ้าง

?ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับคุณวิชญ์ ผมชื่นชมความสามารถของคุณจริง ๆ ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ยังสามารถลงทุนธุรกิจขนาดใหญ่แบบนี้ได้อีก เก่งมาก สมกับเป็นคนหนุ่มไฟแรงจริง ๆ? นายเมธินทร์กล่าวพร้อมกับยื่นกระเช้าดอกไม้ขนาดใหญ่ราคาแพงให้กับวิชญ์

?ขอบคุณมากครับ ยังไงคุณเมธินทร์ก็อย่าลืมจับจองคอนโดของผมสักห้องนะครับ? วิชญ์กล่าวเชิญชวน

?โอ๊ย! ไม่ไหวมั้งครับ คอนโดของคุณราคาไม่ใช่ล้านสองล้านบาท ผมคงซื้อไม่ไหวหรอก? นายเมธินทร์แกล้งออกตัว

?เดี๋ยวผมลดราคาให้เป็นพิเศษครับ? วิชญ์เออออตาม

?ป๊าพูดอะไรน่าเกลียดอย่างนั้นคะ ของซื้อของขายจะให้คุณวิชญ์มาลดราคาให้เราได้ยังไงคะ ไม่ต้องลดหรอกค่ะคุณวิชญ์ ป๊าแกล้งพูดไปอย่างนั้นเอง ระดับป๊าน่ะคอนโดแค่นี้ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก ถ้าป๊าไม่ช่วยอุดหนุนคุณวิชญ์เดี๋ยวด้าซื้อเองก็ได้ เอาไว้เวลาไปพักผ่อน คุณวิชญ์ช่วยแนะนำให้ด้าหน่อยสิคะว่าห้องแบบไหนที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์แบบด้าดี? ญาดาถือโอกาสควงแขนและทำท่าจะลากวิชญ์ตรงไปยังโมเดลที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้องจัดเลี้ยง แต่วิชญ์ฝืนตัวไว้แล้วจึงพูดขึ้นว่า

?เดี๋ยวเราค่อยไปดูกันดีกว่าครับ ก่อนอื่นผมขอพาคุณด้าและคุณพ่อของคุณไปรู้จักกับ ?บุพการี? ของผมก่อน? ญาดายิ้มรับทันทีที่ได้ยินคำชวนและคิดในใจว่า ?นี่เอง เซอร์ไพรส์ของวิชญ์ เขาต้องการแนะนำตัวเธอให้รู้จักกับพ่อแม่ของเขา?

?ไปสิค่ะ พวกท่านอยู่ไหนคะ? ญาดากระตือรือร้นอย่างออกนอกหน้า

วิชญ์จึงเดินนำคู่พ่อลูกกิจการญาดาไหมไทยไปพบกับ ?บุพการี? ของเขา

?คุณเมธินทร์ครับ นี่พ่อเลี้ยงพาครและแม่เลี้ยงปวีณาบุพการีของผมครับ? วิชญ์กล่าวแนะนำให้ทั้งสองฝ่ายได้รู้จักกัน

?คุณนี่เอง เมธินทร์ พัฒนไพศาล ผมได้ยินชื่อมานานแล้ว เพิ่งมีโอกาสได้เจอตัวจริงวันนี้นี่เอง ยินดีที่ได้ ?เจอกัน? ครับ? พ่อเลี้ยงพาครกล่าวซ่อนความนัย ?ยินดีที่ได้เจอ...ไอ้ฆาตกรที่ยังลอยนวลบนความทุกข์ระทมของคนอื่น? พ่อเลี้ยงพาครยื่นมือไปสัมผัสกับ ?ศัตรู? ส่วนแม่เลี้ยงปวีณาได้แต่พยักหน้าทักทายให้ก่อนที่จะหันไปรับไหว้จากหญิงสาวที่ยอมปล่อยแขนจากหลานชายเธอชั่วคราว

?สวัสดีจ้ะ หนูเองเหรอที่ชื่อญาดาน่ะ ฉันได้ยินตาวิชญ์พูดถึงอยู่บ่อย ๆ สวยสมกับที่ตาวิชญ์ไปคุยฟุ้งเอาไว้เลย? แม่เลี้ยงปวีณาหยอดคำหวานซึ่งทำให้ญาดาหลงระเริงจนลืมสำนวนที่ว่า ?หวานเป็นลมขมเป็นยา? ไปเสียสนิท พ่อเลี้ยงพาครและแม่เลี้ยงปวีณาต่างก็รับรู้แผนการของหลานชายมาเป็นอย่างดีแล้ว ท่านทั้งสองจึงจำเป็นต้องแสดงละคร ?ตามน้ำ?

?สวัสดีค่ะคุณป้า จริงเหรอคะที่คุณวิชญ์พูดถึงหนูน่ะ?

?จริงสิจ๊ะ พูดถึงบ่อยเลยล่ะ? ญาดาหันไปมองหน้าวิชญ์อย่างอาย ๆ ก่อนที่แกล้งเปลี่ยนเรื่อง

?ชุดของคุณป้าสวยจังนะคะ เนื้อผ้าไหมก็ดี๊ดีค่ะ ลายและฝีมือทอก็สวยมากเลยนะคะ? ญาดากล่าวชมชุดผ้าไหมทอมือของแม่เลี้ยงปวีณา

?ขอบใจจ้ะ แต่จะสู้ไหมทอมือของหนูญาดาได้หรือจ๊ะ? แม่เลี้ยงปวีณายังปากหวานต่อ

?พูดอย่างนี้แสดงว่าคุณป้าชอบผ้าไหม ไว้คราวหน้าด้าจะฝากผ้าไหมลายสวย ๆ กับคุณวิชญ์ไปให้คุณป้าสักสามสี่ผืนนะคะ? ญาดาฝากเนื้อฝากตัวกับแม่เลี้ยงปวีณาอย่างนอบน้อม

?ขอบใจหนูล่วงหน้านะจ๊ะ ชุดของหนูก็สวยมากนะ เหมือนเตรียมพร้อมมารับฟังข่าวดีเลยนะจ๊ะ เอ๊ะ! หรือว่าหนูรู้แล้วจ๊ะว่าตาวิชญ์จะทำอะไรให้ในคืนนี้น่ะ? แม่เลี้ยงปวีณาแกล้งทำไก๋

?คุณวิชญ์จะทำอะไรให้หนูหรือคะ? ญาดาเก็บความดีใจไว้ข้างในแล้วแกล้งทำใสซื่อ

?ตายแล้ว! อย่าถือสาป้าเลยนะ ป้าก็พูดเรื่อยเปื่อยไปอย่างนั้นเอง ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ เชิญนั่งก่อนดีกว่า นี่ก็ใกล้เวลาจะเปิดงานแล้ว คุณคะเชิญคุณเมธินทร์นั่งลงก่อนเถอะคะ? แม่เลี้ยงปวีณาแสดงได้สมบทบาทยิ่งนัก ทำให้ญาดายิ่งอยากรู้มากกว่าเดิม ?แสดงว่าเซอร์ไพรส์ของเรายังไม่ได้เริ่ม มันคืออะไรกันแน่นะ อยากรู้จัง?

************************

ขอคอมเม้นต์ด้วยนะคะ....please please please

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”