ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 22 โดย....อาทิตา

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
athita
โพสต์: 41
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 11 เม.ย. 2009 11:15 pm

ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 22 โดย....อาทิตา

โพสต์ โดย athita »

เรียนคุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน หลังจากที่มีคนถาม (จี้ใจดำ) กันมาเรื่องการตีพิมพ์และวางขายนิยายเรื่องนี้ อาทิตาของแจ้ง (ข่าวเศร้า) ให้ทราบว่าอาทิตายังไม่ได้ตกลงเซ็นสัญญากับ สนพ. ไหนเลยนะค่ะเพราะเรื่องนี้ยังแต่งไม่จบ และ สนพ. ที่เคยติดต่อมาก็เสนอราคาค่อนข้างต่ำ สงสัยเพราะอาทิตาเป็นนักเขียนหน้าใหม่ใสเด้งเกินไป...... ดังนั้นอาทิตาคงต้องเขียนเรื่องนี้ให้จบก่อน (ภายในกรกฎานี้....หากมีเวลาทำได้) แล้วจะส่งให้ สนพ. อื่น ๆ ได้พิจารณา หากมีข่าวดีเมื่อไร จะแจ้งให้ทราบนะคะ ขอบคุณมากค่ะที่ถามถึง (ให้เจ็บปวด- ) สรุปว่าตอนนี้จะอัพให้อ่านกันเรื่อย ๆ ก่อนนะคะ (ยกเว้นตอนพิเศษ) ? แลกกับคอมเม้นต์ของคนอ่าน.........อาทิตา

ตอนที่ 22 รักที่ต้องซ่อนเร้น

ณ ห้องอาหาร ?ฮานอย? ห้องอาหารเวียดนามอันเลื่องชื่ออีกหนึ่งในความภาคภูมิใจของโรงแรม ณ นิมมานรดี พิชญธิดาและธีรวีร์พาพีรภาสและประวีณหุ้นส่วนใหม่ของโรงแรมในเครือนิมมานรดีมานั่งในห้องวีไอพีเพื่อสั่งอาหารไปพลาง ๆ ระหว่างที่ต้องรอเจ้านายของทั้งคู่

?ปกติคุณพีรภาสกับคุณประวีณชอบทานอาหารเวียดนามไหมคะ? พิชญธิดาทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดี เธอชวนสองหนุ่มพูดคุยเพื่อฆ่าเวลาไปด้วย

ประวีณเงยหน้าขึ้นจากเมนูเล่มโตในมือ เขายิ้มให้หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า หญิงสาวที่ช่างถูกใจเขาเหลือเกินตั้งแต่แรกเห็น ?สวย หวาน ปราดเปรียว หลายบุคลิกในคน ๆ เดียว ดูท้าทาย น่าลองดี? เมื่อเห็นว่าพิชญธิดามีท่าทีที่เป็นมิตรและกำลังหยิบยื่นไมตรีให้มาประวีณจึงไม่ยอมปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไป

?ชอบครับ ผมยังต้องโทรไปสั่งให้เพื่อนที่อยู่อุดรฯส่งมาให้ทานเป็นประจำ ผมชอบน้ำจิ้มของที่นั่น หวานอมเปรี้ยวดี? ประวีณยังคงจ้องหน้าหวานของพิชญธิดาอย่างไม่วางตา แสดงเจตนารมย์ออกมาอย่างชัดเจน ไม่มีอ้อมค้อม

?งั้นวันนี้ต้องลองทานของที่นี่นะคะ รับรองจะติดใจค่ะ อัณณ์ไปทานมาหลายร้านแล้วแต่ที่นี่รสชาติดีมาก ๆ เหมือนต้นตำรับเลยค่ะ แต่ก็ถูกปากคนไทยอย่างเรา ๆ นะคะ เพราะทางโรงแรมจ้างเชฟมาจากเวียดนามเลยนะคะ? พิชญธิดาทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้โรงแรมอีกหนึ่งตำแหน่งแบบฟรี ๆ ไม่คิดเงินเดือนเพิ่ม ก็เพราะดันไปหลงรักเจ้าของโรงแรมเข้าแล้วนี่นา

?สงสัยที่โรงแรมแห่งใหม่ของเราต้องเปิดห้องอาหารเวียดนามบ้างซะแล้ว เพราะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ช่วงนี้คนไทยกำลังฮิตเรื่องนี้เป็นพิเศษ แกว่าไงวะหนึ่ง เห็นด้วยไหม? พีรภาสที่หายใจเข้าออกเป็นธุรกิจใหม่เสนอความคิดเห็นพร้อมเรียกชื่อเล่นของประวีณแทน

?เห็นด้วยเลยพี่พาส แต่ถ้าจะให้ดี....ต้องให้คุณอัณณ์ไปเป็นประชาสัมพันธ์ที่โรงแรมด้วยนะครับ ลูกค้าจะได้มาใช้บริการโรงแรมเราเยอะ ๆ? ประวีณหันไปยิ้มหวานให้พิชญธิดาอีกครั้ง

?ว่าไงครับ คุณอัณณ์ ตกลงไหม? พิชญธิดาไม่ตอบอะไร เธอไม่อยากเดินไปตกหลุมพรางที่นายพรานอย่างประวีณขุดล่อเอาไว้ ถึงเธอจะไม่ประสีประสาเรื่องความรัก แต่ก็ไม่ได้ใสซื่อจนตามเกมส์ของผู้ชายไม่ทัน ที่ทำได้ดีที่สุดในสถานการณ์ตอนนี้ ก็คือ ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว

?คุณวิชญ์คงไม่ยอมหรอกครับ เลขาฯเก่ง ๆ แบบนี้หายาก ยิ่งทำงานจน ?รู้ใจ? กันขนาดนี้ด้วยแล้ว นายคงไม่ยอมให้ออกแน่ ๆ? ธีรวีร์ออกโรงแทนนายที่ยังมาไม่ถึงจึงยังไม่รู้ตัวว่าถูกล้วงคองูเห่าถึงถิ่นเสียแล้ว บอดี้การ์ดอย่างเขาจึงต้องทำหน้าที่แทนไปพลาง ๆ ก่อนตามกฎใหม่หมาด ๆ ที่นายเคยสั่งไว้หลังจากมีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเขาและกฤตธีว่า ?พวกแกมีขอบข่ายงานเพิ่มขึ้นคือต้องพิทักษ์ ?หัวใจ? ฉันให้ปลอดภัยเช่นเดียวกับร่างกาย?

?ใช่ครับ ทั้งเก่งทั้งสวยเลย แต่ผมไม่ได้ขอให้คุณอัณณ์ลาออกซะหน่อย แค่พอโรงแรมใหม่สร้างเสร็จจะให้คุณอัณณ์ไปช่วยจัดการพวกระบบต่าง ๆ ให้มันเข้าที่เข้าทางเร็ว ๆ ก็เท่านั้น เดี๋ยวผมว่าจะลองคุยกับคุณวิชญ์ดู? ประวีณเริ่มออกลีลา ?จีบ? กันซึ่ง ๆ หน้า

?ก็ลองขอดูสิครับ ผมก็อยากรู้ว่านายจะตอบว่าอย่างไร? ธีรวีร์ยุส่ง ?เดี๋ยวจะได้เห็นฤทธิ์เดชของนายเขาบ้าง?

?เอ่อ...เลือกอาหารที่จะสั่งได้หรือยังคะคุณพีรภาสคุณประวีณ? พิชญธิดาเข้ามาช่วยแก้ไขสถานการณ์ที่กำลังจะบานปลายลุกลามไปกันใหญ่ เธอเข้าใจทั้งสองฝ่ายโดยเฉพาะเจตนาของประวีณที่แสดงออกมาอย่างโจ๋งครึ่มเสียขนาดนี้ แต่เธอก็ไม่มีปฎิกิริยาตอบโต้อะไรเพราะไม่อยากให้เขาคิดว่าเธอกำลังเล่นตัว อีกอย่างเขาก็ถือว่าเป็นผู้ร่วมงานคนหนึ่งในอนาคตที่เธอจะต้องทำงานร่วมด้วยอย่างแน่นอน ผูกมิตรไว้ย่อมดีกว่าสร้างศัตรู และที่สำคัญที่สุด คือ หัวใจของเธอก็ไม่ว่างเสียแล้ว จะวูบวาบก็แค่กับคน ๆ นั้นเพียงคนเดียวเท่านั้น เธอจึงไม่รู้สึกรู้สากับการ ?จีบ? ของเขาแม้แต่สักนิด

?ผมให้เจ้าถิ่นสั่งให้แล้วกันครับ คุณอัณณ์ว่าอะไรอร่อย ก็สั่งมาได้เลย ผมสองคนทานได้ทั้งนั้น? พีรภาสตอบแทนน้องชายที่ยังคงนั่งจ้องหญิงสาวหนึ่งเดียวอย่างไม่เกรงใจใคร ๆ เลย และถึงแม้เขาจะสังเกตเห็นว่าธีรวีร์ทำท่าไม่พอใจอยู่บ้างเหมือนกับหวงก้างแทนนายตัวเอง แต่เขาก็ไม่ห้ามประวีณเพราะไม่รู้ว่าวิชญ์นั้นจริงจังกับเลขาฯคนสวยคนนี้มากน้อยแค่ไหน แค่พาไปเที่ยวผับด้วยกันไม่ได้หมายความว่าจะเป็นคนพิเศษ อาจจะเป็นเพียงเพื่อนเที่ยวก็เป็นได้เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายกับเลขาฯสาวแบบนี้มีให้เห็นอยู่ดาษดื่นในปัจจุบัน ไม่ใช่เรื่องแปลก ใครจะไปรู้ว่าคุณเลขาฯหน้าหวานคนนี้อาจจะต้องทำหน้าที่อื่นควบอีกตำแหน่งก็เป็นได้ ส่วนประวีณน้องชายเขานั้น เขารู้ดีว่าน้องชายคนนี้ชอบลอง ?ของใหม่? เสมอ ถึงแม้บางครั้งจะ ?เก่า? มาจากที่อื่นแล้วก็ตาม และเรื่องแบบนี้ตบมือข้างเดียวไม่มีทางดัง พีรภาสจึงไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องปรามประวีณแต่อย่างใด

************************

?สวัสดีครับคุณพีรภาส ขอโทษด้วยนะครับที่ต้องให้รอ พอดีผมติดคุยธุระกับคุณญาดาอยู่น่ะครับ งั้นขอถือโอกาสนี้แนะนำให้รู้จักกันเลยนะครับ นี่คุณญาดา พัฒนไพศาล รองประธานกรรมการบริษัทญาดาไหมไทยครับ ส่วนนี่คุณพีรภาส ตั้งเจริญกุล หุ้นส่วนโรงแรมคนใหม่ที่กำลังจะสร้างที่เขาใหญ่ครับ?

?ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ เรียกด้าเฉย ๆ ก็ได้ค่ะ? ญาดาหันมายิ้มหวานให้พร้อมทั้งยื่นมือมาเชคแฮนด์ตามธรรมเนียมตะวันตก

?ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ เอ...เหมือนเราจะเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนนะครับ? พีรภาสพูดตามความจริงเพราะเขาเคยเห็นญาดาในผับคืนนั้นเช่นกันเพียงแต่นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหนและเมื่อไร พีรภาสมองดูวิชญ์สลับกับญาดาที่ดูค่อนข้างให้ความเป็นกันเองกับวิชญ์เป็นพิเศษ เขาก็เลยสรุปเอาเองดื้อ ๆ ว่านี่คงเป็นตัวจริงเพราะสามารถทำธุรกิจเกื้อหนุนกันได้ ส่วนเลขาฯนั่นคงเป็นเพียงตัวแก้ขัดชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น

?คุณพีรภาสครับมุขนี้เก่ากึ๊กแล้วนะครับ? เสียงแซวจากกฤตธีซึ่งก็เรียกเสียงฮาได้รอบโต๊ะ ญาดาเองยังยิ้มเสียกว้างเพราะนึกไปเองว่าพีรภาสตกหลุมเสน่ห์ของตนเข้าอีกคน

?ผมพูดจริง ๆ นะคุณกฤต แต่นึกไม่ออกว่าเคยเจอกับคุณญาดาที่ไหน? พีรภาสรีบอธิบายก่อนที่จะหันไปหาวิชญ์

?อ้อ....คุณวิชญ์ครับพอดีวันนี้ผมพาน้องชายมาด้วย นี่นายประวีณครับ ก็คนนี้แหละครับที่ผมบอกคุณวิชญ์ว่าจะให้เป็นผู้จัดการโรงแรมของเรา? พีรภาสแนะนำตัวประวีณ

?ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ? วิชญ์จับมือกับประวีณส่วนญาดาเพียงหันมายิ้มและก้มศีรษะให้เพียงเล็กน้อยเพราะเธอยืนห่างจากประวีณเกินที่จะยื่นมือไปจับถึง

?เชิญนั่งเลยครับ? วิชญ์บอกกับทุกคนและหันมาเลื่อนเก้าอี้ให้ญาดาได้นั่งลงข้าง ๆ เขา

โต๊ะอาหารตัวนี้เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีขนาดแปดที่นั่ง วิชญ์นั่งหัวโต๊ะโดยมีญาดานั่งอยู่ทางด้านซ้ายมือของเขา ส่วนอีกข้างมีพีรภาส ถัดจากญาดาก็คือกฤตธีและธีรวีร์ตามลำดับ และถัดจากพีรภาสคือประวีณน้องชาย ส่วนพิชญธิดาที่ถูกธีรวีร์จัดแจงเลือกที่นั่งให้เสร็จสรรพตั้งแต่แรกที่มาถึงนั้นได้นั่งตรงหัวโต๊ะอีกฟากหนึ่ง ซึ่งก็ตรงกันข้ามกับวิชญ์อย่างพอดิบพอดีเหมือนธีรวีร์จะจงใจให้เป็นแบบนี้ เท่ากับว่าเก้าอี้ข้างประวีณถูกเว้นให้ว่างไว้ เก้าอี้หนึ่งตัวที่คั่นกลางระหว่างประวีณกับพิชญธิดา แต่อุปสรรคแค่นี้ไม่สามารถมาขัดขวางคนอย่างประวีณได้ ดังนั้นพออาหารเริ่มเสิร์ฟประวีณที่ทำทีลุกไปเข้าห้องน้ำพอกลับมาก็เลือกที่จะนั่งติดกับพิชญธิดาแทนเก้าอี้ตัวเดิมของตน เขาปล่อยให้พี่ชายเป็นคนพูดคุยธุรกิจกับวิชญ์ตามลำพังโดยมีญาดาอีกคนที่ร่วมวงสนทนาด้วย ซึ่งเธอก็คอยเสนอความคิดเห็นอย่างน่าสนใจเพราะเคยใช้บริการโรงแรมในต่างประเทศมาไม่น้อย วิชญ์เหลือบมองประวีณด้วยสายตาขุ่น ๆ เพราะเขาดูออกว่าประวีณให้ความสนใจ ?คนของเขา? เป็นพิเศษ ตลอดเวลาที่รับประทานอาหารกันนั้น ประวีณคอยดูแลพิชญธิดาเป็นอย่างดี ตักโน่นนิดนี่หน่อยให้ชิมอยู่ตลอด แถมยังชวนพูดคุยสัพเพเหระไปทั่ว ทำเอาคนที่นั่งหัวโต๊ะอีกด้านชักจะกรุ่น ๆ ดีที่ว่ามีกฤตธีและธีรวีร์ที่รู้ใจเจ้านายเป็นอย่างดีคอยช่วยขัดตาทัพได้บ้าง โดยช่วยแทรกมุขทั้งฮาทั้งฝืดให้ประวีณได้พอแสบ ๆ คัน ๆ แต่กลับกลายเป็นว่าประวีณดันหลงเข้าใจผิดคิดว่าสองหนุ่มบอดี้การ์ดกำลังจีบพิชญธิดาแข่งกับเขาแทน ส่วนคนกลางก็ได้แต่นั่งยิ้มตามมารยาทและรับอาหารคาวหวานที่ประวีณคอยตักให้ชิมอย่างไม่ขาดสาย

เช่นเดียวกับวิชญ์ที่ต้องดูแลญาดาตามมารยาทเช่นกัน ทั้งในหน้าที่ของเจ้าบ้านและสุภาพบุรุษที่ดี ส่วนญาดาก็ช่างเอาอกเอาใจอยู่ไม่น้อย เธอใช้จริตในการดูแลชายหนุ่มทั้งสองอย่างเท่าเทียมกันทำให้ดูไม่น่าเกลียด แต่ถึงอาหารวันนี้รสชาติจะดีสักแค่ไหนก็ตาม คนที่นั่งหัวโต๊ะทั้งคู่กลับรับประทานได้อย่างฝืดคอเต็มที ทั้งวิชญ์และพิชญธิดาต่างก็เหลือบมองซึ่งกันและกันอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกมานอกจากส่งสายตาให้กัน พิชญธิดาเข้าใจดีว่าวิชญ์กำลังดูแลญาดาตามมารยาททางสังคม แต่ก็อดคิดเล็กคิดน้อยไม่ได้ตามประสาหญิงสาวที่ต้องมาทนนั่งดูแฟนตัวเองคอยดูแลเทคแคร์หญิงอื่นอย่างตำตา เธอจึงประชดด้วยการพูดคุยหยอกล้อกับประวีณบ้าง วิชญ์จึงต้องพยายามเก็บอาการหึงหวงอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ลุกไปมีเรื่องกับประวีณ แต่เขาก็ไม่ทันได้ลงมือทำอะไรเพราะเสียงประวีณที่ถามพิชญธิดาดังขึ้น ซึ่งหัวข้อที่เขาถามนั้นทำให้ทุกคนที่อยู่บนโต๊ะต่างก็ให้ความสนใจและพลอยลดเสียงที่กำลังพูดคุยลงอย่างไม่รู้ตัว

?คุณอัณณ์สนใจจะไปทำงานที่โรงแรมใหม่แถวเขาใหญ่บ้างไหมครับ? คำถามจากประวีณที่ยิ้มแพรวพราวรอฟังคำตอบจากพิชญธิดา

?เอ่อ....อัณณ์เพิ่งเริ่มงานที่นี่ได้ไม่นานเองค่ะ ยังไม่คิดจะเปลี่ยนงานหรอกค่ะ? พิชญธิดาถอนหายใจโล่งหลังตอบคำถามข้อแรกไปได้อย่างฉลุย

?อะไรกันครับ งานก็แบบเดิมนั่นแหละครับ แค่เปลี่ยนสถานที่ทำงานเอง ชื่อโรงแรมก็ชื่อเดิม ไม่ลองคิดดูใหม่เหรอครับ ได้ไปทำงานท่ามกลางขุนเขาและธรรมชาตินะครับ น่าจะดีกว่าต้องมาอุดอู้อยู่แต่ในเมืองหลวงนะครับ? ประวีณพยายามรุกต่อ

?เอ่อ....? พิชญธิดาเงยหน้าขึ้นมองวิชญ์เพื่อขอความช่วยเหลือ ประวีณที่จ้องหญิงสาวอย่างไม่วางตาจึงเข้าใจเป็นอีกอย่าง

?อ๋อ ต้องถามเจ้านายก่อนใช่ไหมครับ? เขาจึงหันไปหาวิชญ์แทนในทันที ประวีณรอจังหวะที่วิชญ์หยุดพูดคุยกับพีรภาสแล้วจึงรีบถามแทรกขึ้นมาด้วยเสียงอันดังพอสมควร ดังนั้นทุกคนบนโต๊ะจึงได้ยินกันอย่างถ้วนหน้าและต่างก็ตั้งใจรอฟังคำตอบจากวิชญ์กันอย่างใจจดใจจ่อ โดยเฉพาะญาดาที่คอยลุ้นว่าวิชญ์จะพูดอะไรออกมา

?คุณวิชญ์ครับ ผมว่าจะขออนุญาตคุณวิชญ์ขอตัวคุณอัณณ์ไปทำงานที่โรงแรมใหม่ด้วยจะได้ไหมครับ?

?ทำไมต้องเป็นคุณอัณณ์เลขาฯ ?ของผม? ด้วยล่ะครับ? วิชญ์เน้นเสียงแสดงความเป็นเจ้าของอย่างเต็มที่ เขาต้องพยายามสะกดกลั้นอารมณ์หึงหวงเอาไว้แต่ก็เก็บได้ไม่หมดโดยเพราะการชักสีหน้า และอาการนั้นก็ไม่หลุดรอดไปจากสายตาของญาดาที่คอยสังเกตและจับผิดท่าทีของวิชญ์ที่มีต่อพิชญธิดาอยู่ตลอดเวลาได้ และครั้งนี้เธอก็เห็นอย่างชัดเจนว่าวิชญ์คงรู้สึกพิเศษกับเลขาฯคนสวยอยู่บ้าง ถึงแม้จะไม่แน่ใจนักในความสัมพันธ์ของทั้งคู่เพราะคิดว่าผู้ชายโสดอย่างวิชญ์อาจจะมี ?ของเล่น? อยู่บ้างซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เธอพอจะรับได้ แต่ก็ไม่กล้าไว้วางใจมากนักเพราะแม่เลขาฯนั่นก็ดูดีมีเสน่ห์อยู่ไม่น้อย อาจจะมัดใจชายหนุ่มเสียอยู่หมัดก็เป็นได้ เธอจึงต้องเฝ้าสังเกตไปเงียบ ๆ ก่อน

?ก็เห็นคุณอัณณ์เขาคล่องแคล่วและรู้งานดีแล้วน่ะครับ ผมเลยกะว่าจะให้คุณอัณณ์ไปช่วยเซ็ทระบบการทำงานทางโน้นให้เข้าที่เข้าทางสักหน่อย ได้ไหมล่ะครับ? ประวีณมองหน้าวิชญ์อย่างไม่กลัวเกรงกับสายตาที่เริ่มแข็งกร้าวอย่างไม่รู้ตัวของวิชญ์

?โอ๊ย! แฟนคุณอัณณ์เขาคงไม่ยอมหรอกครับใครจะปล่อยให้คนรักไปอยู่ไกล ๆ ตัว? ธีรวีร์ขี่ม้าขาวมาช่วยกอบกู้สถานการณ์ได้ทันท่วงที เพราะคนเป็นนายนั้นตอนนี้คิดอะไรไม่ออกแล้ว เนื่องจากลมกำลังออกหู

?`อืมใช่....คุณอัณณ์คงต้องขออนุญาตจากแฟนเธอเสียก่อนมั้งครับ? วิชญ์รีบเสริมกำลังหนุนช่วยแม่ทัพธีรวีร์อีกแรง

?อ้าว คุณอัณณ์มีแฟนแล้วหรือครับ? ประวีณที่ทำท่าเสียดายเสียหนักหนาหันหน้ามาถามกับเจ้าตัว

?เอ่อ...? พิชญธิดาไม่รู้จะตอบอย่างไรดี ?ก็คบ ๆ กันอยู่น่ะค่ะ แต่ก็ยังไม่ได้คิดจริงจังอะไรด้วย? พูดเสร็จเธอก็หันไปมองวิชญ์ด้วยตาเขียวปั๊ดที่เล่นโยนปัญหามาให้เธอ เธอจึงประชดเขาเสียเลย ?เดี๋ยวคอยดูเถอะ จะเอาคืนซะให้เข็ด?

?ถ้ายังไม่ได้คิดจริงจัง ผมก็ยังมีสิทธิ์สิครับ ใช่ไหมครับคุณอัณณ์? ประวีณยังไม่ละความพยายามอย่างหน้าด้าน ๆ พิชญธิดาที่ยังเคือง ?พ่อตัวดี? ของเธออยู่จึงแกล้งตอบไปอีกทีให้คนฟังได้เจ็บใจเล่นว่า

?ใช่มั้งคะ? แถมพิชญธิดายังหันไปยิ้มหวานหยดย้อยให้กับประวีณเข้าไปอีก

?เฮ้ย! คุณอัณณ์พูดอย่างนั้นได้ไงครับ? เสียงร้องของกฤตธีดังขึ้น ในขณะที่ธีรวีร์เกือบสำลักน้ำที่ดื่มอยู่เช่นกัน

?ทำไมต้องร้องเสียงหลงขนาดนี้ด้วยครับ? ประวีณจ้องหน้ากฤตธี ?เอ๊ะ! อย่าบอกผมนะว่าที่จริงแล้วแฟนคุณอัณณ์ก็คือคุณกฤตน่ะ? กฤตธีที่โดนข้อหาฉกรรจ์เลยอึ้งจนพูดไม่ออก

?ไม่ใช่ครับ? กฤตธีรีบแก้ตัวเพราะยังไม่อยากตายก่อนแก่ แต่ในขณะเดียวกันธีรวีร์ก็ดันโพล่งขึ้นมาพร้อมกันกับเขาว่า

?ใช่ครับ?

?อ้าว อะไรกันแน่ ตกลงใช่หรือไม่ใช่? ประวีณเริ่มหงุดหงิดที่คนที่เขาหมายปองอยู่ดันมีเจ้าของไปเสียได้

?ไม่ใช่ครับ / ใช่ครับ? บอดี้การ์ดหนุ่มตอบขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง

?คือ....เราทั้งสองคนกำลังจีบคุณอัณณ์ด้วยกันทั้งคู่น่ะครับ? กฤตธีใช้ไหวพริบที่เป็นต่อรีบดึงธีรวีร์เข้ามาร่วมชะตากรรมได้อย่างสำเร็จงดงาม ส่วนหญิงสาวที่ตกเป็นจำเลยในหัวข้อสนทนาอยู่นั้นได้แต่หันไปสบตากับวิชญ์นิ่งนาน เมื่อเขาไม่พูดอะไรออกมา พิชญธิดาจึงเลี่ยงด้วยการก้มหน้าและพยายามระงับความรู้สึก ?เจ็บแปลบ? ที่ถาโถมเข้าใส่เธออยู่ เธอเข้าใจดีว่าในขณะนี้วิชญ์คงพูดอะไรออกมาไม่ได้เพราะมีญาดานั่งอยู่ด้วย แผนการแก้แค้นยังต้องดำเนินต่อไป พิชญธิดายังแอบคิดในใจต่ออีกว่า หากญาดาไม่นั่งอยู่ตรงนี้ เวลานี้ วิชญ์จะบอกกับทุกคนไหมว่าใครคือแฟนตัวจริงของเธอกันแน่ ส่วนคนอื่น ๆ ที่นั่งร่วมโต๊ะกันนั้นต่างก็ตกตะลึงกับคำอธิบาย ?รู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง? ของกฤตธีและต่างคนต่างก็คิดไปคนละทาง คนละอย่าง ตามมุมมองที่มีอยู่บนพื้นฐานของจิตใจที่แตกต่างกัน โดยเริ่มจาก.....

วิชญ์ที่อึ้งกิมกี่ในความ ?ฉลาดเฉลียวในการเอาตัวรอด? ของลูกน้องมือขวา ?กฤตธีศรีธนญชัยแห่งยุค 2552?

ส่วนธีรวีร์นั้นไม่คาดคิดมาก่อนว่าเพื่อนรักจะหักเหลี่ยมโหดได้ถึงขนาดนี้ ?ไอ้เวรกฤต ทำเรื่องแล้วไหมล่ะ ขว้างงูไม่พ้นคอตัวเองแล้วดันเอาหางงูมาพันคอเขาเข้าไปอีกคน?.เซ็งชิบ....งานนี้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเลยกู?

ด้านพีรภาสก็ชักจะงง ๆ ว่า ทำไมทั้งเจ้านายและลูกน้องทั้งสามคนนี้ต่างก็ดันมาหมายปองเลขาฯคนเดียวกัน หรือพิชญธิดาจะเป็น ?สมบัติที่ผลัดกันชม? เสียแล้ว

จะมีก็เพียงคนเดียวที่ยินดีกับสิ่งที่ได้ยิน ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็หญิงสาวอีกคนที่เหลือบนโต๊ะนั่นไง ?ว่าแล้วเชียวว่าคุณวิชญ์คงไม่ใช่สมภารที่คิดจะกินไก่วัด หึ ที่แท้แม่เลขาฯหน้าหวานคนนี้ก็ไม่ใช่หอกข้างแคร่ที่เราต้องระวัง....โล่งอกไปที?

?แค่จีบอยู่ใช่ไหมครับ งั้นผมขอลงแข่งด้วยคนแล้วกัน แบบนี้แฟร์ดีเพราะเรารู้ว่าใครคือคู่แข่ง ไม่ต้องเสียเวลาไปสืบหาอยู่ ผมบอกไว้ก่อนนะครับคุณกฤตคุณวีร์ว่าผมไม่ยอมออมแรงให้นะครับ? ส่วนประวีณที่ไม่คิดหน้าคิดหลังให้รอบคอบก็กระโดดมาร่วมชะตากรรมนั้นด้วยอย่างไม่รู้ตัวว่าหัวกำลังจะหลุดออกจากบ่าแล้ว

?อะไรกันคะ บนโต๊ะนี้มีผู้หญิงตั้งสองคน แต่นี่อะไรกันสามหนุ่มหล่อจะแย่งกันจีบคุณอัณณ์อยู่คนเดียว แบบนี้ด้าก็เสียใจแย่สิคะ? ญาดาแกล้งงอนใส่สามหนุ่มที่ว่า

?งั้นผมกับคุณวิชญ์จีบคุณด้าเอง สู้ไหมครับคุณวิชญ์? พีรภาสเอาใจคนสวยที่กำลังงอน วิชญ์นิ่งไม่ตอบเพราะไม่อยาก ?แกว่งเท้าหาเสี้ยน? แค่นี้ก็ผิดไปหลายกระทงแล้วและไม่รู้ว่าคราวนี้ ?คุณทูน? จะงอนเขาไปอีกกี่วัน

************************

หลังจากรับประทานอาหารและดื่มกาแฟหลังอาหารกันเรียบร้อยแล้ว ญาดาก็ขอตัวกลับก่อนเป็นคนแรกเพราะเธอมีนัดกับช่างทำผม เมื่อญาดาลุกไปแล้วโดยมีธีรวีร์ตามไปส่ง พีรภาสจึงขอตัวกลับบ้าง ทุกคนที่เหลือจึงลุกขึ้นยืนเพื่อร่ำลา

?ขอบคุณมากนะครับคุณวิชญ์สำหรับอาหารมื้อนี้ อร่อยสมราคาโฆษณาจริง ๆ? พีรภาสเอ่ยพร้อมยื่นมือมาให้จับ

?ยินดีครับ? วิชญ์จับมือตอบ

?งั้นผมต้องขอตัวกลับก่อนนะครับ แล้วจะส่งรายละเอียดเรื่องที่เราคุยกันมาให้คุณวิชญ์ดูอีกที อ้อ! คุณวิชญ์อย่าลืมเลือกวันที่จะเปิดตัวโครงการด้วยนะครับ? พีรภาสย้ำเตือนวิชญ์ถึงวันที่จะต้องเปิดตัวโครงการคอนโดหรูที่จะสร้างขายในบริเวณเดียวกับโรงแรมแห่งใหม่

?ได้ครับ เอ่อ...คุณพีรภาสครับ เดี๋ยวผมขอคุยธุระกับคุณตามลำพังสักครู่นะครับ? เมื่อได้ยินเช่นนั้นกฤตธีจึงเป็นคนแรกที่เดินนำพิชญธิดาไปยังประตูห้อง โดยมีประวีณเดินตามประกบไม่ห่าง เมื่อคนทั้งสามเดินผ่านประตูห้องวีไอพีออกไปแล้ว วิชญ์จึงหันมาคุยกับพีรภาสด้วยน้ำเสียงจริงจังและฟังชัดเจนว่า

?คุณพีรภาส ผมขอโทษที่ต้องพูดตรง ๆ และต้องเอาเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวกับเรื่องงาน ที่จริงผมเคยแยกแยะเรื่องงานออกจากเรื่องส่วนตัวได้แต่คราวนี้ผมไม่อยากให้มันยืดเยื้อจะลำบากใจกันเปล่า ๆ เอาเป็นว่าผมขอฝากบอกน้องชายคุณด้วยละกันว่า อย่ามาเกาะแกะกับแฟนผม ถ้าเขายังมายุ่งวุ่นวายกับแฟนผมอีกล่ะก็ โครงการที่เราคุยกันคงต้องยกเลิก ผมหวังว่าคุณคงจะเป็นคนที่เข้าใจอะไรได้ง่าย ๆ นะครับ อย่าให้เรื่องเล็กต้องกลายมาเป็นเรื่องใหญ่ ผมขอฝากไว้แค่นี้ล่ะครับหวังว่าจะให้กันได้? วิชญ์พูดเสร็จก็ก้มศีรษะให้พีรภาส พร้อมทั้งผายมือเชิญไปที่ประตูโดยไม่เปิดโอกาสให้พีรภาสได้ซักถามให้หายสงสัยว่าเขากำลังพูดเรื่องอะไรและพูดถึงใคร พีรภาสเดินไปพลางครุ่นคิดไปพลางแต่ก็ยังไม่ได้คำตอบที่กระจ่าง จนกระทั่งเมื่อเขาออกมาเห็นเจ้าน้องชายตัวดีกำลังหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อที่จะบันทึกหมายเลขของพิชญธิดาอยู่นั้น เขาก็ถึงบางอ้อ พีรภาสรีบเดินตรงไปยังคนทั้งคู่แล้วคว้าแขนประวีณให้ออกห่างจากหญิงสาว เขารีบกล่าวคำลาอย่างรวดเร็วกับพิชญธิดาและกฤตธีโดยไม่สนใจว่าประวีณจะบันทึกเลขหมายได้สำเร็จหรือไม่ เพราะ ?ธุรกิจเป็นร้อยล้านต้องมาก่อนผู้หญิงเพียงคนเดียว? ความคิดของพีรภาสช่างแตกต่างกับของวิชญ์อย่างสิ้นเชิง

************************

เมื่อส่งแขกกลับหมดแล้ว พิชญธิดาก็รีบเดินพุ่งตรงไปยังลิฟต์โดยสารที่ธีรวีร์ยืนเปิดประตูรออยู่แล้ว หญิงสาวรีบเดินเข้าไปยืนรออยู่ด้านในสุด และทันทีที่วิชญ์และกฤตธีเดินตามเข้ามาพิชญธิดาก็อาศัยความคล่องแคล่วและได้เปรียบในรูปร่างที่ปราดเปรียวของตนรีบเขยิบขึ้นมาข้างหน้าเพื่อมายืนคู่กับธีรวีร์แทน และปล่อยให้วิชญ์ยืนคู่กับกฤตธีตามลำพัง

?คุณอัณณ์หนีอะไรครับ? กฤตธีแกล้งถาม

?หนีแฟนค่ะ? หญิงสาวสวนกลับแต่ไม่ยอมหันไปมองหน้าคนที่กำลังคุยด้วย เพราะไม่อยากเห็นหน้าใครอีกคน

?ไอ้ที่ว่าหนีแฟนนี่ หนีตัวจริงหรือหนีตัวปลอมครับ? ธีรวีร์ที่ยืนข้างหญิงสาวหันมาถามต่อ แต่แทนที่จะได้รับคำตอบจากปากจิ้มลิ้ม เขากลับได้รับวงค้อนวงโตจากดวงตาสีดำเข้มที่กำลังขยายขนาดขึ้นไปอีกตามดีกรีอารมณ์ฉุนของหญิงสาวแทน

?คุณอัณณ์ครับ ทำไมไม่ไปทำหน้าเข้มใส่ไอ้ประวีณตอนมันจีบล่ะครับ มาทำใส่ผมทำไมอ่ะ? ธีรวีร์จ๋อยสนิท

?หึ หึ หึ? พิชญธิดามั่นใจว่านั่นเป็นเสียงหัวเราะในคอของวิชญ์อย่างแน่นอน และก็คงหัวเราะเยาะเธออยู่แน่ ๆ

?งอนอะไรครับ ผมไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย? วิชญ์พูดชิดอยู่ริมใบหูขวาของพิชญธิดา ซึ่งก็ทำเอาเจ้าตัวถึงกับขนลุกซู่ แต่พิชญธิดาไม่ได้หันไปโต้ตอบ และในทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออกเธอก็รีบจ้ำออกจากลิฟต์ไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังไม่ทันคนตัวโตขายาวที่ก้าวเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวเธอ วิชญ์คว้าข้อมือแฟนสาวแล้วออกแรงให้เดินตามเขาเข้าไปยังห้องทำงาน เขาก้มมาพูดใส่หน้าหญิงสาวว่า

?หนีผมไม่พ้นหรอกครับ เพราะเรานั้น........คู่กัน?

************************

ขณะนั่งที่รถกลับบ้านกับวิชญ์กันเพียงสองคนในตอนเย็น ระหว่างที่วิชญ์กำลังคุยโทรศัพท์กับที่ปรึกษาอาวุโสคนหนึ่งของบริษัท พิชญธิดานั่งนึกถึงเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้....

หลังจากโดนพ่อตัวดีลากเข้ามาในห้องทำงานแล้วโดยมีสองหนุ่มบอดี้การ์ดรู้เห็นเป็นใจไม่ตามเข้ามาเป็น กอ ขอ คอ วิชญ์ก็ฉวยโอกาสกักตัวแฟนสาวไว้ในอ้อมกอดซึ่งมีหรือที่พิชญธิดาจะยอมง่าย ๆ ยิ่งมีคดีความที่ยังรอชำระโทษอยู่แบบนี้ เธอดิ้นไปมาอยู่สักพักจนเริ่มเหนื่อยไม่ใช่เพราะสู้แรงเขาไม่ได้แต่เป็นเพราะจุก พิชญธิดาจึงต้องสารภาพกับวิชญ์ไปตรง ๆ ว่า

?ปล่อยเถอะคะ อัณณ์อึดอัด เพิ่งทานข้าวมาอิ่ม ๆ แน่นไปหมดแล้ว?

?ก็ทานซะเยอะเองนี่ครับ? วิชญ์พูดเหน็บแฟนสาวพร้อมบีบจมูกโด่งได้รูปของเธอไปหนึ่งครั้ง ก่อนที่จะผ่อนวงแขนให้กว้างขึ้นเพื่อคลายความอึดอัดให้กับหญิงสาว

?ก็ของโปรดทั้งนั้นนี่นา แถมคุณประวีณก็ช่างเอาอกเอาใจซะอีก? พิชญธิดาประชดกลับอย่างสมน้ำสมเนื้อ

?แล้วทำไมไม่ปฎิเสธเขาไปล่ะครับ? วิชญ์ขึงตาดุใส่พิชญธิดาแต่ไม่ได้ผล เธอไม่กลัวเขาเลย แถมยังยื่นหน้าเข้ามาถามอีกว่า

?ปฎิเสธเรื่องอะไรคะ เรื่องอาหารหรือว่าเรื่องแฟน? วิชญ์เงียบและยอมรับผิด เขาถอนหายใจเบา ๆ แล้วจึงพูดว่า

?อัณณ์โกรธผมหรือที่ไม่ได้บอกเขาออกไปว่าอัณณ์เป็นแฟนกับผมน่ะ? วิชญ์ถามด้วยน้ำเสียงท้อแท้อย่างคนที่ยอมแพ้แล้ว ซึ่งหญิงสาวในอ้อมกอดก็รับรู้ถึงความผิดปกติของน้ำเสียงนั้นได้ทันที ?สงสัยเราจะเล่นมากไปแล้ว? พิชญธิดาจึงรีบชี้แจงว่า

?ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะคุณวิชญ์ อัณณ์ไม่ได้โกรธคุณหรอกค่ะ อัณณ์เข้าใจค่ะว่าคุณคงพูดอะไรต่อหน้าคุณญาดาไม่ได้ แต่อัณณ์ก็ยังอดน้อยใจไม่ได้นี่นา แหม! ใครจะทนได้ล่ะคะเป็นแฟนกันแต่บอกใคร ๆ ไม่ได้น่ะ ว่าแต่คุณเถอะ ไม่หึงไม่หวงอัณณ์บ้างเลยเหรอคะที่คุณประวีณเขาจีบอัณณ์โต้ง ๆ แบบนั้นน่ะ ฮึ ชักจะน้อยใจซะแล้วสิ? และแล้วพิชญธิดาที่แสนฉลาดก็เปลี่ยนบทบาทจากคนง้อมาเป็นคนงอนเสียเองได้อย่างสำเร็จงดงาม

?ไม่หึงไม่หวงหรอกครับ? วิชญ์เอาคืนบ้าง

?รู้อย่างนี้อัณณ์น่าจะให้เบอร์โทรคุณประวีณไปก็ดีหรอก จะได้นัดดูหนังกันซะเลย? พิชญธิดาแกล้งทำเป็นพึมพำเบา ๆ เพื่อยั่ววิชญ์ซึ่งก็ได้ผลเพราะเขาได้ยินเต็มสองรูหู

?ลองดูสิครับ เป็นเรื่องแน่ เรื่องใหญ่เสียด้วยสิ ที่ผมบอกว่าไม่หึงไม่หวงน่ะเพราะผมรู้ดีว่าอัณณ์คงให้ใจเขาไปไม่ได้แน่ ๆ ก็หัวใจอัณณ์น่ะ.........อยู่ที่ผมแล้วนี่ครับ? เจ้าตัวพูดอย่างไม่อายปาก

แต่คนฟังก็ยิ้มแก้มแทบปริ ?แหวะ น้ำเน่า? พิชญธิดารีบกลบความอาย

?แล้วตกลงให้เบอร์โทรเจ้าขี้หลีนั่นไปหรือเปล่าครับ? วิชญ์ถามเพื่อความแน่ใจ

?ให้ค่ะ? พิชญธิดาก็ตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน

?อัณณ์!? วิชญ์ไม่ทันได้พูดอะไรต่อเพราะเสียงมือถือดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน เสียงมือถือของเขาเอง วิชญ์ล้วงหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง เขามองหน้าจอก่อนที่จะขมวดคิ้วสงสัยเพราะเห็นเป็นหมายเลขใหม่ หมายเลขที่เขาไม่เคยบันทึกเอาไว้ ตามปกติวิชญ์จะไม่บอกหมายเลขโทรศัพท์มือถือกับใครนอกจากคนสนิทจริง ๆ เท่านั้น ส่วนมากเขาจะให้หมายเลขของ กฤตธีหรือไม่ก็ธีรวีร์แทน สองคนนั่นจะเป็นปราการด่านแรกของคนที่อยากจะคุยกับเขา

?เบอร์ใครก็ไม่รู้? วิชญ์บอกหญิงสาวก่อนที่จะกดรับสายแต่แขนอีกข้างยังรั้งร่างหอมกรุ่นของแฟนสาวไว้ในอ้อมกอด

?ฮัล......? วิชญ์ยังไม่ทันได้พูดอะไรเพราะฝ่ายโน้นเล่นไม่เว้นจังหวะให้เลย วิชญ์เลยได้แต่ฟังอีกฝ่ายโวยวายใส่แต่ในที่สุดเขาก็ยิ้มกว้างออกมาและฉกหอมแก้มนุ่มของคนในอ้อมแขนที่แสบได้ใจเขาจริง ๆ

?คุณเข้าใจถูกต้องแล้วครับคุณประวีณ คุณอัณณ์น่ะแฟนผมเองและนี่ก็เบอร์มือถือผมครับ หวังว่าครั้งหน้าหากจะโทรมาอีก เราคงได้คุยกันเฉพาะเรื่องงานนะครับ แค่นี้นะครับ สวัสดีครับ?

************************

ภายในรถยนต์หรูคันโต หลังจากวิชญ์วางสายจากคู่สนทนาแล้ว ก็สังเกตเห็นว่าหญิงสาวข้างกายยังคงนั่งเงียบไม่พูดไม่จา ซึ่งผิดปกติจากทุก ๆ วัน คนขับชักร้อนใจต้องซักถาม

?อัณณ์เป็นอะไรครับ ทำไมวันนี้เงียบจัง คิดอะไรอยู่ บอกผมได้ไหม?

?คุณวิชญ์อยากรู้จริง ๆ หรือคะ? พิชญธิดาที่นั่งทบทวนเหตุการณ์ทั้งหมดแล้วแต่ยังลังเลไม่อยากพูดออกไป เหตุการณ์ที่ดูเหมือนจะจบอย่างสวยงาม เขากับเธอยังเข้าใจกันดีอยู่ รักยังราบรื่น แต่มันคงสวยได้เพียงแค่ข้างนอกเท่านั้น สาเหตุที่เธอไม่กล้าพูดออกไป เพราะกลัวว่ามันจะทำร้ายความรู้สึกของเขาและอาจจะทำลายความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคนทั้งคู่ด้วยซึ่งเธอก็ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น แต่เมื่อลองคิดดูอีกที การพูดความจริงน่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า อย่างน้อยที่สุดเขาก็จะได้รับรู้ว่าเธอคิดอย่างไร

?อยากรู้จริง ๆ สิครับ อัณณ์บอกผมได้ไหมล่ะ อัณณ์มีอะไรไม่สบายใจอัณณ์บอกผมสิ ผมไม่อยากเห็นอัณณ์เก็บมันไว้คนเดียว และผมก็แน่ใจว่าต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผมด้วย เพราะฉะนั้นผมยิ่งต้องรับรู้เลยนะ? วิชญ์หันมายิ้มให้หญิงสาวขณะที่รถจอดติดไฟแดงอยู่

พิชญธิดามองออกไปทางหน้ารถบนท้องถนนที่คราคร่ำไปด้วยยวดยานพาหนะมากมายในยามเย็นของกรุงเทพมหานคร เมืองที่ดูวุ่นวายเหมือนจิตใจเธอตอนนี้ที่ไม่สงบเอาเสียเลย เธอไม่กล้าหันกลับมาสบตากับวิชญ์เพราะเธอไม่อยากให้เขาได้เห็นความรู้สึกผ่านทางดวงตาของเธอ ความรู้สึกที่สับสนปนน้อยใจในโชคชะตาของตนเองที่มี ?ความรักที่ต้องซ่อนเร้น? เธอคิดว่าเพียงคำพูดที่กำลังจะบอกก็คงพอเพียงให้เขาและเธอต้องทุกข์ทรมานมากอยู่แล้ว อย่าให้เขาได้เห็นดวงตาที่กำลังหวาดหวั่นกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึงอีกเลย แต่ในที่สุดพิชญธิดาก็สามารถรวบรวมความกล้าและกำลังใจ หญิงสาวจึงตัดสินใจพูดออกไปว่า

?อัณณ์กำลังคิดว่า.....ความรักของเรา......มันดูมืดมน ไม่แจ่มใส อัณณ์มองไม่เห็นจุดหมายปลายทางเลยค่ะ อัณณ์มองไม่เห็นอนาคตของเราที่จะมีร่วมกันเลย ทั้งมองไม่เห็นและก็ไม่กล้าวาดหวังด้วย รักเรา.....จะไปจบที่ตรงไหนคะ? วิชญ์นิ่งอึ้งคิดไม่ถึงว่าตัวเขาจะทำร้ายคนที่รักได้ถึงขนาดนี้ วิชญ์คิดไม่ตกว่าสิ่งที่เขาได้ทำลงไปนั้นจะส่งผลถึงพิชญธิดาขนาดนี้ สรุปว่าเขาทำถูกหรือไม่ ?นี่เขากำลังเห็นคนตายสำคัญกว่าคนเป็นหรือเปล่า?

?อัณณ์....? วิชญ์เอ่ยได้เพียงแค่นั้น เขายังคงจ้องเสี้ยวหน้าของคนรักที่ยังไม่ยอมหันมาสบตากับเขา เธอนิ่งจนเขาใจหาย เธอไม่ฟูมฟาย เธอเงียบเหมือนคนที่ตัดใจได้แล้ว เขากลัวจับใจ กลัวจะเสียเธอไป เขากลัวว่าเธอจะหันหน้ามาแล้วขอเดินไปจากเขา เขาไม่เคยหวาดหวั่นขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยคิดว่าผู้หญิงเพียงคนเดียวจะมีอิทธิพลกับเขาได้มากมายขนาดนี้ แต่สิ่งที่ได้เห็นตรงหน้ากลับตรงกันข้ามกับที่คิดไว้ พิชญธิดาหันใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มหวานมาหาเขาแล้วเอ่ยขึ้นว่า

?อัณณ์บอกคุณวิชญ์ไปแล้วนะคะ บอกไปแล้วว่าอัณณ์คิดยังไง พูดออกไปแล้วก็สบายใจขึ้นเยอะเลย? วิชญ์ตาพร่ากับรอยยิ้มสดใสของเธอ

?ขอบคุณครับที่อัณณ์บอกผมมาตรง ๆ งั้นผมขอถามอัณณ์ตรง ๆ เช่นกัน อัณณ์คิดจะไปจากผมบ้างไหม? วิชญ์กลั้นใจถามไปและรอฟังคำตอบ เขาตัดสินใจแล้วว่าจะให้ในสิ่งที่เธอต้องการแม้ว่ามันจะขัดกับความต้องการของเขาก็ตาม ?จากกันทั้ง ๆ ที่ยังรัก เขาคงแทบตายทั้งเป็น?

?ไม่ค่ะ อัณณ์ไม่เคยคิดแบบนั้น ไม่เคยอยากเลิกกับคุณ อัณณ์รักคุณ และพร้อมจะรับ ?มัน? อัณณ์เคยบอกคุณแล้ว อัณณ์ขอสัญญาจากคุณเพียงข้อเดียว ถ้าคุณให้อัณณ์ได้ อัณณ์ก็อดทนได้? พิชญธิดาตอบด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยวและมั่นใจกลับไปในทันที ?แกไม่มีทางเดินหันหลังไปจากคุณวิชญ์ได้หรอก เพราะแกรักเขาจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว ฉันพูดถูกไหมนังอัณณ์? คำพูดของวรปรัชญ์ยังดังก้องในหัวและหนักแน่นในหัวใจเธอ........หัวใจที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

?ขอบคุณครับ ผมก็รักคุณนะอัณณ์ รักที่ผมไม่เคยมีให้ใครมาก่อนเลยในชีวิตนี้ อัณณ์รู้ไหมผมกลัวแทบแย่ว่าคุณจะขอเลิก ถ้าเป็นแบบนั้นผมคงขาดใจตายแน่ ๆ? วิชญ์ดีใจ ดีใจที่เธอไม่ทิ้งเขาไปและดีใจมากขึ้นไปอีกที่เขาเลือกคนไม่ผิด พิชญธิดาเข้มแข็งกว่าที่เขาคิดไว้มาก เมื่อหายใจได้ทั่วท้องแล้ววิชญ์จึงเริ่มใช้ลูกอ้อนเพื่อเอาใจแฟนสาว

?อัณณ์ครับ ผมมีเพลง ๆ หนึ่งที่แทนความรู้สึกของผม และผมอยากให้อัณณ์ได้ฟัง เอ....ไม่ใช่สิ ผมว่ามันเป็นเรื่องของเราสองคนมากกว่า ไม่ใช่แค่ของคนใดคนหนึ่ง ลองฟังดูนะ ผมว่ามันคือเพลงของเราเลยล่ะ? วิชญ์ยืมมุข ?เพลงสื่อรัก? ของแฟนสาวมาใช้โดยไม่ขอลิขสิทธิ์ บทเพลงหวานจากซีดีค่อย ๆ บรรเลงขึ้น และยังคงบรรเลงอยู่อย่างนั้นหลายต่อหลายรอบจนวิชญ์พาพิชญธิดามาส่งถึงบ้าน

***บนโลกนี้มีคนเป็นล้านคน ทุกคนมีเป็นล้านใจ
ฉันก็ไม่ใช่ใคร ก็แค่คนหนึ่ง
โลกเราดูช่างกว้างใหญ่ ท้องฟ้าดูช่างกว้างไกล
เธอแปลกใจบ้างไหม
*มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจ มันเกิดขึ้นจริงจริงหรือฝันไป
การที่เรานั้นได้พบกันที่บนโลกนี้
ก็ไม่รู้จะพูดมันอย่างไรแต่หมดทั้งหัวใจที่ฉันมี ฉันเชื่อว่าสิ่งนี้...
คือเรื่องมหัศจรรย์ที่เราได้พบกัน
คือเรื่องมหัศจรรย์ที่ฉันได้รักเธอ
คือเรื่องมหัศจรรย์ที่สุดที่ฉันเคยได้เจอ....ฉัน
คือเรื่องมหัศจรรย์
วันที่ฉันบอกรักเธอเหมือนฉันได้เจอทุกสิ่ง
เหมือนฉันได้พบความจริงในหัวใจ
ฉันจะยืนอยู่ข้างเธอนับตั้งแต่นี้ไปและจะไม่ไปไหน (ซ้ำ *)
**คือเรื่องมหัศจรรย์ที่เราได้พบกัน
คือเรื่องมหัศจรรย์ฉันรักเธอ
คือเรื่องมหัศจรรย์ที่สุดที่ฉันเคยได้เจอ....ฉัน (ซ้ำ **)
คือเรื่องมหัศจรรย์
***เพลงคือเรื่องมหัศจรรย์ ศิลปิน โซฟา

พิชญธิดาร้องคลอตามไปด้วยเบา ๆ เพราะเป็นหนึ่งในเพลงโปรดของเธอ เธอเอื้อมมือไปดึงมือซ้ายของวิชญ์ออกมาจากพวงมาลัยแล้วกุมเอาไว้ พิชญธิดาหันไปร้องเพลงให้แฟนหนุ่มฟังด้วยน้ำเสียงหวานใสพร้อมดวงตาที่เปล่งประกายสกาวแวววาวในวรรคที่ว่า ?วันที่ฉันบอกรักเธอเหมือนฉันได้เจอทุกสิ่ง เหมือนฉันได้พบความจริงในหัวใจ ฉันจะยืนอยู่ข้างเธอนับตั้งแต่นี้ไปและจะไม่ไปไหน?

หนุ่มสาวทั้งสองถ่ายทอดความรักที่มีให้กันผ่านสัมผัสจากมือของทั้งคู่ ผ่านดวงตาที่มีไว้มองกันและกัน และผ่านใจที่ได้มอบไว้ให้กันและกันแล้ว โดยมีบทเพลงหวานซึ้งคอยถ่ายทอดเรื่องราวความรักของทั้งสองที่เรียงร้อยขึ้นมาอย่างน่ามหัศจรรย์มหัศจรรย์แห่งรัก...........อานุภาพของความรักช่างมหัศจรรย์ยิ่งนัก แต่มันจะมั่นคงดั่งภูผาแกร่งและยิ่งใหญ่ดั่งท้องนภาเพียงพอให้พวกเขาได้ก้าวผ่านช่วงเวลาแห่งความทุกข์ที่กำลังจะมาเยือนไปได้หรือไม่ แค่รักที่ถูกซ่อนเร้นไว้จะเพียงพอหรือไม่ วิชญ์และพิชญธิดาเท่านั้นที่จะตอบได้

************************

ขอคอมเม้นต์ด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”