ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 21 โดย....อาทิตา

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
athita
โพสต์: 41
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 11 เม.ย. 2009 11:15 pm

ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 21 โดย....อาทิตา

โพสต์ โดย athita »

มาแล้วจ้าตอนที่ 21 อ่านแล้วอย่าลืมช่วยเม้นต์ให้ด้วยนะคะ เม้นต์วันละนิด จิตแจ่มใส แต่ถ้าเม้นต์ได้ทุกวันแล้วล่ะก็ คนเขียนรักตายเลย ฮิ ฮิ ฮิ.......อาทิตา
ปล. ถ้าเม้นต์เยอะ ๆ จะอัพตอนที่ 22 เร็ว ๆ ตกลงไหมเอ่ย


ตอนที่ 21 ทางเดินแห่งรัก

คืนนั้นหลังจากที่ได้ปรับความเข้าใจกันแล้ว วิชญ์ก็พาแฟนสาวลงมาชั้นล่างเพื่อรับประทานอาหารที่วรปรัชญ์เป็นคนซื้อมาเมื่อช่วงหัวค่ำ แต่เมื่อลงมาถึงห้องอาหารปรากฎว่าอาหารเหล่านั้นถูกสองหนุ่มบอดี้การ์ดรวมทั้งคนซื้อจัดการเสียเรียบร้อยแล้วแทบทุกอย่าง เพราะใช้นโยบาย ?กินไปคุยไป? วิชญ์จึงต้องโทรไปสั่งอาหารอิตาเลี่ยนที่โรงแรมของตนเอง เพื่อเอาใจพิชญธิดาที่บ่นว่าอยากกินมากเนื่องจากมัวแต่ขังตัวเองอยู่ในบ้านมาหลายวันและต้องรับประทานเฉพาะอาหารกล่องสำเร็จรูป วิชญ์ให้ธีรวีร์ขับรถไปรับอาหารจากโรงแรมโดยให้แวะซื้อ ?เครื่องดื่มมีฟอง? ติดมือกลับมาด้วย

หลังจากหนังท้องอิ่มแล้ว ทุกคนก็มานั่งรวมกันอยู่ที่ชั้นสองของบ้านซึ่งเป็นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ โดยสามหนุ่มต่างก็จับจองพื้นที่อยู่หน้าจอทีวีเพื่อดูถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลรอบชิงชนะเลิศ ?ศึกแดงเดือด? ที่ส่งตรงมาจากประเทศอังกฤษโดยมี?เครื่องดื่มมีฟอง? เป็นตัวช่วยสร้างบรรยากาศให้คึกคักมากยิ่งขึ้น วิชญ์ที่ไม่ยอมกลับไปดูการถ่ายทอดสดที่คอนโดของตนเองซึ่งมีทีวีจอยักษ์รออยู่อ้างเหตุผลว่าอยากอยู่ใกล้ชิดกับแฟนสาวนาน ๆ ชดเชยที่ไม่ได้เจอหน้ากันเสียหลายวัน และแอบตกลงในใจอยู่คนเดียวว่าคืนนี้จะอยู่ที่นี่จนถึงเช้า

ระหว่างที่ทั้งสามหนุ่มกำลังสนุกสนานกับการชมการแข่งขันฟุตบอลนัดสำคัญอย่างออกรสออกชาติ เพราะมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเป็นสองข้าง กฤตธีที่เชียร์ทีมฝ่ายตรงข้ามกับของธีรวีร์และวิชญ์จึงเป็นฝ่ายเสียเปรียบเพราะถูก ?2 รุม 1? การดูบอลจึงเกือบจะได้เปลี่ยนเป็นการดูมวยนอกสนามแทนเพราะต่างฝ่ายต่างไม่ยอมลงให้กัน ต่างก็เชียร์ทีมที่ตัวเองชื่นชอบอย่างออกหน้าออกตา พิชญธิดาและวรปรัชญ์ที่ไม่อยากเป็นกรรมการห้ามมวยหมู่จึงชวนกันออกไปนั่งเล่นที่ชั้นสามแทนโดยปล่อยให้หนุ่ม ๆ สนุกและสำราญกันตามสบาย วิชญ์มองตามหลังแฟนสาวตาละห้อยเพราะอยากให้เธอมานั่งอยู่ข้าง ๆ มากกว่าเนื่องจากยังไม่หายคิดถึง แต่ก็เข้าใจว่าหญิงสาวยังรู้สึกสับสนกับเรื่องทั้งหมดที่ได้รับรู้จึงต้องปล่อยให้ไปพูดคุยกับวรปรัชญ์แทน เขาจึงโดนลูกน้องที่ได้รับ ?ฟอง? เข้าไปหลายกระป๋องแล้วแซวอย่างสนุกปาก

?ตกลงนายจะดูบอลหรือดูคุณอัณณ์กันแน่ครับ? เสียงของกฤตธีเริ่มก่อน เพราะยังขุ่น ๆ ที่ถูกรุมเรื่องฟุตบอล

?นั่นดิ ตอนกินข้าวก็นั่งจ้องจนคุณอัณณ์ที่บ่นว่าหิวเขินจนไม่กล้ากินเลย มองแบบไม่มีมารยาทเลยนะนั่น? ธีรวีร์ที่บัดนี้ใบหน้าเริ่มมีสีเลือดฝาดก็ไม่ยอมน้อยหน้า

?เออว่ะ แถมเอาอกเอาใจเป็นพิเศษ เหมือนพวกวัวสันหลังหวะเลยว่ะ? กฤตธีซ้ำเติมเข้าไปอีกโดยลืมดูเงาหัวตนเอง

?นี่ขนาดยังไม่แต่งนะโว้ยไอ้กฤต ยังกลัวซะขนาดนี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า? ธีรวีร์หัวเราะเสียงดังได้ไม่นานก็ต้องหยุดกึกเมื่อผู้เป็นนายสวนกลับมาบ้างทั้งสองคนจึงสงบปากสงบคำลงได้ในที่สุด เพราะนายเล่นสวนมาด้วย ?กระป๋องเครื่องดื่ม? แบบที่ยังมีอยู่เต็ม ๆ กระป๋องเสียด้วยสิ

************************

ในสวนน้อยลอยฟ้าของบ้าน วรปรัชญ์และพิชญธิดาต่างถ่ายทอดเรื่องราวที่ได้รับรู้มาให้กันและกันฟังตามนิสัยของหญิงสาวที่มัก ?เช็คข่าว? ของกันและกันว่าข้อมูลตรงกันหรือไม่

?คุณกฤตบอกฉันว่าคุณวิชญ์เพิ่งรู้เรื่องนี้ก็ตอนที่ไปเชียงใหม่ครั้งล่าสุดกับแกนั่นแหละ?

?เหรอ งั้นก็เมื่อไม่นานมานี้นี่เอง มิน่าล่ะ ช่วงแรก ๆ ที่เขาเจอกับคุณญาดาเขาถึงเฉย ๆ ไม่สนใจอะไรเลย แต่พอกลับมาจากเชียงใหม่ก็เปลี่ยนไป? พิชญธิดาตั้งข้อสังเกต

?อือ คุณกฤตกับคุณวีร์บอกว่าทั้งหมดนั่นเป็นแผนการของนายเขา แผนการล้างแค้นนะ ไม่ใช่แผนการจีบ?

?ปรัชญ์ แกว่าที่เขาเล่าเรามาเป็นเรื่องจริงไหม ทำไมมันถึงน้ำเน่าแบบนี้ล่ะแก?

?อ้าว แกไม่รู้เหรอว่าชีวิตคนเราน่ะน้ำเน่ากว่าในละครซะอีกนะ ยิ่งเรื่องของแกน่ะน้ำเน่าสุด ๆ เริ่มเน่าตั้งแต่ครั้งแรกที่แกได้เจอกับคุณวิชญ์แล้วล่ะ แกว่าไม่น้ำเน่าเหรอ ที่ปิ๊งกันตั้งแต่ในลิฟต์น่ะ แถมนางเอกยังสะเหล่อทะเล่อทะล่าเข้าไปในลิฟต์ผู้บริหารโดยไม่ดูตาม้าตาเรืออีกน่ะ?

?นี่แกหยุดพูดเล่นก่อนได้ไหม คนยิ่งเครียด ๆ อยู่นะ? พิชญธิดาปรามปากเพื่อนเพราะนึกอายกับความซุ่มซ่ามของตนเอง

?แกเครียดเรื่องอะไรล่ะ เรื่องที่เขาไม่รักแก หรือเรื่องที่แกไม่รักเขาแล้ว.......เห็นไหมแกก็ตอบฉันไม่ได้ เพราะแกทั้งสองคนยังรักกันดีอยู่ ในเมื่อยังรักกันแล้วแกจะเครียดไปทำไมล่ะ? วรปรัชญ์ใช้ความจริงง่าย ๆ มาสรุปให้เพื่อนสาวฟัง

?ปรัชญ์ แล้วแกว่าฉันควรจะทำยังไงดี ฉันกลัวน่ะ ไม่อยากเจ็บอีก? พิชญธิดาที่แม้ว่าจะเห็นด้วยและคล้อยตามกับวรปรัชญ์แต่ก็อดที่จะลังเลไม่ได้จึงถามความเห็นเพื่อนสนิทอีกครั้ง

?แกจะมาถามฉันได้ไง แกต้องถามใจแกเองสิ แกยังรักยังชอบเขาไหมล่ะ แกเข้าใจสาเหตุของเรื่องนี้ไหม และที่สำคัญแกรับได้ไหมหากว่าจะต้องเห็นภาพบาดตาบาดใจที่มันคอยทิ่มแทงหัวใจแกน่ะ หรือแกจะเอาวิธีนี้ล่ะ ให้แกไปบอกคุณวิชญ์ว่าแกขอถอยออกมาตั้งหลักก่อน ห่างกันสักพัก ให้เขาจัดการแก้แค้นอะไรนั่นให้เสร็จเรียบร้อยแล้วค่อยกลับมาคบกันใหม่ เอาแบบนี้ไหมล่ะ?

พิชญธิดาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะตอบวรปรัชญ์ไปอย่างไม่อายว่า

?ฉันรักเขานะปรัชญ์ เขาเป็นรักแรก และฉันก็คงเลิกรักเขาไม่ได้ แกจะให้ฉันถอยออกมาตั้งหลักเหรอ ถ้ามันถอยออกมาได้ง่าย ๆ ฉันคงไม่อยู่ในสภาพนี้หรอก พูดง่ายแต่ทำยาก ถ้าจะให้ถอยสู้เลิกไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ จะได้เจ็บแค่ครั้งเดียว แต่ถ้าไม่ถอยฉันก็ไม่รู้ว่าจะทนได้สักแค่ไหนที่จะต้องมาเห็นภาพบาดตาบาดใจอย่างที่แกว่า ต้องมาทนเห็นเขาสองคนสนิทสนมใกล้ชิดกันถึงแม้จะรู้ว่าเป็นการแสดงละครตบตาของเขาก็เถอะ ใครจะไปทนได้อ่ะ แฟนเราทั้งคน นี่ปรัชญ์แกรู้ไหมคุณวิชญ์เขายังสัญญากับฉันด้วยนะว่าจะไม่มีอะไรกับคุณญาดานั่นอย่างเด็ดขาด?

?เชื่อได้หรือนังอัณณ์ นั่นน่ะ ฝากปลาย่างไว้กับแมว น้ำตาลใกล้มด เนื้อเข้าปากเสือ อ้อยเข้าปากช้างเลยนะ มันจะเหลือเหรอ แม่นั่นก็กระดังงาลนไฟดี ๆ นี่เอง ส่วนคุณวิชญ์ก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนเสียด้วยสิ? วรปรัชญ์พูดไปตามหลักความจริงที่เป็นเรื่องธรรมชาติระหว่างชายหญิงที่ต้องใกล้ชิดผูกพันกัน เมื่อเห็นพิชญธิดายังไม่เปรยอะไรออกมา เขาจึงพูดต่อว่า

?คำสัญญาลมปากนั่นจะเชื่อได้หรืออัณณ์ ฉันไม่ได้เป็นบ่างช่างยุให้แกเลิกกันนะ แต่ฉันอยากให้แกคิดให้รอบคอบ คนเราเจ็บแล้วต้องจำ ขนาดเป็นแค่เจ็บหลอก ๆ แกยังจวนเจียนตายซะขนาดนี้ นี่ถ้าไปเจอของจริงเข้า แกมิกระอักเลือดตายตั้งแต่นาทีแรกเลยเหรอ แกลองคิดเผื่อเอาไว้บ้างนะ? วรปรัชญ์พูดไปด้วยความหวังดีที่มีให้เพื่อน ถึงแม้จะทำให้ผู้ฟังถึงกับออกอาการสะอึกและชะงักงันทันทีก็ตาม

?แต่ถ้าไม่เชื่อก็จะทุกข์มากไปกว่านี้อีก เพราะต้องอยู่กับความหวาดระแวง ความไม่ไว้ใจกัน ฉันควรทำยังไงดีล่ะปรัชญ์ แกช่วยฉันคิดหน่อยสิ ถ้าเป็นแกล่ะแกจะทำยังไง?

?อย่าให้ฉันตอบเลยนะอัณณ์ เพราะฉันรู้ดีว่าแกมีคำตอบอยู่แล้ว ที่ฉันต้องแจงสี่เบี้ยมาทั้งหมดนี่ ก็เพราะอยากให้แกคิดได้เอง ฉันบอกทั้งทางบวกและทางลบให้แกแล้ว สุดท้ายแกก็ต้องเป็นคนเลือกเพราะแกต้องเป็นคนรับผลที่ตามมา ไม่ใช่ฉัน ฉันจะเป็นแค่คนที่อยู่ข้าง ๆ แกได้เท่านั้นเองนะอัณณ์? เมื่อเห็นหน้าตาหนักอกหนักใจของเพื่อนสาวแล้ว วรปรัชญ์จึงต้องพูดต่ออีกว่า

?อัณณ์ ถ้าแกยังคิดไม่ตกนะ เอ้า! ฉันจะบอกต่อให้อีกหน่อยว่า จะทำอะไรก็ทำไปเถอะ ถ้าทำแล้วชีวิตแกมีความสุขน่ะ ก็ทำไปเลย ชีวิตของแกแกต้องเลือกทางเดินเอง อย่าไปอยู่เพื่อวันพรุ่งนี้ เพราะไม่รู้มันจะมาถึงหรือเปล่า ยิ่งโลกเราทุกวันนี้มักมีอะไรแปลก ๆ เกิดขึ้นได้เสมอ เอาวันนี้ให้คุ้มเสียก่อน ให้สุขเต็มที่เสียก่อน ถ้าวันนี้มีความสุข พรุ่งนี้แกก็อยากจะอยู่มีชีวิตต่อไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าวันนี้แห้งเหี่ยวหัวโต พรุ่งนี้ก็ไม่มีความหมาย อย่างน้อยถ้าแกเคยมีความสุข แกก็จะมีความทรงจำที่ดีนะ?

?ปรัชญ์ขอบใจแกมากนะ แกช่วยให้ฉันตัดสินใจอะไร ๆ ได้ง่ายขึ้นเยอะเลย? พิชญธิดายิ้มออกในที่สุด ?ใช่ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ต้องทำให้วันนี้ให้มีความสุข ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรก็ตาม?

?ใครบอกว่าแกเพิ่งตัดสินใจได้ย่ะ แกไม่รู้ตัวแกเองต่างหากล่ะว่าแกน่ะมีคำตอบอยู่ในใจตั้งนานแล้ว แค่แกได้เห็นหน้าคุณวิชญ์น่ะแกยังเนื้อเต้นเสียขนาดนี้ ดวงตาที่หมองเศร้าก็เป็นประกายขึ้นมาทันทีทันใด คนอื่นเขาอาจจะมองไม่เห็นหรือไม่ทันสังเกต แต่สองสามวันมานี่ฉันเห็นแต่ดวงตาเศร้าสร้อยหมองหม่นของแกตลอดเวลา เพราะฉะนั้นถึงมันจะแค่แวบเดียวฉันก็ยังเห็นนะว่าแกแอบดีใจมากขนาดไหนที่เขาตามมาง้อน่ะ แกไม่มีทางเดินหันหลังไปจากคุณวิชญ์ได้หรอก เพราะแกรักเขาจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว ฉันพูดถูกไหมนังอัณณ์? นักปราชญ์ทางด้านความรักอย่างวรปรัชญ์วิเคราะห์ได้ตรงประเด็นอีกตามเคย

ส่วนพิชญธิดานั้นนิ่งงันเหมือนถูกสาปเพราะวรปรัชญ์พูดราวกับเป็นเจ้าของหัวใจดวงนี้เสียเอง

************************

กว่าเพื่อนสนิททั้งสองจะกลับลงมาจากชั้นสองของตัวบ้าน การแข่งขันฟุตบอลก็ใกล้จะจบเต็มทีแล้ว ซึ่ง ?หงส์แดง? ทีมของวิชญ์และธีรวีร์นั้นกำลังนำทีม ?ปีศาจแดง? ของกฤตธีอยู่หนึ่งลูก หน้าตาของกฤตธีจึงงอง้ำใกล้เคียงตัวเดินหมากรุกเข้าไปทุกที

วิชญ์รีบพยักหน้าให้พิชญธิดามานั่งข้างตัวอย่างมีความสุข สุขแรกที่บอลฝ่ายตนกำลังจะชนะ และสุขที่สองที่ได้เห็นสีหน้าของแฟนสาวยิ้มแย้มสดใสกว่าเดิม คืนนั้นกว่าวิชญ์และลูกน้องทั้งสองจะยอมกลับไปพักผ่อนที่คอนโดก็ปาเข้าไปเกือบเช้าของวันใหม่แล้ว เพราะวิชญ์และธีรวีร์มัวฉลองชัยชนะของทีมที่ตนเองถือหางอยู่ ส่วนกฤตธีก็ต้องร่วมฉลองเคล้าน้ำตาไปด้วยอย่างจำยอม ก่อนจะกลับวิชญ์ได้ลากตัวแฟนสาวออกมาพูดคุยกันตามลำพังอีกครั้ง เขาบอกกับแฟนสาวว่าอนุญาตให้เธอหยุดงานได้อีกเพียงหนึ่งวันเท่านั้น เพราะเขาทำงานไม่มีความสุขเลยที่ไม่ได้เห็นหน้าเลขาฯคนสวย

?จริง ๆ ยังไม่อยากกลับไปเลย คืนนี้ขอนอนที่นี่ด้วยคนได้ไหมครับ นะ นะ? วิชญ์ส่งสายตากรุ้มกริ่มมาให้แฟนสาว

?เพี๊ยะ! ทะลึ่ง ลามก?

?โอ๊ย! อัณณ์คิดอะไรครับ ผมหมายถึงนอนอย่างเดียวครับ นอนกอดเฉย ๆ เอง ไม่ทำอะไรหรอกสาบานเลยเอ้า แต่ถ้าเกิดทำขึ้นมา........ก็พร้อมจะรับผิดชอบเต็มที่? วิชญ์ยังยั่วต่อเพราะชอบดูหน้าตาเวลาที่พิชญธิดาโกรธ ตาโตวิบวับเอาเรื่อง

?เพี๊ยะ! ถ้ายังไม่หยุด เดี๋ยวจะเปลี่ยนจากตีเป็นต่อยแล้วนะ? เสียงขู่หวาน ๆ มีหรือที่คนตัวโตกว่าจะกลัว

?ไม่ได้เหรอครับ ใจร้ายจัง ทีอัณณ์ไปนอนบ้านผมยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย นะครับ ผมยังไม่หายคิดถึงอัณณ์เลยนะ ยังไม่อยากกลับเลย เรานอนคุยกันเฉย ๆ เพราะผมอยากรู้ว่าสองสามวันมานี่อัณณ์ทำอะไรบ้างก็แค่นั้นเอง ถ้าอัณณ์ตกลงเดี๋ยวจะให้เจ้าสองคนนั้นกลับไปก่อน โอเคไหมครับ? วิชญ์ถามอย่างกระตือรือร้น ?เผื่อฟลุ๊ค?

?ไม่....ได้....ค่ะ....ไม่ต้องเซ้าซี้แล้วด้วยยังไงก็ไม่เปลี่ยนใจหรอก กลับไปนอนคอนโดคุณนั่นแหละดีแล้ว ไปเลยไป กลับไปได้แล้วอัณณ์ก็จะนอนแล้ว ง่วงจะแย่แล้ว? เสียงตอบช้า ๆ ชัด ๆ ได้ยินเต็มสองหู

?งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เย็น ๆ ผมจะแวะมาหานะครับ จะพาแฟนไปทานอาหารเย็นแถวบางแสนซะหน่อย คิดเมนูไว้ด้วยนะครับว่าอยากทานอะไร? วิชญ์บอกกับพิชญธิดาที่กำลังปิดปากหาวเพราะอาการง่วงนอน เมื่อเห็นดังนั้นเขาจึงรีบฉวยโอกาสตอนที่เธอเผลอรวบเอวบางของแฟนสาวเข้ามากอดไว้ หญิงสาวไม่ได้ขัดขืนเพียงแต่ยกมือยันหน้าอกเขาไว้แค่นั้น

?ค่ะ เจอกันตอนเย็นนะคะ แล้ววันนี้จะไปทำงานไหวเหรอคะ? พิชญธิดาถามด้วยความเป็นห่วงเพราะตอนนี้ก็เลยวันใหม่มาหลายชั่วโมงแล้ว

?คงจะเข้าไปเซ็นเอกสารช่วงบ่าย ๆ แค่นั้นล่ะครับ สองสามวันมานี่ไม่รู้เป็นอะไร ไม่ค่อยอยากไปทำงาน สงสัยเพราะเลขาฯไม่อยู่เลยไม่มีกะจิตกะใจจะไปทำงาน อัณณ์น่ะห้ามเกงานแบบนี้อีกนะครับ รู้ไหมเจ้านายใจจะขาด? วิชญ์หยอดคำหวาน เมื่อเห็นพิชญธิดาอายแก้มแดง เขาจึงพูดต่อว่า

?อัณณ์ครับ มีอีกอย่างหนึ่ง ผมขอสัญญาจากอัณณ์สักข้อได้ไหม? วิชญ์ออดอ้อนด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน

?สัญญาอะไรล่ะคะ ถ้าให้ได้ก็จะให้? พิชญธิดาเงยหน้าขึ้นสบตาและรอฟังคำขอจากเขา

?ผมขอแค่เพียงต่อไปถ้ามีอะไรเกิดขึ้นอีก ขอแค่ให้เราได้พูดคุยกันก่อนจะได้ไหม อย่าเล่นหลบหน้าหนีหายกันแบบนี้ อย่าวู่วาม เราต้องพูดต้องเคลียร์กันก่อน รู้ไหมว่าผมทุรนทุรายแค่ไหนที่ติดต่ออัณณ์ไม่ได้เลยน่ะ ผมห่วงไปหมด กลัวว่าอัณณ์จะเป็นอะไร อย่าทำแบบนี้อีกนะ ผมขอแค่นี้เองให้ผมได้ไหมครับ? ดวงตาคมเข้มแสดงความห่วงหาอาทรไม่น้อยไปกว่าน้ำเสียงออดอ้อนของเจ้าของ

?ก็คุณไม่ยอมบอกอัณณ์ตั้งแต่แรกเองนี่คะ ถ้าอัณณ์รู้เรื่องราวทั้งหมดเสียก่อน อัณณ์ก็ไม่เข้าใจผิดแบบนี้หรอกค่ะ?

?โอเคครับ ตอนนี้อัณณ์รับรู้หมดแล้วนะ ผมไม่มีอะไรปิดบังอัณณ์อีกแล้ว สัญญาได้ไหมว่ามีอะไรเราจะคุยกันก่อน ไม่หุนหันคิดทึกทักเอาเอง?

?ถ้าคุณวิชญ์รักษาสัญญาที่ให้กับอัณณ์ได้ อัณณ์ก็จะรับปากคุณค่ะ?

?สัญญาอะไรหรือครับ ผมไปสัญญาอะไรกับอัณณ์ไว้ ผมนึกไม่ออกแฮะ? วิชญ์แกล้งยั่วแฟนสาวเพราะอยากเห็นแก้มป่องพองลมของเธอก่อนกลับไปนอนหลับฝันดี แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับเป็นรอยบิดแดง ๆ ตรงแขนของเขาแทน พร้อมกับคำพูดที่ว่า

?นี่แน่ะ ทำเป็นจำไม่ได้นะ ก็สัญญาที่คุณอนุญาตให้อัณณ์มีกิ๊กได้สองคนไงคะ เอ...จะใช่ชื่อกฤตธีกับธีรวีร์หรือเปล่าน้า หรือจะเป็นคุณธรนพเจ้าของโรงแรมที่ภูเก็ตดี ว้า คุณพีรภาสหุ้นส่วนคนใหม่ของคุณก็หน้าตาไม่เลวนะ แล้วอีกคนที่เป็นเจ้าของร้านอาหารอิตาเลี่ยนอีกล่ะ โอ๊ยตายแล้ว! เลือกไม่ถูกเลยอ่ะ วิชญ์คะช่วยอัณณ์เลือกหน่อยสิคะ คุณวิชญ์ว่าเอาคนไหนดีน้าที่ทั้งหล่อทั้งรวยน่ะ อัณณ์ชักรักพี่เสียดายน้องแล้วซะแล้วสิ? หญิงสาวลอยหน้าลอยตาท้าทายแฟนหนุ่มที่หน้าเริ่มบึ้งตึงเมื่อถูกยั่วโมโหกลับคืนบ้าง

?อัณณ์ครับ ไม่ตลกเลยนะ? วิชญ์บีบจมูกแฟนสาวแรง ๆ ไปหนึ่งครั้ง

?ผมนี่แหละที่ทั้งหล่อทั้งรวยน่ะ แถมรักอัณณ์คนเดียวอีกต่างหาก ไม่มีใครดีกว่านี้อีกแล้ว หาดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้วครับ? เมื่อถูกเอาคืนวิชญ์ก็เลยออกอาการงอนบ้าง แต่พอเห็นแฟนสาวหัวเราะเยาะใส่วิชญ์ก็ไม่ยอมเสียเปรียบ ชายหนุ่มรีบฉกหอมแก้มนิ่มไปทั้งสองข้างอย่างรวดเร็วเพราะหมั่นไส้แฟนสาวที่ยังหัวเราะถูกอกถูกใจไม่ยอมหยุด ?ผู้ชายอะไรเวลางอนน่ารักดีแฮะ?

?ทีนี้จำได้หรือยังล่ะคะว่าสัญญาอะไรไว้กับอัณณ์น่ะ? ดวงตาโตทอแสงแวววาวบนใบหน้างามถามอย่างเอาเรื่อง

?จำได้เสมอล่ะครับ ผมจำได้ว่าบอกกับอัณณ์ว่า จะรักอัณณ์คนนี้คนเดียวไม่แลเหลียวมองใครอีกเลย โอเคพอใจหรือยังครับทูนหัว? วิชญ์แปลกใจที่วันนี้หญิงสาวที่ไม่มีทีท่าจะหวงห้ามแก้มนุ่มเนียนจากเขาเลย เพราะวิชญ์ไม่รู้นั่นเองว่าพิชญธิดาเริ่มใช้นโยบาย ?ทำให้วันนี้ให้มีความสุข? แล้ว ชายหนุ่มเลยได้ใจแถมให้อีกสองฟอดไปฟรี ๆ

?ยังค่ะ ยังพูดไม่หมดเลย อย่าลืมสัญญาอีกข้อสิคะ ข้อนี้สำคัญมากเสียด้วยสิ? พิชญธิดาหยุดเว้นวรรคก่อนที่จะกล่าวเน้นเสียงว่า

?อย่าลืมที่คุณพูดเองว่า คุณจะไม่แตะต้องผู้หญิงคนนั้นอย่างเด็ดขาด สัญญานะคะ ถ้าคุณผิดสัญญานะ อัณณ์จะหนีไปให้ไกล ๆ เลย คุณจะไม่ได้เห็นหน้าอัณณ์อีกเลยตลอดชีวิตนี้? น้ำเสียงที่ฟังดูหนักแน่นของหญิงสาวในอ้อมกอดทำให้วิชญ์ต้องหยุดทะเล้น แล้วจึงกล่าวคำสัญญาออกมาว่า

?ผมนายวิชญ์ นิมมานรดี สัญญาครับว่าจะไม่มีอะไรล่วงเกินกับผู้หญิงที่ชื่อ ญาดา พัฒนไพศาล อย่างเด็ดขาด? วิชญ์พูดเสร็จก็ยักคิ้วให้หญิงสาวด้วยแววตาระยิบระยับเหมือนจะถามว่า ?พอใจหรือยังครับ?

?คนอื่น ๆ ก็ไม่ได้ค่ะ? เสียงหญิงสาวแหววขึ้นมาทันทีเพราะรู้ดีว่าชายหนุ่มฉายาเพลย์บอยคนนี้นั้น ?ลื่น? ขนาดไหน แล้วจึงขู่สำทับไปอีกว่า

?ถ้ารู้หรือจับได้นะ อัณณ์จะฟ้องคุณลุงกับคุณป้าให้จัดการขั้นเด็ดขาด ไม่เชื่อก็คอยดูสิ?

?ครับคุณแม่ เอ๊ย! ไม่ใช่ แม่คุณทูนหัวต่างหาก ผมรักอัณณ์หมดใจเสียขนาดนี้แล้วจะไปเหลียวมองคนอื่นทำไมให้เสียเวลาล่ะ ใช่ไหมครับคนสวย ผมให้สัญญาคุณไปแล้วนะงั้นตอนนี้ขอมัดจำค่าสัญญาหน่อยนะครับ? พูดจบวิชญ์ก็ใช้มือข้างหนึ่งประคองท้ายทอยของหญิงสาวให้ตั้งมั่น แล้วจึงรีบมอบจุมพิตหวานซาบซ่านให้พิชญธิดาทันที เพราะขืนชักช้าเดี๋ยวแม่คุณคงโวยวายและไม่ยินยอมขึ้นมาอีก เขาจึงจำเป็นจะต้องรีบ ?ปิดปาก? เธอเสียโดยเร็ว และคงจะไม่ยอมหยุดง่าย ๆ หากไม่มีเสียงมารผจญมาขัดจังหวะขึ้น

?ตกลงจะกลับไปนอนไหมครับนาย พวกผมง่วงจะตายอยู่แล้วนะครับ ถ้าไม่กลับพวกผมจะได้กลับก่อน ไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อแล้วเพราะมดมันเยอะ? ธีรวีร์เริ่มก่อนในรอบนี้

?ไอ้วีร์ นายเราขี้โกงนี่หว่า เวลากินข้าวก็กินเหมือน ๆ กัน แต่พอเป็นของหวาน ตัวเองแอบหนีมากินอยู่คนเดียวว่ะ ไม่แบ่งกันเลย ใช้ไม่ได้เนอะไอ้วีร์ แกว่าไหม? กฤตธีร่วมผสมโรงตามระเบียบ

?เอาไหมล่ะของหวานน่ะ จะแบ่งให้เท่า ๆ กันเลย ของแกไอ้วีร์เอาเท้าซ้ายไป ส่วนแกไอ้กฤตพิเศษหน่อย ส่วนแบ่งต้องชิ้นใหญ่กว่า เอาเท้าขวาของฉันไป ข้างถนัดเสียด้วย? วิชญ์รีบออกโรงสวนกลับเพราะคนในอ้อมแขนอายจนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว ได้แต่ซุกหน้าเข้าหาอกเขา ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองไอ้พวก ?ปากไม่มีหูรูด? เมื่อเห็นเจ้าสองคนนั่นรีบเผ่นหลบไปแล้ว วิชญ์จึงกระซิบข้างหูแม่ยอดยาหยีของเขาว่า

?เดี๋ยวผมจัดการมันสองคนให้ ข้อหามาแซวจนแฟนผมอายหน้าแดงหมดแล้ว แต่พวกมันก็พูดกันถูกนะเพราะ ?หวาน? จริง ๆ หวานจนอยากกินอีก?

************************

สองอาทิตย์ถัดมา

วันนี้วิชญ์มีนัดทานข้าวกลางวันกับหุ้นส่วนคนใหม่ พีรภาส ตั้งเจริญกุล ที่จะเข้ามาคุยรายละเอียดของโครงการที่ตกลงเซ็นสัญญาทำร่วมกันแล้ว วิชญ์เลือกใช้การรับประทานอาหารพร้อมกับพูดคุยธุรกิจเพราะโครงการนี้ไม่มีปัญหาให้หนักใจ ข้อตกลงก็เป็นไปด้วยดีกันทั้งสองฝ่าย ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ วันนี้เขาจึงอยากคุยแบบสบาย ๆ มากกว่าการนั่งหารือในห้องประชุม แต่ระหว่างที่รอให้ถึงเวลานัดหมายอยู่นั้น ในช่วงสายกลับมีแขกที่ไม่ได้นัดไว้ล่วงหน้าโผล่มา แขกที่มาให้พิชญธิดาได้ทดสอบความแข็งแกร่งของหัวใจอีกครั้ง

?สวัสดีค่ะ คุณญาดา? พิชญธิดายิ้มทักทายให้แขกสาวคนสวยที่มาในชุดกระโปรงสายเดี่ยวสีน้ำตาลอ่อน ที่ทำให้ผู้สวมใส่ดูผิวพรรณผ่องผุดผาดเป็นพิเศษ โดยเฉพาะหญิงสาวตรงหน้าที่มีสีผิวขาวจัดคนหนึ่ง

?สวัสดีค่ะคุณอัณณ์ คุณวิชญ์อยู่ไหมคะ?

?อยู่ค่ะ กำลังเซ็นเอกสารค่ะ คุณญาดามีธุระอะไรหรือเปล่าคะ คือ อัณณ์เห็นว่าไม่ได้นัดไว้น่ะค่ะ?

?ก็.....มาคุยเรื่องงานน่ะค่ะ? เลขาฯหน้าห้องมองแขกผู้มาเยือนที่มีเพียงกระเป๋าสะพายใบเล็กติดตัวมาเท่านั้น ?นี่นะ จะมาคุยงาน?

?แต่อัณณ์ยังไม่ได้เตรียมเอกสารให้คุณวิชญ์เลยค่ะ เพราะไม่ทราบว่าคุณญาดาจะมาพบวันนี้? พิชญธิดาจ้องมองปฎิกิริยาของคนต่างหน้าว่าจะทำอย่างไรต่อไป

?ไม่เป็นไรค่ะ ระดับด้าแล้วไม่ต้องใช้เอกสารหรอกค่ะ ทุกเรื่องถูกบันทึกอยู่ในนี้หมดแล้ว? ญาดาอวดโทรศัพท์มือถือที่ใช้เป็นสมุดบันทึกไปในตัวให้พิชญธิดาดู ?แก้ตัวไปน้ำขุ่น ๆ?

?เอาเป็นว่ารบกวนคุณอัณณ์แจ้งคุณวิชญ์เถอะค่ะว่าด้ามาขอพบ รับรองพอรู้ว่าเป็นด้าคุณวิชญ์ไม่ต่อว่าคุณหรอกค่ะ ถ้ามีอะไรด้ารับผิดชอบเอง? ญาดาบอกออกมาอย่างมั่นใจในเสน่ห์ของตนเอง

?ได้ค่ะ เชิญนั่งรอสักครู่นะคะ? พิชญธิดายกหูโทรศัพท์ก่อนที่จะหันไปสบตากับธีรวีร์ที่กำลังส่งสายตาให้กำลังใจมายังเธอ

************************

หลังจากส่งญาดาเข้าไปพบกับวิชญ์เป็นเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงครึ่งแล้ว พีรภาสก็เดินทางมาถึงพร้อมกับผู้ช่วยหนุ่มอีกคนที่เขาแนะนำกับธีรวีร์และพิชญธิดาว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขา ประวีณ ตั้งเจริญกุล ซึ่งจะมาเป็นผู้จัดการโรงแรมที่กำลังจะก่อสร้างในเร็ว ๆ นี้ พิชญธิดาเชิญทั้งสองหนุ่มนั่งรอสักครู่ แล้วจึงลุกไปสั่งให้แม่บ้านนำเครื่องดื่มมารับรองแขก ระหว่างนั้นธีรวีร์ก็อาสาจะโทรศัพท์เข้าไปแจ้งให้เจ้านายทราบเองโดยผ่านทางกฤตธี

?กฤต เรียนนายด้วยว่าคุณพีรภาสมาถึงแล้ว? ธีรวีร์แจ้งข้อมูลให้คู่หูทราบ ก่อนที่จะบอกต่อว่า

?นายยังคุยธุระไม่เสร็จอีกหรือวะ คุยอะไรวะตั้งนานสองนาน เดี๋ยวก็เป็นเรื่องอีกหรอก?

?เออกฤต นี่ฉันกับคุณอัณณ์จะพาคุณพีรภาสไปรอที่ห้องอาหาร ?ฮานอย? ก่อนนะ เพราะอีก 10 นาทีก็เที่ยงแล้ว แกบอกนายด้วยล่ะ เดี๋ยวจะลงไปสั่งอาหารรอไว้ก่อน รีบตามไปแล้วกัน? เมื่อวางโทรศัพท์แล้วธีรวีร์จึงเชิญแขกทั้งสองรวมทั้งพิชญธิดาให้ไปรอนายที่ห้องอาหารเวียดนามของโรงแรมก่อนได้เลย เพราะนายยังคุยธุระกับแขกสาวไม่เสร็จ ระหว่างที่เดินไปยังลิฟต์นั้นธีรวีร์ก็หันมาพูดกับพิชญธิดาเบา ๆ พอได้ยินกันสองคนว่า

?เห็นไอ้กฤตบอกว่า สงสัยเขาจะตามมากินข้าวกับเราด้วยนะครับ เพราะนายเอ่ยปากชวนแล้ว คุณอัณณ์รับมือไหวไหมครับ?

?ถ้าไม่ไหว จะรีบเอสโอเอสขอความช่วยเหลือจากคุณวีร์แล้วกันนะคะ? พิชญธิดายิ้มให้อย่างสดใส เพราะไม่รู้สึกหวาดหวั่นแต่อย่างใดเนื่องจากเตรียมตัวเตรียมใจมาแล้ว แถมที่นี่ก็เป็นถิ่นเธอด้วย ?คงไม่แพ้ในบ้านตัวเองหรอกนะ?

************************

ส่วนกฤตธีเมื่อวางโทรศัพท์จากธีรวีร์เรียบร้อยแล้ว ก็หันมารายงานผู้เป็นนายว่า

?นายครับ วีร์มันบอกว่าคุณพีรภาสมาถึงแล้วครับ และตอนนี้มันกับคุณทูนกำลังจะพาคุณพีรภาสไปรอที่ห้องอาหาร ?ฮานอย? เลยนะครับ? กฤตธีไม่แปลกใจเลยที่ได้เห็นสายตางงงันแกมสงสัยของนายเมื่อได้ยินเขาเอ่ยชื่อ ?คุณทูน? ดังนั้นระหว่างที่กำลังจะออกจากห้องทำงานโดยชายหนุ่มทั้งสองปล่อยให้ญาดาที่กำลังพูดโทรศัพท์มือถือเดินนำไปที่ลิฟต์ก่อน วิชญ์จึงรีบคว้าข้อมือของกฤตธีแล้วถามว่า ?คุณทูน? คือใคร

?อ้าว นายไม่รู้จัก ?คุณทูน? จริงหรือครับ? กฤตธีกระหยิ่มยิ้มย่องที่ได้แกล้งนาย

?ใครวะ ฉันไม่เคยรู้จักหรอก? วิชญ์ยังไม่รู้ตัวว่าได้พลาดท่าเสียทีให้ลูกน้องคนสนิทเสียแล้ว

?เอ...แต่ผมเห็นนี่นาว่านายเรียกคุณอัณณ์ว่า ?คุณทูน? น่ะ? กฤตธีหันมาจ้องหน้านายแล้วทำแกล้งคิ้วขมวด ก่อนที่จะให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า

?เมื่อวานตอนที่ไปส่งคุณอัณณ์ที่บ้าน ผมก็เห็นนายยังเรียกคุณอัณณ์ว่า ?คุณทูน? อยู่เลยนะครับ?

?เรียกตอนไหนวะ แกฟังผิดหรือเปล่า จากอัณณ์จะไปเป็นทูนได้ไงวะ? วิชญ์ยังตามลูกล่อลูกชนของลูกน้องตัวแสบไม่ทัน

?อ้าวก็ผมเห็นนายเรียกคุณอัณณ์อยู่นั้นแหละว่า ?ทูนหัวจ๊ะ ทูนหัวจ๋า? ฮ่า ฮ่า ฮ่า? กฤตธีปล่อยให้วิชญ์ยืนอึ้งอยู่คนเดียวพร้อมรอยยิ้มที่ระบายเต็มหน้าเจ้านายหนุ่มเมื่อนึกถึง ?ทูนหัว? ของเขาจนลืมสำเร็จโทษกฤตธี

************************


ขอคอมเม้นต์ด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”