ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 20 โดย....อาทิตา

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
athita
โพสต์: 41
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 11 เม.ย. 2009 11:15 pm

ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 20 โดย....อาทิตา

โพสต์ โดย athita »

มาแล้วค่ะ ขอโทษทีที่รอบนี้ช้าไปนิด ช่วงนี้งานประจำเยอะจริง ๆ ค่ะ เอาเป็นว่าถ้าคอมเม้นต์เยอะก็จะอัพให้เร็วขึ้นแล้วกันนะคะ ยังไงก็ฝากผลงานอีกเรื่องด้วยค่ะ The Final Love รักครั้งสุดท้าย ครั้งสุดท้ายที่จะรัก ขอกำลังใจจากทั้งสองเรื่องเลยนะคะ......ขอบคุณค่ะ......อาทิตา

ตอนที่ 20 ภารกิจแค้น

?อัณณ์ครับ เรามีเรื่องที่จะต้องเคลียร์กัน? ชายหนุ่มที่กำลังตกเป็นจำเลยเอ่ยขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ เขามองจ้องหน้าหญิงสาวหนึ่งเดียวในห้องซึ่งเธอก็มองโต้ตอบกลับไปอย่างไม่ยอมลดลาวาศอก ทั้งสองทำราวกับว่ามีกันอยู่เพียงสองคนในสมรภูมิรบนี้ พิชญธิดาที่แม้จะยังไม่พร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์กับการต้องมารับฟังความจริงจากปากของเขา แต่หญิงสาวก็ตัดสินใจได้อย่างเด็ดเดี่ยวว่า ?อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ไม่มีใครหลีกหนีความจริงได้ตลอดไป จะเจ็บวันนี้หรือเจ็บวันหน้ามันก็ไม่แตกต่างกัน?

?ค่ะ เชิญเลยค่ะ? พิชญธิดายังยืนนิ่งพร้อมที่จะรับฟังทุกอย่างจากเขา

?ไม่ใช่ที่นี่ครับ? พูดเสร็จวิชญ์ก็ก้าวเข้ามาคว้าข้อมือพิชญธิดาแล้วมุ่งตรงไปยังบันได จุดหมายปลายทางของเขา คือ ชั้นสามของตัวบ้าน

?ตามผมมา? ทันทีที่วิชญ์พาพิชญธิดาเดินออกไป วรปรัชญ์ที่ยืนแข็งทื่อราวกับหุ่นยนต์อยู่นานก็ถอนหายใจดังเฮือกก่อนที่จะหันไปหาบอดี้การ์ดทั้งสองแล้วจึงเริ่มขบวนการซักฟอกกับสองหนุ่มที่เหลือในข้อหา ?สมรู้ร่วมคิด? และเรื่องราวทั้งหมดก็ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างหมดเปลือกจากกฤตธีและธีรวีร์ตามคำสั่งของเจ้านายที่เห็นแล้วว่าวรปรัชญ์ คือ คนที่พิชญธิดาไว้วางใจมากที่สุด ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นใด ๆ ทั้งสิ้นที่จะต้องปิดบังความจริงไม่ให้เพื่อนสนิทของหญิงสาวคนนี้รับรู้อีกต่อไป

************************

?ทำไมถึงพูดข้างล่างไม่ได้ มีอะไรที่เป็นความลับนักหนาคะ? ระหว่างที่เดินขึ้นบันไดนั้นพิชญธิดาตั้งคำถามออกไปด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้างแบบมะนาวไม่มีน้ำ นอกจากนั้นหญิงสาวยังพยายามออกแรงที่จะดึงมือของเธอออกจากมือหนาหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ทำไม่สำเร็จ เพราะวิชญ์ไม่ยอมปล่อยแถมยังจับแน่นขึ้นอีกต่างหาก ?เขาจะไม่ยอมปล่อยให้เธอหลุดมือจากไปอย่างเด็ดขาด?

?ไม่มีความลับอะไรทั้งนั้นล่ะครับ? วิชญ์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนดังเดิม เพราะรู้ดีว่าอะไรที่ทำให้หญิงสาวด้านหลังนั้น ?แข็งข้อ? กับเขา เขาจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะโกรธเธอ สิ่งที่เขาจะต้องทำให้สำเร็จในวันนี้ก็ คือ ง้อให้สาวเจ้ายอมยกโทษให้ ไม่ใช่สิ ต้องพูดว่า ง้อให้สาวเจ้ายอมเข้าใจว่าเรื่องทั้งหมดนั้นเป็นการเข้าใจผิดต่างหากล่ะ

?แล้วทำไมถึงพูดข้างล่างไม่ได้ล่ะ? พิชญธิดาที่ขณะนี้กำลังเปลี่ยนคลื่นความเสียใจเป็นอารมณ์โมโหแทนจึงถามวิชญ์อีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ห้วนยิ่งกว่าเดิมเพราะไม่เข้าใจเหตุผลของชายหนุ่ม เธอคิดว่าเขาไม่กล้าพูดความจริงต่อหน้าลูกน้องตัวเองและเพื่อนสนิทของเธอ

?ที่พูดข้างล่างไม่ได้เพราะอัณณ์แต่งตัวไม่เรียบร้อย ผมไม่อยากให้อัณณ์ไปนั่งคุยอยู่ข้างล่างในชุดแบบนี้ เพราะข้างล่างนั้นมีเจ้าสองตัวนั่นรวมอยู่ด้วย ผมไม่อยากให้ใครเห็นอัณณ์ในชุดนี้ ผมหวงครับ? วิชญ์กลั้นใจอธิบายรวดเดียวจบแทนที่จะพูดง่าย ๆ สั้น ๆ เพียงคำเดียวว่า ?หวง? วันนี้หญิงสาวคนสวยที่ไม่คิดจะออกจากบ้านไปไหนจึงสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะกับการ ?อยู่บ้าน? จนลืมนึกไปว่าเธอกำลังมีแขก วิชญ์จึงไม่อยากนั่งพูดคุยกับหญิงสาวข้างล่างเพราะมีลูกน้องของเขาที่เป็นชายแท้ทั้งแท่งถึงสองคนนั่งรวมอยู่ด้วย ผู้ชายอย่างไรก็ต้องชอบมองของสวย ๆ งาม ๆ แต่สำหรับคนนี้ คนพิเศษของเขา เจ้าสองคนนั่นไม่มีสิทธิ์

พิชญธิดาที่วันนี้ใส่เสื้อกล้ามขนาดพอดีตัวสีบานเย็น กับกางเกงขาสั้นสีชมพูอ่อนที่มีความยาวเพียงขาอ่อนของเธอเท่านั้น ดังนั้นทั้งต้นแขนกลมกลึงและขาขาว ๆ เรียวยาวของเธอจึงออกมาอวดโฉมให้คนอื่นได้ยลเป็นขวัญตาอย่างไม่รู้ตัว และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ชายหนุ่มหน้าตาบึ้งตึงทันทีที่เห็นแฟนสาวเดินเข้ามาในห้องรับแขก หญิงสาวก้มลงมองสภาพเครื่องแต่งกายของตัวเองแล้วก็เกิดอาการกระดากอาย เพราะที่ผ่านมาเธอไม่เคยคิดว่าวรปรัชญ์เป็น ?ผู้ชาย? เธอจึงไม่รู้สึกเคอะเขินแต่อย่างใดกับการแต่งตัวสบาย ๆ แบบนี้ หญิงสาวรู้สึกหวงเนื้อหวงตัวขึ้นมาทันทีโดยเฉพาะกับคนที่เธอกำลังอยู่ด้วยในตอนนี้

?งั้น ?ฉัน? ขอเวลาสักสองสามนาทีไปเปลี่ยนชุดก่อน คุณไปรอฉันในสวนก่อนแล้วกัน? แต่เธอก็ไม่สามารถทำอย่างที่พูดได้เพราะไม่สามารถแกะมือออกจากการจับจูงของวิชญ์ได้

?ช่วยปล่อยมือด้วยค่ะ?

?ไม่ต้องหรอกครับ ขึ้นมาชั้นบนแล้ว ไม่เป็นไร คุยกับผมก่อน ถ้าจะลงไปข้างล่างอัณณ์ค่อยเปลี่ยน อยู่กับผมอัณณ์แต่งตัวแบบนี้ได้ ไม่เป็นไรเพราะเราเป็นแฟนกัน? วิชญ์หยุดเดินอยู่บนช่วงพักของขั้นบันได ก่อนที่จะหันมาประจันหน้ากับแฟนสาวที่หน้าหงิกหน้างอกว่าเดิม ชายหนุ่มยักคิ้วกวน ๆ ยั่วให้หญิงสาวโมโหมากขึ้นไปอีก

?ใครแฟนคุณ เชอะ ยังจะมีหน้ามาพูดอีก แฟนกันเขาไม่ทำกันแบบนี้หรอก? หญิงสาวเริ่มออกอาการพาลเพราะยังน้อยใจและเสียใจไม่หายกับสิ่งที่เขาทำลงไป

?ผมไงแฟนคุณ อะไรกันครับไม่ได้เจอกันแค่สามวัน จำไม่ได้เสียแล้วหรือ? วิชญ์พูดจบก็จูงมือหญิงสาวให้เดินตามเขาต่อ เมื่อมาถึงชั้นสามที่เป็นจุดหมายปลายทาง เขาก็เปิดประตูห้องนอนของพิชญธิดาเข้าไปก่อนที่จะเดินทะลุห้องนอนตรงไปที่ประตูอีกบานที่มีประตูมุ้งลวดเหล็กดัดอีกหนึ่งชั้นเพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย วิชญ์เปิดประตูทั้งสองชั้นก่อนที่จะออกไปสู่ ?สวนน้อยลอยฟ้า? ของพิชญธิดาที่มีลมพัดเย็นสบายเอื่อย ๆ ในเวลาค่ำคืนแบบนี้ เวลาที่เหมาะสำหรับการปรับความเข้าใจของคู่รัก

วิชญ์จูงพิชญธิดาไปนั่งบนชิงช้าตัวโปรดของเจ้าของบ้าน ก่อนที่จะรั้งตัวหญิงสาวให้เข้ามานั่งเบียดชิดกับกายเขาเพราะเธอยังคงพยายามขืนตัวออกห่างเขาให้มากที่สุด เขารู้สาเหตุที่ทำให้เธอโกรธเขาแล้วจากวรปรัชญ์แต่ก็ยังอดรู้สึกเจ็บปวดไม่ได้ที่มาเห็นกิริยาแสดงอาการรังเกียจจากแฟนสาวทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเธอกำลังเข้าใจเขาผิด วิชญ์ไม่รู้ตัวเลยว่าเขาก็กำลังเข้าใจหญิงสาวผิดเช่นกันเพราะสำหรับพิชญธิดาแล้วตอนนี้เธอรู้สึกเขินอายที่ต้องมานั่งแนบชิดกับชายหนุ่ม เพราะเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่อยู่นั้นไม่ได้เป็นกำแพงขวางกั้นผิวกายเธอให้ห่างจากการสัมผัสกับร่างกายของเขาได้เลย เธออายไม่ใช่ว่ารังเกียจ

?คุณจะพูดอะไรก็ว่ามาเลยค่ะ ฉันพร้อมจะฟังแล้วค่ะ? วิชญ์รู้ดีว่าพิชญธิดายังไม่พร้อมที่จะฟัง เธอยังคงงอนเขาอยู่ด้วยความเข้าใจผิด ดูได้จากคำสรรพนามเรียกขานตัวเธอเปลี่ยนจาก ?อัณณ์? เป็น ?ฉัน? ไปเสียแล้ว

?อัณณ์ครับ อัณณ์ฟังผมอธิบายเรื่องทั้งหมดก่อนได้ไหม แล้วหลังจากนั้นอัณณ์จะโกรธหรือจะเกลียดผมก็ค่อยว่ากัน ตอนนี้ผมขอแค่ให้อัณณ์มีสติฟังผมพูดก่อน ได้ไหมครับ? วิชญ์ปล่อยมือหญิงสาวเมื่อเห็นว่าเธอสงบลงแล้ว ทันที่เป็นอิสระพิชญธิดาก็ลุกออกจากชิงช้า เธอเดินไปข้างหน้าสองสามก้าวก่อนที่จะหมุนตัวมาเผชิญหน้ากับวิชญ์อย่างคนที่ ?พร้อม? แล้ว

?ค่ะ ฉันจะรับฟังทุกอย่างที่คุณพูด ทุกเรื่อง ทุกคำ แต่ฉันขออย่างเดียว? พิชญธิดาจ้องหน้าแฟนหนุ่มนิ่งก่อนที่จะรวบรวมกำลังใจแล้วจึงพูดออกไปว่า

?ฉันขอให้คุณพูดความจริงเท่านั้น อย่าโกหกกัน อย่าหลอกกัน ไม่ว่าเรื่องจริงจะเป็นอย่างไร ฉันคิดว่าฉันพร้อมที่จะรับมันได้ทั้งนั้น ขออย่างเดียวอย่ามาแต่งเรื่องหลอกลวงกันอีก ฉันขอแค่นี้ หวังว่าคุณจะทำให้ได้นะคะ? พิชญธิดาไม่อยากร้องไห้ต่อหน้าวิชญ์เธอจึงพยายามกะพริบตาถี่ ๆ หลายครั้งเพื่อไล่น้ำตา รวมทั้งกลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้คนใกล้ตัวได้ยิน ความเสียใจและผิดหวังในตัวคนรัก รวมทั้งการอยากรู้สาเหตุที่มาที่ไปของเรื่องทั้งหมดเพื่อไขข้อข้องใจต่างพร้อมใจกันถาโถมเข้ามาในเวลาเดียวกัน หญิงสาวรู้สึกสับสน และหวาดระแวงว่าสิ่งที่เขาจะบอกเธอนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่เขาแต่งขึ้นมาเพื่อใช้แก้ตัวเพื่อมาใช้ปลอบโยนให้เธอได้สบายใจ หรือไม่เขาอาจจะยอมรับว่าสิ่งที่เธอเห็นนั้นเป็นเรื่องจริง ถ้าเป็นอย่างหลังเธอจะทำอย่างไรต่อไป ชีวิตยังคงดำเนินไปข้างหน้าได้แน่ ๆ เธอมั่นใจ แต่คงเป็นเพียงชีวิตที่ปราศจากชีวา เพราะหัวใจของเธอได้ถูกทำลายลงแล้วอย่างยับเยิน!!!

วิชญ์ที่เห็นน้ำตารื้นขึ้นมาในดวงตากลมโตคู่งามตรงหน้ารู้สึกสงสารแฟนสาวยิ่งนัก วรปรัชญ์ได้บอกเขาแล้วว่าพิชญธิดาเสียใจมากมายขนาดไหนกับเรื่องที่เกิดขึ้นและยิ่งได้มาเห็นกับตาตัวเองแล้ว วิชญ์ก็ยิ่งรู้สึกผิดที่เป็นตัวการทำให้แฟนสาวต้องเสียใจและเสียน้ำตา เปลือกตาช้ำของหญิงสาวยังเป็นหลักฐานให้เขาได้เห็นว่าเธอต้องฟันฝ่าความระทมทุกข์มาตลอดสามวันอย่างโดดเดี่ยวไร้เงาของเขาข้างกาย

วิชญ์จึงลุกขึ้นยืนอีกคน เขาก้าวเข้าไปหาแฟนสาวที่เห็นในไฟสลัว ๆ แบบนี้ว่าเธอกำลังสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง เมื่อเข้าถึงตัวพิชญธิดาแล้ว วิชญ์ก็รวบตัวเธอเข้ามากอด ไออุ่นที่เธอสัมผัสได้ ไออุ่นที่คุ้นเคยกว่าห้าเดือนที่ผ่านมา หญิงสาวจึงไม่มีอาการขัดขืนแต่อย่างใดเพราะเธอเองก็โหยหาและคิดถึงอ้อมกอดนี้อยู่เช่นกัน พิชญธิดาอยากหยุดเวลาไว้เพียงแค่นี้ นาทีนี้ เพราะมันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะถูกเขากอดและได้กอดเขา วิชญ์มอบจุมพิตหวานอ่อนโยนบนหน้าผากมนให้กับเธอ จุมพิตที่แสนอบอุ่นและห่วงใย ณ วินาทีนั้นเองพิชญธิดาก็ไม่สามารถกักเก็บความเสียใจและผิดหวังในรักไว้ได้อีกต่อไป เธอปล่อยโฮออกมาในอ้อมกอดของวิชญ์ในทันที อ้อมกอดเดียวที่จะช่วยเยียวยาเธอได้ ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นเช่นไรเธอจะจดจำอ้อมกอดนี้ไว้ไม่มีวันลืม อ้อมกอดนี้ที่สอนให้เธอได้รู้จักความรัก........ที่แม้สุดท้ายมันจะจบลงด้วยความเจ็บปวดก็ตาม

วิชญ์กอดกระชับร่างเธอให้แนบแน่นเข้า โดยปราศจากคำพูดปลอบโยนใด ๆ เพราะสัมผัสกายสามารถถ่ายทอดได้ทุกความรู้สึกและดีกว่าคำพูดไหน ๆ เป็นล้านเท่า ตัวเขาเองก็ต้องการความอบอุ่นจากเธอเช่นกัน เพียงไม่ได้เห็นหน้าไม่ได้ยินเสียงแค่สองสามวัน เขาก็แทบคลั่งและเมื่อได้มาเห็นน้ำตาของผู้หญิงที่เขาหลงรักเข้าไปอีก ใจเขาก็เจ็บไม่น้อยไปกว่าเธอ แต่เมื่อตัดสินใจ ?เดินหน้า? แล้ว เขาก็จะถอยหลังออกมาไม่ได้เช่นกัน

?ผมขอโทษที่ทำให้อัณณ์เสียใจ หยุดร้องไห้นะคนดี ยกโทษให้ผมได้ไหมครับ? วิชญ์ยิ้มออกเมื่อพิชญธิดาที่ยังคงอยู่ในอ้อมกอดเขานั้นพยักหน้าหงึกหงักขึ้นลงกับอกเขา วิชญ์จึงมอบจุมพิตลงบนแก้มใสอีกครั้งแล้วจึงเกลี่ยน้ำตาให้แฟนสาวอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน

?ทุกเรื่องที่ผมกำลังจะพูดผมขอรับรองว่าเป็นความจริงทั้งหมด ถึงแม้ผมจะไม่มีพยานหรือหลักฐานใด ๆ ทั้งนั้นที่จะใช้มายืนยันกับอัณณ์ได้ มีเพียงความจริงใจและเกียรติศักดิ์ศรีของผมเท่านั้นที่จะรับประกันได้ว่าทุกเรื่อง ทุกคำพูด ที่อัณณ์จะได้ยินเป็นเรื่องจริงไม่ได้โกหกพกลมหรือปั้นแต่งขึ้นมา? วิชญ์พูดกับพิชญธิดาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานยิ่งนัก เขาหลงรักหญิงสาวตรงหน้าและไม่อยากทำให้เธอเสียใจและหนีจากเขาไป แต่เรื่องที่เขากำลังจะพูดออกไปอาจจะทำให้เธอและเขาไม่ได้รักกันอีกต่อไปก็เป็นได้ ซึ่งเขาไม่อยากให้มันเป็นเช่นนั้นเลย แต่เขาก็พร้อมที่จะยอมรับการตัดสินใจของเธอโดยดุษฎี เพราะไม่ว่าเธอจะเลือกวิธีไหนเขาก็ต้องเจ็บไปด้วย เจ็บที่ต้องเห็นเธอทุกข์กับเจ็บที่ต้องเห็นเธอจาก แบบไหนที่มันจะเจ็บมากกว่ากันต่างหากที่เขายังไม่รู้

?อัณณ์พร้อมจะฟังแล้วค่ะ? หญิงสาวเปลี่ยนคำเรียกแทนตัวเองเมื่ออารมณ์คุกรุ่นค่อย ๆ เบาบางลง เพราะความเชื่อใจว่าเขาจะไม่โกหก แต่เธอก็ไม่แน่ใจว่าจะรับฟังเหตุผลของเขาได้มากน้อยสักแค่ไหน มันจะทำให้เธอเจ็บมากไปกว่านี้หรือเปล่า

?เริ่มเลยเถอะค่ะ อัณณ์พร้อมจะฟังแล้วจริง ๆ? พิชญธิดาจึงดึงมือวิชญ์ให้ตามเธอมานั่งที่ชิงช้าตัวโปรด ก่อนที่จะตั้งใจฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากเขา

************************

?ก่อนอื่นผมขอบอกอัณณ์นะครับว่าผมไม่ได้คิดอะไรกับคุณญาดาเลย ผมไม่ได้ชอบเขาแม้แต่สักนิด อันนี้ไม่ได้แก้ตัวนะ ผมไม่ชอบเขาจริง ๆ แต่ผมมีเหตุผลที่จะอธิบายว่าทำไมผมต้องเข้าไปใกล้ชิดกับเขาซึ่งเป็นเรื่องที่ผมจะเล่าให้อัณณ์ฟังต่อจากนี้ สรุปง่าย ๆ ว่าคุณญาดาไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับผมเลย แตกต่างกับความรู้สึกที่ผมมีให้อัณณ์นะ ผมรักอัณณ์ รักอัณณ์คนเดียวจริง ๆ ไม่ได้เจอแค่สามวันผมก็จะลงแดงตายแล้วนะเนี่ย? วิชญ์ยืนยันคำพูดด้วยการแอบขโมยหอมแก้มเสียหนึ่งฟอด เพราะเจ้าของแก้มนั้นมัวแต่ก้มหน้าเขินกับคำสารภาพรักอีกครั้งจากชายคนรัก

?คุณวิชญ์อ่ะ ขี้โกงอีกแล้ว อย่ามาทำนอกเรื่องนะ ฮึ เพิ่งจะเคยได้ยินนี่แหละ ไม่รักไม่ชอบเขาแต่ต้องไปสนิทสนมกับเขาด้วยมีที่ไหนกันแบบนี้ รีบเล่า ๆ มาได้แล้วว่าทำไมต้องไปใกล้ชิดกับคนที่ไม่รักไม่ชอบด้วย อัณณ์รอฟังเหตุผลของคุณอยู่นะ เล่ามาเร็ว ๆ เลยค่ะ? พิชญธิดาแถมหนึ่งหยิกเข้าที่เอวให้ชายหนุ่มโทษฐานที่มาทำรุ่มร่ามไม่ดูเวล่ำเวลา

?โหดชะมัด แต่ก็แสดงว่าตอนนี้พิชญธิดาคนเดิมกลับมาแล้วล่ะสิ ว้า....ยังคุยกับเวอร์ชั่นขี้แยไม่จุใจเลย ดันกลายร่างกลับมาเป็นเวอร์ชั่นโหดอีกแล้ว? วิชญ์แหย่หญิงสาว เขาอยากให้เธอยิ้มมากกว่าเศร้า

?งั้นก็แสดงว่าคุณชอบให้อัณณ์ร้องไห้งั้นสิ? พิชญธิดาช้อนตาขึ้นมองแฟนหนุ่มด้วยดวงตาวิบวับอย่างเอาเรื่อง ?ตัวจริงเสียงจริงกลับมาแล้วอย่างแน่นอน?

?ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ใครจะชอบเห็นแฟนตัวเองร้องไห้บ้างล่ะ เอาเป็นว่าเรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า เดี๋ยวคุยกันทั้งคืนก็ไม่จบสักที? วิชญ์รีบตัดบท

?ก็พูดมาสิค่ะ คุณนั่นแหละที่นอกเรื่องเองน่ะ? แฟนสาวโบ้ยความผิดให้ชายหนุ่มรับไปแต่เพียงผู้เดียว

?ที่ผมต้องเข้าไปตีสนิทกับคุณญาดา......เพราะเขาเป็นลูกสาวของคนที่ฆ่าพ่อแม่และน้องสาวของผมครับ? วิชญ์เว้นจังหวะในการเล่าเพราะเห็นสายตาประหลาดแกมตกใจของแฟนสาว

?จริงหรือค่ะ คุณหมายถึงคุณเมธินทร์ พัฒนไพศาลน่ะหรือคะ แต่เอ๊ะ! คุณเคยบอกว่าพวกท่านเสียชีวิตในอุบัติเหตุไม่ใช่หรือคะ?

?ครับ ที่ผมเคยบอกอัณณ์อย่างนั้นเพราะผมก็เคยเชื่ออย่างนั้น แต่คุณลุงเพิ่งได้ข้อมูลใหม่ที่เชื่อถือได้ รวมทั้งทางเราสามารถหาทั้งพยานและหลักฐานมายืนยันได้ว่าพ่อ แม่ และน้องวิ ทั้งสามคนนั้นถูกฆาตกรรมครับ และฆาตกรก็จัดฉากให้ดูเหมือนว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ไอ้เมธินทร์พ่อของญาดานั่นแหละที่เป็นคนอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมดนี้? วิชญ์ขบกรามแน่นเมื่อนึกถึงความโหดร้ายของไอ้ฆาตกรที่พรากวิญญาณของสมาชิกในครอบครัวเขาไปทั้งหมด ดวงตาที่แข็งกร้าวแต่ในใจคงหม่นหมองทำให้พิชญธิดาต้องเอื้อมมือไปบีบมือเขาเพื่อให้กำลังใจ

?เอ่อ แล้วตกลงเรื่องมันเป็นอย่างไรกันแน่คะ นายเมธินทร์โกรธแค้นอะไรครอบครัวคุณจนต้องมาลงมือฆ่าแกงกันแบบนี้ด้วยคะ พวกท่านมีเรื่องอะไรบาดหมางกันหรือเปล่าคะ?

?ก็เพราะความโลภไงละครับ พ่อผมเป็นเพื่อนกับไอ้เมธินทร์นั่นมาก่อน พอรู้ว่ามันกำลังลำบากพ่อก็ดันไปชวนมันมาร่วมหุ้นทำร้านผ้าไหมส่งออกที่เป็นกิจการสืบทอดมาจากคุณตา ช่วงที่พ่อแต่งงานกับแม่นั้นพ่อได้มาช่วยขยายกิจการผ้าไหมจนใหญ่โตรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว พ่อจึงต้องการจะเพิ่มเงินลงทุนโดยการเพิ่มหุ้นส่วน มีพรรคพวกเพื่อนพ่ออีกสองสามคนมาร่วมลงขันด้วยคนละ 10% มั้ง แต่ของไอ้เมธินทร์ที่ผมทราบมาตอนแรกมันลงหุ้นมาแค่ 5% เท่านั้นเพราะช่วงนั้นมันยังไม่มีเงิน ตอนนั้นครอบครัวมันลำบากมากแถมเมียมันก็ป่วยกระเสาะกระแสะ มันเลยต้องทำงานรับภาระคนเดียว อัณณ์รู้ไหมแม้แต่เงินที่ต้องเอามาลงหุ้นน่ะ มันยังไม่มีเลย พ่อผมจึงให้มันกินผลประโยชน์ไปก่อนพอมีเงินแล้วจึงค่อยเอามาคืน เท่ากับว่ามันได้หุ้นไปฟรี ๆ เลยนะ เพราะความเป็นเพื่อนเรียนกันมาพ่อผมจึงอยากช่วยเหลือมัน แต่ไม่นึกเลยว่ามันจะเนรคุณคน และย้อนมาสนองบุญคุณของพวกเราแบบนี้? วิชญ์เล่ารายละเอียดได้ทั้งหมดเพราะเขาอ่านเอกสารที่ได้จากพ่อเลี้ยงพาครหลายต่อหลายรอบจนจำได้อย่างขึ้นใจ

?แล้วเกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมเขาต้องมาทำร้ายครอบครัวคุณด้วย อัณณ์ไม่เข้าใจค่ะ?

?ก็มันต้องการฮุบกิจการไว้ทั้งหมดไงล่ะอัณณ์ มันหลอกให้พ่อผมขายหุ้นเพิ่มให้มัน พ่อผมขายเพิ่มให้อีก 15% ซึ่งหุ้นทั้งหมดของพ่อผมจะเหลือ 50% แต่ท่านคิดว่าถึงจะเหลือเท่า ๆ กับพรรคพวกเพื่อนของท่านรวมกันก็ไม่น่าเป็นอะไรเพราะทุกคนคือเพื่อนดี เพื่อนแท้และเพื่อนที่ท่านช่วยให้มันลืมตาอ้าปากได้ ท่านไว้ใจคนมากเกินไป อัณณ์รู้ไหมมันหาโอกาสที่จะทำร้ายพ่อผมหลายต่อหลายครั้งแต่ท่านก็รอดมาได้ จนมาถึงครั้งนั้น ครั้งที่พวกท่านต้องการจะขึ้นไปเยี่ยมคุณลุงและคุณป้ากัน มันก็เลยสบโอกาส มันตัดสายเบรกรถของพ่อผมแต่ไม่ได้ตัดให้ขาดเสียทีเดียว มันคงกะจะให้ขาดขณะที่พวกท่านขับรถลงเขาพอดีมันฆ่าคนที่ผมรัก มันฆ่าแม้กระทั่งยายวิที่ยังเด็กนัก แกอายุยังไม่ถึง 20 เสียด้วยซ้ำ มันพรากทุกคนไปจากผม! พรากครอบครัวผมไปทั้งหมด!? วิชญ์พูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดทำเอาคนข้าง ๆ พลอยตกใจไปด้วย หญิงสาวจึงบีบมือชายหนุ่มอีกครั้งเพื่อเตือนสติเขา สักพักวิชญ์จึงบีบมือตอบเช่นกันเพื่อแทนการขอโทษ เขาเงียบไปพักใหญ่เพื่อตั้งสติก่อนที่จะเล่าต่อว่า

?หลังจากที่มันฆ่าทุกคนได้สำเร็จโดยที่ทุกคนหลงเชื่อละครตบตาที่มันจัดฉากขึ้นมา มันก็มาบอกกับคุณลุงว่ามันเป็นเจ้าของกิจการผ้าไหมคนใหม่ เจ้าของกิจการที่คุณตาผมสร้างขึ้นมากับมือแล้ว มันแอบทำเอกสารปลอมขึ้นมาแล้วมาอ้างว่าพ่อผมขายหุ้นที่เหลือทั้งหมดให้มัน ตอนแรกคุณลุงก็ไม่ยอมเชื่อเพราะไม่คิดว่าพ่อจะขายกิจการของครอบครัวให้คนนอกไปง่าย ๆ แบบนั้น ยิ่งแม่ไม่เคยปริปากบอกท่านว่ามีปัญหาทางการเงินใด ๆ เลย ท่านจึงแปลกใจมากที่จู่ ๆ พ่อผมก็ขายกิจการครอบครัวของแม่โดยไม่ปรึกษาใครเลยแม้แต่คุณลุงที่เป็นพี่ชายคนเดียวของแม่ แต่ตอนนั้นคุณลุงจะไปถามหาคำตอบจากใครได้ล่ะครับ ในเมื่อทุกคนตายไปหมดแล้ว จะไปเอาอะไรจากคนตาย คุณลุงท่านเสียใจมากและคิดว่าตนเองเป็นสาเหตุของการตายของทุกคนเพราะคุณลุงเป็นคนเอ่ยปากชวนให้พ่อกับแม่ผมพายายวิไปเที่ยวเชียงใหม่ในช่วงสงกรานต์ ท่านโทษตัวเองมาตลอด หากท่านไม่ชวนทุกคนก็จะไม่ตาย คุณลุงต้องจมอยู่ในความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อมาตลอด 5 ปีเลยนะอัณณ์ คิดดูสิว่าท่านจะเครียดและเสียใจขนาดไหน แถมในตอนนั้นไอ้เมธินทร์ก็เอาจุดอ่อนจุดนี้มาบีบคั้นคุณลุงเข้าไปอีก ท่านไม่รู้จะทำอย่างไรเลยต้องปล่อยเลยตามเลย คุณลุงเคยบอกกับผมว่าเพียงแค่ครอบครัวน้องสาวต้องมาตายจากกันไปทั้งสามชีวิตต่อหน้าตาต่อตาแล้ว ท่านยังต้องมาสูญเสียธุรกิจที่คุณตาเป็นคนสร้างขึ้นมาอีก ยิ่งทางนั้นมีทั้งหลักฐานเอกสารการขายหุ้น พยานบุคคลที่มันใช้เงินฟาดให้เข้าพวกกับมัน และการแสดงที่ยอดเยี่ยมด้วยแล้ว คุณลุงเลยต้องยอมเชื่อไปในที่สุด ท่านมาบอกกับผมทีหลังว่าไม่คิดว่าคนหน้าตาซื่อ ๆ อย่างไอ้เมธินทร์จะเหลี่ยมจัดขนาดนี้ ที่สำคัญท่านไม่นึกว่ามันจะเนรคุณคนที่ช่วยเหลือครอบครัวมันให้อยู่ดีมีสุขได้ มันเลวยิ่งกว่าหมาเสียอีก?

พิชญธิดานิ่งเงียบเพื่อคิดตามสิ่งที่เขาเล่าให้ฟัง แล้วหญิงสาวก็ต้องเอะใจเมื่อนึกขึ้นได้ถึงเรื่องหนึ่ง เธอจึงถามออกไปว่า

?คุณวิชญ์คะ แล้วนายเมธินทร์เขาไม่รู้หรือคะว่าคุณพ่อคุณยังมีคุณเหลืออีกคนหนึ่ง เพราะถ้าพวกคุณสามารถหากหลักฐานมายืนยันได้ว่าเอกสารของเขาเป็นของปลอม คุณก็จะเป็นคนที่มีสิทธิ์ในกิจการผ้าไหมในส่วนของคุณพ่อคุณแต่เพียงผู้เดียวนะคะ?

?มันรู้ว่าพ่อผมมีลูกชายอีกคนหนึ่ง แต่มันไม่รู้หรอกว่าเป็นผมน่ะ เพราะผมย้ายไปอยู่กับคุณลุงและคุณป้าตั้งแต่เด็กแล้ว แถมผมก็ใช้นามสกุลของคุณลุงด้วย มันรู้จักคุณลุงเพียงผิวเผินเพราะคุณลุงย้ายไปอยู่ที่เชียงใหม่นานมากแล้ว ก่อนที่มันจะเข้ามาร่วมหุ้นด้วยซ้ำไป มันเจอกับคุณลุงเป็นครั้งแรกในงานศพนั่นแหละ แต่มันไม่ได้เจอกับผมเพราะคุณลุงไม่ได้แนะนำให้ใครรู้จัก ตอนนั้นคุณลุงไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น ท่านคงกลัวว่าจะต้องสูญเสียผมไปอีกคน ท่านเลยไม่ต้องการให้ใครรู้จักผมในนามของ วิชญ์ พงศ์อุดม.......นี่ล่ะครับเรื่องทั้งหมด? วิชญ์หันมาสบตาแฟนสาวและรอฟังความคิดเห็น

?คุณกำลังจะบอกอัณณ์ว่า ตอนนี้คุณกำลังแก้แค้นนายเมธินทร์นั่นผ่านทางลูกสาวซึ่งก็คือคุณญาดานะหรือคะ? พิชญธิดาเห็นวิชญ์พยักหน้ายอมรับ เธอจึงถามต่อว่า

?อัณณ์ขอถามตรง ๆ นะคะ คุณจะแก้แค้นไปเพื่ออะไร?

?อัณณ์ พ่อแม่และน้องผมตายไปตั้งสามคนเชียวนะ? วิชญ์สวนกลับมาทันทีด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดแต่พิชญธิดาก็ไม่ได้ถือโทษโกรธเขาแต่อย่างใด หญิงสาวกลับใช้น้ำเสียงนุ่มนวลชวนฟังอธิบายต่อว่า

?ก็ใช่นะสิค่ะ ทุกคนตายไปหมดแล้ว ถึงคุณแก้แค้นพวกท่านก็ไม่ฟื้นขึ้นมาได้หรอกค่ะ ตัวคุณเสียอีกที่จะอยู่อย่างไม่มีความสุขเพราะมัวแต่คิดล้างแค้น?

?งั้นผมขอถามอัณณ์กลับบ้างนะ ถ้าอัณณ์รู้ว่าใครเป็นคนที่ยิงพ่ออัณณ์จนเสียชีวิต ถ้าอัณณ์ได้เจอกับคน ๆ นั้น อัณณ์จะทำอย่างไร?

คำถามของวิชญ์ทำให้พิชญธิดาอึ้ง เพราะเธอไม่เคยคิดว่าจะโดนย้อนถามกลับมาแบบนี้ หญิงสาวยอมรับว่าเธอเคยโกรธเคยเกลียดคนที่ฆ่าพ่อเธอ โดยเฉพาะตอนเป็นเด็กนั้นเธอโกรธแค้นมาเพราะคนร้ายทำให้เธอต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าพ่อ แต่มาวันนี้ความโกรธความเกลียดแบบนั้นมันจางหายไปหมดแล้วเพราะเธอพยายามมองโลกในแง่ดีว่า ชาติที่แล้วพ่อคงไปเอาชีวิตเขามา ชาตินี้เขาจึงมาทวงคืน พิชญธิดานั่งนิ่งใช้ความคิด แล้วจึงตอบวิชญ์ไปว่า

?อัณณ์ไม่รู้หรอกค่ะว่าถ้าอัณณ์ได้พบเขา ได้เห็นหน้าเขา อัณณ์จะทำอย่างไร แต่อัณณ์คงไม่ฆ่าเขาคืน เพราะอัณณ์ไม่อยากเป็นเวรเป็นกรรมผูกพันกับเขาไปถึงชาติหน้าอีก ยิ่งในชาตินี้อัณณ์ก็ไม่อยากติดคุกติดตารางใช้กรรมเหมือนกัน อัณณ์ไม่อยากเข้าไปอยู่ในนั้น และก็ไม่อยากหนีหัวซุกหัวซุนไปตลอดชีวิตเหมือนกัน และที่สำคัญอัณณ์ต้องอยู่เพื่อแม่ ถ้าอัณณ์ไปทำเขาแบบนั้นแล้วแม่จะอยู่กับใคร แม่คงไม่มีความสุขไปตลอดชีวิตเช่นกัน?

?อ้าว แล้วอัณณ์ไม่อยู่เพื่อผมหรือครับ? วิชญ์หยอดมุขหวานเพื่อคลายความตึงเครียด

?แล้วคุณวิชญ์จะอยู่เพื่ออัณณ์ไหมล่ะคะ? พิชญธิดาจ้องตาชายหนุ่ม

?ไม่ครับ ผมจะไม่อยู่เพื่ออัณณ์ แต่ผมจะอยู่กับอัณณ์ไปตลอดชีวิตเลย? วิชญ์ลบภาพทีเล่นทีจริงออกหมดเพื่อต้องการแสดงให้พิชญธิดาเห็นว่าเขาไม่ได้พูดเล่น ๆ
?แล้วคุณจะฆ่าพวกเขาหรือคะ มันบาปนะคะ? หญิงสาววกกลับเข้ามาเรื่องเดิมอีกครั้ง

?ผมจะไม่ฆ่ามันให้ตายหรอกครับ แต่ผมจะทำให้มันต้องตายทั้งเป็นต่างหาก อะไรที่มันรัก อะไรที่จะทำให้มันเสียใจได้ ผมจะทำลายให้หมด? วิชญ์พูดด้วยน้ำเสี.ียมที่แม้แต่พิชญธิดาเองก็ยังรู้สึกหวาดหวั่นแทนคนที่ถูกกล่าวถึง

?แต่คุณญาดาไม่เกี่ยวนี่คะ คุณจะไปทำร้ายเธอทำไม คุณไม่สง...? พิชญธิดาไม่ทันพูดจบประโยคดี วิชญ์ก็โพล่งขัดจังหวะขึ้นมาว่า

?แม่ผม น้องผมก็ไม่เกี่ยวเหมือนกันนะอัณณ์ แล้วทำไมทีมันยังฆ่าผู้หญิงสองคนนั่นได้ล่ะ ผมบอกแล้วว่าอะไรที่มันรัก อะไรที่จะทำให้มันเสียใจได้ ผมจะทำ? พิชญธิดามองหน้าแฟนหนุ่มนิ่ง ดวงตาที่ดุดัน น้ำเสียงที่แฝงความพยาบาททำให้เธอรู้สึกกลัวผู้ชายตรงหน้า ในนาทีนี้เหมือนเธอไม่เคยรู้จักเขามาก่อน เขาเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เหมือนคนที่ไม่เคยรู้จักกัน ไม่เคยรักกัน แต่เมื่อพิชญธิดาลองคิดในมุมกลับกันบ้าง หากเธอเป็นเขา หากเธอต้องสูญเสียทุกคนในครอบครัวและต้องมีชีวิตอยู่อย่างอ้างว้างแบบเขา เธอก็อาจจะทำแบบเดียวกันกับเขาก็ได้

?คุณจะทำอะไรกับคุณญาดาคะ บอกอัณณ์ได้ไหม?

วิชญ์หันมาจ้องหน้าแฟนสาว เขาไม่สามารถบอกรายละเอียดแก่เธอได้เพราะยังไม่แน่ใจกับแผนการที่เขาวางไว้ ความจริงเขาต้องการเพียงจะได้กิจการของคุณตากลับคืนมา แต่คงจะไม่ใช่จากการซื้อขายหุ้นเพราะไอ้เมธินทร์มันคงไม่ยอมขายกิจการที่มันได้มาฟรี ๆ แบบนี้เป็นแน่ ดังนั้นเขาจึงต้องใช้ญาดาเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้เขาได้ครอบครองกิจการทั้งหมด เมื่อมันแย่งเอาจากเขาไปฟรี ๆ อย่างหน้าด้าน ๆ เขาก็จะใช้วิธีเดียวกัน เขาจะใช้การแต่งงานเป็นการแก้แค้น วิธีนี้จะทำให้เขาได้ทั้งทรัพย์สมบัติคืน ในขณะที่ไอ้หมอนั่นจะต้องน้ำตาตกในเพราะลูกสาวมันจะถูกเขาเขี่ยทิ้งในที่สุด เท่ากับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยทีเดียว แต่จะให้เขาบอกกับพิชญธิดาได้อย่างไรว่าเขาจะต้องแต่งงานกับลูกสาวศัตรูเพื่อแย่งคืนสมบัติของครอบครัวกลับคืนมา จะให้เขาบอกเธอได้อย่างไรว่าเขาจะต้องแต่งงานกับคนอื่นที่ไม่ใช่เธอ

?ผมต้องการจะเอาบริษัทญาดาไหมไทยคืนกลับมาให้ได้? วิชญ์เลี่ยงที่จะพูดความจริงทั้งหมด

?คุณจะหลอกใช้คุณญาดาใช่ไหมคะ จะให้เธอพาเข้าไปให้ถึงตัวนายเมธินทร์ใช่ไหมคะ? พิชญธิดาพอที่จะเดาทางออก

?ครับ ประมาณนั้นล่ะครับ?

?คุณวิชญ์ ไม่ทำแบบนี้ไม่ได้หรือคะ ไม่ต้องแก้แค้น ไม่ต้องเอาสมบัติของคุณคืนมา เพราะที่มีอยู่นี่ก็มากมายเหลือเกินแล้ว ไม่ทำได้ไหมคะ? พิชญธิดาทำใจกล้าลองห้ามปรามความบ้าบิ่นของเขาดูสักครั้ง เธอไม่มีสิทธิ์ห้ามปรามหรือขัดขวางเขาได้เพราะคนที่เผชิญกับความสูญเสียที่ผ่านมาคือตัวเขาไม่ใช่เธอ แต่เธอก็อยากจะลองร้องขอเขาดูสักครั้งเผื่อว่าเขาจะคิดเปลี่ยนใจ

วิชญ์ไม่มีคำพูดใด ๆ ให้แฟนสาวซึ่งนั่นก็คือการยืนยันคำตอบให้พิชญธิดาได้รับรู้แล้วว่า ?ไม่ได้? นั่นเอง

?สิ่งที่คุณจะทำลงไป นอกจากมันจะทำร้ายคนอื่นแล้ว ตัวคุณเองก็ต้องเจ็บปวดไปด้วย เพราะคุณคงไม่มีความสุขที่จะต้องไปพัวพันกับคนที่ฆ่าพ่อแม่และน้องสาวของคุณ?

?แต่พวกมันก็ต้องเจ็บปวดไปกับผมด้วยเช่นกัน ไอ้ตัวพ่อก็คงทุรนทุรายที่ต้องสูญเสียทรัพย์สมบัติ ส่วนญาดานั้นผมไม่ได้ตั้งใจ ช่วยไม่ได้จริง ๆ ที่เขาดันเกิดมาเป็นลูกของไอ้เมธินทร์ไอ้ฆาตกรเลือดเย็นนั่น อัณณ์ผมรับปากอัณณ์เรื่องที่อัณณ์ขอไม่ได้ แต่ผมสัญญานะอัณณ์ว่าผมจะไม่แตะต้องตัวเขาเลย ผมจะไม่มีอะไรกับเขาอย่างเด็ดขาด ผมให้สัญญา ทุกสิ่งที่คุณได้เห็นมาแล้วและที่จะเห็นอีกข้างหน้ามันเป็นเพียงการแสดง เป็นเพียงละครฉากหนึ่ง ผมไม่ได้รักเขา ถึงเขาจะไม่ใช่ลูกศัตรูผมก็ไม่รักเขา เพราะหัวใจของผมไม่เหลือที่ว่างให้ใครอีกแล้ว เชื่อผมนะอัณณ์? วิชญ์ปิดท้ายด้วยประโยคหวานพร้อมรอยยิ้มให้แฟนสาว แต่ประโยคที่ได้ยินกลับมาก็กระชากรอยยิ้มหายไปในทันที คำพูดของพิชญธิดาที่ทำเอาชายหนุ่มต้องกลับไปคิดหนักมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า เพราะเขาไม่ได้คิดไม่ได้มองในมุมนี้มาก่อนเลย

?ไม่ใช่แค่คุณเมธินทร์และคุณญาดาเท่านั้นที่จะเจ็บหรอกค่ะ อัณณ์ก็คงเจ็บไม่น้อยไปกว่าพวกเขา เจ็บที่ต้องมาทนเห็นคนรักไปทำสวีตหวานกับคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง ขนาดยังไม่ลึกซึ้งอัณณ์ยังเจ็บเจียนตาย หากคุณต้องใกล้ชิดกับเธอมากไปกว่านี้ อัณณ์.....อัณณ์คง.....? ไม่มีคำพูดหลุดออกมาจากปากจิ้มลิ้มนั้นอีกเลย มีเพียงน้ำตาที่ไหลออกมายืนยันว่าเธอเจ็บเจียนตายจริง ๆ

?อัณณ์ ผมขอเวลาหน่อยนะ ขอผมสะสางเรื่องนี้ให้จบก่อน อัณณ์จะว่าผมเห็นแก่ตัวก็ได้ ให้เวลาผมหน่อยนะอัณณ์ หลังจากจบเรื่องนี้เราจะแต่งงานกันนะ รอผมหน่อยนะ อดทนหน่อยนะคนดี ผมรักคุณคนเดียวนะ?

?ค่ะ อัณณ์จะรอ จะอดทน แต่อัณณ์ไม่รับปากนะคะว่าจะทนได้มากแค่ไหน อัณณ์ก็คนเหมือนกัน คนที่เจ็บเป็น ปวดเป็น ถ้าอัณณ์ทนเจ็บทนปวดไม่ไหว อัณณ์ก็คงต้อง ?ตัดใจ? นะคะ? พิชญธิดาเติบโตขึ้นมากในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา อาจจะมีสาเหตุมาจากความทุกข์ที่เธอได้เผชิญตามลำพัง หรืออาจจะเป็นเพราะเธอไม่กล้าวาดฝันกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึงก็เป็นได้ เธอได้บทเรียนราคาแพงมาแล้ว

ไม่มีคำอุทธรณ์ใด ๆ เล็ดลอดออกมาจากปากของวิชญ์ ชายหนุ่มรีบคว้าตัวแฟนสาวเข้ามากอดอย่างหวงแหน เขาเองก็อดหวั่นไม่ได้กับเหตุการณ์ในอนาคต ยิ่งมาเห็นความเป็น ?คนจริง? ของพิชญธิดาด้วยแล้ว เขาชักลังเลว่าน้ำหนักของความสมหวังในการแก้แค้นกับการต้องสูญเสียคนรักไป อย่างไหนที่มันจะมีค่ามากกว่ากัน และความสมหวังในการแก้แค้นจะนำความสุขมาให้ตัวเขาได้จริงหรือ

************************

ขอคอมเม้นต์ด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”