ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 17 โดย....อาทิตา

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
athita
โพสต์: 41
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 11 เม.ย. 2009 11:15 pm

ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 17 โดย....อาทิตา

โพสต์ โดย athita »

ตอนที่ 17 ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ชีวิตต่อชีวิต

เสียงโหวกเหวกจากด้านล่าง จากมุมที่เป็นที่ตั้งของสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ปลุกให้พิชญธิดาต้องลุกจากเตียงนอนมายืนดูที่หน้าต่างว่าเกิดอะไรขึ้นในเวลาเช้ามืดแบบนี้ วันนี้เป็นวันที่สามที่วิชญ์ได้พาเธอมาเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ที่เปรียบเสมือนผู้บังเกิดเกล้าอีกคนของเขา และสิ่งที่พิชญธิดามองเห็นจากหน้าต่างห้องนอนในยามเช้าที่อากาศของเชียงใหม่ยังคงหนาวเย็นเหมาะที่จะซุกตัวอยู่ในไออุ่นของผ้าห่มบนเตียงนอนนุ่ม ก็คือ ร่างเปลือยท่อนบนของหนุ่ม ๆ ทั้งสามที่อยู่ในกางเกงขาสั้นซึ่งแต่ละคนก็ต่างตั้งท่าเตรียมพร้อมที่จะกระโดดลงสระน้ำกันอย่างไม่เกรงกลัวความหนาวเย็นของน้ำในสระเลยสักนิด สระน้ำที่ว่าตั้งอยู่กลางแจ้งที่โดนทั้งลมและหยดน้ำค้างมาตลอดทั้งคืน ?แค่คิดก็หนาวจับใจแล้ว? พิชญธิดาที่แม้จะยังง่วงนอนอยู่แต่ก็ไม่อยากพลาดช็อตเด็ดคนดังจึงต้องรีบเดินลงไปสมทบกับเจ้าของบ้านอาวุโสอีกสองท่านที่เธอเพิ่งเห็นเดินลงจากเรือนไปยังจุดหมายเดียวกัน

ในเช้าวันนี้หนุ่ม ๆ มาดแมนทั้งสามต่างยอมลุกจากเตียงตั้งแต่เช้ามืด เพราะวันนี้พวกเขานัดท้าประลองแข่งขัน ?ความแมน? กัน วิชญ์ กฤตธี และธีรวีร์ต่างอยู่ในชุดกางเกงขาสั้นที่เตรียมพร้อมจะท้าประลองความหนาวอย่างที่เคยเห็นการสืบทอดประเพณีของชาวต่างชาติในหลายประเทศในทวีปยุโรป ที่จะกระโดดจากสะพานลงแม่น้ำที่หนาวจนน้ำจับเป็นน้ำแข็งในวันขึ้นปีใหม่โดยไม่สวมใส่เสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว แต่หนุ่ม ๆ ทั้งสามยังคงต้องการหลงเหลือความเป็นไทยไว้บ้างเลยเลือกที่จะสวมกางเกงขาสั้นแทนที่จะโป๊เปลือยทั้งร่าง หนุ่มทั้งสามมักไม่พลาดที่จะทำกิจกรรมนี้ทุกครั้งที่มาพักที่คุ้มนิมมานรดีแห่งนี้ โดยมักจะเลือกวันสุดท้ายที่จะเดินทางกลับกรุงเทพฯเป็นวันแข่งขัน ซึ่งกติกาก็มีอยู่ไม่มาก คือ ใครทนอยู่ในน้ำได้นานที่สุดก็เป็นผู้ชนะ

?หนึ่ง สอง สาม กระโดด? เสียงกฤตธีเป็นผู้ให้สัญญาณเริ่มการแข่งขันก่อนที่ทั้งตัวเขาเองและเพื่อนอีกสองคนจะกระโดดพุ่งหลาวลงไปในสระน้ำเสียงดังตูม พิชญธิดาเดินลงมาทันเห็นวินาทีของการเริ่มแข่งขัน ?ความเพี้ยน? อย่างพอดิบพอดี ระหว่างที่ยืนดูหนุ่ม ๆ ทั้งสามแหวกว่ายกันในสระอย่างไม่รู้สึกหนาวเย็นอยู่นั้น หญิงสาวจึงค่อย ๆ จุ่มมือลงไปในน้ำเพื่อวัดอุณหภูมิด้วยตัวเอง เธอดึงมือขึ้นจากน้ำในทันที!

?เขาเล่นกันอย่างนี้เป็นประจำแหละหนูอัณณ์ ตาวิชญ์บอกว่าน้ำเย็นดีต่อสุขภาพน่ะ แต่ป้าไม่เอาด้วยคนหรอก เดี๋ยวผิวจะตึงเกินหน้าสาว ๆ? แม่เลี้ยงปวีณาอธิบายเหตุผลของกิจกรรมเอ็กซ์ตรีมนี้ให้เธอฟังพร้อมแทรกมุขตลกลงไปด้วยพลางดึงมือให้หญิงสาวตามมานั่งที่โต๊ะข้างสระน้ำซึ่งมีพ่อเลี้ยงพาครนั่งเป็นกรรมการกิตติมศักดิ์ของการแข่งขันอยู่แล้ว

?ตาวิชญ์ วันนี้แกแพ้ไม่ได้นะ แฟนมานั่งเชียร์อยู่ทั้งคนนะโว้ย? เสียงพ่อเลี้ยงพาครเอ่ยปากแซวหลานชายตั้งแต่เช้า ซึ่งเจ้าตัวก็หันมาสบตาหวานฉ่ำของแฟนสาวในทันที

?ไม่แพ้แน่นอนครับคุณอัณณ์ ช่วยเตรียมรางวัลไว้ให้ด้วยนะครับ? พูดจบวิชญ์ก็ดำลงไปในน้ำทันที เพราะไม่ต้องการให้ร่างกายต้องโดนลมเย็นในยามเช้า อุณหภูมิน้ำในสระย่อมอบอุ่นกว่าสำหรับคนที่กำลังว่ายน้ำอยู่

?หนูอัณณ์จ๊ะ วันนี้เดี๋ยวหนูออกไปข้างนอกกับป้านะ ไปซื้อพวกของฝากไง ส่วนหนุ่ม ๆ ปล่อยไว้ที่คุ้มนี่แหละ เพราะป้าขี้เกียจฟังเสียงบ่นเวลาให้ไปเดินตามเราซื้อของน่ะ? พิชญธิดายิ้มรับ ก่อนที่จะหันไปหัวเราะกับภาพที่เห็นเพราะขณะนี้สามหนุ่มต่างกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันในน้ำอย่างสนุกสนานอย่างกับ ?มวยปล้ำในน้ำ?

?ดีเหมือนกัน เพราะผมก็จะได้โอกาสพูด ?เรื่องนั้น? กับตาวิชญ์เสียที? พ่อเลี้ยงพาครสบตาผู้เป็นภรรยาเมื่อพูดถึง ?เรื่องนั้น?

?ก็ดีค่ะ ปรึกษากันให้จบ ๆ นะคะคุณ ช่วยลูกคิดให้รอบคอบเพราะวันนี้ลูกก็จะบินกลับแล้ว ฉันไม่อยากให้แกไปคิดต่ออยู่คนเดียว ฝากบอกแกด้วยนะคะว่ามันไม่ใช่ธุรกิจ ไม่มีกำไรไม่มีขาดทุน ให้คิดเสียว่าพ่อแม่และน้องทำบุญมาเพียงเท่านี้ ไอ้ทรัพย์สมบัตินอกกายแค่นั้นก็ถือเสียว่าทำทานไปแล้วกัน คิดเสียว่าชาติที่แล้วเราไปเอาของของเขามา ชาตินี้เขาเลยต้องมาเอาคืน บอกลูกว่าต้องคิดให้รอบคอบ คิดหน้าคิดหลังให้ละเอียด อย่าวู่วาม อย่าใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง เพราะเรื่องนี้ฉันยังมองไม่เห็นว่าลูกจะได้อะไรกลับคืนมาเลย อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ อย่าเอาทองไปลู่กระเบื้องเลย มันไม่มีประโยชน์ ปล่อยพวกเขาไปตามเวรตามกรรมก็แล้วกัน เพราะสักวันหนึ่งพวกเขาก็ต้องไปชดใช้กรรมในนรกอยู่ดี? แม่เลี้ยงปวีณาพยายามใช้ธรรมเข้าช่วย เธอไม่อยากเห็นลูกชายฟาดฟันเข้าใส่อีกฝ่ายเพราะไม่ว่าอย่างไรคนที่จากไปแล้วก็ไม่มีวันฟื้นคืนชีพกลับมาได้อีก

?ช้าไปที่จะรอให้มันไปชดใช้กรรมในนรกน่ะ!!!? พ่อเลี้ยงพาครกล่าวด้วยเสียงดุดันพร้อมดวงตาที่เปล่งประกายแววอาฆาตอย่างน่ากลัว

พิชญธิดาที่นั่งฟังบทสนทนาอยู่ด้วยแม้ว่าสายตาจะจับจ้องอยู่ที่ร่างแฟนหนุ่มที่ยังคงดำผุดดำว่ายอยู่ในน้ำ เธอไม่เข้าใจว่าท่านทั้งสองกำลังพูดถึงเรื่องอะไร แต่เธอมั่นใจว่าคงไม่ใช่เรื่องที่ดีอย่างแน่นอน แล้วเรื่องนี้มันจะเกี่ยวกับหวานใจของเธอไหมหนอ

************************

ในระหว่างที่กำลังเดินทางกลับกรุงเทพฯโดยเครื่องบินโดยสารไฟลท์สุดท้ายของวัน พิชญธิดาสังเกตเห็นว่าแฟนหนุ่มมีอาการผิดแผกแปลกไป วิชญ์ดูเงียบขรึมและเคร่งเครียดตลอดเวลา สายตาของเขาดูแข็งกร้าวดุดันเหมือนไม่พอใจกับอะไรบางอย่างที่ได้รับรู้มา ที่สำคัญเขาพูดน้อยลงมาก ไม่มีการเย้าแหย่หรือพูดเล่นกับเธอ นับตั้งแต่เธอกลับมาจากซื้อของกับแม่เลี้ยงปวีณาจนมาถึงช่วงการเดินทางกลับนี้วิชญ์พูดกับเธอเพียงไม่กี่คำ ดูเหมือนเขากำลังใช้ความคิดอย่างหนักกับเรื่องอะไรสักอย่าง ?อาจจะเป็นเรื่องที่คุณลุงคุณป้าพูดถึงเมื่อเช้าก็เป็นได้ แต่มันเรื่องอะไรล่ะ? พิชญธาหันไปสบตากับกฤตธีและธีรวีร์ที่นั่งอยู่ทางซ้ายมือของวิชญ์ในเก้าอี้ชั้นธุรกิจเช่นกัน แต่ทั้งสองก็ได้แต่ส่ายหน้าลูกเดียว พิชญธิดาจึงยังไม่มีโอกาสได้รับรู้ว่า ?เรื่องนั้น? จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันมาถึงเธอด้วย เรื่องที่จะนำมาซึ่งความเสียใจครั้งยิ่งใหญ่ให้กับเธอและวิชญ์

ระหว่างที่พิชญธิดากำลังคิดว่าวิชญ์ดูแปลก ๆ ไปนั้น เธอก็นึกถึงเหตุการณ์แปลก ๆ อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวันที่ผ่านมา ตอนที่แม่เลี้ยงปวีณาพาเธอไปเลือกซื้อของฝาก ในระหว่างที่นั่งรถไปด้วยกันนั้นแม่เลี้ยงปวีณาก็บอกให้เธอได้ทราบว่าเธอเป็นหญิงสาวคนแรกที่วิชญ์พามาแนะนำให้ลุงและป้ารู้จักถึงคุ้มนิมมานรดี เป็นหญิงสาวคนแรกที่วิชญ์เต็มใจแนะนำว่าเป็นคนรัก แม่เลี้ยงปวีณายังบอกกับเธออีกว่า

?ป้าดีใจนะที่ตาวิชญ์เลือกหนู เพราะป้าคิดว่านอกจากหนูจะน่ารัก อ่อนโยนแล้ว หนูยังเป็นคนเข้มแข็งพอที่จะเดินร่วมทางเคียงคู่ชีวิตไปกับตาวิชญ์ได้ ป้ากับลุงแน่ใจว่าตาวิชญ์รักหนูมากไม่น้อยไปกว่าที่หนูเองก็รักตาวิชญ์หรอก ใช่ไหมจ๊ะ ดังนั้นหนูอัณณ์ช่วยรับปากป้าสักเรื่องจะได้ไหม รับปากว่า ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างหนูกับตาวิชญ์ หนูและตาวิชญ์จะหันหน้าเข้าหากันเพื่อพูดคุยกันก่อน อย่าวู่วามและด่วนตัดสินอะไรจากเพียงสิ่งที่ได้รู้หรือสิ่งที่ได้เห็นอยู่ฝ่ายเดียว เพราะบางทีสิ่งที่เราเห็นน่ะมันอาจจะไม่ใช่ความจริงทั้งหมดก็เป็นได้ หนูอัณณ์จำไว้นะว่าตาวิชญ์เป็นคนมีเหตุผล ทุกสิ่งที่เขาทำลงไปเขาจะมีคำตอบให้หนูได้เสมอ แต่หนูต้องเปิดใจและให้โอกาสตาวิชญ์ได้พูดได้อธิบายนะลูก รับปากป้านะว่าหนูจะไม่ทิ้งตาวิชญ์ไปไหน ตาวิชญ์ไม่มีใครอีกแล้ว หนูต้องใช้ความรักของหนูดูแลและชี้ทางสว่างให้กับตาวิชญ์นะลูก รับปากป้าได้ไหมจ๊ะ? แม่เลี้ยงปวีณาที่กอบกุมมือพิชญธิดาอยู่ยังรอคอยคำตอบจากพิชญธิดา ที่ยังคงไม่แน่ใจว่าแม่เลี้ยงปวีณากำลังต้องการจะสื่ออะไรถึงเธอกันแน่ ?อะไรที่ทำให้เธอต้องชี้ทางสว่างให้กับวิชญ์? แต่ในที่สุดหญิงสาวก็พยักหน้ารับปากกับแม่เลี้ยงปวีณาว่าจะดูแลหัวใจเธอเองให้ดีที่สุด

************************

เมื่อเครื่องบินออกบินบนน่านฟ้าได้สักครู่ วิชญ์ที่เริ่มรู้สึกตัวว่าเขาได้อยู่ในโลกส่วนตัวมานานพอสมควรแล้ว จึงหันไปมองแฟนสาวที่กำลังนั่งดูรูปถ่ายจากกล้องถ่ายรูปของเธออยู่ รูปถ่ายตามสถานที่ต่าง ๆ ในเชียงใหม่ที่เขาได้พาเธอไปเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นประตูเมือง 700 ปี วัดพระธาตุดอยสุเทพ วัดวาอารามเก่า ๆ หลายต่อหลายแห่งบนถนนสามล้าน พระตำหนักภูพิงราชนิเวศน์ และถนนคนเดินที่จัดขึ้นทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ซึ่งกินระยะทางกว่าหลายกิโลเมตร รวมทั้งมุมสวยงามต่าง ๆ ในคุ้มนิมมานรดีเอง วิชญ์ลอบมองแฟนสาวที่ยิ้มพรายในขณะที่ดูรูปเหล่านั้นอย่างสุขใจ เขาอยากเห็นพิชญธิดายิ้มแย้มอย่างนี้ตลอดไป เพราะเขาเองก็สุขใจที่ได้เห็น แต่มันจะเป็นไปได้หรือ เพราะสิ่งที่เขาได้ตัดสินใจแล้วว่าจะลงมือทำนั้น มันจะพาทั้งเธอและเขาให้ห่างไกลจากความสุขออกไปทุกที วิชญ์ยังจำคำพูดของลุงที่ดังก้องในหัวสมองของเขาได้ตอนที่เขากราบลาท่าน

?ลุงให้สิทธิ์วิชญ์ในการตัดสินใจเต็มที่ แต่วิชญ์ต้องคิดให้ดีนะว่าสิ่งที่จะทำลงไปนั้น มันจะทำให้วิชญ์สุขใจขึ้นจริงหรือ การแก้แค้นไม่ได้ทำให้เราสมหวังเสมอไปหรอกนะ เราอาจจะต้องสูญเสียบางอย่างเพื่อแลกเปลี่ยนกับมัน วิชญ์คิดให้ดีว่าวิชญ์จะยอมสูญเสียสิ่งนั้นหรือเปล่า โดยเฉพาะถ้ามันเป็นหัวใจของวิชญ์เอง? พ่อเลี้ยงพาครที่ได้เก็บเอาคำพูดเตือนสติของภรรยามาคิด ทำให้ความแค้นที่ฝังแน่นในจิตใจค่อย ๆ เบาบางลง แต่สิ่งที่ได้เห็นและได้ยินจากหลานชายคนเดียวทำให้เขาไม่แน่ใจว่าวิชญ์จะเข้าใจสัจธรรมได้อย่างเขาหรือไม่ เพราะสิ่งที่วิชญ์ได้พูดทิ้งไว้กับผู้เป็นลุงก่อนออกเดินทางกลับกรุงเทพฯก็คือ

?ผมตัดสินใจแล้วครับ ผมจะไม่ยอมให้พ่อแม่และน้องต้องมาตายฟรี ๆ สมบัติของคุณตาที่สร้างมาจากหยาดเหงื่อแรงงานทั้งชีวิตจะต้องไม่ตกอยู่ในมือคนเลวระยำแบบมัน ผมจะเอาทุกอย่างกลับคืน และจะเอาคืนให้สาสมให้เจ็บแสบกว่าที่มันเคยทำกับเรา ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต!!!? วิชญ์กล่าวด้.ียม

พ่อเลี้ยงพาครเองก็แปลกใจกับการตัดสินใจของวิชญ์ในตอนท้ายก่อนออกเดินทางกลับ เพราะตอนแรกที่วิชญ์ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของเขา เรื่องราวที่เขาได้ฟังมาจากอดีตคนสนิทคนหนึ่งของนายเมธินทร์ที่ปัจจุบันได้หันหน้าเข้าพึ่งร่มกาสาวพักตร์แทนเพื่อสร้างบุญชดเชยบาปที่เขาได้เคยก่อไว้เมื่อครั้งยังหนุ่ม ในตอนแรกนั้นวิชญ์ดูเหมือนจะไม่คิดแก้แค้นใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะวิชญ์ได้บอกกับเขาว่า

?ผมคงไม่ดิ้นรนไปทำอะไรพวกมัน ผมจะปล่อยให้มันต้องชดใช้กรรมเองอย่างที่ป้าบอกไว้ ชีวิตคนเรามันสั้น ผมน่าจะหาแต่ความสุขใส่ตัว และตอนนี้ผมก็มั่นใจว่าได้เจอคนที่จะทำให้ชีวิตผมที่เหลืออยู่มีความสุขแล้ว? พ่อเลี้ยงพาครรู้ดีว่าวิชญ์หมายถึงใคร เพราะสายตาที่ทอดมอง ?แม่หนูอัณณ์? นั้นเต็มไปด้วยความรักความห่วงหาอาทรอย่างไม่คิดที่จะปิดบังเลยแม้แต่น้อย

แต่ทันทีที่วิชญ์ได้เห็นข้อมูลของคนพวกนั้น ข้อมูลที่พ่อเลี้ยงพาครได้จ้างให้นักสืบไปค้นหาและรวบรวมมาอย่างละเอียดที่สุดหลังจากรับรู้เรื่องการตายของครอบครัวน้องสาวว่าไม่ใช่อุบัติเหตุอย่างที่เคยได้รับรายงานจากทางตำรวจ แต่กลับกลายเป็นการฆาตกรรมที่มีการวางแผนไว้ล่วงหน้าอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพราะพวกมันไม่ต้องการให้มีความผิดพลาดเกิดขึ้น มิฉะนั้นสิ่งที่พวกมันต้องการครอบครองที่มีมูลค่าหลายสิบล้านบาทจะหลุดมือไป วิชญ์อ่านข้อมูลตรงหน้าอย่างช้า ๆ ก่อนที่หัวคิ้วจะค่อย ๆ ขมวดเข้ากัน และพึมพำออกมาว่า ?ญาดา พัฒนไพศาล? และยิ่งได้มาเห็นรูปภาพของนายเมธินทร์และลูกสาวเพียงคนเดียวด้วยแล้ว วิชญ์ก็เปลี่ยนใจในทันทีและตัดสินใจบอกกับผู้เป็นลุงไปว่า

?ในตอนแรกผมคิดว่าไม่อยากจะเหนื่อย ไม่อยากจะไปเสียเวลากับพวกคนเลว ๆ แบบนั้น ผมไม่อยากจะเอาเวลาที่จะได้ทำสิ่งดี ๆ ไปย้อนหาอดีตที่เจ็บปวด ผมคิดว่าสมบัติแค่นั้นถือเสียว่าทำทานให้หมามันไป แต่ลุงเชื่อเรื่องเวรกรรมไหมครับ หึ หึ หึ ผมไม่ต้องดิ้นรนไปตามหาพวกมันแล้ว ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยอะไรเลยเสียด้วยซ้ำ เพราะตอนนี้พวกมันกลับเดินเข้ามาหาผมเอง อะไรมันจะง่ายขนาดนี้ เมื่อมันเข้ามาหาเราถึงถิ่นแล้ว เรื่องอะไรที่ผมจะปล่อยให้มันหลุดรอดออกไปได้ง่าย ๆ ในเมื่อมันแส่รนมาหาที่ตายเอง ผมก็ต้องสนองให้มันถึงใจ มันกำลังจะได้เห็นดอกบัวที่คิดว่าสวยงามนักหนา กลายร่างเป็นกงจักรในเร็ว ๆ นี้ และกงจักรที่มันเห็นนี่แหละที่จะประหัตประหารมันให้ตกนรกหมกไหม้ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดอีกต่อไป? วิชญ์กล่าวด้วยเสียงเยือกเย็นแต่นัยน์ตากลับแข็งกร้าวอย่างที่คนสนิทเองยังไม่กล้าสบสายตาด้วย เพราะรู้ดีว่ามันอาจจะแผดเผาทุกสิ่งทุกอย่างตรงหน้าให้กลายเป็นจุณได้ในชั่วพริบตา

?วิชญ์จะทำอย่างไรพอจะบอกลุงได้ไหม? พ่อเลี้ยงพาครที่อดสงสัยไม่ได้จึงถามวิชญ์ออกไป

?คุณลุงไม่ต้องห่วงครับ ผมไม่ให้มันตายง่าย ๆ หรอกครับ มันต้องทนทุกข์ทรมานเหมือนที่ผมกับลุงเคยเจอ อะไรที่ไอ้เมธินทร์มันรัก ผมจะทำลายทุกอย่างด้วยมือผมเอง ไม่เว้นแม้แต่ลูกสาวสุดที่รักของมัน!!!?

************************

?เป็นอะไรไปคะ ทำไมหน้าเครียดจัง ปวดหัว ไม่สบาย หรือว่าหูอื้อคะ? พิชญธิดาที่ละสายตาจากกล้องถ่ายรูปในมือหันมาเห็นหน้าวิชญ์ที่กำลังเคร่งเครียด หญิงสาวจึงถามไปด้วยความห่วงใยเพราะคิดว่าคนข้างตัวกำลังไม่สบายเนื่องจากกิจกรรมแผลง ๆ เมื่อตอนเช้ามืด

?เปล่าครับ ไม่ได้เป็นอะไร แค่คิดอะไรเพลิน ๆ น่ะครับ? วิชญ์ตอบ

?เพลินจริงหรือคะ ถ้าเพลินจริงคิ้วของคุณคงไม่ผูกเป็นโบว์อย่างนี้หรอกค่ะ? พิชญธิดายกมือขึ้นนวดหัวคิ้วให้กับวิชญ์เพื่อให้ปมที่ผูกไว้คลายออก แล้วจึงใช้มือทั้งสองข้างจับใบหน้าคมเข้มของเขาให้หันมาสบตากับเธอ ก่อนที่จะพูดออกไปว่า

?คุณมีอะไรในใจหรือเปล่าคะ บอกอัณณ์ได้นะ อัณณ์พร้อมจะรับฟังทุกเรื่องถึงแม้ว่าจะช่วยคุณแก้ปัญหาไม่ได้ก็เถอะ แต่ก็ไม่แน่นะ หนูตัวกะจิ๊ดมันยังเคยช่วยชีวิตราชสีห์ไว้ได้เลย อัณณ์อาจจะช่วยอะไรคุณบ้างก็ได้นะคะ คุณยังมีอัณณ์อยู่ตรงนี้นะคะ แล้วก็อย่าลืมสิว่าสองหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว? เสียงหวานใสของพิชญธิดาเรียกรอยยิ้มบนใบหน้าของวิชญ์ให้กลับคืนมาได้

?ขอบคุณครับ แค่คุณอยู่ข้าง ๆ ผม แค่นี้ก็ช่วยผมได้เยอะแล้ว? วิชญ์พูดจบก็ใช้มือหนาทั้งสองข้างของตนเองจับมือบางทั้งคู่ของพิชญธิดามากุมรวมกันไว้ แล้วจึงนำมาจรดกับปลายจมูกของเขา ก่อนที่จะพูดกับแฟนสาวด้วยเสียงหวานซึ้งตรึงใจว่า

?ผมรักคุณนะอัณณ์ ผมมั่นใจว่าผมรักคุณเข้าแล้ว? คำพูดเพียงไม่กี่คำของวิชญ์ทำให้แฟนสาวที่ไม่ทันตั้งตัวถึงกับตกตะลึงก่อนที่จะยิ้มหน้าบานกับคำสารภาพรักที่สุดแสนจะโรแมนติคของแฟนหนุ่ม จนหญิงสาวอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่า ?สงสัยที่เครียดมาทั้งวันเพราะเตรียมการกับเรื่องนี้แน่ ๆ? และใบหน้าของพิชญธิดาที่เพิ่งได้ยินคำบอกรักก็ต้องเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อเมื่อแฟนหนุ่มมอบจุมพิตไว้บนหน้าผากเธอเพื่อเป็นสักขีพยานในการบอกรักกลางเวหา หญิงสาวยิ่งอายมากขึ้นเพราะทั้งกฤตธีและธีรวีร์ต่างก็หันมาเห็น ?เลิฟซีน สารภาพรัก? นี้พอดี รวมทั้งแอร์โฮสเตสสาวอีกหนึ่งคนที่กำลังเดินเสิร์ฟเครื่องดื่มให้ผู้โดยสารในชั้นธุรกิจนี้

?มาบอกรักอัณณ์บนเครื่องบินนี่ เพราะรักอัณณ์เท่าฟ้าหรือเปล่าคะ? พิชญธิดาถามด้วยน้ำเสียงที่วิชญ์คิดว่าหวานจับใจคนฟังมากที่สุด ยิ่งได้เห็นรอยยิ้มหวานกระจ่างทั่วใบหน้าที่มอบกลับมาให้เขาแล้ว วิชญ์เลยอดไม่ได้ที่จะฉกหอมแก้มเนียนไปอีกครั้ง ความสุขที่ได้จากการบอกรักและได้เห็นรอยยิ้มหวานจากคนรักเป็นสิ่งตอบแทนทำให้วิชญ์ลืมภารกิจแค้นไปชั่วขณะ.....ภารกิจที่เขาต้องสะสางให้กับครอบครัวที่จากไป ภารกิจแค้นที่วิชญ์เองยังไม่แน่ใจว่าจะส่งผลอย่างไรต่อภารกิจรักของเขาที่มีต่อพิชญธิดา

************************

?ฮัลโหลคุณด้าหรือคะ นี่พี่กัญผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของโรงแรม ณ นิมมานรดีนะคะ จำได้ไหมเอ่ย? เสียงของกัญญาณัฐที่กำลังพูดโทรศัพท์จากห้องทำงานบนชั้น 20 ของโรงแรมหรู

?อ๋อ พี่กัญนั่นเอง จำได้สิคะ ไม่ว่าทราบมีธุระอะไรกับด้าหรือคะ?

?พี่จะโทรมาบอกข่าวดีนะสิคะ? เสียงผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อที่ยังคงตื่นเต้นกับข่าวดีที่เพิ่งได้รับมา

?ข่าวดีอะไรคะพี่กัญ? ญาดายังคงเก็บอาการไม่ตื่นเต้นตามผู้ส่งสาร เพราะไม่แน่ใจว่าจะดีจริงหรือเปล่า

?ก็เมื่อกี้นะคะ คุณวิชญ์โทรมาบอกพี่เองว่าให้ทางเราจัดการติดต่อทำสัญญากับบริษัทญาดาไหมไทยได้เลย ไม่ต้องรอใบเสนอราคาของบริษัทอื่นแล้ว เป็นไงคะ ข่าวดีใช่ไหมเอ่ย?

?จริงหรือคะพี่กัญ ด้าดีใจจังเลยค่ะ ดีจังด้าจะได้นำข่าวนี้ไปบอกกับป๊าเลย ป๊าคงดีใจน่าดูที่ได้งานชิ้นนี้ ขอบคุณพี่กัญมากนะคะที่ช่วยเหลือเรา เดี๋ยวช่วงบ่ายด้าจะให้เด็กโอนเงินส่วนที่เหลือไปให้เลยนะคะ? ญาดากล่าวอย่างดีใจเพราะนอกจากจะได้งานใหญ่แล้ว เธอยังสามารถแสดงผลงานให้กับป๊าได้เห็นอีกว่าเธอเองก็มีฝีมือไม่น้อยถึงแม้เธอจะต้องจ่ายไปไม่น้อยเช่นกัน ญาดาไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่านี่เป็นเพียงแผนการขั้นที่หนึ่งในการแก้แค้นจากวิชญ์ นิมมานรดี แผนการที่เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจแค้นของเขาที่มีต่อบิดาบังเกิดเกล้าของเธอ

?ขอบคุณคะน้องด้า แล้วเจอกันพรุ่งนี้ในงานเปิดตัวน้องด้านะคะ เอ...พี่ว่าน้องด้าน่าจะเอาข่าวดีนี้ไปกล่าวเป็นผลงานชิ้นแรกของน้องด้าบนเวทีเปิดตัวเลยดีไหมคะ? กัญญาณัฐที่พอใจกับผลงานที่เธอเองยังนึกเข้าข้างตัวเองว่าคงเป็นเพราะเธอสนับสนุนบริษัทญาดาไหมไทยถึงได้รับงานนี้ไปทั้ง ๆ ที่บริษัทอื่น ๆ ยังเสนอราคามาไม่ครบเสียด้วยซ้ำ แต่ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของโรงแรม ณ นิมมานรดีก็ยังสงสัยว่าทำไมงานนี้คุณวิชญ์ถึงด่วนตัดสินใจ ไม่รอพิจารณาราคาจากบริษัทอื่น ๆ ก่อนเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่กัญญาณัฐก็รีบปัดความสงสัยนี้ออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อนึกถึงตัวเลขในบัญชีที่กำลังจะเพิ่มขึ้นในบ่ายนี้

?อุ๊ย! เป็นไอเดียที่ดีมากเลยค่ะ เดี๋ยวด้าจะรีบเพิ่มลงไปในสคริปต์ของด้าเลยนะคะ ขอบคุณมากนะคะพี่กัญ แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะคะ หวังว่าโอกาสหน้าเราคงได้ร่วมงานกันอีกนะคะ? ทันทีที่วางหูโทรศัพท์ญาดาก็ยิ้มด้วยดวงตาที่มุ่งมาด

?ไม่คิดว่างานนี้มันจะง่ายขนาดนี้ แสดงว่าเราก็มีเสน่ห์ดึงดูดใจคุณวิชญ์อยู่ไม่น้อยเลย รอให้ถึงพรุ่งนี้ก่อนเถอะ แล้วคุณจะตกตะลึงในความงามของด้ามากไปกว่านี้อีกหลายเท่า พรุ่งนี้พบกันนะคะคุณวิชญ์สุดหล่อ? ญาดากล่าวอย่างอารมณ์ดีก่อนที่จะลุกไปหาบิดาเพื่อบอกข่าวดีด้วยตัวเธอเอง

************************

?อัณณ์ครับ ตกลงคืนพรุ่งนี้ไปงานเลี้ยงของคุณญาดากับผมนะ? วิชญ์ตัดคำนำหน้าในการเรียกชื่อพิชญธิดาออกตามคำแนะนำของแม่เลี้ยงปวีณาที่อ้างว่า ?ฟังแล้วดูห่างเหิน ไม่เหมือนคนทื่เป็นแฟนกันเลย หนูอัณณ์น่าจะเรียกว่าพี่วิชญ์เสียด้วยซ้ำนะ? ทั้ง ๆ ที่ตัวเธอเองก็เรียกสามีด้วยคำว่าคุณนำหน้า ?ของป้ากับลุงน่ะ เราอายุเท่ากันจ๊ะ ฟังดูสุภาพสมวัย? แต่พิชญธิดาก็ยังคงยืนกรานที่จะเรียกวิชญ์ว่า ?คุณวิชญ์? อยู่ดีเพราะคงไม่ดีแน่หากใครมาได้ยินเลขาฯเรียกเจ้านายว่า ?พี่?
?อัณณ์ไม่ไปดีกว่าค่ะ ช่วงไปเชียงใหม่ก็ขาดคลาสโยคะไปตั้งหลายวันแล้ว พรุ่งนี้อัณณ์นัดกับปรัชญ์แล้วด้วยว่าจะไม่เบี้ยวอีก? พิชญธิดาเอียงคอมองแฟนหนุ่มที่ทำหน้าบึ้งเพราะถูกขัดใจ

?ขาดอีกสักวันจะเป็นอะไรไปครับ? วิชญ์หันหน้ามาตื้อทั้ง ๆ ที่กำลังขับรถอยู่

?ไม่เอาค่ะ คุณก็พูดได้นี่ เพราะมียิมส่วนตัวจะออกกำลังกายเวลาไหนก็ทำได้ ถ้าอัณณ์หยุดบ่อย ๆ เดี๋ยวอ้วนน่าเกลียดแล้วห้ามมาว่ากันนะคะ?

?จะอ้วนจะผอม ถ้าเป็นพิชญธิดา บวรภัค ยังไงผมก็รักคร้าบ? วิชญ์ปล่อยลูกอ้อนใส่แฟนสาวอย่างเต็มที่เพราะอยู่กันตามลำพังจึงไม่ต้องเกรงใจสองหนุ่มลูกน้อง

?สรุปว่าไม่ไปค่ะ ไม่ต้องตื้ออีก และพรุ่งนี้เขาจะมาส่งกระเช้าดอกไม้ตอนสี่โมงเย็นนะคะ อ้อ เวลาไปงานเลี้ยงน่ะต้องมีคุณกฤตหรือคุณวีร์ตามไปด้วยนะ และถึงอัณณ์ไม่ไปกับคุณ คุณก็ต้องโทรมารายงานตัวด้วยตอนที่กลับถึงคอนโด ห้ามเบี้ยวนะคะ และที่สำคัญต้องใช้เบอร์โทรศัพท์ที่คอนโดโทรมานะ ห้ามใช้มือถือเด็ดขาด? แม่กวางน้อยที่เริ่มจะแปลงร่างเป็นแม่เสือสาวปิดทางแฟนหนุ่มไว้ล่วงหน้าเสียทุกทาง เพราะเธอเชื่อว่าของแบบนี้ต้องกันไว้ดีกว่าแก้

?โห โหดชะมัด ก็นี่ไงถึงให้ตามไปคุมเลยอ่ะ จะได้รู้ว่าผมน่ะไม่ออกนอกลู่นอกทางเด็ดขาด? ถึงวิชญ์จะบ่นแต่ก็ยังยิ้มได้เพราะรู้ดีว่าแฟนสาวกำลังออกอาการหวงเขาบ้าง

?ที่ไม่ตามก็เพราะไว้ใจน่ะสิค่ะ แต่ก็ต้องโทรมารายงานตัวนะเพราะเจ้าของงานน่ะสวยน้อยเสียเมื่อไรล่ะ? พิชญธิดาแกล้งดักคออีกครั้ง

?ไม่สวยเกินหน้าแฟนผมหรอกครับ เอาเป็นว่าออกจากงานเลี้ยงเมื่อไรผมจะตรงไปรายงานตัวถึงบ้านอัณณ์ทันทีเลย อัณณ์จะได้สบายใจ ตกลงตามนี้นะครับ? วิชญ์สรุปปิดท้าย

?ไม่เอา ไม่ต้องมาที่บ้าน มันดึกแล้ว? พิชญธิดาท้วงเพราะเริ่มกลัวใจตัวเองเวลาที่ได้อยู่ใกล้ชิดชายหนุ่ม ยิ่งตอนนี้หัวใจโอนเอียงเข้าหาเขาจนหมดทั้งดวงด้วยแล้ว กายสาวก็เริ่มจะเอียงตามไปมากขึ้นทุกที ?ที่กลัวน่ะไม่ใช่กลัวใจคุณวิชญ์หรอกแต่ชักจะไม่ไว้ใจตัวเองต่างหาก ก็พ่อเจ้าประคุณเล่นทำตาเยิ้มใส่ตลอดเวลานี่นา เสน่ห์แรงเสียเหลือเกิน ใครจะไปอดใจไหว?

?ใสเจีย เสียใจ ผมยอมให้อัณณ์ไม่ต้องไปงานเลี้ยง และอัณณ์ก็ต้องยอมให้ผมมารายงานตัวถึงบ้านเช่นกัน อย่างนี้ถึงจะยุติธรรมทั้งสองฝ่าย จบข่าวเพียงแค่นี้? วิชญ์ตัดบทก่อนที่จะเลี้ยวรถเข้าจอดหน้าบ้านแฟนสาวในเวลาพลบค่ำ

************************

ณ ห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ที่สามารถจุคนได้นับพันของโรงแรมหรูระดับห้าดาวแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางย่านธุรกิจดังของกรุงเทพมหานคร ในคืนนี้ห้องจัดเลี้ยงแห่งนี้คราคร่ำไปด้วยนักธุรกิจหลากหลายวงการแต่ที่เห็นมากหน้าหลายตาที่สุดก็คงจะเป็นนักธุรกิจเจ้าของกิจการสิ่งทอทั้งหลาย โดยเฉพาะพวกผ้าทอมือ เช่น ผ้าฝ้ายและผ้าไหมดังของไทย รวมทั้งเจ้าของห้องเสื้อดัง ๆ ที่เป็นลูกค้าของบริษัทญาดาไหมไทย

สำหรับงานคืนนี้นั้นทางเจ้าของงานได้แจ้งให้ทางโรงแรมจัดอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ไว้ตามมุมต่าง ๆ ของห้องจัดเลี้ยงเพื่อให้แขกได้เดินพูดคุยกันอย่างทั่วถึง แต่ก็มีเก้าอี้ไว้บริการอยู่รายรอบเพื่อให้แขกได้นั่งพักเช่นกัน ทางมุมขวาของเวทีเจ้าของงานซึ่งเป็นถึงบริษัทส่งออกผ้าไหมยักษ์ใหญ่ของเมืองไทยได้นำผ้าไหมไทยทอมือลวดลายต่าง ๆ มาจัดแสดงให้กับแขกผู้มีเกียรติได้ชื่นชมความงามของภูมิปัญญาคนไทยที่สามารถออกแบบลวดลายผ้าไหมได้อย่างวิจิตรงดงาม และมีสีสันหลายเฉดสีไม่แพ้ผ้าไหมที่เกิดจากเครื่องทอ แถมยังมีนางแบบและนายแบบชั้นแนวหน้าหลายคนมาสวมใส่เสื้อผ้าที่ตัดจากผ้าไหมทอมือของบริษัทญาดาไหมไทย และได้เดินแบบให้แขกได้ชมการออกแบบตัดชุดที่สวมใส่ตามโอกาสต่าง ๆ จากผ้าไหม รวมทั้งลวดลายการทอที่มีวิวัฒนาการสวยงามและเหมาะสมกับสภาพสังคมไทยในปัจจุบันมากขึ้น นับว่าเจ้าของงานยอมทุ่มทุนในการจัดงานไปไม่น้อย ทั้งอาหารเลิศรสและเครื่องดื่มที่ทยอยออกมาบริการอย่างไม่ขาดสาย รวมทั้งการเดินแบบที่เรียกความสนใจได้ค่อนข้างดีจากแขกในระหว่างรอพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นความคิดของเจ้าของงานแต่ผู้เดียว

นายเมธินทร์ พัฒนไพศาลและลูกสาวคนสวยยืนต้อนรับแขกอยู่หน้างาน คืนนี้เจ้าของงานอยู่ในชุดราตรียาวผ้าไหมสีทองปักเลื่อมทั้งตัว ซึ่งเป็นชุดคล้องคอเพื่อให้เจ้าของเรือนร่างอวบอิ่มสมส่วนได้อวดร่างขาวราวหยวกกล้วยได้เต็มที่ เพราะได้โชว์ทั้งส่วนเว้าส่วนโค้งของเจ้าของชุดและแผ่นหลังที่ไร้ริ้วรอยไฝฝ้าใด ๆ ทั้งสิ้น รวมถึงโคนขาขาว ๆ ที่โผล่พ้นเนื้อผ้ายามหญิงสาวเยื้องกรายไปทั่วงาน เพราะชุดถูกออกแบบให้ผ่าด้านข้างมาถึงขาอ่อน แขกที่ได้รับเชิญต่างออกปากชมความงามของหญิงสาวกันทุกคนโดยเฉพาะหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่ทั้งโสดและไม่โสด ต่างผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าไปพูดคุยและแนะนำตัวกับเจ้าของงานอยู่ตลอดเวลา แต่ญาดาก็ยังคงชะเง้อรอคอยคนสำคัญ ชายหนุ่มที่เธอต้องการจะพาไปอวดผู้เป็นบิดา ชายหนุ่มที่ไม่ใช่นายธีรุตม์ วงศ์อริยะ!

************************

?ป๊าค่ะ คุณวิชญ์ นิมมานรดี เดินมาโน่นแล้ว? ญาดาแทบเก็บอาการ ?เนื้อเต้น? ไว้ไม่อยู่ ยิ่งได้เห็นชายหนุ่มที่เธอกำลังรอคอยไร้สาวออกงานเคียงข้างด้วยแล้ว เธอยิ่งคิดว่าตัวเองยิ่งมีสิทธิ์ลุ้นมากขึ้น ญาดาปั้นยิ้มหวานระหว่างยืนรอชายหนุ่มที่กำลังเดินมุ่งหน้ามาทางเธอและผู้เป็นบิดา ยิ้มที่ใคร ๆ เห็นก็ต้องยอมรับว่าทั้งสวยทั้งหวาน แต่สำหรับวิชญ์คงไม่มียิ้มไหนจะหวานเท่ายิ้มของพิชญธิดาได้อีกแล้ว

?สวัสดีครับ ผมวิชญ์ นิมมานรดี ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ? วิชญ์กล่าวแนะนำตัว พร้อมยื่นมือไปสัมผัสกับมือของนายเมธินทร์ตามมารยาท ทั้ง ๆ ที่ในใจนั้นแสนจะรังเกียจเจ้าของมืออย่างที่สุด ?ไอ้มือของฆาตกร? แล้วจึงหันไปพยักหน้าให้กฤตธีที่ยืนอยู่ด้านหลังให้ส่งกระเช้าดอกไม้ขนาดใหญ่ให้กับเขาเพื่อส่งมอบต่อให้กับญาดา เจ้าหญิงของงาน

?สวัสดีครับผมเมธินทร์ พัฒนไพศาล และนี่ก็ลูกสาว ญาดา ซึ่งคุณคงรู้จักดีแล้ว ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณที่ทางโรงแรมของคุณไว้ใจใช้บริการผ้าไหมของเราในครั้งนี้ ทางเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง และขอบคุณที่ให้เกียรติมาร่วมงานในคืนนี้ด้วยครับ? นายเมธินทร์ที่ได้เห็นหน้าตาของวิชญ์ในระยะใกล้ เริ่มรู้สึกคุ้นใบหน้าของชายหนุ่มเหมือนได้เคยเห็น หรือเคยรู้จักมาก่อน

?เราเลือกของที่ดีที่สุดให้กับโรงแรมของเราเสมอครับ และหวังว่าทางคุณจะไม่ทำให้เราผิดหวังนะครับ? วิชญ์กล่าวตอบ

?เอ...เราเคยเจอกันมาก่อนไหมครับ ผมรู้สึกคุ้น ๆ หน้าคุณวิชญ์ หรือคุณวิชญ์จะหน้าตาเหมือนใครที่ผมเคยรู้จัก? นายเมธินทร์ยังคงพินิจพิเคราะห์ใบหน้าชายหนุ่มรุ่นลูกต่อไป

?ผมไม่แน่ใจว่าเราเคยเจอกันไหม แต่ที่แน่ ๆ เราไม่เคยรู้จักกันอย่างแน่นอนครับ? วิชญ์ตอบกลับโดยละข้อความบางส่วนไว้ในใจ ?เพราะไม่เช่นนั้น ฉันคงไม่ปล่อยแกไว้จนถึงวันนี้หรอก ไอ้เมธินทร์?

?ป๊าคะ ไว้ค่อยคุยกับคุณวิชญ์ที่โต๊ะเถอะค่ะ ให้ด้าพาคุณวิชญ์ไปนั่งก่อนดีกว่าไหมคะ? ญาดาบอกกับผู้เป็นพ่อ ก่อนที่จะฉวยโอกาสคล้องแขนวิชญ์แล้วพาเดินไปนั่งที่โต๊ะวีไอพีซึ่งอยู่ด้านหน้าสุด ญาดาที่กำลังหน้าชื่นเพราะได้อวดใครต่อใครในงานถึงความสนิทสนมของเธอและวิชญ์ เธอรั้งแขนวิชญ์ให้หยุดระหว่างทางเพื่อให้นักข่าวที่เชิญมาได้ถ่ายภาพของเธอและเขา ญาดาที่มัวแต่หลงดีใจที่ได้ใกล้ชิดชายหนุ่มรูปงามเข้าไปอีกขั้น จึงไม่ได้เหลียวมองเลยว่าใบหน้าของคนที่เธอควงแขนอยู่นั้น ไม่ได้รู้สึกยินดีปรีดาไปกับเธอด้วยเลย ชายหนุ่มไม่ได้แสดงสีหน้าใด ๆ ออกมาทั้ง ๆ ที่กำลังนึกดีใจว่า ?ปลาติดเบ็ด? เสียแล้วทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ใช้เหยื่อล่อเลย!!!

************************

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”