ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 16 โดย....อาทิตา

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
athita
โพสต์: 41
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 11 เม.ย. 2009 11:15 pm

ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 16 โดย....อาทิตา

โพสต์ โดย athita »

ตอนที่ 16 เริ่มปฏิบัติการภารกิจแค้น

หลังจากวิชญ์ได้ออกมายืนส่งแขกทั้งสองคนแล้ว เขาก็เดินตรงมาหาเลขาฯสาวที่กำลังชงโอวัลตินให้ตัวเองในมุมกาแฟ โดยมีธีรวีร์นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ใกล้ ๆ

?เมื่อกี้คุณอัณณ์บอกผมว่าใครโทรมาหาผมนะครับ ผมได้ยินไม่ถนัด? วิชญ์ถามแฟนสาวถึงเรื่องที่เธอเพิ่งบอกเขาไป

?จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวล่ะสิ ถึงฟังไม่รู้เรื่องน่ะ? พิชญธิดาที่อดหึงไม่ได้เลยพาลทำหน้ายักษ์ใส่แฟนหนุ่ม ยิ่งได้เห็นสายตาของญาดาที่มองเจ้านายหนุ่มผู้กุมหัวใจของเธอด้วยแล้ว พิชญธิดายิ่งรู้สึกแปลก ๆ เหมือนมีลางสังหรณ์ว่าหญิงสาวคนนั้นจะเป็นคนมาพรากหัวใจไปจากเธอ ?เฮ้อ! ทำไมเราถึงคิดไปไกลขนาดนั้นนะ คุณวิชญ์ก็ไม่ได้ดูสนใจเธอสักเท่าไรเลย ชักจะขี้หึงไม่มีเหตุผลเข้าไปทุกทีแล้วยายอัณณ์เอ๊ย? และเมื่อตั้งสติได้แล้วพิชญธิดาก็เลยหันไปยิ้มหวานแทนคำขอโทษให้กับแฟนหนุ่มที่ยังงง ๆ กับอาการผีเข้าผีออกของแฟนสาว

?ใช่ครับ จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเพราะให้คุณอัณณ์เป็นคนเก็บไปตั้งนานแล้ว ไม่ต้องมาระแวงผมเลยนะ ผมเคยบอกแล้วว่าไม่ชอบแบบนั้น ชอบแบบนี้คนเดียวเท่านั้น? วิชญ์บีบจมูกแฟนสาวอย่างมันเขี้ยวในอาการหึงของแม่คุณ เขาไม่ได้นึกพิศวาสอะไรญาดาเลย เขาจำเธอได้ในทันทีเพราะเพิ่งเจอกันเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ถึงแม้วันนี้เธอจะมาในสไตล์ที่แตกต่างจากครั้งแรกที่ได้เจอก็ตาม แต่แววตาและจริตจะก้านของเธอในวันนั้นก็ไม่แตกต่างจากวันนี้เลยสักนิด เขาเจอผู้หญิงแบบนี้มาเยอะ ทำไมเขาจะดูไม่ออกว่าเธอพยายามที่จะสื่อความหมายพิเศษที่มากกว่าเรื่องงานที่มาติดต่อ วิชญ์เองยังแปลกใจที่ระดับลูกสาวเจ้าของกิจการต้องมาเสนอแบบผ้าไหมพร้อมราคาด้วยตัวเอง แต่ไม่ว่าญาดาจะมาไม้ไหนเขาก็ไม่มีวันตกหลุมพราง....หากเขาไม่เต็มใจเสียอย่าง

?อะแฮ่ม ๆ มีผมอยู่ตรงนี้อีกคนนะครับ ช่วยเกรงใจกันสักนิดหนึ่ง สงสารคนยังไม่มีแฟนบ้างนะครับ? เสียงธีรวีร์ดังขัดจังหวะขึ้นเพราะไม่อยากเห็นฉากเลิฟซีนในที่ทำงาน ที่สำคัญในระยะกระชั้นชิดเสียด้วย

?เออ! รู้แล้วว่าแกยังอยู่ตรงนี้อีกคน แล้วเมื่อไรแกจะลุกออกไปสักทีล่ะครับคุณธีรวีร์ แฟนเขาจะจู๋จี๋กัน มานั่งเป็น กอ ขอ คอ อยู่ได้? วิชญ์โต้กลับอย่างไม่อาย

?บ้า! ใครจะจู๋จี๋กับคุณ? พิชญธิดาพูดจบก็รีบเดินกลับไปยังโต๊ะทำงานของเธอทันที โดยมีวิชญ์รีบเดินจ้ำตามหลังมา

?ตกลงเมื่อกี้คุณอัณณ์ว่าใครโทรมานะครับ? วิชญ์ส่งเสียงไล่หลังถามหญิงสาว

?พี่ยาค่ะ พี่ยาโทรมาบอกว่าขอลางานแบบไม่รับเงินเดือนอีกสามเดือนค่ะเพราะช่วงนี้น้องเมธแกเป็นโคลิคค่ะ พี่ยาเลยขอดูแลเองอีกสักพัก เห็นบอกว่ายังไม่ได้พี่เลี้ยงที่พอจะมีประสบการณ์ในการเลี้ยงเด็กด้วยน่ะค่ะ แกเลยไม่กล้าปล่อยไว้กับแม่บ้านตามลำพัง พี่ยาฝากขอโทษคุณวิชญ์มาด้วยค่ะ? พิชญธิดาถ่ายทอดทุกคำพูดของเมธปรียาอย่างไม่ตกหล่นให้วิชญ์ฟัง

?ผมน่ะไม่มีปัญหาอะไรหรอก คุณอัณณ์ล่ะครับทำงานคนเดียวไหวไหม? วิชญ์ถามด้วยสายตาห่วงใย

?แหม! ทำมาจะสามเดือนเต็มอาทิตย์หน้านี้แล้วนะคะ คิดว่าไหวไหมล่ะคะท่านประธานขา? พิชญธิดาย้อนถามกลับซึ่งก็เรียกเสียงหัวเราะจากท่านประธานได้เป็นอย่างดี

กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานของพิชญธิดาดังขัดจังหวะขึ้น เลขาฯสาวจึงรีบวางแก้วโอวัลตินลงบนโต๊ะ แล้วจึงยกหูโทรศัพท์ขึ้นเจรจา

?สวัสดีค่ะ ออฟฟิศประธานกรรมการค่ะ? เธอกล่าวทักทายคู่สายโดยมีวิชญ์ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ

?ไม่ทราบว่าจะให้เรียนท่านว่าจากที่ไหนคะ? เธอชี้นิ้วมาที่วิชญ์พลางขยับปาก ?ของคุณ? แล้วจึงชี้นิ้วไปที่เครื่องโทรศัพท์ของเธอก่อนที่จะชี้ไปยังห้องทำงานของเจ้านายหนุ่มเพื่อที่จะถามว่าเขาจะรับสายกับเครื่องไหน วิชญ์จึงชี้นิ้วกลับมาที่เครื่องโทรศัพท์ของเธอ

?รอสักครู่นะคะ? พิชญธิดากดแป้นที่มีรูปตัวโน้ตดนตรีเพื่อพักสาย แล้วจึงหันมาบอกกับวิชญ์ว่า

?คุณปวีณา จากคุ้มนิมมานรดีค่ะ? แล้วพิชญธิดาก็ส่งหูโทรศัพท์ให้กับวิชญ์ก่อนที่จะคว้าแก้วโอวัลตินของเธอแล้วจึงเดินกลับไปยังมุมกาแฟ เพื่อให้ชายหนุ่มได้พูดคุยโทรศัพท์ได้ตามสะดวก

************************

หลังจากที่วางสายจากแม่เลี้ยงปวีณาผู้เป็นป้าสะใภ้ตามกฎหมาย แต่เปรียบเสมือนแม่อีกคนตามความเป็นจริงแล้ว วิชญ์ก็เดินกลับมาหาพิชญธิดาแล้วพูดว่า

?คุณอัณณ์ครับ การ์ดเชิญไปร่วมงานเปิดตัวรองประธานบริษัทญาดาไหมไทยอยู่บนโต๊ะทำงานผมนะ ช่วยโน้ตลงตารางนัดหมายไว้ให้ด้วยนะครับ ถ้าจำไม่ผิดคิดว่าอีกสองอาทิตย์นะ?

?ได้ค่ะ จะให้อัณณ์สั่งกระเช้าดอกไม้หรือหาซื้อของขวัญให้ดีคะ? เลขาฯสาวถามความเห็นจากผู้เป็นนาย พลางนึกถึงใบหน้าของเจ้าของงานเลี้ยงอีกครั้ง ใบหน้าที่เธอเห็นแล้วรู้สึกไม่สบายใจพิกล ๆ ?คิดมากอีกแล้วนังอัณณ์?

?กระเช้าดอกไม้ก็ได้ครับ คุณอัณณ์จะได้ไม่ต้องไปเดินซื้อของขวัญอีก?

?ได้ค่ะ เดี๋ยวอัณณ์จะจัดการโทรสั่งให้เลย จะให้ทางร้านมาส่งที่นี่หรือคุณวิชญ์จะแวะรับก่อนไปงานเลี้ยงดีคะ?

?ให้เขามาส่งที่นี่ดีกว่าครับ อ้อ! อีกเรื่องหนึ่ง คุณอัณณ์ช่วยจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินไปเชียงใหม่ให้ผมด้วยนะครับ เอาไฟลท์พรุ่งนี้เลยนะ ขอเป็นช่วงบ่าย ๆ เพราะตอนเช้าผมจะได้เข้ามาเคลียร์งานก่อน?

?คุณกฤตกับคุณวีร์ไปด้วยไหมคะ? พิชญธิดาขึ้นถามอย่างรอบคอบ

?เจ้ากฤตคงไปอยู่แล้ว มันคงต้องไปรับค่าจ้างงานสายสืบ แกล่ะจะไปไหมวีร์? เสียงผู้เป็นนายถามลูกน้องคนสนิทที่ยังนั่งละเลียดกาแฟอยู่อย่างสบายอารมณ์

?แล้วแต่นายเถอะครับ ผมไม่มีปัญหาอะไร หรือนายจะให้ผมคอยรับส่งคุณอัณณ์แทนช่วงที่นายไปเชียงใหม่? ธีรวีร์ถามกลับเพราะทุกวันนี้เขาเป็นคนขับรถรับส่งพิชญธิดาไปกลับที่ทำงานอยู่แล้ว เนื่องจากหญิงสาวไม่ยอมให้แฟนหนุ่มขับรถอีกคันเพื่อไปรับส่งเธอโดยเฉพาะโดยอ้างเหตุผลที่ฟังเข้าท่าว่า ?ต้องช่วยชาติประหยัดน้ำมัน และนั่งกันไปหลาย ๆ คนนี่แหละจะได้คุยกันสนุกดี? ทั้ง ๆ ที่แฟนหนุ่มอยากจะใช้เวลาร่วมกันในยามเช้าและยามเย็นกับเธอตามลำพังเท่านั้น และไอ้ที่คุยกันสนุกดีก็เห็นจะมีแต่คุณอัณณ์ที่จ้ออยู่คนเดียวทุกวัน และคงมีคุณวิชญ์อีกคนที่สนุกที่ได้ฟังเสียงแฟนสาวเจื้อยแจ้วไม่หยุด

?ไม่ต้องอยู่รับส่งคุณอัณณ์หรอก เพราะคุณอัณณ์จะไปเชียงใหม่กับเราด้วย? วิชญ์ตอบข้อซักถามของธีรวีร์แต่กลับสร้างความสงสัยให้พิชญธิดาแทน

?ไปเรื่องงานหรือคะ อัณณ์นึกว่าเมื่อตะกี้ญาติคุณวิชญ์โทรมาซะอีก เห็นบอกว่าจากคุ้มนิมมานรดีนี่คะ? พิชญธิดายังคงสงสัย

?ครับ คุณป้าผมเอง ท่านบัญชามาว่าให้ขึ้นไปพบด่วนเพราะผมไม่ได้ขึ้นไปเยี่ยมพวกท่านเลยตั้งเกือบสามเดือนครึ่งเข้าไปแล้ว และที่คุณอัณณ์ต้องไปด้วยก็เพราะว่าคุณป้าผมนี่แหละที่สั่งเจาะจงมาโดยเฉพาะ?

?ทำไมล่ะคะ อัณณ์ไม่เคยพบท่านนี่คะ ท่านจะอยากเจออัณณ์ทำไมกัน? พิชญธิดายังคงสอบถามเพื่อต้องการความกระจ่าง

?ท่านบอกว่า....อยากเจอว่าที่หลานสะใภ้นะครับ? วิชญ์ตอบพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่มที่เพิ่มเสน่ห์ให้ตัวเองเข้าไปอีก เขารู้สึกดีใจที่ผู้เป็นป้ายอมรับการคบหาของเขาและพิชญธิดาถึงกับเอ่ยปากให้พาหวานใจของเขาไปให้ท่านดูตัว เพราะป้าไม่เคยเอ่ยปากชวนหรืออนุญาตให้เขาพาผู้หญิงคนไหนไปพบที่คุ้มนิมมานรดีเลยสักครั้ง ?สงสัยต้องไปตบรางวัลให้เจ้ากฤตมันซะหน่อยที่ทำหน้าที่ได้ดีเกินคาด?

พิชญธิดายืนอึ้งสบตาหวานฉ่ำของวิชญ์โดยไม่มีคำพูดใด ๆ เล็ดลอดออกมาจากปากจิ้มลิ้มบนใบหน้าที่กำลังแดงเรื่ออย่างเขินอายปนสุขใจ ก่อนที่จะนึกขึ้นได้และถามวิชญ์ออกไปว่า

?ตกลงจะไปกี่วันคะ อัณณ์จะได้จองตั๋วไปกลับถูก? หญิงสาวก้มหน้าลงมองพื้นทันทีที่ถามเสร็จ

?อ้าวคุณอัณณ์ ทำไมยอมรับง่าย ๆ อย่างนั้นล่ะครับ? เสียงแซวจากธีรวีร์ที่แปลกใจที่เลขาฯหวานใจเจ้านายไม่ปฏิเสธข้อกล่าวหาแต่อย่างใด

?ใครจะปฏิเสธหัวใจตัวเองได้ล่ะคะ? พิชญธิดาตอบแล้วรีบเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานเพื่อที่จะซ่อนรอยยิ้มและใบหน้าที่แดงก่ำจากสองหนุ่ม

?ก็ลองปฏิเสธดูสิครับ วันนี้ไม่ได้กลับบ้านแน่ ๆ จะพาไปนอนคอนโดเลยคอยดูสิ จะได้ไม่ต้องเป็นแค่ว่าที่หลานสะใภ้อีกต่อไป? วิชญ์ตะโกนไล่หลังหญิงสาวก่อนที่จะหันมายักคิ้วใส่ลูกน้องหนุ่มอย่างผู้กำชัยชนะเหมือนต้องการจะประกาศศักดาให้รู้ว่า ?มือชั้นนี้แล้ว ไม่มีทางปฏิเสธหรอก?

************************

?เจ้าวิชญ์มันว่าไงบ้างล่ะคุณ จะขึ้นมาวันไหน? เสียงพ่อเลี้ยงพาครถามผู้เป็นภรรยา

?ฝีมือฉันซะอย่างมีหรือลูกจะกล้าขัดใจ ลูกบอกว่าจะขึ้นมาพรุ่งนี้เลยค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปสั่งเด็กให้เตรียมห้องก่อนนะคะ? แม่เลี้ยงปวีณาลุกจากเก้าอี้ข้างโต๊ะโทรศัพท์แล้วเดินตรงไปที่ประตูซึ่งเชื่อมติดกับทางเดินเพื่อไปยังห้องครัว

?เตรียมห้องอะไรอีกล่ะคุณ ก็ห้องเจ้าวิชญ์เด็ก ๆ มันก็ทำความสะอาดอยู่ทุกวันแล้วนี่นา หรือจะเตรียมให้เจ้าสองหนุ่มนั่นฮะ? พ่อเลี้ยงพาครมองหน้าผู้เป็นภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากอย่างสงสัยในท่าทีที่รีบร้อน

?ค่ะตากฤตกับตาวีร์จะมาด้วย ที่สำคัญฉันบอกให้เจ้าวิชญ์พาแฟนเขามาให้เรารู้จักหน่อยน่ะค่ะ นี่เลยต้องไปสั่งเด็กให้ทำความสะอาดห้องรับแขกด้วย? แม่เลี้ยงปวีณายิ้มหวานให้สามีก่อนที่จะเปลี่ยนใจเดินกลับมานั่งลงข้าง ๆ แล้วเอียงศีรษะซบไหล่สามีอย่างเอาใจก่อนที่จะพูดว่า

?ฉันอยากเห็นหน้าคนที่ทำให้ลูกเรามีความสุขน่ะค่ะ? แม่เลี้ยงปวีณายิ้มหวานให้สามี

?อยากเห็นหน้าว่าที่หลานสะใภ้ใช่ไหมล่ะ ผมเตือนคุณไว้ก่อนนะว่าคนนี้ตาวิชญ์มันหวงมาก อย่าไปซักไซ้จนแม่หนูนั่นตกใจขวัญกระเจิงเข้าล่ะ ดีไม่ดีพ่อลูกชายตัวดีของคุณมันจะหอบหิ้วกันกลับทันที แล้วจะหาว่าผมไม่เตือน? เสียงพ่อเลี้ยงพาครดักคอผู้เป็นภรรยาไว้ล่วงหน้าเพราะรู้ฤทธิ์คนหวงลูกชายดี ก่อนที่จะใช้มือโอบไหล่ภรรยาให้แนบชิดยิ่งขึ้น

?ค่ะ ทราบแล้วค่ะ ฉันรู้หรอกน่าว่าคนนี้ลูกรักจริงหวังแต่ง เพราะสายสืบฉันเขารายงานมาทุกระยะไม่มีขาดตอน ฉันแค่อยากเห็นด้วยตาตัวเองเท่านั้นว่าแม่หนูอัณณ์อะไรนี่จะน่ารักจริงอย่างที่ตากฤตบอกเล่าเก้าสิบมาหรือเปล่า ฉันเป็นแม่อีกคนของตาวิชญ์แกนะคะ อะไรที่ทำให้ลูกมีความสุข ฉันจะไปขัดขวางได้ยังไง? เสียงแม่เลี้ยงปวีณาร่ายยาวให้สามีฟัง

?เฮ้อ แต่ขากลับนี่สิ ลูกจะยังมีความสุขอยู่อีกไหม หากต้องมารู้เรื่องนั้นเข้า? เสียงถอนหายใจของพ่อเลี้ยงพาครดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่จะสบตาผู้เป็นภรรยาที่อิงแอบแนบชิดอยู่ข้างตัว

?มันถึงเวลาแล้วใช่ไหมคะคุณ? น้ำเสียงเศร้าสร้อยของแม่เลี้ยงปวีณาเมื่อนึกถึง ?เรื่องนั้น? เรื่องที่จะนำความทุกข์อันใหญ่หลวงมาให้ลูกชายสุดที่รัก

?ยังไงสักวันตาวิชญ์ก็ต้องรู้ สู้ให้ลูกรู้จากเราไม่ดีกว่าหรือ?

?ค่ะ ฉันก็ได้แต่หวังว่าความรักจากเราและจากแม่หนูอัณณ์จะช่วยให้ตาวิชญ์ผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้ด้วยดี ฉันไม่อยากให้แกคิดแก้แค้นฝ่ายนู้นเลยคะ กลัวใจลูกจริง ๆ ค่ะ? แม่เลี้ยงปวีณาที่ต้องถอนหายใจเช่นเดียวกับสามีเมื่อนึกถึงเรื่องที่กำลังจะเกิดในอีกไม่ช้า เพราะรู้จักลูกชายตัวเองดีว่าเป็นคนแบบไหน ?วิชญ์ไม่เคยทำร้ายใครก่อน แต่เขาจะตอบแทนอย่างสาสมกับคนที่มาหาเรื่องเขาก่อน?

?อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เราให้ตาวิชญ์เป็นคนตัดสินใจเองดีไหมเพราะที่เขาสูญเสียไปก็ไม่ใช่น้อยทั้งพ่อทั้งแม่ทั้งน้อง ไหนจะธุรกิจที่พ่อผมลงทุนลงแรงไปไม่น้อยเรียกได้ว่าเริ่มมาจากศูนย์เลยทีเดียว ถ้าเจ้าวิทวัสมันไม่ไว้ใจไอ้เพื่อนเลวระยำอย่างไอ้เมธินทร์นั่น ชีวิตของเจ้าวิชญ์ก็ไม่ต้องเป็นแบบนี้? เสียงถอนหายใจอีกครั้งของพ่อเลี้ยงพาครที่สงสารชะตาชีวิตของหลานชายกำพร้า ชะตาชีวิตที่ถูกกำหนดมาแล้ว ส่วนการล้างแค้นคงต้องให้วิชญ์เป็นผู้กำหนดเอง


************************

?รุตม์คะ พอได้แล้วค่ะ ด้าง่วงจะตายอยู่แล้ว? ญาดาห้ามแฟนหนุ่มธีรุตม์ วงศ์อริยะ ให้หยุดเล่นปูไต่บนตัวเธอเสียที เพราะวันนี้เธอเพลียจากการประชุมเตรียมงานเลี้ยงเปิดตัวเธอเองอย่างเป็นทางการที่จะจัดขึ้นในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้านี้ งานที่เธอต้องการให้ทุกอย่างออกมาอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด การประชุมจึงกินเวลาร่วม 3 ชั่วโมง ญาดาที่ไม่เคยทำงานเป็นชิ้นเป็นอันมาก่อนจึงรู้สึกเหนื่อยและเพลียอย่างมาก แถมยังต้องมาปรนเปรอสวาทให้แฟนหนุ่มตั้งแต่หัวค่ำจนนี่ล่วงเข้าวันใหม่มาได้สองชั่วโมงแล้ว ธีรุตม์ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเสียที ญาดาที่เหนื่อยล้าและง่วงนอนจึงเริ่มที่จะรำคาญการเล่นปูไต่ไม่เลิกของแฟนหนุ่ม

?อะไรกันด้า ทุกทีมีแต่ผมที่ต้องบอกให้คุณหยุด วันนี้ไปเหนื่อยอะไรมาครับคนสวย? ธีรุตม์เพลย์บอยติดอันดับแนวหน้าของสังคมบางกอกซึ่งเป็นลูกชายเจ้าของร้านทองดังย่านเยาวราชที่มีสาขานับสิบแห่งทั่วกรุงเทพฯ เงยหน้าขึ้นสบนัยน์ตาปรือของแฟนสาว แต่มือทั้งสองข้างยังคงวนเวียนอยู่ทั่วร่างหญิงสาวอย่างไม่หยุดหย่อนเพราะยังไม่อิ่มในรสพิศวาสของหญิงสาว ธีรุตม์ห่างหายจากร่างอวบอัดที่หอมกรุ่นด้วยกลิ่นน้ำหอมชั้นดีนานนับสัปดาห์แล้ว เนื่องจากเขาต้องพาหม่าม้าไปเยี่ยมญาติ ๆ ที่เมืองจีน ทันทีที่กลับมาถึงเมืองไทยเขาก็รีบโทรนัดญาดาเพื่อมาทบทวนความทรงจำที่หอมหวานที่เริ่มก่อตัวขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกันในงานเลี้ยงคืนแต่งงานของเพื่อนทั้งสองฝ่าย เพียงคืนเดียวเขาก็หลงเธออย่างหัวปักหัวปำ

?ก็ด้าบอกแล้วนี่คะว่าวันนี้ประชุมมาเหนื่อยทั้งวัน ก็เรื่องงานเลี้ยงเปิดตัวด้าที่จะจัดขึ้นอีกสองอาทิตย์ไงค่ะ แล้วพรุ่งนี้ด้าก็ต้องไปคุยกับทางโรงแรมที่จะจัดงานอีก เสียดายจังที่ไม่ได้จัดงานเลี้ยงที่โรงแรม ณ นิมมานรดี ด้าช้อบชอบบรรยากาศหรูหราของที่นั่น รู้อย่างนี้ไม่น่าให้เลขาฯของป๊าเป็นคนจัดการเรื่องสถานที่เลย เออ..รุตม์คะนี่ด้าก็เตรียมการ์ดเชิญไว้ให้พ่อกับแม่ของคุณแล้ว หวังว่าท่านจะให้เกียรติไปร่วมงานของด้านะคะ? ญาดาพูดจบก็รีบหันหลังนอนตะแคงให้แฟนหนุ่มทันทีเพราะเธอ ?ไม่ไหว? แล้วจริง ๆ

?เตี่ยกับม้าผมเขาไม่ชอบงานเลี้ยงแบบนี้หรอก แต่ผมจะลองชวนท่านดู คงต้องบอกว่าให้มาดูตัวว่าที่เจ้าสาวของผม ท่านจะได้ไม่ปฏิเสธ ด้าว่าแผนนี้ดีไหมล่ะ?

?แล้วแต่คุณเถอะคะ ด้าก็จะพาคุณไปแนะนำให้ป๊ารู้จักเหมือนกัน? ญาดาไม่กล่าวต่อว่าจะแนะนำชายหนุ่มข้างกายในฐานะอะไรให้ป๊าขอเธอรู้จัก เพราะตอนนี้เธอมีเหยื่อตัวใหม่ที่น่าสนใจมากกว่าลูกชายเจ้าของร้านทองที่เธอคบหาเพื่อฆ่าเวลาในช่วงที่ยังไม่เจอใครที่น่าสนใจ ญาดาเป็นสาวหัวสมัยใหม่ยิ่งได้ไปใช้ชีวิตอยู่ในเมืองนอกมานานหลายปีด้วยแล้ว ความสัมพันธ์ทางกายสำหรับเธอเป็นเพียงการตอบสนองความต้องการทางธรรมชาติของมนุษย์เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องมีความรักเป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างคนสองคน หญิงสาวจึงดึงผ้าห่มมาปิดบังร่างเปลือยเปล่าที่ได้รับการดูแลผิวพรรณเป็นอย่างดีจากเจ้าของร่างก่อนที่จะเข้าสู่ห้วงนิทรา โดยทิ้งให้ชายหนุ่มคู่ขาคนปัจจุบันอารมณ์ค้างอยู่ตามลำพัง

************************

ทันทีที่ได้เหยียบย่างเข้ามาในบริเวณของคุ้มนิมมานรดี พิชญธิดาก็รู้สึกราวกับว่าหลุดมาอยู่อีกโลกหนึ่ง เหมือนกับเธอกำลังเดินย้อนเวลากลับไปในอดีต เธอรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่ดูสงบร่มรื่นอย่างวิถีชีวิตของชาวเหนือที่ไม่รีบเร่งเหมือนคนเมืองทั่ว ๆ ไป อีกทั้งบ้านเรือนไทยไม้สักขนาดใหญ่มหึมาที่มองดูสวยงามราวกับวังของเจ้านายทางเหนือนั้นได้สะกดสายตาของพิชญธิดาให้หยุดนิ่งได้อย่างชะงัก ?เหมือนพจมานกำลังมาเยือนบ้านทรายทองเลย? พิชญธิดาสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อวิชญ์มาแตะข้อศอกและรั้งให้เธอเดินไปข้างหน้าคู่กับเขาเพื่อขึ้นไปยังตัวบ้านโดยมีเด็กรับใช้อีกสองคนมาช่วยยกกระเป๋า เมื่อถึงชานบันไดบ้านพิชญธิดาก็เกิดอาการประหม่าขึ้นทันทีเพราะเธอกำลังจะได้พบญาติผู้ใหญ่ที่เหลืออยู่ของแฟนหนุ่ม ญาติผู้ใหญ่ที่เธอยังไม่แน่ใจว่าท่านจะปลื้มผู้หญิงธรรมดา ๆ อย่างเธอหรือไม่ ยิ่งได้เห็นลักษณะของตัวบ้านแล้ว เธอคาดว่าเจ้าของบ้านน่าจะเป็นคนที่มียศถาบรรดาศักดิ์ไม่ใช่น้อย วิชญ์เองก็รู้สึกได้ถึงอาการเกร็งของแฟนสาว เขาจึงก้มลงกระซิบข้างหูพิชญธิดาว่า

?คุณลุงคุณป้าผมเขาไม่ดุหรอกครับ ยิ่งคุณป้านั้นยิ่งใจดีมาก ไม่ต้องเกร็งไปนะคนดี ผมอยู่ตรงนี้กับคุณด้วย? ทันทีที่วิชญ์พูดจบพิชญธิดาก็คว้ามือของชายหนุ่มมาจับจูงเพื่อเพิ่มกำลังใจให้ตัวเอง ?สู้โว้ย?

************************

?สวัสดีครับแม่เลี้ยงปวีณา และพ่อเลี้ยงพาคร? วิชญ์สัพยอกผู้อาวุโสด้วยการกล่าวคำทักทายอย่างเป็นทางการ ก่อนที่จะเข้าไปกราบลงแทบตักของเจ้าของบ้านทั้งสอง แล้วจึงหอมแก้มทั้งสองข้างของผู้เป็นป้าอย่างรักใคร่

?แหม! พ่อตัวดี ถ้าไม่โทรตามก็ไม่โผล่หน้ามาเยี่ยมคนแก่สองคนตายายที่นี่เลยใช่ไหม อยู่เมืองกรุงจนลืมกลับบ้านนอกเลยนะพ่อคุณ? เสียงแม่เลี้ยงปวีณาที่ยังไม่ยอมคลายอ้อมกอดจากลูกชายสุดที่รักเหน็บกลับทันทีเช่นกัน แล้วต่างคนก็ผลัดกันหอมแก้มเพื่อทดแทนความคิดถึงที่มีให้กันอย่างไม่เคอะเขิน

?เอ้า ๆ จะรักกันอีกนานไหมแม่ลูกคู่นี้ โน่น ปล่อยให้แขกยืนจนขาแข็งแล้ว ทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีกันหน่อย เดี๋ยวค่อยไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงให้หายคิดถึงกันต่อ? พ่อเลี้ยงพาครกล่าวขัดจังหวะการแสดงความรักระหว่างแม่ลูกบุญธรรมแล้วจึงหันไปบอกสาวน้อยหนึ่งเดียวว่าให้นั่งลงบนเก้าอี้ไม้สักที่แกะสลักลวดลายป่าหิมพานต์ไว้อย่างสวยงาม ส่วนสองหนุ่มบอดี้การ์ดนั้นหลังทำความเคารพท่านเจ้าของบ้านแล้วก็ช่วยกันยกกระเป๋าเดินทางไปเก็บก่อนที่จะกลับมาสมทบอีกครั้ง

?นั่งลงก่อนสิแม่หนู อย่าถือสาสองคนแม่ลูกนี่เลย นาน ๆ จะเจอกันสักทีเพราะพ่อตัวดีมัวแต่ไปติดหญิงจนลืมแม่ลืมเชื้อ? พิชญธิดาที่ถูกกล่าวพาดพิงถึงกับอายหน้าแดง ส่วนพ่อตัวดีนั้นยังคงไม่รู้สึกรู้สาอะไร แต่ก็ลุกมานั่งข้างแฟนสาวก่อนที่จะกล่าวแนะนำให้รู้จักกับเจ้าของบ้าน

?คุณอัณณ์ครับ นี่คุณลุงและคุณป้าของผมที่เปรียบเสมือนพ่อและแม่อีกคนของผมครับ?

?สวัสดีค่ะ? หญิงสาวแสดงความเคารพผู้ใหญ่ทั้งสองได้อย่างสวยงามซึ่งท่านทั้งสองก็รับไหว้เช่นกัน

?ไหว้พระเถอะจ๊ะ? แม่เลี้ยงปวีณาที่คอยสังเกตมารยาทของว่าที่หลานสะใภ้รู้สึกชอบใจในกิริยามารยาทที่อ่อนช้อยของหญิงสาวที่งดงามไม่แพ้ใบหน้าหวานที่มีดวงตากลมโตเป็นจุดเด่น

?ลุงกับป้าครับ นี่คุณอัณณ์คนรักของผมครับ? เสียงวิชญ์กล่าวแนะนำหญิงสาวอย่างเต็มภาคภูมิพร้อมรอยยิ้มกว้างที่ทำให้ทั้งลุงและป้าตระหนักดีว่า ?พ่อตัวดีของท่านทั้งสองคงหลงแม่หนูอัณณ์เข้าเต็มเปาซะแล้ว?

?โอ้โห! พ่อตัวดีเล่นประกาศซะเสียงดังฟังชัดเลยนะจ๊ะ มัดมือชกแม่หนูคนสวยนี่หรือเปล่าจ๊ะ? แม่เลี้ยงปวีณาได้ทีกัดแกมหยอกพ่อลูกชายตัวดีก่อนที่จะหันไปหาพิชญธิดา

?ป้าได้ยินชื่อเสียงของหนูมานานแล้ว เพิ่งจะได้เจอตัวจริงวันนี้นี่เอง สวยสมคำร่ำลือจริง ๆ ตาวิชญ์นี่ตาถึงนะ ตาถึงเหมือนคุณลุงเลยนะจ๊ะ หนูอัณณ์ทำตัวตามสบายนะจ๊ะ คิดซะว่าอยู่บ้านตัวเอง? แม่เลี้ยงปวีณายังคงมองเจ้าของใบหน้าหวานที่สามารถผูกมัดหัวใจลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของท่านอย่างไม่วางตา ก่อนที่จะเริ่มมาตรการ ?สกรีนว่าที่หลานสะใภ้? ด้วยการชวนหญิงสาวพูดคุยโดยเริ่มจากเรื่องทั่ว ๆ ไปก่อนเพื่อคลายอาการประหม่าของพิชญธิดา แล้วจึงค่อย ๆ เขยิบไปถามถึงเรื่องส่วนตัวทีละเล็กทีละน้อย โดยมีหนุ่มน้อยและหนุ่มใหญ่ทั้งสี่คนได้แต่นั่งฟังตาปริบ ๆ เพราะไม่กล้าขัดการสัมภาษณ์ของแม่เลี้ยงผู้เป็นใหญ่แห่งคุ้มนิมมานรดี

?พอได้หรือยังล่ะคุณปวีณา ใจคอจะสัมภาษณ์หนูอัณณ์จนถึงมื้อเย็นเลยหรือนี่ หลานมันหิวกันแล้วมั้ง มาถึงยังไม่ได้อาบน้ำอาบท่ากันเลย ให้เขาไปพักผ่อนกันก่อนดีไหม คุณยังมีเวลาอีกตั้งสองสามวันที่จะสัมภาษณ์ให้หนำใจ โน่นพ่อลูกชายตัวดีของคุณทำตาเขียวปั้ดเข้าแล้วที่ไปสัมภาษณ์แฟนมันแบบเจาะลึกซะทุกเรื่องน่ะ เดี๋ยวมันเกิดเปลี่ยนใจบินกลับกรุงเทพฯซะวันนี้เลย คุณนั่นแหละจะร้องไห้ขี้มูกโป่ง? พิชญธิดาถอนหายใจโล่งและรู้สึกขอบคุณพ่อเลี้ยงพาครที่ช่วยเธอให้พ้นจากการถูกสืบสวนสอบสวนได้อย่างหวุดหวิด เพราะคำถามสุดท้ายที่แม่เลี้ยงจอมหวงลูกชายกำลังเฝ้ารอคำตอบจากเธออยู่นั้นนั่นก็คือ

?หนูชอบตาวิชญ์ตรงไหนจ๊ะ?

?โธ่! ลุงอ่ะ ไม่รอให้คุณอัณณ์เขาตอบคำถามสุดท้ายของป้าก่อนละครับ ผมอุตส่าห์ตั้งใจฟังคำตอบอยู่นะ? วิชญ์โอดครวญเพราะพลาดที่จะได้ยินคำตอบข้อสำคัญเสียแล้ว

?เออ พอกันทั้งป้าทั้งหลาน ต้อนรับแขกกันดีจริง ลุงว่าดีไม่ดีแม่หนูอัณณ์นี่แหละที่จะหนีกลับก่อน เขามาเที่ยวพักผ่อนนะ ไม่ใช่มาเป็นจำเลยของใคร?

?ลองคิดหนีกลับดูสิครับ คืนนี้ป้าได้หลานสะใภ้สมใจแน่ ๆ ผมกล้าเอาหัวรับประกันเลย? วิชญ์พูดด้วยสายตาแพรวพราววิบวับ

?เพี๊ยะ? เจ้าแม่เหรียญทองกีฬาหยิกประเภทหญิงเดี่ยวเปลี่ยนมาใช้ฝ่ามือแทนในคราวนี้เพราะข้อหาอุกฉกรรจ์ร้ายแรงนัก

?ฮ่า ฮ่า ฮ่า เอ้าว่าไงล่ะพ่อตัวดี ทำไมเงียบซะล่ะ? พ่อเลี้ยงพาครได้ทีซ้ำเติมหลานชายที่ดูหงอทันตาเห็นและกำลังลูบแขนที่ขึ้นเป็นรอยแดงป้อย ๆ ก่อนที่ตัวเองจะหันไปหาภรรยาแล้วพูดว่า

?เป็นไงคุณ หนูอัณณ์น่ะ ถูกใจไหม ผมนึกออกแล้วว่าหนูอัณณ์แกเหมือนใคร ที่แท้ก็เหมือนคุณนี่เอง ปากว่ามือถึงพวกเดียวกันเลย?

?อ้าวลุง ถ้าอัณณ์เหมือนป้า งั้นผมก็ต้องเข้าชมรมคนกลัวเมียเหมือนลุงด้วยน่ะสิครับ? วิชญ์ย้อนผู้เป็นลุงได้แสบ ๆ คัน ๆ

?ป้าก็ว่าอย่างนั้นแหละ ใช่ไหมจ๊ะหนูอัณณ์?

เสียงหัวเราะของทุกคนดังประสานขึ้นพร้อมกัน ทำให้คุ้มนิมมานรดีที่เคยเงียบเหงากลับเต็มไปด้วยความสุขอีกครั้งหนึ่ง แต่ความสุขครั้งนี้คงอยู่ได้ไม่นานนัก

************************

เมื่อทุกคนได้รับประทานอาหารมื้อค่ำที่ทางเจ้าของบ้านได้เตรียมอาหารเหนือนานาชนิดไว้ต้อนรับแขกผู้มาเยือนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่างก็ยกขบวนกันมานั่งรับลมที่บริเวณชานบ้านโดยเจ้าของบ้านได้ทำน้ำขิงไว้ให้ดื่มก่อนนอนเพื่อร่างกายจะได้อบอุ่นเพราะอากาศของภาคเหนือในยามค่ำคืนนั้นถึงแม้จะไม่ใช่ฤดูหนาวก็ยังเย็นกว่าภาคอื่น ๆ ซึ่งคนที่ไม่คุ้นเคยกับอากาศแบบนี้อาจจะล้มป่วยลงได้

?กับข้าวอร่อยไหมจ๊ะหนูอัณณ์? เสียงของแม่เลี้ยงปวีณาที่เริ่มถูกชะตากับว่าที่หลานสะใภ้เพราะทุนเดิมก็อยากมีลูกสาวอยู่แล้ว ยิ่งได้มาเห็นความน่ารักสดใสของพิชญธิดา เธอก็ยิ่งถูกใจเป็นพิเศษ แทบจะเรียกได้ว่าพิชญธิดาถูกแยกออกจากวิชญ์เลยก็ว่าได้ เพราะทั้งตอนกินข้าวและตอนนี้แม่เลี้ยงปวีณาก็ไม่ยอมห่างจากว่าที่หลานสะใภ้เลย เธอนั่งประกบพิชญธิดาอยู่อีกข้างและชวนพูดคุยอยู่ตลอดเวลาจนชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะคิดว่า ?ถูกเมิน? ทั้งจากผู้เป็นป้าและจากแฟนสาว แต่ก็รู้สึกดีใจอยู่ลึก ๆ ที่ผู้เป็นป้าให้ความเอ็นดูแฟนสาวของตนอย่างออกนอกหน้านอกตา

?อร่อยมากค่ะ อัณณ์ไม่ได้ทานอาหารเหนืออร่อย ๆ แบบนี้มานานแล้วค่ะ?

?อร่อยมากก็มาบ่อย ๆ สิจ๊ะ หรือหนูอัณณ์จะอยู่ที่นี่เลยก็ได้นะจ๊ะ มาเป็นลูกสาวป้าอีกคน ให้ตาวิชญ์เขากลับไปทำงานคนเดียว? แม่เลี้ยงที่อยากมีลูกสาวไว้คอยเอาอกเอาใจเริ่มเกลี้ยกล่อมพิชญธิดา

?ได้ไงครับคุณป้า ผมเจอคุณอัณณ์ก่อนนะ ป้าจะมาแย่งคนของผมได้ไง? วิชญ์รีบแย้งขึ้นทันควันซึ่งก็เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้อีกครั้ง

?ของแบบนี้เขาเรียกว่าใครดีใครได้จ๊ะ และที่สำคัญต้องถามคนกลางว่าเขาจะเลือกใคร ว่าไงจ๊ะหนูอัณณ์? แม่เลี้ยง ปวีณาไม่ยอมแพ้หลานชาย ทำให้ทุกคนต่างพุ่งความสนใจไปที่พิชญธิดาเพื่อที่จะรอฟังคำตัดสินจากปากเธอ

?อัณณ์มาเยี่ยมคุณป้า อัณณ์ก็ต้องเลือกคุณป้าสิค่ะ? สิ้นเสียงหวานของคนกลาง แม่เลี้ยงปวีณาและพ่อเลี้ยงพาครรวมทั้งสองหนุ่มบอดี้การ์ดต่างก็หัวเราะร่วนกับคำตอบของหญิงสาว จะมีก็แต่วิชญ์ที่หน้าง้ำเพราะเคืองแฟนสาวที่ไม่เข้าข้างตนเอง จนพิชญธิดาต้องเอาใจด้วยการหันไปยิ้มหวานให้พลางพูดเบา ๆ เพียงได้ยินกันสองคนว่า

?กลับไปกรุงเทพฯเมื่อไร คุณวิชญ์ก็เป็นเบอร์หนึ่งเหมือนเดิมล่ะค่ะ? วิชญ์จึงยิ้มออกได้ในที่สุด ?รอดตัวไปนะหนูอัณณ์คนสวย?

เมื่อพูดคุยสัพเพเหระกันไปได้สักพัก วิชญ์ที่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีธุระสำคัญต้องคุยกับผู้เป็นลุง จึงถามออกไปว่า

?คุณลุงครับ คราวก่อนที่คุณลุงโทรไปหาผม คุณลุงบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะบอกใช่ไหมครับ ตกลงมันคือเรื่องอะไรครับ? วิชญ์ไม่ได้สังเกตเลยว่ารอยยิ้มได้เลือนหายไปจากใบหน้าของผู้เป็นลุงและป้าทันทีที่ได้ยินคำถามของเขา

?เอาไว้ก่อนแล้วกัน ก่อนวิชญ์จะกลับกรุงเทพฯเราค่อยคุยเรื่องนี้กัน ลุงอยากให้วิชญ์พาหนูอัณณ์เที่ยวให้สนุกเสียก่อน เรื่องนั้นเอาไว้ทีหลัง เรายังพอมีเวลา ลุงไม่ลืมหรอก? เสียงพ่อเลี้ยงพาครกล่าวทิ้งท้ายอย่างเครียด ๆ เมื่อต้องพูดถึงเรื่องนั้น แม่เลี้ยงปวีณาจึงเอื้อมมือไปบีบมือสามีเพื่อให้กำลังใจซึ่งกิริยาทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของวิชญ์ตลอดเวลา เพียงแต่เขาไม่เข้าใจว่าเรื่องอะไรที่ทำให้ลุงและป้าดูเป็นทุกข์ได้ขนาดนั้น สำหรับวิชญ์แล้วความสุขและความทุกข์ของผู้เป็นลุงและป้าที่ได้ชุบเลี้ยงเขามาเป็นเรื่องที่เขาไม่เคยมองข้าม อะไรที่จะทำให้ลุงและป้าคลายจากความทุกข์นั้นได้เขาจะทำ วิชญ์ไม่ได้เฉลียวใจสักนิดเลยว่าความทุกข์นั้นจะเป็นทุกข์แสนสาหัสของตัวเขาเอง ไม่ใช่ของผู้เป็นลุงและป้า และตัวเขาเท่านั้นที่จะกำจัดความทุกข์นั้นออกไปได้ แต่จะด้วยวิธีใดนั้น เขาเองต้องเป็นคนเลือก....เลือกที่จะทุกข์ หรือเลือกที่จะลืม

************************

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”