ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 12 โดย....อาทิตา

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
athita
โพสต์: 41
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 11 เม.ย. 2009 11:15 pm

ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 12 โดย....อาทิตา

โพสต์ โดย athita »

ตอนที่ 12 คำตอบของหัวใจ

พิชญธิดาและวรปรัชญ์กลับมาถึงกรุงเทพฯในช่วงบ่ายของวันถัดมาโดยมีวิชญ์บวกบอดี้การ์ดทั้งสองและบัณฑิตาที่ยังเกาะวิชญ์แจยกขบวนกันมาส่งที่สนามบินนานาชาติภูเก็ต เมื่อเครื่องบินเหินฟ้าได้สักพักพิชญธิดาก็ตกลงใจที่จะบอกเล่าคำตอบที่เธอเตรียมไว้ให้กับวิชญ์ให้เพื่อนซี้ได้รับรู้ก่อนใคร

?ตัดสินใจดีแล้วใช่ไหมอัณณ์ แล้วอย่ามาเสียใจทีหลังล่ะ?

?เสียใจเรื่องอะไรล่ะ? พิชญธิดาถามอย่างสงสัย

?ก็ถ้ามันไม่เป็นอย่างที่หวังไง ฉันไม่ได้แช่งแกนะแต่อยากให้แกเผื่อใจไว้ด้วย ความรักน่ะมันไม่ได้หวานอย่างเดียวหรอกนะ บางทีก็เปรี้ยว บางทีก็เผ็ดจนน้ำตาไหลเลยล่ะ มีหลายรสชาติก็โอเคนะ จะได้ไม่จำเจ ฮิ ฮิ ขออย่างเดียวอย่าให้มันขมก็แล้วกัน? วรปรัชญ์เตือนอย่างผู้มีประสบการณ์มาก่อน

?จ้ะ ถ้าเลือกได้นะ ยังไงอัณณ์ก็ไม่เลือกแบบขมหรอก แต่ถ้าเลือกไม่ได้ล่ะ? พิชญธิดาหันไปสบตากับวรปรัชญ์ก่อนที่พูดต่อว่า

?ยังไงอัณณ์ก็ยังมีปรัชญ์ไว้รอซับน้ำตาใช่ไหม? พิชญธิดาแกล้งทำซึ้งใส่เพื่อนซี้

?เอ๊ะ! แกนี่พูดอะไรไม่เป็นมงคลเลย? วรปรัชญ์ติง

?อ้าว ก็แกไม่ใช่เหรอที่บอกให้ฉันเผื่อใจไว้น่ะ? พิชญธิดาย้อนกลับเพราะไม่คิดว่าวรปรัชญ์จะถือคำพูดของเธอเป็นจริงเป็นจัง

?เออ แกมีฉันอยู่เสมอแหละ แต่ไม่ต้องนึกถึงเฉพาะตอนที่ทุกข์ก็ได้นะเวลาสุขก็นึกถึงกันได้ จะแบ่งปันคุณวิชญ์มาให้บ้างก็ไม่ว่า และฉันก็หวังว่าแกจะไม่เซ่อซ่าปล่อยให้นักธุรกิจหนุ่มหล่อแห่งปีหลุดมือไปได้นะยะ เพราะฉันว่าคงไม่มีใครที่จะซื่อบื้อมาหลงรักแกแบบคุณวิชญ์อีกแล้วล่ะ? วรปรัชญ์หลอกด่าพิชญธิดาได้อีกครั้ง

?นังปาด!?

************************

เมื่อกลับมาถึงบ้านหลังอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วพิชญธิดาก็ตรงไปรดน้ำต้นไม้ที่ ?สวนน้อยลอยฟ้า? ของเธอต้นไม้ที่เริ่มจะเหี่ยวเฉาเพราะขาดน้ำไปหลายวันโดยเฉพาะพวกไม้ดอกที่ชอบน้ำเป็นพิเศษ ทั้งใบและดอกต่างออกอาการเฉาจนเจ้าของใจเสีย โชคดีหน่อยที่ช่วงนี้ยังไม่ใช่หน้าร้อนไม่อย่างนั้นเธอคงต้องหาซื้อต้นใหม่ ๆ มาปลูกแทนต้นเก่าที่เฉาตายเพราะอุณหภูมิความร้อนที่สูงขึ้นทุก ๆ ปีที่มีสาเหตุมาจากน้ำมือของมนุษย์เรานี่เอง

เมื่อรดน้ำต้นไม้เสร็จเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็เอาโมบายเปลือกหอยที่ซื้อมาจากร้านขายของที่ระลึกจากภูเก็ตมาแขวนรับลมไว้กับซุ้มไม้ระแนง เปลือกหอยหลากหลายชนิดและขนาดที่ร้อยเรียงไว้กับเส้นเอ็นเส้นบางเฉียบดูราวกับม่านบังตา ถึงแม้จะไม่มีเสียงดังกรุ๊งกริ๊งอย่างโมบายทั่ว ๆ ไป แต่ก็ดูเจริญหูเจริญตาไม่น้อย ได้บรรยากาศทะเลแบบกลาย ๆ กลางสวนสวยในเมืองใหญ่


หลังจากนั้นพิชญธิดาก็ไปนั่งทำงานส่วนตัวที่หน้าคอมพิวเตอร์ เธอนั่งอ่านอีเมล์จากเพื่อน ๆ ที่เมื่อเรียนจบต่างก็แยกย้ายไปตามล่าหาฝันของตนเอง และเมื่อนึกถึงเรื่องสำคัญที่ต้องรีบจัดการให้เสร็จเพราะได้ตกลงรับปากกับเขาคนนั้นไว้แล้ว พิชญธิดาก็ใช้อินเตอร์เน็ตช่วยค้นหาสิ่งที่ต้องการและก็พบในไม่ช้า วิทยาการของโลกทุกวันนี้ทำให้มนุษย์สะดวกสบายมากขึ้นจนโลกทั้งใบยังสามารถถูกย่อส่วนให้มาอยู่ในมือของมนุษย์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อได้ข้อมูลที่ต้องการแล้วพิชญธิดาก็จัดการจัดเก็บข้อมูลเหล่านั้นลงในแผ่นซีดี เธอยังทำสำเนาไว้อีกแผ่นสำหรับตัวเองด้วย

?เฮ้อ เสร็จซะที? หญิงสาวยิ้มอยู่คนเดียวและหวังอยู่ลึก ๆ ว่าจะได้เห็นรอยยิ้มจากคนที่ได้รับมันเช่นกัน

พิชญธิดากดโทรศัพท์ไปหาเมธปรียาเพราะต้องการจะแวะเอาของฝากจากภูเก็ตไปให้ และอยากรู้ว่าเธอคลอดลูกชายแล้วหรือยัง ปรากฏว่าคนที่รับโทรศัพท์ คือ คุณพ่อคนใหม่ ณัฐภูมิบอกกับเธอว่าเมธปรียาเพิ่งคลอดลูกชายเมื่อเที่ยงวันนี้และตอนนี้ยังนอนพักฟื้นอยู่ เธอจึงบอกกับณัฐภูมิไปว่าจะหาโอกาสไปรับขวัญหลานชายเร็ว ๆ นี้

?พรุ่งนี้อัณณ์อาจจะไปแวะไปดูหลานนะคะพี่ภูมิ แล้วเจอกันค่ะ?

ทันทีที่วางโทรศัพท์จากณัฐภูมิก็มีเสียงเรียกเข้ามาในมือถือของเธอ พิชญธิดากดรับสายเมื่อเห็นชื่อที่แสดงอยู่บนหน้าจอ ?Boss (เจ้านาย)?

?สวัสดีค่ะคุณวิชญ์ มีอะไรคะ? พิชญธิดาที่คาดไม่ถึงว่านายจะโทรมากล่าวทักทายอย่างเป็นทางการ

?อยู่ไหนครับ? เสียงหวานของผู้เป็นนายถามมาตามสาย

?อยู่บ้านซิคะ มีอะไรหรือเปล่าคะ? พิชญธิดายังคงสงสัย

?คิดถึงและอยากได้ยินเสียงครับ? หากโทรศัพท์ของวิชญ์สามารถมองเห็นหน้าคู่สนทนาได้ เขาคงได้เห็นแก้มสีแดงเรื่อกับรอยยิ้มหวานที่กำลังเปื้อนใบหน้าของพิชญธิดาที่ไม่นึกว่าเจ้านายมาดนิ่งจะโรแมนติคกับเขาเป็น เธอไม่คิดว่าเขาจะทำตัว ?หวาน? เหมือนกับเด็กหนุ่ม ๆ ที่เพิ่งจะมีความรักเป็นครั้งแรก

?...............? พิชญธิดายังตกอยู่ในภวังค์และวังวนของความหวานจนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไปดี

?คุณอัณณ์ครับ ยังอยู่ในสายหรือเปล่าครับ? วิชญ์ร้องถามเพราะไม่ได้ยินเสียงของคู่สนทนา

?ค่ะ ยังอยู่ค่ะ? เธอตอบเพียงสั้น ๆ และกลัวว่าคนฝั่งโน้นอาจจะได้ยินเสียงหัวใจของเธอที่เต้นผิดจังหวะอยู่ในตอนนี้

?แล้วคุณอัณณ์ล่ะครับ? วิชญ์ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

?อะไรเหรอคะ อัณณ์ทำไมคะ? และแล้วลูกกวางน้อยก็ตกหลุมพรางของนายพรานหนุ่มอีกจนได้

?คิดถึงผมไหม? วิชญ์ถามหญิงสาวคนที่ทำให้เขาต้องเปลี่ยนแผนการเดินทางอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่สาวคนไหนได้ยินก็คงใจอ่อนและตกหลุมรักในทันที

?เอ่อ...เพิ่งแยกจากกันไม่ทันข้ามวันเลยนะคะ? พิชญธิดาเลี่ยงที่จะตอบคำถามของเขา เธอเหลือบมองตัวเองในกระจกเงาที่แขวนอยู่บนฝาผนังแล้วก็ได้เห็นหญิงสาวที่ดวงตากำลังทอแสงเปล่งประกายสดใสมองกลับมา ?ดวงตาเป็นหน้าต่างของดวงใจ....ท่าจะจริง?

?ทีผมยังคิดถึงคุณอัณณ์เลยนะครับ ไม่ต้องรอข้ามวันก็คิดถึงกันได้? วิชญ์ยังแปลกใจที่ตัวเองทำราวกับวัยรุ่นกำลังจีบสาว เขาก็รู้สึกกระดากไม่น้อยไปกว่าคนฟัง แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อหัวใจมันสั่ง

?พี่ยาคลอดแล้วนะคะ อัณณ์ว่าจะไปเยี่ยมพรุ่งนี้? พิชญธิดาใช้ไหวพริบที่มีเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่คับขัน

?หึ หึ หึ? เสียงหัวเราะของวิชญ์ก่อนที่จะตัดพ้อว่า

?คุณอัณณ์ใจร้ายอีกแล้ว? เสียงยานคางของวิชญ์เปล่งออกมา แต่ก็แปลกที่พิชญธิดากลับชอบใจทุกครั้งที่ได้ยินเขาต่อว่าเธอด้วยประโยคนี้ จะดีสักแค่ไหนหากเธอจะได้ยินมันทุก ๆ วัน

************************

พิชญธิดาเดินกลับมาจากสปาเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในหมู่บ้านของเธอ อันที่จริงจะเรียกว่าร้านเสริมสวยก็ว่าได้ เพียงแต่ร้านนี้เขาพยายามดึงดูดลูกค้าโดยการเพิ่มสปาประเภทขัดตัว นวดหน้า นวดตัว และอีกจิปาถะที่จะสามารถดึงเงินจากกระเป๋าลูกค้าออกมาได้เข้ามาไว้บริการในร้านเสริมสวยเพื่อเพิ่มรายได้อีกทาง และเพื่อไว้เรียกลูกค้าที่นิยมชมชอบการนวดเป็นพิเศษในราคาที่ไม่แพงนัก พิชญธิดาก็เป็นลูกค้าประจำคนหนึ่งเพราะชอบการนวดตัวทั้งนวดไทยและนวดน้ำมัน รวมทั้งความสะดวกในการเดินทางเพราะร้านนี้อยู่ไม่ไกลจากบ้านเธอนัก ห่างเพียงหนึ่งซอยเท่านั้นเอง หญิงสาวจึงมักมาใช้บริการอยู่เป็นประจำ

เมื่อเดินกลับมาเกือบถึงหน้าบ้าน พิชญธิดาก็ต้องแปลกใจที่เห็นรถยนต์หรูป้ายแดงคันหนึ่งมาจอดอยู่หน้าบ้านเธอในเวลาเกือบพลบค่ำ

?ใครมาอ่ะ? พิชญธิดาพยายามเพ่งมองไปในตัวรถ แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะรถยนต์คันนั้นใช้ฟิล์มกรองแสงที่ค่อนข้างทึบ เธอไม่แน่ใจว่ามีใครอยู่ในรถคันนั้นหรือเปล่า หรืออาจจะเป็นใครที่มาแวะจอดทำธุระตรงหน้าบ้านเธอพอดี แต่ที่แน่ ๆ เธอมั่นใจว่าไม่รู้จักใครที่เป็นเจ้าของรถยนต์คันหรูรุ่นใหม่คันนี้ พิชญธิดาจึงดึงกุญแจบ้านออกมาจากกระเป๋ากางเกงขาสั้นและเตรียมตัวที่จะไขกุญแจเข้าบ้าน ขณะที่ยืนหันหลังให้ถนนอยู่นั้น เธอก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงของใครคนหนึ่ง คนที่เธอไม่คิดว่าเขาจะมาอยู่ที่นี่ในเวลานี้

?ไปไหนมาครับ รู้ไหมผมมารอตั้งนานแล้ว? วิชญ์ยิ้มให้หญิงสาวที่กำลังตกตะลึงเพราะคาดไม่ถึงว่าเขาจะกลับมาถึงกรุงเทพฯในวันนี้.....วันเดียวกันกับเธอ

?คุณวิชญ์ มาได้ไงคะ? พิชญธิดายังคงแปลกใจเพราะเขาควรจะอยู่ที่ภูเก็ตมากกว่าจะมายืนอยู่ตรงหน้าเธอ

?ก็ขับรถมาน่ะสิครับ?

?เอ่อ อัณณ์หมายถึงกลับจากภูเก็ตเมื่อไรคะ? ตามแผนเดิมวิชญ์ควรจะออกเดินทางจากภูเก็ตในวันพรุ่งนี้ และจะต้องแวะเข้าตรวจโรงแรมที่หัวหินก่อนจะกลับเข้ากรุงเทพฯ

?ก็พอส่งคุณอัณณ์ขึ้นเครื่องแล้ว ผมก็ตีรถออกจากภูเก็ตมาเลยให้เจ้าสองคนนั่นเหยียบได้เต็มที่ ผมยังบอกมันว่า ถ้ามันขับแซงเครื่องบินของคุณอัณณ์ได้แล้วล่ะก็ ผมจะให้โบนัสคนละ 12 เดือนเลย นี่พอมาถึงปั๊บก็รีบกลับไปอาบน้ำที่คอนโดแล้วก็ตรงมานี่เลยนะครับ แต่ก็ยังช้าอยู่ดี? วิชญ์แกล้งบ่นในตอนท้าย

?ช้าเช้ออะไรกันล่ะคะ นี่คงเหยียบกันจนเข็มไมล์พังแล้วมั้ง ดีนะที่ไม่มีอุบัติเหตุ?


?ก็ยังช้ากว่าหัวใจของผมที่ฝากมาพร้อมกับคุณอัณณ์แล้วน่ะซิครับ? ในสายตาของพิชญธิดากำลังคิดว่าวิชญ์เริ่มออกลีลาพระเอกลิเกอีกแล้ว

?อ้าว แล้วนี่ได้แวะดูงานที่หัวหินหรือเปล่าคะ? พิชญธิดาชักแปลกใจเพราะคนรักงานอย่างวิชญ์ไม่น่าจะเกงาน

?แวะครับ แวะ 15 นาที แวะเอารายงานสรุปไตรมาสแรกมาอ่านแล้วครับ แต่ไม่ได้เดินตรวจโรงแรมเพราะรีบ อันที่จริงที่อยากแวะหัวหินเพราะอยากอวดโรงแรมให้สาวดู แต่สาวดันหนีกลับก่อนซะนี่? วิชญ์ไม่พูดเปล่ายังทำตาเจ้าชู้ใส่จนสาวที่ถูกกล่าวถึงเริ่มทำตัวไม่ถูก

?แล้วทำไมไม่กลับพรุ่งนี้ล่ะคะ จะได้เที่ยวต่ออีกสักวัน? พิชญธิดาก้มมองพวงกุญแจในมือแทนที่จะสบตาหวานเชื่อมคู่นั้น

?ก็ไม่รู้จะเที่ยวกับใครนี่ครับ แฟนก็หนีกลับมาแล้ว? วิชญ์ยิ้มกรุ้มกริ่มใส่หญิงสาวที่เขาดูออกว่าคงกำลังเขิน

?ก็มีกิ๊กอยู่ด้วยแล้วทั้งคนนี่นา? หญิงสาวอดที่จะแขวะชายหนุ่มไม่ได้ สำหรับพิชญธิดาเมื่อตกลงใจที่จะคบกับเขาแล้ว เธอก็กล้าที่จะพูดตรง ๆ กับวิชญ์ เธอไม่อยากเก็บงำความขุ่นข้องใจไว้คนเดียวแบบที่นางเอกละครทั่ว ๆ ไปทำ นางเอกที่มักจะเก็บความน้อยเนื้อต่ำใจไว้กับตัวเองแล้วก็นำมาซึ่งปัญหาที่ตามมา ปัญหาที่มักเกิดจากความเข้าใจผิด ๆ เธอไม่ใช่สาวแรกรุ่นที่จะคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องแบบนี้ แต่ที่ต้องเหน็บแนมชายหนุ่มไปก็เพราะชอบเห็นคนตัวโต ๆ ทำท่าอ้อนเหมือนเด็ก ๆ ?น่ารักดี?

?จะกิ๊กจะแก๊กก็ไม่มีแล้วครับ เพราะเลือกที่จะมีคุณอัณณ์คนเดียว คุณอัณณ์พิชญธิดาคนเดียวจริง ๆ ที่ผมอยากมี? วิชญ์ยืนยันคำพูดโดยรวบมือพิชญธิดาไปไว้ในอุ้งมือของเขาโดยที่เจ้าของมือบางก็ไม่ขัดขืนแต่อย่างใด

หลังสบตาหวานกันอยู่นาน วิชญ์ที่เริ่มก้มหน้าเข้ามาเรื่อย ๆ จนลมหายใจอุ่น ๆ รดหน้าหญิงสาว ตาประสานตา จมูกโด่งของเขาเคลื่อนเข้ามาใกล้จนสามารถสัมผัสปลายจมูกที่เชิดรั้นของหญิงสาวได้ ในจังหวะนั้นเองพิชญธิดาก็โพล่งออกไปว่า

?เข้าบ้านก่อนดีกว่าคะ ไม่อยากฟังคำตอบหรือคะ? พิชญธิดาถอนหายใจโล่งที่เพิ่งจะหนีรอดจากกรงเล็บเสือออกมาได้อย่างหวุดหวิด หญิงสาวรีบไขกุญแจแล้วเดินนำเข้าบ้านไป เธอนึกในใจว่า ?หน้าบ้านนะนั่น ถ้าใครมาเห็นเข้า อายเขาตายเลย ไม่รู้จักเลือกสถานที่บ้างเลย?

ส่วนวิชญ์ก็ได้แต่บ่นว่า ?คุณอัณณ์น่ะใจร้าย? เขาตัดพ้อใส่หญิงสาวแต่ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข ?คอยดูเถอะ รู้คำตอบเมื่อไร จะเอาให้คุ้มเลยทีเดียว?

************************

วิชญ์กำลังขับรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูป้ายแดงคันใหม่กลับไปยังคอนโดที่พัก รถคันนี้เป็นคันที่บริษัทเพิ่งนำมาส่งเมื่อช่วงเย็นที่โรงแรม ณ นิมมานรดีหลังจากที่เขาให้กฤตธีโทรไปเร่งอยู่หลายวันแล้วเนื่องจากเลยกำหนดส่งรถมาเกือบสัปดาห์ รถบีเอ็มดับเบิ้ลยูแบบซีดานซีรี่ส์ 7 สีดำคันหรูที่เขาตั้งใจขับมารับพิชญธิดาไปรับประทานอาหารค่ำด้วยกันเพื่อฉลองฐานะใหม่ของคนทั้งคู่ ฐานะที่ไม่ใช่เจ้านายกับเลขาฯอีกต่อไป แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะหญิงสาวกลับชวนเขาเดินไปซื้อผัดไทยที่หน้าปากซอยหมู่บ้านมารับประทานแทน เหตุผลก็คือประหยัดดีแถมอิ่มอร่อยด้วยซึ่งวิชญ์ก็ไม่ว่าอะไร เพราะเหตุผลข้อเดียวของเขาที่บอกพิชญธิดาไปก็คือ ?กินอะไรก็ได้ แค่ขอให้ได้กินกับคุณอัณณ์เท่านั้นก็พอแล้ว?

ขณะที่กำลังจอดติดไฟแดงอยู่นั้น วิชญ์ที่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าพิชญธิดาได้ให้แผ่นซีดีมาหนึ่งแผ่น เธอบอกกับเขาว่า

?คำตอบอยู่ในนี้ค่ะ? พร้อมย้ำนักย้ำหนาอีกว่า

?ต้องเปิดฟังหลังจากออกจากบ้านอัณณ์ไปแล้วเท่านั้นนะคะ? และเสริมบทข้างท้ายก่อนเดินเข้าบ้านไปว่า

?อ้อ เพลงที่หนึ่งคือคำตอบนะคะ ส่วนเพลงที่สองคือข้อปฏิบัติที่ต้องทำอย่างเคร่งครัด ห้ามแหกกฏนะคะ? วิชญ์รับแผ่นซีดีมาด้วยสีหน้างง ๆ เพราะไม่เข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร

วิชญ์จึงหยิบแผ่นซีดีออกมาจากซองแล้วจึงใส่เข้าไปในช่องเล่นซีดีของเครื่องเสียงรถยนต์ เสียงเพลงไพเราะที่ดังขึ้นจากเครื่องเสียงติดรถยนต์ชั้นดีสมราคาเป็นเสียงร้องหวานของนักร้องสาวที่พิชญธิดาคงเลือกให้เป็นตัวแทนของเธอ

http://www.youtube.com/watch?v=Y1M_TRaPjrE (เวอ์รชั่นผู้หญิงร้อง ค่อนข้างสั้น ลองฟังเพลงประกอบดูนะคะ จะได้เข้าถึงอารมณ์ของน้องอัณณ์ได้)
http://www.youtube.com/watch?v=vw5yN3G67K8 (เวอร์ชั่นผู้ชายร้องค่ะ)

***?ไม่รู้ว่าทุกอย่างระหว่างเราสองคน เปลี่ยนไปเมื่อไหร่
แต่รู้ว่ากลายเป็นความสุขที่เข้ามา อยู่แทนความเหงาในหัวใจ
เมื่อก่อนฉันยังเคยค้นหาคำตอบ
ว่าจะมีบางคนเกิดมาเพื่อฉันไหม
แล้วก็ได้เข้าใจ วันนี้เมื่อฉันมีเธอ
เสียงหัวใจมันดังบอกฉัน ว่าเธอคือคนนั้น ที่เคยตามหา
รักที่ฉันมีที่ทนเก็บไว้มานาน เลยรู้ว่าวันนี้ เจ้าของคือใคร
ฉันพร้อมแลกทุกอย่าง เพื่อไม่ทำให้เราห่างกันแสนไกล
ชีวิตทุกวันที่เหลืออยู่คงไร้ค่า ถ้าหากมีใครคนหนึ่งแยกไป
เมื่อก่อนฉันยังเคยค้นหาคำตอบ
ว่าจะมีบางคนเกิดมาเพื่อฉันไหม
แล้วก็ได้เข้าใจ วันนี้เมื่อฉันมีเธอ
เสียงหัวใจมันดังบอกฉัน ว่าเธอคือคนนั้น ที่เคยตามหา
รักที่ฉันมีที่ทนเก็บไว้มานาน เลยรู้ว่าวันนี้ เจ้าของคือใคร
เสียงหัวใจมันดังบอกฉัน ว่าเธอคือคนนั้น ที่เคยตามหา
รักที่ฉันมีที่ทนเก็บไว้มานาน เลยรู้ว่าวันนี้ เจ้าของคือใคร...
รักที่ฉันมีที่ทนเก็บไว้มานาน เลยรู้ว่าวันนี้ เจ้าของคือเธอ?
***เพลงคำตอบของหัวใจ : ศิลปิน โปเตโต้ / แพรว คณิตกุล เพลงประกอบละคร รักนี้...หัวใจเราจอง

?ฮ่า ฮ่า ฮ่า เวรกรรมแล้วไหมล่ะ สงสัยต้องโดนข้อหาพรากผู้เยาว์แหง ๆ นี่เรากำลังจะมีแฟนเด็กอายุ 19 หรือเปล่าวะ ทำไมแม่เจ้าประคุณหวานแหววซะขนาดนี้ เอ้า ไหนลองฟังอีกเพลงซิว่าจะคิ๊กขุกว่านี้อีกไหม?

http://www.youtube.com/watch?v=9DezdzjbFsk (เพลงนี้เอาเฉพาะตรงช่วงสร้อยนะคะ)

?เป็นแฟนกับฉัน กฏข้อแรกก็คือห้ามทิ้ง
ข้อที่สองก็คือห้ามทิ้ง โกรธมากเลยถ้าเธอมาทิ้ง
ไม่ใช่ถังขยะ ฉันไม่ใช่ถังขยะ
แล้วข้อที่สามก็ยังห้ามทิ้ง ยันข้อเก้าก็ยังห้ามทิ้ง
ไม่ได้แกล้งเนี่ยพูดจริงๆ ฉันไม่ได้แกล้งหลอก
ฉันไม่ใช่ผีจะมาหลอกเธอได้ไง?
***เพลงห้ามทิ้ง : ศิลปิน อะตอม กฤชนก

?ฮ่า ฮ่า ฮ่า สงสัยต้องพาไปเดทที่ดรีมเวิร์ลแล้วล่ะมั้ง เด็กหญิงพิชญธิดาเอ๋ย? วิชญ์ตลกและชอบใจกับวิธีการตอบตกลงคบหาดูใจกันของพิชญธิดามาก จนอดพูดกับตัวเองไม่ได้ว่า

?แสบจริง ๆ ที่เลือกใช้เพลงแทนการพูด เพราะนอกจากจะดูโรแมนติคแล้ว (หมายถึงเพลงแรกนะครับ) ยังไม่ต้องเสียฟอร์มอีกด้วย เอ....แล้วเวลาจะบอกรักเราเธอจะใช้เพลงอะไรอีกล่ะเนี่ย สงสัยคงต้องฟังเพลงไทยบ่อย ๆ ซะแล้ว ไม่งั้นเดี๋ยวตามแม่คุณไม่ทัน? วิชญ์รู้สึกสุขใจอย่างบอกไม่ถูก ถึงจะยังไม่ได้ยินคำบอกรักจากเธอก็ตามแต่ตอนนี้ทั้งเขาและเธอก็ได้ชื่อว่าเป็นแฟนกันแล้ว วิชญ์ยังคงฟังเพลงทั้งสองนั้นอีกหลายรอบพร้อมทั้งยิ้มไปขับรถไป จนรถยนต์คันใหม่ที่เขาต้องการจะให้แฟนสาวนั่งเป็นแม่ย่านางคนแรกเลี้ยวเข้ามาในบริเวณของคอนโดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา คืนนี้เขาคงนอนหลับอย่างมีความสุข

**********************

ประมาณ 10 นาฬิกาของเช้าวันต่อมา วิชญ์ก็พารถยนต์คันเดิมมาถึงหน้าบ้านพิชญธิดา เมื่อวานคนทั้งคู่ได้ตกลงกันไว้แล้วว่าจะไปเยี่ยมเมธปรียาและลูกชายที่เพิ่งคลอด วันนี้วิชญ์และพิชญธิดาไม่ต้องไปทำงานอีกหนึ่งวัน เพราะในกำหนดเดิมพวกเขาเพิ่งจะออกเดินทางจากภูเก็ตเพื่อกลับเข้ามากรุงเทพฯในวันนี้ เท่ากับว่าได้โดดงานฟรีหนึ่งวันซึ่งก็คงไม่มีใครว่าอะไรได้เพราะท่านประธานกรรมการก็ร่วมด้วยช่วยกัน

พิชญธิดาออกมารอรับที่หน้าประตูบ้านพร้อมรอยยิ้มสดใสอวดฟันขาว เธอสบตากับวิชญ์เพียงครู่เดียวก่อนที่จะเสไปมองทางอื่น หญิงสาวอยู่ในชุดกระโปรงติดกันมีพื้นสีน้ำตาลและลายจุดสีขาวเล็ก ๆ กระจายทั่วตัว แขนยาวเพียงข้อศอก มีกระดุมเม็ดใหญ่สีขาวเรียงลงมาตามความยาวของชุดที่จรดหัวเข่าของพิชญธิดาได้พอดิบพอดี นอกจากนั้นที่บริเวณชายกระโปรงยังมีลายเกล็ดหิมะสีขาวกระจายไปทั่ว พิชญธิดายังเพิ่มความเก๋ด้วยการคาดเข็มขัดเส้นโตสีน้ำตาลเข้ม และเพราะโทนสีของชุดเป็นสีน้ำตาลจึงทำให้ขับผิวขาวนวลลออของหญิงสาวมากยิ่งขึ้น

?พร้อมจะไปกันหรือยังครับ? วิชญ์ถามขึ้นทำลายความเงียบก่อนที่จะเดินมาเปิดประตูรถให้หญิงสาวได้เข้ามานั่ง

?พร้อมแล้วคะ เอ่อ เดี๋ยวช่วยแวะร้านขายผลไม้ที่ตลาดหน้าหมู่บ้านด้วยนะคะ? พิชญธิดารีบมุดเข้าตัวรถเพราะไม่อยากยืนชิดใกล้กับเขานาน ๆ ?แข้งขามันพาลจะสั่น ๆ ยังไงไม่รู้?

************************

เมื่อมาถึงโรงพยาบาล วิชญ์ที่มือหนึ่งถือตะกร้าใบใหญ่ที่บรรจุทั้งผลไม้หลากชนิดและนมสดเพื่อนำมาบำรุงคุณแม่คนใหม่ และยังเผื่อแผ่ไปถึงคนที่ต้องเฝ้าผู้ป่วยซึ่งก็คงหนีไม่พ้นคุณพ่อจอมเห่อเป็นแน่แท้ ส่วนอีกมือนั้นก็จูงมือของพิชญธิดาที่ยังมีอาการขัดเขินให้เห็นอยู่ตลอดเวลา เธอพยายามจะดึงมือออกจากการจับกุมอยู่หลายครั้ง แต่เจ้านายตัวดีก็ไม่ยอม แถมยังลอยหน้าลอยตาพูดอีกว่า

?เป็นแฟนกันแล้ว ?ห้ามทิ้ง? กันซิครับ เวลาเดินก็ต้องจูงมือกันด้วย?

เมื่อมาถึงห้องพักของเมธปรียา พิชญธิดาก็เคาะประตูก่อนที่เปิดเข้าไป หญิงสาวยิ้มทักทายให้กับคุณแม่และคุณพ่อป้ายแดงที่ถึงแม้หน้าตาจะดูอิดโรยไปบ้างแต่ก็พร้อมที่จะต้อนรับแขกที่ต่างก็ทยอยมาแสดงความยินดีอยู่ทุกเมื่อ

?อ้าวน้องอัณณ์เองหรือจ๊ะ เข้ามาสิ? เสียงหวาน ๆ ของคุณแม่มือใหม่กล่าวทักทายและก็ต้องแปลกประหลาดใจที่เห็นผู้ติดตามร่างใหญ่ที่เดินหิ้วของฝากตามหลังเข้ามา

?อุ้ย คุณวิชญ์ มาด้วยกันเหรอคะ สวัสดีคะ? เมธปรียาพูดพร้อมทำสีหน้าล้อเลียนเลขาฯรุ่นน้องที่กำลังหลบสายตาจับผิดของเธอด้วยการก้มมองลงไปที่กระบะเด็กแรกเกิดอย่างสนอกสนใจ พิชญธิดาจึงไม่เห็นแววตาเจ้าเล่ห์ของแฟนหนุ่มป้ายแดง

?หวัดดีครับคุณยาคุณภูมิ ก่อนอื่นผมขอแนะนำให้รู้จักกับคุณอัณณ์ แฟนผมครับ? วิชญ์กล่าวแนะนำแฟนสาวอย่างติดตลกจึงได้รับวงค้อนไปเต็ม ๆ พร้อมสายตาที่คาดโทษว่า ?เดี๋ยวเถอะ ได้โดนฝ่ามืออรหันต์อีกแน่?

?จริงเหรอคะ ดีใจด้วยน่ะค่ะคุณวิชญ์ มีแฟนกับเขาสักที เอ...สงสัยภูเก็ตนี่จะโรแมนติคสุด ๆ เพราะก่อนไปยังเป็นโสดกันทั้งคู่ แต่พอขากลับ ๆ ไม่โสดกันซะแล้ว ใช่ไหมจ๊ะภูมิ? เมธปรียาเอ่ยแซวพลางขอเสียงสนับสนุนจากสามีที่กำลังอุ้มลูกชายตัวน้อยขึ้นมาจากกระบะเพื่อส่งต่อให้กับพิชญธิดาที่ตั้งหน้าตั้งตารออุ้มอย่างใจจดใจจ่อ

?ผมว่าภูเก็ตไม่เกี่ยวครับ ของแบบนี้มันอยู่ที่ฝีมือ? วิชญ์คุยอวดพลางจ้องมองพิชญธิดาอุ้มเด็กชายตัวน้อยในวงแขนอย่างทะนุถนอม พิชญธิดากำลังส่งยิ้มหวานสดใสให้กับเด็กชายตัวน้อยที่ค่อย ๆ ลืมตาดูคนแปลกหน้า ขนาดเด็กในอ้อมกอดไม่ใช่สายเลือดของเธอเขายังรู้สึกว่าภาพตรงหน้าดูอบอุ่นและสวยงามมาก

?หน้าตาน่าเกลียดน่าชังจังเลยนะคะ น้ำหนักก็ไม่เบาเลย หนักเท่าไรคะพี่ยา? หญิงสาวแกล้งไม่ได้ยินเรื่องที่ชายหนุ่มโม้โอ้อวด เพราะหากเธอไปต่อความยาวสาวความยืดด้วยก็มีแต่จะเข้าตัวเอง

?3.5 กิโลจ้ะ ยังเหลือที่พี่อีกตั้ง 15 กิโลแน่ะ? เมธปรียาบ่น

?เดี๋ยวตอนเลี้ยงลูกก็ลดเองแหละค่ะ คุณวิชญ์จะลองอุ้มบ้างไหมคะ? พิชญธิดาที่เดินอุ้มเด็กมานั่งข้างวิชญ์บนโซฟาตัวยาวเอ่ยถาม พร้อมยื่นเด็กน้อยมาตรงหน้าชายหนุ่ม

?ไม่ดีกว่าครับ ผมกลัวทำลูกเขาตก เดี๋ยวต้องทำชดใช้ให้เขาแล้วล่ะก็ แย่เลย?

?แย่ยังไงครับ? ณัฐภูมิถามขึ้น

?ก็ไม่รู้คุณอัณณ์จะยอมร่วมมือหรือเปล่านะซิครับ? วิชญ์ตอบ

พิชญธิดารีบลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินไปส่งเด็กชายคืนให้กับผู้เป็นแม่ทันที เธอเดินย้อนกลับมาหาวิชญ์แล้วพูดใส่หน้าชายหนุ่มว่า

?ถึงอัณณ์ไม่ร่วมมือกับคุณ คุณวิชญ์ก็ไม่เดือดร้อนนี่คะ เพราะยังมีคนอื่น ๆ ที่เขายินดีจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เช่น คุณบัณฑิตา เป็นต้น?

วิชญ์ถึงกับอึ้งและพูดไม่ออก เพราะไม่รู้จะแก้ตัวยังไงได้แต่นั่งมองหญิงสาวเจ้าของหัวใจที่กำลังเชิดใส่เขาอยู่

?ฮิ ฮิ ฮิ คุณวิชญ์ค่ะ ทำไมวันนี้แพ้ราบคาบซะแล้วล่ะค่ะ ทุกทียาเห็นไม่เคยยอมให้สาวคนไหนมาว่าฉอด ๆ ใส่ได้สักครั้ง? เมธปรียากล่าวซ้ำเติม

?ยกเว้นคนนี้ไงครับ? เสียงตอบอ่อย ๆ จากผู้แพ้นามว่าวิชญ์ นิมมานรดี

ขณะนั้นเองเสียงโทรศัพท์มือถือของวิชญ์ก็ดังขึ้น ชายหนุ่มรีบกดรับทันทีที่เห็นชื่อหน้าจอเพราะเป็นคนสำคัญ และเขายังกลัวว่าเสียงโทรศัพท์นั้นจะทำให้เด็กชายชนาเมธตกใจและร้องไห้โยเยได้ วิชญ์เดินออกไปตรงระเบียงเพื่อพูดโทรศัพท์อย่างเป็นส่วนตัว

?สวัสดีครับลุง? วิชญ์กรอกเสียงลงไป

?เป็นไงไอ้เสือ หายหน้าหายตาไปเลย นี่ไม่คิดจะขึ้นมาเยี่ยมคนแก่สองคนตายายบ้างเลยหรือไงวะ? เสียงของนายพาคร นิมมานรดี ผู้เป็นลุงแท้ ๆ ของชายหนุ่มเริ่มต้นบทสนทนาด้วยการต่อว่าต่อขาน

?ก็งานยุ่งนี่ครับ ผมก็กะว่าเร็ว ๆ นี้จะขึ้นไปเยี่ยมลุงกับป้าอยู่พอดี ลุงกับป้าสบายดีไหมครับ?

?สบายกาย แต่ตอนนี้มีเรื่องไม่สบายใจวะ ลุงอยากให้วิชญ์หาเวลาว่างแล้วขึ้นมาหาลุงหน่อย ลุงมีเรื่องสำคัญจะบอก ไม่อยากพูดทางโทรศัพท์ พอจะทิ้งงานมาได้เมื่อไรล่ะ? เสียงของผู้เป็นลุงเคร่งเครียดจนวิชญ์จับได้ว่าเรื่องที่จะคุยต้องเป็นเรื่องที่สำคัญมากอย่างแน่นอน

?เรื่องสำคัญหรือครับ?เขากล่าวอย่างสงสัย

?อือ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องงานด้วยนะ เรื่องส่วนตัว ถ้าว่างจากสาว ๆ ทั้งหลายเมื่อไรก็ขึ้นมาแล้วกัน จะได้ปรึกษากันว่าจะเอายังไง? พาครทิ้งท้ายให้ชายหนุ่มขบคิดด้วยความสงสัย แล้วจึงกล่าวต่อว่า

?แค่นี้แหละ ลุงไม่กวนแกแล้ว อ้อ ป้าเขาฝากบอกว่าคิดถึงแกน่ะ และก็อยากเห็นหน้าเห็นตาว่าที่หลานสะใภ้ที่แกแอบพาไปฮันนีมูนล่วงหน้าที่ภูเก็ตแล้วด้วย? พาครที่ล่วงรู้ความเป็นไปทุกอย่างของหลานชายที่เขารักและเลี้ยงดูมาเหมือนกับลูกชายแท้ ๆ อดสัพยอกชายหนุ่มไม่ได้

?นั่นน่ะผมไปทำงานนะครับ? วิชญ์แก้ตัวเพียงเรื่องเดียว เพราะเรื่องว่าที่หลานสะใภ้เป็นเรื่องที่เขายอมรับว่าเป็นเรื่องจริงจึงไม่ต้องแก้ตัวใด ๆ ทั้งสิ้น และเพราะมัวแต่สงสัยว่าลุงกับป้ารู้เรื่องของเขากับพิชญธิดาได้อย่างไร ชายหนุ่มจึงลืมเรื่องสำคัญที่ลุงพูดทิ้งท้ายเอาไว้เสียสนิท หากวิชญ์ได้รู้ว่าเรื่องสำคัญนั้น คือ เรื่องอะไรแล้วล่ะก็ เขาคงจะไม่นิ่งนอนใจและจะต้องรีบขึ้นเครื่องบินไปเชียงใหม่ในทันทีเพื่อจัดการกับคนที่ทำให้เขาต้องการกลายเป็นเด็กกำพร้าอย่างทุกวันนี้

************************
ขอคอมเม้นต์ด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”