ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 11 โดย....อาทิตา

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
athita
โพสต์: 41
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 11 เม.ย. 2009 11:15 pm

ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 11 โดย....อาทิตา

โพสต์ โดย athita »

ตอนที่ 11 ถ่านไฟเก่า

?การประชุมของสมาคมผู้ประกอบการโรงแรมในแถบชายฝั่งอันดามัน? ในวันที่สองนั้นไม่ได้เคร่งเครียดเท่ากับในวันแรกที่ผ่านมา เพราะในวันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับกลยุทธ์และนโยบายใหม่ ๆ ที่จะช่วยเรียกลูกค้าให้กับทางโรงแรม วิธีการที่จะพยายามดึงลูกค้าทั้งจากทางยุโรปในช่วงฤดูหนาวของบ้านเขา และการดึงลูกค้าโซนเอเชียในช่วงฤดูฝนของบ้านเราให้มาพักที่ประเทศไทยแทนที่จะเป็นประเทศเพื่อนบ้านทั้งหลายที่กำลังดำเนินนโยบายเปิดประเทศให้เป็นเมืองท่องเที่ยวแข่งกับเราอยู่นั้น ในการประชุมนั้นผู้บริหารโรงแรมบางท่านก็เสนอแพ็คเกจใหม่ ๆ เช่น จัดพิธีแต่งงานพร้อมแถมห้องพักของโรงแรมอื่น ๆ ในเครือชายฝั่งอันดามันด้วยกันเพื่อเป็นการช่วยเหลือและส่งเสริมธุรกิจของกันและกัน หรือการดึงการเมืองและการกีฬาเข้ามาเกี่ยวข้องกับธุรกิจการท่องเที่ยว เช่น เสนอตัวเป็นโรงแรมที่พักของผู้นำจากต่างประเทศที่จะเข้ามาประชุมหารือกันในประเทศไทยในช่วงไตรมาสที่สองและสามของปี หรือเสนอห้องพักราคาพิเศษให้กับสมาคมกีฬาต่าง ๆ เพื่อที่จะพานักกีฬามาฝึกซ้อมและเก็บตัว เป็นต้น

การประชุมในวันนี้เสร็จเพียงเที่ยงวัน เพราะทางผู้จัดการประชุมต้องการที่จะให้ผู้เข้าประชุมได้มีโอกาสพักผ่อนหย่อนใจก่อนที่จะเดินทางกลับในวันรุ่งขึ้น วิชญ์ซึ่งวางแผนไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าจะอยู่ต่ออีกหนึ่งวันเพราะนาน ๆ ครั้งจึงจะได้มาเยือนภูเก็ต เขาอยากจะได้ใช้เวลาพักผ่อนบ้างหลังจากกรำงานมานานจนแทบไม่มีวันหยุดเลย อย่างไรก็ตามวิชญ์ก็เปลี่ยนแผนในนาทีสุดท้ายเพราะแทนที่จะพักโรงแรมของธรนพทั้งสี่คืนก็เปลี่ยนเป็นจะพักที่นี่เป็นคืนสุดท้าย แล้วจะย้ายขบวนของเขาไปพักต่อที่คอนโดของตนเองสักหนึ่งคืน ไม่มีเหตุผลอะไรมาก เพียงแค่ที่คอนโดริมหน้าผาของเขานั้น ?โรแมนติค? กว่าที่นี่ก็แค่นั้นเอง

มื้อเที่ยงหลังการประชุมที่ทางโรงแรมจัดเป็นบุฟเฟ่ต์ให้ผู้ร่วมประชุมได้ลิ้มลองอาหารดังต่าง ๆ ของภาคใต้ โดยเฉพาะอาหารดังของจังหวัดภูเก็ตเอง อาทิเช่น หมี่ผัดฮกเกี้ยน (หมี่เหลืองผัด) โอต้าว (อาหารคาวคล้ายหอยทอดของภาคกลาง) ขนมจีนน้ำยา หมี่หุ้นป้าช้าง (เป็นหมี่หุ้นผัดเสิร์ฟพร้อมน้ำต้มกระดูกหมูร้อนๆ) โลบะ (หัวหมูและเครื่องในหมูต้มพะโล้แล้วนำไปทอดอีกทีรับประทานกับน้ำจิ้มเผ็ด ๆ หวาน ๆ) และตบท้ายด้วยของหวานอย่างโอ๊ะเอ๋ว (เป็นของหวานคล้ายวุ้นในน้ำเชื่อม) เป็นต้น ผู้เข้าประชุมทั้งหลายต่างลองชิมนู่นนิดนี่หน่อยเพราะอาหารแต่ละจานนั้นหน้าตาน่ารับประทานและดูแปลกจากอาหารไทยทั่ว ๆ ไป พิชญธิดาที่คุ้นเคยกับเกาะภูเก็ตเป็นอย่างดีรู้สึกจะชอบรายการนี้เป็นพิเศษเพราะเธอเคยรับประทานอาหารเหล่านี้มาแล้วทั้งนั้น เธอจึงต้องรับหน้าที่เป็นแม่ช้อยนางรำให้กับวิชญ์ไปโดยปริยาย หญิงสาวอธิบายส่วนประกอบของอาหารให้กับวิชญ์ฟังอย่างฉะฉาน พร้อมทั้งแนะนำวิธีการกินให้วิชญ์ได้อย่างถูกต้อง

?ส่วนอันนี้นะคะเรียกว่าหมี่หุ้นป้าช้างค่ะเพราะคนคิดสูตรทำขายคนแรกแกชื่อป้าช้างค่ะ คุณวิชญ์จะลองไหมคะ อร่อยดีนะคะ อัณณ์อยากให้ปรัชญ์ลงมาเห็นจังเพราะจานนี้น่ะของโปรดเขาเลยล่ะค่ะ อ๊ะ! คุณวิชญ์ ไม่ได้ทานอย่างนั้นค่ะ ไม่ต้องเอาน้ำซุปราดลงไปบนหมี่ เขาทานหมี่แบบแห้ง ๆ ค่ะแต่ทานคู่กับน้ำซุปกระดูกหมู นี่ไงคะ ทางโรงแรมเขาวางถ้วยน้ำซุปไว้ให้แล้ว คุณวิชญ์ต้องตักแยกกันค่ะ? วิชญ์ฟังแม่ช้อยนางรำจำเป็นเจื้อยแจ้วอย่างสุขใจเพราะตลอดการประชุมช่วงเช้านั้นพิชญธิดาพยายามหลบสายตาเขาอยู่ตลอดเวลา ?คงยังอายเรื่องเมื่อคืน? แต่พอมาถึงตอนนี้ความดีใจที่จะได้รับประทานของโปรดทั้งหลายคงทำให้เจ้าหล่อนลืมเก็บอาการโกรธปนงอนไปชั่วขณะ วิชญ์ฟังหญิงสาวอธิบายข้อมูลเกี่ยวกับอาหารทุกจานจนครบด้วยรอยยิ้ม นับว่าครั้งนี้พิชญธิดาพูดคุยกับเขามากกว่าทุกครั้งเลยทีเดียว

เมื่ออิ่มหนำสำราญกันถ้วนหน้าแล้วผู้เข้าประชุมต่างก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัย วิชญ์และพิชญธิดาก็เช่นกัน ทั้งสองคนต่างมุ่งหน้าขึ้นห้องพัก เพื่อไปสมทบกับพรรคพวกที่เหลือซึ่งได้ตกลงกันไว้แล้วในมื้อเช้าว่าจะไปเที่ยวรอบเกาะด้วยกันในช่วงบ่ายนี้

************************

รถบีเอ็มดับเบิ้ลยู รุ่นเอ็กซ์ 5 สีน้ำตาลทองเลี้ยวเข้ามายังบริเวณวัดไชยธารารามหรือที่รู้จักกันดีในนามวัดฉลอง วัดคู่บ้านคู่เมืองของคนภูเก็ตซึ่งเป็นที่เคารพสักการะมาช้านาน ไม่เพียงแต่คนภูเก็ตเท่านั้นที่หมั่นแวะเวียนมาสักการะหลวงพ่อแช่ม หลวงพ่อช่วง และหลวงพ่อเกลื้อม นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติก็มีให้เห็นแน่นขนัดเต็มวัดในทุก ๆ วัน เรียกได้ว่าวัดฉลองก็เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่ติดอันดับของจังหวัดภูเก็ตไม่แพ้ชายหาดดังต่าง ๆ

เมื่อซื้อดอกไม้ธูปเทียนกันเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มหญิงสาวทั้งห้าคนก็เข้าไปในอุโบสถเพื่อไหว้พระ และติดทองที่องค์รูปหล่อของหลวงพ่อทั้งสาม วรปรัชญ์ที่ไหว้พระเสร็จเรียบร้อยแล้วเหลือบไปเห็นกระบอกเซียมซีที่วางอยู่ให้คนที่ชอบคำทำนายได้ลองเสี่ยงทาย เขาไม่รอช้ารีบพุ่งปรี่เข้าไปเสี่ยงทายพร้อมรั้งข้อมือพิชญธิดาให้เดินตามไปด้วย

?อัณณ์ไม่ลองเหรอ เขาว่าเซียมซีของวัดฉลองนี้แม่นมากเลยนะ? วรปรัชญ์เอ่ยชักชวนพร้อมเตรียมเขย่าเซียมซีหลังอธิษฐานอยู่นาน

?ได้เบอร์ 28 ล่ะ เอ้า อัณณ์รับไปซิ? วรปรัชญ์ส่งกระบอกเซียมซีให้เพื่อนเหมือนบังคับไปในตัว

พิชญธิดาที่กำลังสับสนกับเรื่องของหัวใจอยู่ จึงไม่ลังเลที่จะยกกระบอกเซียมซีขึ้นอธิษฐานแล้วจึงออกแรงเขย่า เพียงไม่นานไม้ไผ่ที่มีหมายเลข 14 เขียนกำกับอยู่ด้วยหมึกสีแดงก็หล่นออกมา

?ของอัณณ์เบอร์ 14 ล่ะ ไปเอาใบเซียมซีกันเถอะ? พิชญธิดาก้มลงกราบพระอีกสามครั้งก่อนที่จะลุกเดินตรงไปยังตู้เซียมซี แล้วจึงหยิบใบเซียมซีหมายเลข 28 ส่งให้วรปรัชญ์ที่เดินตามหลังมา และหยิบหมายเลข 14 ของตนเองออกมาอ่านในใจ เธอหวังลึก ๆ ว่าจะได้คำทำนายที่จะช่วยดับทุกข์ที่ว้าวุ่นอยู่ในใจเธอได้ แต่เธอก็คิดผิดเพราะเซียมซีใบนั้นกลับเพิ่มความว้าวุ่นให้เธอเข้าไปอีก

?ดีไหมอัณณ์ ของฉันกลาง ๆ อ่ะ บอกว่าให้ระวังอุบัติเหตุกับของรักจะหาย ไอ้ของรักนี่จะเป็นคนหรือสิ่งของก็ไม่รู้ จะได้ระวังถูก เดี๋ยวต้องโทรไปเช็คคนก่อนว่ายังอยู่ไม่หายไปไหน เออ...แล้วของแกล่ะ เป็นไงบ้าง?

ไม่ทันที่พิชญธิดาจะได้ตอบวรปรัชญ์กลับไป เสียงของกฤตธีก็ดังขัดจังหวะขึ้น

?เสร็จกันหรือยังครับ นายบอกว่าจะพาเข้าไปในเมือง ไปดูตึกเก่ากันน่ะครับ คราวนี้คุณปรัชญ์จะได้ฉากถ่ายรูปสวย ๆ อีกเพียบ? กฤตธีที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีกับวรปรัชญ์แล้วในช่วงสองวันที่ผ่านมาเอ่ยแซวคนบ้าถ่ายรูป เพราะทั้งเมื่อวานและช่วงเช้าที่ผ่านมาเขากับธีรวีร์ต้องเดินเก็บภาพวรปรัชญ์ในทุกแอ็คชั่นจนรอบโรงแรม ไม่มีมุมไหนที่จะรอดสายตานางแบบกิตติมศักดิ์อย่างวรปรัชญ์ไปได้ ทั้งสามคนที่ได้คลุกคลีและพูดคุยกันในยามที่ต้องแกร่วรอเจ้านายและเพื่อนรักเข้าประชุมจึงสนิทสนมกันเป็นอย่างดีในเวลาอันรวดเร็ว อีกทั้งวรปรัชญ์ยังช่วยแนะนำกลเม็ดเด็ดพรายทั้งหลายรวมทั้งเคล็ดลับในการจีบสาวให้กับกฤตธีและธีรวีร์อย่างครบถ้วน สองหนุ่มถูกอกถูกใจมากเป็นพิเศษจึงเข้าขากับวรปรัชญ์ได้เป็นอย่างดีและในที่สุดก็ยอมยกตำแหน่ง ?กุนซือหัวใจ? ให้กับอาจารย์วรปรัชญ์ไปด้วยความเต็มใจ

?เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ไปกันได้เลยค่ะ? พิชญธิดาหันไปบอกกฤตธีที่วันนี้ยอมถอดสูทไว้ที่โรงแรมแล้วแต่งกายด้วยชุดลำลองแทนจึงทำให้เขาดูเป็นชายหนุ่มรูปงามน่ามองคนหนึ่งเลยทีเดียว....น่ามองมากกว่าในคราบบอดี้การ์ดหน้าดุเสียอีก

************************

เมื่อเดินออกไปนอกอุโบสถ พิชญธิดาก็เห็นวิชญ์ยืนยิ้มหวานอยู่ใต้เงาร่มไม้ข้างรถยนต์คันหรูที่จอดติดเครื่องรออยู่ ส่วนธีรวีร์นั้นนั่งประจำที่คนขับพร้อมออกเดินทางไปยังจุดหมายต่อไปตามคำสั่งที่จะได้รับ วิชญ์ยื่นขวดน้ำที่มีหยดน้ำเกาะพราวส่งให้ทั้งพิชญธิดาและวรปรัชญ์ได้ดื่มดับกระหายคลายร้อน

?ดื่มน้ำดับร้อนก่อนครับ เดี๋ยวเราจะเข้าไปในเมืองกันนะครับ ผมขอไปดูตึกเก่าสไตล์ชิโน ? โปรตุกีสซะหน่อย เผื่อจะได้ไอเดียไปตกแต่งโรงแรมบ้าง? วิชญ์เปิดประตูรถแล้วเบี่ยงตัวหลบปล่อยให้พิชญธิดาได้เข้าไปในรถก่อนที่ตัวเขาเองจะขึ้นตามไป ส่วนวรปรัชญ์นั้นมีลูกศิษย์ที่ชื่อกฤตธีคอยบริการอยู่แล้ว

?แล้วเป็นไงครับเซียมซีว่าไงบ้าง อันที่จริงผมก็ทำนายอนาคตได้นะครับ? วิชญ์เริ่มชวนคุยทันทีที่ทุกคนเข้ามานั่งในรถกันเรียบร้อยแล้ว และรีบพูดต่อเมื่อเห็นสายตาของพิชญธิดาและวรปรัชญ์ที่มองมาอย่างสงสัยเหมือนต้องการจะถามว่า ?จริงอ่ะ?

?ต้าย ตาย คุณวิชญ์ผู้บริหารใหญ่แห่งนิมมานรดีพ่วงอาชีพหมอดูด้วยก็ไม่บอก ฮิ ฮิ ช่วยทำนายของปรัชญ์ด้วยซิคะว่าเมื่อไรจะได้แฟนเป็นผู้บริหารโรงแรมกับเขาบ้าง? วรปรัชญ์ชะโงกหน้ามาคุยโดยต้องผ่านหน้าพิชญธิดาที่นั่งคั่นกลางอยู่ระหว่างคนทั้งคู่ของเบาะหลัง เสียงหัวเราะชอบใจของสองหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านหน้าประสานเสียงขึ้น

?ของคุณปรัชญ์ผมยังไม่เห็นวี่แววเลยนะครับ คงอีกนาน นานมาก ๆ แต่สำหรับคุณอัณณ์นี่ผมขอฟันธงเลยว่า.....จะได้แต่งงานเร็ว ๆ นี้แน่นอน? วิชญ์แหย่หญิงสาวอย่างสนุก ๆ

?เอ....แล้วนังอัณณ์มันจะได้แต่งกับใครล่ะคะคุณวิชญ์ แฟนก็ยังไม่มีเป็นตัวเป็นตนกับเขาสักคน เอ๊ะ! หรือว่าแกมีแฟนแล้วฮะนังอัณณ์ บอกมาซิว่าคนไหนแฟนแก ใช่คนที่ฉันสงสัยอยู่หรือเปล่า? วรปรัชญ์จ้องหน้าถามพิชญธิดาแล้วจึงเหลือบไปดูหน้าคนที่ตั้งใจรอฟังคำตอบจากหญิงสาวจนแทบเก็บอาการลุ้นสุดตัวไว้ไม่อยู่

?ยังไม่มีแฟน!!! และก็ยังไม่คิดจะแต่งงานด้วย!!!? พิชญธิดาบอกอย่างชัดเจนแบบห้วน ๆ จนคนที่นั่งขนาบข้างทั้งคู่ถึงกับหงอไปเลยที่หญิงสาวไม่ขำกับมุขของพวกเขา

?แล้วตกลงใบเชียมซีเขาว่าไงบ้างครับ บอกได้ไหม? วิชญ์ที่ไม่เข้าใจว่าทำไมพิชญธิดาจะต้องอารมณ์เสียกับเรื่องหยอกเล่นเพียงแค่นี้ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเพราะไม่อยากยั่วอารมณ์ว่าที่หวานใจมากนัก เดี๋ยวจะพาลโกรธไม่ยอมรับรักเขาอีก

?เอ่อ....ก็ดีค่ะ? พิชญธิดาตอบโดยไม่ให้รายละเอียดอะไรเลย

?ดียังไงล่ะนังอัณณ์ ไหนเอามาอ่านซิ? วรปรัชญ์ไม่พูดเปล่ายังหยิบเอาใบเซียมซีของเพื่อนซี้ไปอ่านหน้าตาเฉย

?ว้าย ตายแล้ว แม่นมาก....ฮิ ฮิ แม่นจริง ๆ? เสียงวรปรัชญ์หัวเราะอย่างถูกใจจนหนุ่ม ๆ ที่เหลือทั้งสามพลอยอยากรู้ไปด้วย

?แม่นยังไงครับคุณปรัชญ์? กฤตธีช่วยถามแทนนายที่ยังคงรักษาฟอร์มอยู่

?ลองฟังดูนะคะ แล้วจะรู้ว่าแม่นยังไง? วรปรัชญ์บีบเสียงเล็กเสียงน้อยขณะที่อ่าน

?ใบทำนายที่สิบสี่นี้ดีนัก ขอทายทักว่าได้พบเจอเนื้อคู่
เป็นนักปราชญ์จอมคนของโฉมตรู จะได้อยู่เคียงคู่สมรักกัน
แต่ระวังจักต้องพรากกันชั่วยาม เพราะไปตามกรรมวิถีที่แปรผัน
ลดความแค้นเพิ่มความรักความผูกพัน ต้องช่วยกันฟันฝ่าเพื่อปลายทาง?

?คุณปรัชญ์ช่วยแปลความให้พวกผมฟังหน่อยสิครับ ขออนุญาตนะครับคุณอัณณ์? กฤตธีขอร้องวรปรัชญ์เพราะเขาไม่ได้ตั้งใจฟังตอนที่วรปรัชญ์อ่านให้ฟังนักเนื่องจากมัวขนลุกขนพองกับการดัดเสียงของวรปรัชญ์อยู่จึงจับใจความไม่ได้ทั้งหมด

?ตามสบายเถอะค่ะ ถึงอัณณ์ห้ามก็คงไม่มีใครฟังอัณณ์หรอก? พิชญธิดางอนใส่ทุกคนในรถที่มายุ่งกับเรื่องส่วนตัวของเธอ อันที่จริงเธอก็ไม่ได้งมงายกับเรื่องพวกนี้มากนักแต่ก็แปลกที่ครั้งนี้เธอไม่อยากให้มันเป็นอย่างคำทำนายนั้นเลย เธอรู้สึกหวั่นใจแปลก ๆ อย่างไรพิกล

เมื่อสิ้นคำขอร้องของกฤตธี มีหรือที่นักภาษาศาสตร์อย่างวรปรัชญ์จะปฏิเสธได้ลงคอ คำขอร้องจากหนุ่มหล่อล่ำที่กลายมาเป็นเพื่อนสนิทของเขาคนหนึ่งในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา วรปรัชญ์จึงไม่รอช้ารีบทำหน้าที่ล่ามด้วยความสมัครใจ

?ใบทำนายที่สิบสี่นี้ดีนัก ขอทายทักว่าได้พบเจอเนื้อคู่ ก็แปลตรง ๆ ตัวว่า นังอัณณ์จะได้พบได้เจอเนื้อคู่ อันนี้อาจจะเจอแล้วก็ได้นะคะ คุณวิชญ์เห็นด้วยไหมคะ? วรปรัชญ์หันไปขอเสียงสนับสนุน

?นี่นังปาดแค่แปลก็พอ ไม่ต้องเสนอความคิดเห็นอะไรทั้งนั้น รีบอ่านรีบแปล ?เรื่องของคนอื่น? ให้มันเสร็จ ๆ ซะ? พิชญธิดาที่เริ่มหงุดหงิดมากขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุออกอาการพาล

?เออ ๆ แหม ดุจริง สงสัยเมื่อเช้าไม่ได้กินเพ็ทดีกรี? วรปรัชญ์พูดเบา ๆ แต่ก็ต้องรีบวกเข้าประเด็นเมื่อหันไปเห็นสายตาเอาเรื่องของพิชญธิดา

?เป็นนักปราชญ์จอมคนของโฉมตรู จะได้อยู่เคียงคู่สมรักกัน ก็น่าจะแปลว่าเนื้อคู่คุณนายอัณณ์นี่นะคะท่าทางจะเป็นคนเก่งประมาณนักป่งนักปราชญ์ และทั้งคู่ก็จะสมหวังในรักอย่างชื่นมื่นสุขสมสโมสร อ้อ.....เขายังบอกอีกว่าเนื้อคู่ของคุณนายอัณณ์อาจจะเป็นเจ้านายของคุณนายอัณณ์ก็ได้ค่ะ แม่นไหมคะคุณกฤต ฮิ ฮิ?

?อะไรของแก ตรงไหนที่เขาบอกว่าเป็นเจ้านายของฉันฮะ? พิชญธิดารีบถามแทรกขึ้นมาเพราะไม่สบอารมณ์กับการโดนเพื่อนรักยัดเยียดตนเองให้คนอื่น

?ก็ตรงนี้ไงนังเอ๋อ เป็นนักปราชญ์จอมคนของโฉมตรู เป็นจอมคนน่ะเข้าใจไหม จอมคนก็ต้องเป็นพวกเจ้านงเจ้านายซิ แถมบอกว่าเป็น จอมคนของโฉมตรู เข้าไปอีก ก็ต้องแปลว่าเป็นเจ้านายของแกไง นี่แหกตาดูซะฉันไม่ได้แปลมั่วซั่วนะยะ อย่ามาหาเรื่อง? วรปรัชญ์เถียงแทบขาดใจเพราะไม่ได้มั่วนิ่มเพียงแค่มันลงล็อคกันพอดีก็เท่านั้นเอง

?แล้วไงต่อครับ? เสียงกฤตธีที่รีบช่วยห้ามทัพฝ่ายแดงและฝ่ายน้ำเงินได้ทันเวลาก่อนที่จะแลกหมัดใส่กันไปมากกว่านี้

?นี่แล้วตรงนี้อีก ดูซะ เขายังบอกว่าเนื้อคู่แกนะเป็นนักปราชญ์อีก ชื่อคุณวิชญ์น่ะ แปลว่านักปราชญ์ไม่ใช่เหรอคะ ทั้งเป็นนักปราชญ์ทั้งเป็นเจ้านาย อู้ย....อะไรจะแม่นขนาดนี้? วรปรัชญ์ลากเสียงยาวในตอนท้ายของประโยค

?ฟังต่อนะคะ แต่ระวังจักต้องพรากกันชั่วยาม เพราะไปตามกรรมวิถีที่แปรผัน ก็คือ นังอัณณ์กะเนื้อคู่ที่อาจจะเป็นเจ้านายมันน่ะ ต้องระวังเพราะอาจจะต้องพลัดพรากจากกันแต่ก็คงไม่นานนัก จากคำทำนายน่าจะแปลว่าต้องไปชดใช้กรรมกันก่อนที่จะได้กลับมาร่วมสุขกันอีกครั้งน่ะค่ะ? วรปรัชญ์อธิบายอย่างครอบถ้วนไม่ตกไม่หล่นแม้แต่นิดเดียว

?ส่วนบรรทัดสุดท้ายที่ว่า ลดความแค้นเพิ่มความรักความผูกพัน ต้องช่วยกันฟันฝ่าเพื่อปลายทาง ก็น่าจะแปลว่าอย่าโกรธแค้นกันมั้งคะ แล้วก็ต้องร่วมมือร่วมใจกันฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อไปให้ถึงจุดหมายปลายทางแห่งรักด้วยกัน จบรายงานข่าวเพียงแค่นี้ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณพิชญธิดามีอะไรจะเพิ่มเติมอีกไหมคะ? ไม่มีเสียงตอบใด ๆ จากหญิงสาวหนึ่งเดียวในรถคันนี้เพราะเธอกำลังตกอยู่ในภวังค์ ?หากที่ปรัชญ์แปลออกมานั้นเป็นความจริง เราจะทำอย่างไรดีล่ะ?

เมื่อวรปรัชญ์แปลความจบวิชญ์ก็ยื่นมือมารับกระดาษจากมือวรปรัชญ์เพื่ออ่านคำทำนายด้วยตัวเอง จนพิชญธิดาที่ได้แต่นั่งมองตาปริบ ๆ ชักจะงงว่าใบเซียมซีนี้เป็นของใครกันแน่ วิชญ์กวาดสายตาอ่านทุกตัวอักษรอย่างตั้งใจ แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยถูกใจนักกับวลีที่ว่า ?แต่ระวังจักต้องพรากกันชั่วยาม เพราะไปตามกรรมวิถีที่แปรผัน? อะไรที่จะมาพลัดพรากเขาให้แยกออกจากพิชญธิดา เขาไม่มีวันยอมอย่างเด็ดขาด วิชญ์ไม่มีวันรู้ว่าตัวเขาเองนั่นแหละที่จะเป็นสาเหตุให้สองคนต้องพลัดพรากจากกัน

?แล้วคนรักกันเขาจะโกรธแค้นกันเรื่องอะไรล่ะครับคุณปรัชญ์? กฤตธีถามขึ้นเพราะยังไม่หายสงสัย

?โอ้ย ไอ้คนรักกันนี่ล่ะค่ะตัวดี เรื่องอะไรนิดอะไรหน่อยก็โกรธกันได้หมด ก็เริ่มจากงอน ๆ ก่อน พองอนกันนาน ๆ แล้วอีกฝ่ายไม่ง้อสักทีก็เริ่มจะอาละวาด ไม่นานก็ทะเลาะกันเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต ในที่สุดก็ต้องเลิกกันไป ฟังอย่างนี้แล้วยังอยากจะมีแฟนไหมล่ะค่ะคุณกฤตคุณวีร์?

?ยังอยากครับ? สองหนุ่มตอบขึ้นพร้อม ๆ กันจึงเรียกเสียงหัวเราะจากพิชญธิดาที่เริ่มจะอารมณ์ดีขึ้นบ้างจนอดที่จะแซวออกไปไม่ได้ว่า

?อย่างนี้ไงค่ะเขาถึงเรียกว่า ?แกว่งเท้าหาเสี้ยน? น่ะ?

?ใครบอกล่ะครับคุณอัณณ์ เขาเรียกว่า ?สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ สิบมือคลำไม่เท่าขยำเอง? ต่างหากล่ะครับ? เสียงธีรวีร์โต้กลับอย่างทันควันทำให้บรรยากาศในรถดูครื้นเครงขึ้นทันทีด้วยเสียงหัวเราะของคนทั้งห้า

?เอ...แล้วคุณวิชญ์ล่ะค่ะ ยังอยากมีแฟนอยู่หรือเปล่า? วรปรัชญ์แกล้งส่งซิกให้กับวิชญ์ด้วยการขยิบตา

?ไม่เปลี่ยนใจแน่นอนครับ พอดีผมเป็นคนชอบง้อซะด้วย ต่อให้งอนแค่ไหนก็ไม่กลัว แต่ไม่งอนจะดีกว่านะครับจะได้แฮปปี้กันทั้งสองฝ่าย เห็นด้วยไหมครับคุณอัณณ์ แต่เท่าที่ดูคุณอัณณ์ไม่ใช่คนขี้งอนนี่ครับ ผมคงไม่ต้องง้อมาก ผมเข้าใจถูกต้องใช่ไหมครับ? วิชญ์หันไปมองหญิงสาวพร้อมส่งสายตากรุ้มกริ่มให้ พิชญธิดาจึงค่อย ๆ เคลื่อนมือไปหาแขนของชายหนุ่มเมื่อได้จังหวะก็หยิกเข้าให้หนึ่งที อาการกรุ้มกริ่มที่ว่าก็หายเป็นปลิดทิ้งเหลือไว้แต่เสียงสูดปากเพราะความเจ็บ

************************

หนุ่มสาวทั้งห้าเดินเที่ยวชมตึกเก่าสไตล์ชิโน ? โปรตุกีสจนทั่วบริเวณใจกลางเมืองภูเก็ตกันแล้ว ก็ชวนกันไปนั่งดื่มอะไรเย็น ๆ ในร้านกาแฟติดแอร์ที่ดัดแปลงจากตึกเก่าสไตล์ชิโน ? โปรตุกีสให้เป็นร้านน่านั่งที่ดูคลาสสิคเข้ากันได้ดีกับบรรดาตึกอื่น ๆ โดยรอบทำให้ไม่เสียบรรยากาศ

เมื่อทั้งห้าคนได้สั่งเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้ว พิชญธิดากับวรปรัชญ์ก็หยิบกล้องถ่ายรูปมาดูรูปที่ได้ถ่ายกันไป พลางนั่งพูดคุยกันกระจุ๋งกระจิ๋ง จนมีเสียงแปลกหูดังทักทายขึ้น

?วิชญ์ ตายแล้วไม่นึกว่าจะมาเจอคุณที่นี่เลย ดีใจจังค่ะ นี่มาทำงานหรือมาเที่ยวกันคะ? เสียงหวานทักทายขึ้นด้วยท่าทางที่ดูมีจริตจะก้านของหญิงสาวที่แต่งตัวด้วยเสื้อกล้ามรัดรูปสีชมพูแปร๋น พร้อมกางเกงขาสั้นสีขาวที่มีความยาวเพียงคืบกว่า ๆ อวดเรียวขาขาวบนส้นสูงสีชมพูเช่นกัน บนศีรษะก็มีหมวกสานปีกกว้างไว้ป้องกันแสงแดด ใคร ๆ ดูปราดเดียวก็เดาได้ไม่ยากว่าเธอคงเป็นหนึ่งในนักท่องเที่ยวที่มาแวะพักผ่อนที่จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวสาวและสวยเซ็กซี่มากเสียด้วย

?สวัสดีครับคุณตา มาเที่ยวเหมือนกันหรือครับ? วิชญ์กล่าวทักทายตอบพร้อมลุกขึ้นยืนเพื่อให้เกียรติคู่สนทนา บอดี้การ์ดหนุ่มรวมทั้งพิชญธิดาและวรปรัชญ์จึงต้องลุกขึ้นยืนด้วยเช่นกัน

?ค่ะ ตามากับบริษัทน่ะค่ะ พาลูกค้าประจำมาเลี้ยงขอบคุณ นี่ก็เพิ่งส่งลูกค้ากลับขึ้นเครื่องไป พวกเราเลยแวะมาเที่ยวในเมือง กะว่าจะหาซื้อของฝากกันสักหน่อยก่อนจะไปลงเรือไปเที่ยวเกาะกัน แล้วคุณวิชญ์ล่ะคะ ตกลงมาทำงานหรือมาเที่ยวกันคะ? บัณฑิตา กวาดสายตามองทุกคนพลางส่งยิ้มให้อย่างมีเสน่ห์โดยจะหวานเป็นพิเศษที่วรปรัชญ์ กฤตธี และธีรวีร์ซึ่งสองคนหลังนี่เธอจำได้ดีว่าคือบอดี้การ์ดซ้ายขวาของวิชญ์ บัณฑิตายังเผื่อแผ่รอยยิ้มมาให้กับพิชญธิดาตามมารยาทอีกด้วยทั้ง ๆ ที่อยากรู้เต็มทีว่าสาวน้อยหน้าหวานที่นั่งอยู่ข้างกายชายหนุ่มรูปงามที่เคยเป็นหนึ่งในบรรดากิ๊กของเธอคนนี้เป็นใคร

วิชญ์กับเธอมีความสัมพันธ์ที่มากกว่าคนรู้จักทั่ว ๆ ไป ความสัมพันธ์ทางกายที่เขาและเธอเคยสนุกร่วมกันนับตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้รู้จักกันในงานเปิดตัวโรงแรมแห่งหนึ่งของวิชญ์ในภาคเหนือเมื่อต้นปีที่แล้ว ณ นิมมานรดี ฮิลล์รีสอร์ตได้ว่าจ้างให้บริษัทของเธอช่วยทำการประชาสัมพันธ์เปิดตัวรีสอร์ตหรูแห่งใหม่ของภาคเหนือให้ แค่เพียงคืนแรกที่ได้รู้จักกันอย่างลึกซึ้งก็ทำให้เธอลืมเขาไม่ลงเลยทีเดียว เธอจึงยอมเป็นฝ่ายติดต่อกลับมาหาชายหนุ่มอีกหลายต่อหลายครั้งและก็ไม่เคยได้รับคำปฏิเสธแต่อย่างใด แต่ก็อดน้อยใจไม่ได้ที่ชายหนุ่มไม่เคยที่จะคิดติดต่อมาหาเธอก่อนบ้าง ยิ่งมาพักหลังที่ภาระงานของทั้งเธอและเขามากขึ้นจนทำให้ไม่ค่อยมีเวลาให้แก่กันความสัมพันธ์เลยไม่ได้สานต่อให้แนบแน่นมากยิ่งขึ้น แต่วันนี้เธอว่างและกำลังอยากหาอะไรสนุก ๆ ทำอยู่พอดีเพราะฉะนั้นเรื่องอะไรจะปล่อยให้โอกาสงาม ๆ แบบนี้หลุดลอยไป

?ทั้งสองอย่างครับ นี่งานเสร็จแล้วก็เลยได้มาเที่ยว ก่อนอื่นผมขอแนะนำนะครับ นี่คุณอัณณ์เป็นเลขาฯของผม ส่วนนี่คุณวรปรัชญ์เป็นเพื่อนคุณอัณณ์ และเจ้าสองหนุ่มนี่ก็กฤตกับวีร์คุณตาคงจำได้นะครับ? วิชญ์กล่าวแนะนำอย่างสั้น ๆ ก่อนที่จะผายมือมาทางบัณฑิตา

?และนี่คุณบัณฑิตา ผู้จัดการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของบริษัท อาร์ท มีเดีย แอนด์ ออร์การ์ไนเซชั่น ครับ บริษัทของคุณตาเคยทำประชาสัมพันธ์ให้กับโรงแรมของเราที่เชียงใหม่เมื่อต้นปีที่แล้ว?

บัณฑิตาหันมาพยักหน้าทักทายให้วรปรัชญ์และพิชญธิดาก่อนที่จะพูดว่า

?ยินดีที่ได้รู้จักคะ บัณฑิตาค่ะ เรียกสั้น ๆ ว่าตาก็ได้ค่ะ? เธอรู้สึกดีขึ้นเมื่อรู้ว่าพิชญธิดาเป็นใคร ?ก็แค่เลขาฯ?

?ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ นั่งด้วยกันไหมคะ? พิชญธิดาเอ่ยปากชวนอย่างมีไมตรีซึ่งบัณฑิตาก็ไม่ปฏิเสธแต่อย่างใด เพียงแต่ขอเดินไปบอกพรรคพวกที่โต๊ะด้านในก่อนที่จะกลับมานั่งคุยด้วย บัณฑิตากลับมานั่งโดยธีรวีร์ยอมสละเก้าอี้ให้ได้นั่งข้างกับวิชญ์เพื่อที่จะพูดคุยกันได้ถนัด แต่เขากลับถูกกฤตธีเหยียบเท้าแรง ๆ เข้าให้หนึ่งทีเพราะอยากเป็นสุภาพบุรุษไม่ถูกเวลาและโอกาสเอาซะเลย

?เดี๋ยวคุณวิชญ์จะไปไหนกันต่อเหรอคะ? บัณฑิตาถามขึ้นหลังสั่งเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้ว

?คิดว่าจะขึ้นไปจุดชมวิวบนเขารังกันน่ะครับ? วิชญ์ตอบ

?อยากไปด้วยจังค่ะ ตาไม่ได้ขึ้นไปบนนั้นนานแล้ว เคยขึ้นไปตอนเป็นเด็ก ๆ น่ะค่ะ เอ...ถ้าจะไปด้วยคนจะได้ไหมเอ่ย? บัณฑิตาเอียงคอถามพร้อมมองวิชญ์ด้วยสายตาหวานเชื่อมโดยไม่สนใจเพื่อนร่วมโต๊ะคนอื่น ๆ โดยเฉพาะพ่อหนุ่มนักการทูตที่ออกจะเริ่มหมั่นไส้เธอเข้าแล้ว

?กลัวจะนั่งไม่พอมั้งครับ เดี๋ยวอึดอัดกันแย่? วรปรัชญ์ที่กลัวความเป็นสุภาพบุรุษของวิชญ์จะทำให้ปากพาจนจึงรีบชิงตอบและเน้นเสียงที่คำว่า ?อึดอัด? เพราะเขาอ่านเกมของหญิงสาวออกอย่างคนรู้เท่าทันกัน

?คุณวิชญ์เอาคันไหนมาล่ะคะ ถ้าเป็นเอ็กซ์ 5 ก็ไม่น่าจะมีปัญหา ตาจำได้ว่าข้างหลังเบาะออกจะกว้าง ตกลงให้ตาไปด้วยคนนะคะ พอดีพรรคพวกที่บริษัทเขาจะไปดำน้ำกันน่ะค่ะ ตาไม่อยากไปกลัวผิวจะเสีย นะคะให้ตาไปด้วยคน? บัณฑิตาได้ทีเปิดโอกาสให้ตัวเองโดยพยายามแสดงให้วรปรัชญ์และพิชญธิดาเห็นว่าเธอสนิทสนมกับวิชญ์แค่ไหน และรู้เรื่องส่วนตัวของชายหนุ่มเป็นอย่างดี เธอจึงไม่รอช้าที่จะปิดท้ายด้วยเสียงออดอ้อนตามสไตล์สาวสมัยใหม่ที่กล้าแสดงออกจนเกินงาม

?นะคะขอตาไปด้วยคน เราไม่ได้เจอกันตั้งนานแล้ว นะคะ?

พิชญธิดาที่เพิ่งจะอ่านเจตนาของบัณฑิตาออกรู้สึกไม่ชอบใจนักที่ได้เห็นความสนิทสนมของคนทั้งคู่ โดยเฉพาะฝ่ายหญิงที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนโดยการขยับเก้าอี้ไปชิดกับเจ้านายของเธอจนแขนต้องเบียดกัน เธอต้องพยายามข่มอารมณ์ของตัวเองเอาไว้เพราะจากเท่าที่ดูในตอนนี้นั้นวิชญ์ยังไม่ได้เล่นด้วย ตบมือข้างเดียวยังไงก็ไม่ดัง แต่ถ้าเขาอยากจะตบด้วยล่ะ.....เธอจะยอมไหม ?เอ...เราเป็นอะไรไปเนี่ย ทำไมมันดูขวางหูขวางตาไปหมด หรือว่าเรากำลังหึงพวกเขากัน?

?ไปด้วยกันก็ได้ครับ ถ้าคุณตาไม่อึดอัดที่จะนั่งเบียด ๆ กัน? วิชญ์ซึ่งผ่านเรื่องแบบนี้มาอย่างโชกโชนทำไมเขาจะดูไม่ออกว่าบัณฑิตาต้องการอะไรแต่เขาก็ต้องรักษามารยาทไว้ อีกเหตุผลก็คือเขามั่นใจว่าตัวเองจะไม่เขวกลับไปหาบัณฑิตาอย่างแน่นอน เพราะแม่เลขาฯสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้าได้เอาหัวใจเขาไปหมดแล้ว ที่สำคัญเขาก็ไม่อยากหักหาญน้ำใจของเธอเพราะอย่างน้อยก็เคยมี ?ความสุข?ด้วยกันถึงแม้เขาจะไม่ได้รู้สึกพิเศษกับเธอแบบที่รู้สึกกับพิชญธิดาเลยก็ตาม

************************

เมื่อทุกคนขึ้นนั่งรถกันแล้วโดยที่เบาะหลังมีผู้โดยสารด้วยกันถึงสี่คน คือ วิชญ์ซึ่งนั่งติดประตูฝั่งขวา ติดกับเขาคือ บัณฑิตาต่อมาด้วยพิชญธิดาและวรปรัชญ์ซึ่งนั่งติดประตูอีกฝั่ง ด้วยความที่เป็นรถยนต์หรูขนาดใหญ่ คนทั้งสี่จึงไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไรมากมาย บวกกับสองสาวที่มีรูปร่างบอบบางด้วยแล้วทุกคนจึงมีพื้นที่นั่งกันได้อย่างสบาย ๆ แต่บัณฑิตาก็ยังจงใจที่จะนั่งเบียดไปทางวิชญ์ ขาขาว ๆ ที่โผล่ออกมานอกกางเกงขาสั้นนั้นจึงแนบสนิทกับกางเกงยีนส์ของวิชญ์จนแทบจะไม่เหลือช่องว่างให้อากาศได้ลอดผ่าน พิชญธิดาที่นั่งติดกันจึงมองเห็นการกระทำที่ส่อเจตนาของบัณฑิตาได้อย่างชัดเจนแต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา นอกจากหันไปกระซิบกระซาบบางอย่างเบา ๆ กับวรปรัชญ์ที่ออกจะมีอาการหึงหวงแทนเพื่อนสาวซะมากกว่า จึงอดไม่ได้ที่จะออกโรงแทน

?อัณณ์แกอึดอัดไหม ถ้าแกนั่งไม่สะดวก แกจะขึ้นมานั่ง ?บนตัก? ฉันเลยก็ได้นะ? วรปรัชญ์เน้นคำ ?บนตัก? ให้ดังเป็นพิเศษเพราะทนไม่ได้กับความหน้าหนาของบางคน เขาทำเป็นพูดและสนใจกับพิชญธิดาอยู่คนเดียว วรปรัชญ์กล้าที่จะเปิดเผยตัวตนให้บัณฑิตารู้เพราะไม่อยากให้เธอคิดว่าเขาเป็นแฟนกับพิชญธิดา เขายังแกล้งไม่สนใจสายตาที่เรืองวิบวับขึ้นมาด้วยความไม่พอใจของวิชญ์หลังจากได้ยินที่เขาพูดกับพิชญธิดา

?ช่วยไม่ได้ อยากไม่ทำอะไรเอง ปล่อยให้แม่นั่นนั่งเบียดกระแซะอยู่ได้ ทุเรศนัยน์ตาจริง ๆ นังชะนีหน้าด้าน? วรปรัชญ์คิดในใจเพราะอดหมั่นไส้มาดคุณชายบวกกับความเป็นสุภาพบุรุษของวิชญ์ไม่ได้

?ไม่เป็นไรนั่งได้สบายดี? พิชญธิดาไม่อยากร่วมกับเพื่อนซี้เล่นสงครามประสาทโจมตีฝ่ายตรงข้าม เมื่อไม่พอใจอะไรเธอเลือกที่จะถอยมาตั้งหลักก่อนดีกว่า เมื่อตัดสินใจได้แล้วเธอจึงบอกความประสงค์กับเจ้านายไปว่า

?เอ่อ คุณวิชญ์คะ พรุ่งนี้อัณณ์จะขออนุญาตบินกลับพร้อมปรัชญ์เลยได้ไหมคะ เพราะงานทางนี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว? พิชญธิดาถือโอกาสเอ่ยถามวิชญ์ นอกจากจะไม่อยากเห็นความสนิทสนมของคนที่นั่งติดกับเธอแล้วเพราะเพิ่งได้ยินบัณฑิตาบอกกับวิชญ์ว่าจะขอตามไปพักที่คอนโดด้วยในวันพรุ่งนี้ ตัวเธอเองก็อยากจะกลับบ้านเต็มทีแล้วเหมือนกัน เธอทิ้งบ้านมาหลายวันแล้วจึงอยากกลับไปดูแลโดยเฉพาะพวกต้นไม้ที่ปลูกเอาไว้ป่านนี้คงจะเฉาน่าดู

?แต่เรายังมีงานที่หัวหินอีกนะครับ? เสียงของกฤตธีดังขึ้นเพื่อทบทวนความทรงจำให้กับพิชญธิดา

?อ้าว จริงเหรอคะ งั้นอัณณ์แกก็ค่อยกลับล่ะกัน งานต้องมาก่อน พรุ่งนี้ฉันกลับคนเดียวเอง แกเล่นมาเปลี่ยนใจเอาป่านนี้ไม่รู้ว่าจะมีตั๋วเหลือหรือเปล่า? วรปรัชญ์ที่ไม่อยากทิ้งปลาย่างไว้กับแมวอย่างบัณฑิตารีบสนับสนุนความคิดของกฤตธี

?แต่ถ้าคุณอัณณ์อยากกลับก่อนก็ไม่เป็นไรครับ งานที่หัวหินไม่มีอะไรมาก ผมจัดการเองได้? วิชญ์บอกออกไปเพราะเข้าใจดีว่าหญิงสาวคงอยากกลับไปพักผ่อนที่บ้านและการเดินทางโดยเครื่องบินก็สะดวกมากกว่าทางรถยนต์ ที่สำคัญเขารู้สึกดีที่ได้เห็นพิชญธิดาออกอาการหึงหวงแบบนี้ถึงแม้จะไม่ชอบใจนักที่ต้องพลาดเวลาที่จะได้อยู่ต่อกับหญิงสาวไปตั้งหนึ่งวัน วิชญ์ไม่รู้ตัวเลยว่าได้เดินหมากพลาดไปแล้ว

?ขอบคุณค่ะ งั้นอัณณ์จองตั๋วได้เลยนะคะ? พิชญธิดาที่ทึกทักเอาเองว่าวิชญ์คงไม่อยากให้เธออยู่เพราะคงอยากจะระลึกความหลังถ่านไฟเก่ากับบัณฑิตาสองต่อสองจึงรีบสรุปเอาเอง ซึ่งก็สร้างความพอใจให้กับบัณฑิตาพอสมควรเพราะเธอจะได้ไม่มีก้างขวางคอ ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าระหว่างสองคนนั่นคงมีเยื่อใยบาง ๆ เกิดขึ้นแล้ว เพราะวิชญ์คอยลอบมองแม่เลขาฯหน้าหวานอยู่ตลอดเวลา เธอนี่แหละที่จะเป็นคนตัดไอ้เจ้าเยื่อใยที่ว่าให้ขาดเอง

************************

เมื่อมาถึงจุดชมวิวบนเขารังที่เป็นสวนสาธารณะที่ร่มรื่นเพราะมีแมกไม้นานาพันธุ์ขึ้นเต็มไปหมด สวนสาธารณะแห่งนี้นอกจากจะเป็นจุดชมวิวแห่งหนึ่งของตัวเมืองภูเก็ตแล้ว ยังเป็นสถานที่สำหรับให้ผู้คนชาวภูเก็ตได้มาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีกันอีกด้วย เพราะมีลู่สำหรับวิ่งหรือเดินออกกำลังกายในยามเช้าและยามเย็น และพวกอุปกรณ์ห้อยโหนอีกหลายตัวไว้ให้ผู้ใหญ่ได้ยืดเส้นยืดสายและให้เด็ก ๆ ได้เล่นสนุกกัน

พิชญธิดาและวรปรัชญ์ที่เดินแยกออกมาเพื่อที่จะมาเก็บภาพวิวทิวทัศน์ของตัวเมืองภูเก็ต ภาพตึกรามบ้านช่องจำนวนมากที่เกิดขึ้นตามความเจริญของเศรษฐกิจของจังหวัดที่มีค่าแรงขั้นต่ำสูงที่สุดในประเทศไทย โดยมีลูกศิษย์อย่างกฤตธีมาทำหน้าที่ช่างกล้องให้ เขาปล่อยให้ธีรวีร์ได้ดูแลนายแทนตามลำพังเพราะมีคุณบัณฑิตาที่คอยเอาอกเอาใจอยู่แล้วอีกหนึ่งคน ?งานนี้ตัวใครตัวมันนะครับนาย?

?คุณกฤตคะ คุณตาอะไรนี่เขาสนิทกับคุณวิชญ์ถึงขั้นไหนค่ะ? ในที่สุดวรปรัชญ์ก็ไม่สามารถเก็บอาการอยากรู้อยากเห็นได้อีกต่อไป เขารีบถามกฤตธีเมื่อมีโอกาส

?เอ่อ....ก็เคยกิ๊กกันนะครับ? กฤตธีตอบไปตามความจริงแต่พูดด้วยเสียงที่เบามากเพราะไม่อยากให้พิชญธิดาที่กำลังยืนชมเมืองภูเก็ตโดยใช้กล้องส่องทางไกลที่มีไว้บริการนักท่องเที่ยวได้ยิน

?ว่าแล้วเชียว ขอบคุณนะคะที่บอกความจริง ไม่ช่วยกันปิดบัง?

?แต่ไม่ได้ติดต่อกันตั้งหลายเดือนแล้วนะครับ ยิ่งตอนนี้นายหายใจเข้าออกเป็นคุณอัณณ์คนเดียวแล้วด้วย ผมยังไม่เคยเห็นนายแสดงออกกับใครมากเท่าคุณอัณณ์เลยนะครับ ผมพูดจริง ๆ?

?ก็แน่ซิคะ คุณวิชญ์เขาก็คงดูออกว่าอันไหนพลอยอันไหนเพชรแท้ แต่ถ้ายังรักพี่เสียดายน้องอยู่แบบนี้แล้วล่ะก็....น่าดู? วรปรัชญ์ขู่ฝากกฤตธีให้ไปบอกเจ้านาย

?ปรัชญ์มาถ่ายรูปกันซิ มุมนี้สวยดีออก? เสียงพิชญธิดาร้องเรียกให้เพื่อนซี้ที่อยากเป็นสาวแทบขาดใจมาถ่ายรูปด้วยกันอีก อย่างน้อยก็ฆ่าเวลาไม่ให้คิดฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้

?ถ่ายด้วยคนได้ไหมครับ? วิชญ์ที่เพิ่งแยกตัวออกมาจากบัณฑิตาได้สำเร็จ รีบตามมาสมทบพร้อมหยอดลูกอ้อนในทันที เขาทิ้งให้บัณฑิตาอยู่กับธีรวีร์ในร้านขายของที่ระลึกโดยอ้างว่าจะไปเข้าห้องน้ำ

?ได้ซิคะ เอ้า...งั้นคุณวิชญ์ช่วยถ่ายรูปหมู่ให้พวกเราสามคนหน่อย คุณกฤตเข้ามาเร็ว ๆ นาน ๆ จะมีช่างภาพระดับไฮโซมาถ่ายรูปให้สักครั้ง? วรปรัชญ์ยิ้มกว้างที่สามารถแกล้งวิชญ์ได้ เขารู้ว่าวิชญ์คงไม่ได้คิดอะไรจริงจังกับแม่สาวไฟแรงสูงนั่น แต่ก็ต้องสั่งสอนให้รู้สึกซะบ้างเพราะอยากทำให้เพื่อนซี้ของเขาถึงกับหงอย ที่ต้องทนเห็นคนทั้งคู่เดินแยกไปอีกทางเมื่อตอนที่มาถึงจุดชมวิวแห่งนี้

?เอ๊ะ! แล้วกิ๊กเก่าคุณไปไหนซะล่ะคะ? วรปรัชญ์ยังคงยั่ววิชญ์ต่อพร้อม ๆ กับโพสท่าถ่ายรูปไปในตัว

?เขาไปซื้อของฝากตรงโน้นแน่ะครับ? วิชญ์บอก

?นั่นแน่ ยอมรับแล้วใช่ไหมค่ะว่าเป็นกิ๊กกัน? วรปรัชญ์ยังคงไม่ยอมลดลาวาศอกให้เพราะเห็นแล้วว่าพิชญธิดายังคงยืนเฉยไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมาทั้ง ๆ ที่ในใจตอนนี้คงไม่ได้นิ่งเหมือนใบหน้า

?ครับ เคยเป็น ก็คุณปรัชญ์พูดเองว่า ?กิ๊กเก่า? ผมก็ยอมรับ แต่รับรองได้ว่าตอนนี้ไม่มีอะไรกันแล้ว? วิชญ์อธิบายให้วรปรัชญ์ฟัง แต่ตากลับจ้องมองอยู่ที่ใบหน้าของพิชญธิดาที่ยังคงทำเฉยกับสิ่งที่ได้ยิน เธอหันหน้าออกไปชมวิวต่อเมื่อเห็นว่าวิชญ์ไม่ได้ตั้งท่าจะถ่ายรูปแต่หูยังคงฟังบทสนทนาของเขากับวรปรัชญ์อยู่เงียบ ๆ เพราะเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะไปซักฟอกเขา

?ดีมากค่ะ ที่กล้ายืดอกรับ งั้นก็จะยกผลประโยชน์ให้จำเลย คุณกฤตคะเราไปตรงโน้นกันเถอะค่ะ ปล่อยให้จำเลยโดนผู้พิพากษาลงทัณฑ์กันเอาเอง หวังว่าคุณวีร์คงไม่ปล่อยคู่กรณีให้โผล่มาตอนนี้นะคะ? ประโยคท้ายนั่นวรปรัชญ์หันมากระซิบกระซาบกับกฤตธีกันเพียงสองคน

เมื่อคนทั้งสองเดินออกไปแล้ว วิชญ์ก็เรียกให้พิชญธิดาหันหน้ามาคุยด้วย เขาจ้องมองพิชญธิดาด้วยดวงตาที่เต้นระริกจนคนถูกมองหน้าร้อนผ่าว

?คุณอัณณ์จะกลับกรุงเทพฯ พรุ่งนี้จริง ๆ หรือครับ รอกลับพร้อมกันไม่ได้หรือครับ นะครับ? วิชญ์พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มละมุนชวนฟังยิ่งนัก

?ก็คุณวิชญ์มีคุณตาเป็นเพื่อนเที่ยวแล้วนี่คะ? พิชญธิดาอดไม่ได้ที่จะตัดพ้อ ?เมื่อคืนยังมาขโมยหอมแก้มเราอยู่เลย พอวันนี้เจอคู่ขาเก่าเข้าหน่อย เราก็คงหมดความหมาย?

?ใช่ครับ มีเพื่อนเที่ยวแล้ว แต่อยากให้แฟนอยู่เที่ยวด้วยนี่ครับ นะ ผมจะได้อวดโรงแรมที่หัวหินด้วย ที่นั่นสวยมากเลยนะ กลับพร้อมกันเหมือนเดิมนะครับ นะครับ? วิชญ์ใส่ลูกอ้อนพร้อมส่งสายตาหวานหยดย้อยมาให้หญิงสาวจนดวงหน้าขาวแดงก่ำ

?แต่อัณณ์จองตั๋วแล้วนี่คะ? พิชญธิดาก้มหน้าพูดเพราะไม่อยากให้เขาเห็นสายตาที่หวั่นไหวไปกับคำพูดออดอ้อนของเขาที่กำลังทำให้เธอใจอ่อนลงทุกที

?ก็ยกเลิกไป เดี๋ยวผมจ่ายเงินคืนให้เอง? วิชญ์แก้ปัญหาให้พร้อมยกโรงแรมหัวหินมาเป็นข้ออ้างอีกครั้ง

?ผมอยากให้คุณอัณณ์ได้เห็นโรงแรมที่หัวหินด้วยเพราะผมออกแบบเองทั้งหมด?

?ไว้คราวหน้าแล้วกันนะคะ อัณณ์อยากกลับไปดูบ้านแล้วน่ะค่ะ ทิ้งไว้ตั้งหลายวันแล้ว? พิชญธิดาตัดสินใจเด็ดเดี่ยว เธอคิดว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายโลเลและคงไม่ใช่ประเภทเหยียบเรือสองแคม เธออยากให้เขาได้พิสูจน์ใจตัวเองด้วยว่ายังเหลือเยื่อใยมากน้อยแค่ไหนกับบัณฑิตา แต่ถ้าเธอมองเขาผิดไป อย่างน้อยเธอก็ยังไม่ได้ถลำลึก แค่แผลถลอกไม่นานก็คงหาย

?คุณอัณณ์ใจร้าย? วิชญ์โอดครวญด้วยวลีเด็ดที่เริ่มจะติดปากเขาแล้ว

?อ้าว มาว่าอัณณ์ได้ไงคะ เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้เอาเอง แล้วที่อัณณ์จะรีบกลับกรุงเทพฯก็เพราะจะไปเตรียมตัวเตรียมใจและเตรียมคำตอบไว้ให้ใครบางคน ถ้าอยากรู้ว่าคำตอบจะเป็นอย่างไรก็ต้องรีบกลับกรุงเทพฯไว ๆ อย่ามัวเถลไถลหรือออกนอกลู่นอกทางนะคะ เพราะคำตอบนี้มันหมดอายุเร็วซะด้วยสิ? พิชญธิดาทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินไปหาวรปรัชญ์และกฤตธีแต่ก็ยังได้ยินคำอุทธรณ์ของวิชญ์ที่ลอยตามมากับสายลมเย็น ๆ บนยอดเขารังว่า

?โอ้โห ขู่ไว้รอบทางแบบนี้ ใครจะกล้าออกนอกลู่นอกทางล่ะคร้าบ?

************************

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”