ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 5 โดย....อาทิตา

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
athita
โพสต์: 41
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 11 เม.ย. 2009 11:15 pm

ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 5 โดย....อาทิตา

โพสต์ โดย athita »

ตอนที่ 5 สมภารจะกินไก่วัด

พิชญธิดามาถึงโรงแรมในชุดทำงานที่ทะมัดทะแมงและดูแตกต่างจากเมื่อวาน พิชญธิดาเป็นหญิงสาวที่ไม่มีสไตล์การแต่งตัวที่แน่นอน เธอเป็นประเภทจับนู่นมาผสมนี่ และก็นับว่าโชคดีที่ผสมออกมาได้อย่างงดงามลงตัวในทุก ๆ ครั้งซึ่งอาจจะเป็นเพราะรูปร่างที่สูงโปร่งที่ทำให้เธอได้เปรียบในการแต่งตัวในทุกรูปแบบ รวมถึงใบหน้าที่ยิ่งพิศยิ่งสวย แม้พิชญธิดาจะไม่ใช่สาวกแฟชั่นแต่เธอก็ไม่เคยตกเทรนด์ ถึงแม้วรปรัชญ์จะให้ฉายาเธอว่า ?สวยแต่รูป สมองไม่มีหยัก? ในเรื่องความเอ๋อ แต่ในด้านการแต่งตัวแล้ววรปรัชญ์เจ้าแม่แฟชั่นตัวจริงเสียงจริงถึงกับยกนิ้วให้พิชญธิดาพร้อมพ่วงตำแหน่ง ?กูรูมิ๊กซ์แอนด์แม็ช? ให้กับเธออย่างเต็มใจ แต่ยังไม่วายอวดตัวว่า ?ที่แกแต่งตัวได้กิ๊บเก๋ยูเรก้าก็เพราะแกได้เห็นตัวอย่างที่เริ่ดหรูอลังการระดับไฮคลาสของฉันเข้าไปทุกวันนะซิ แกเลยออสโมซิสการแต่งตัวของฉันเข้าไปด้วย?

เช้าวันนี้หญิงสาวเลือกใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวลายทางแขนสั้นและกางเกงผ้าขายาวสีดำขนาดพอดีตัว รัดเข็มขัดเส้นเล็กสีเดียวกันกับกางเกง สวมรองเท้ารัดส้นสีดำแบบเปลือยเท้าเพื่อโชว์เล็บเท้าที่เพ้นท์รูปดอกชบาสีแดงสดไว้ สะพายกระเป๋าหนังสีดำใบใหญ่ แถมเพิ่มความเก๋ด้วยต่างหูระย้าสีเงินแวววาวและปล่อยผมดำที่ดัดเป็นลอนใหญ่ ๆ ยาวสยายเต็มหลัง หากเมื่อวานพิชญธิดาเปรียบเสมือนสาวแสนหวานแล้ว ในวันนี้พิชญธิดาก็คือสาวเซ็กซี่คนหนึ่ง ที่ดูพร้อมจะเริ่มงานใหม่อย่างกระตือรือร้น พิชญธิดามาถึงที่ทำงานเวลาประมาณ 07:45 น. เพราะไม่แน่ใจว่าที่นี่ต้องตอกบัตรกี่โมงกันแน่ระหว่าง 08:00 น. กับ 08:30 น. ก็เมื่อวานเธอก็ไม่ได้ถามเวลาเริ่มงานนี่นา คนมันมัวแต่ดีใจที่ได้งานใหม่ ขอย้ำว่ามัวดีใจจริง ๆ ไม่เกี่ยวกับการมีเจ้านายหล่อบาดขาดใจน่ะคะ ครั้นจะโทรไปถามพี่ยาแต่เช้ามืดก็เกรงใจว่าที่คุณแม่ที่ต้องการการพักผ่อนอย่างเพียงพอ พิชญธิดาเลยเลือกที่จะมาให้เช้าไว้ก่อน

พิชญธิดาเดินผ่านล็อบบี้โรงแรมแล้วตรงมาที่ลิฟต์โดยสารซึ่งมีอยู่ทั้งหมดถึงสิบตัว พิชญธิดาผู้ไม่สังเกตอะไรเลยจึงไม่รู้ว่าพนักงานของโรงแรมนั้นต้องเข้าทางประตูด้านข้าง ที่สามารถเดินตรงมาออกตรงหน้าลิฟต์ได้โดยไม่ต้องตัดผ่านล็อบบี้ของโรงแรม ส่วนประตูด้านหน้าโรงแรมนั้นมีไว้ต้อนรับแขกเท่านั้น และในวันนี้พิชญธิดาก็ตาสว่างเมื่อเห็นว่าลิฟต์ด้านซ้ายมือทั้งห้าตัวนั้นมีป้ายเขียนไว้ชัดเจนว่าสำหรับแขกของโรงแรมใช้บริการ ส่วนอีกสองตัวทางด้านขวามือซึ่งมีขนาดใหญ่สำหรับใช้ขนกระเป๋าสัมภาระของแขก อีกสองตัวถัดมาสำหรับพนักงานใช้ขึ้น - ลงสำนักงานบนชั้น 20 - 22 และตัวสุดท้ายที่อยู่ข้างในสุด (ใกล้กับทางเข้าประตูด้านข้างของโรงแรม) ก็คือตัวที่เธอใช้บริการเมื่อวานมีป้ายเขียนติดไว้เหนือประตูลิฟต์ว่า ?สำหรับผู้บริหารเท่านั้น?

?ตัวหนังสือก็ไม่เล็กนี่นา ทำไมเมื่อวานเราถึงมองไม่เห็นไปได้นะ ดีน่ะเนี่ยที่นายไม่ไล่ตะเพิดออกมา เกือบไปแล้วไหมล่ะคุณพิชญธิดาจอมเป๋อ? หญิงสาวอดนึกค่อนขอดตัวเองในใจไม่ได้และน้อมรับ ?สวยแต่รูป สมองไม่มีหยัก? อย่างเต็มใจเป็นครั้งแรก

พิชญธิดาเข้าลิฟต์พร้อมพนักงานผู้หญิงอีกสามคนแต่เหลือเพียงเธอคนเดียวที่เดินออกมาที่ชั้น 22 ซึ่งในเวลานี้ยังมีเพียงแม่บ้านที่กำลังทำความสะอาดอยู่ พิชญธิดาหันไปยิ้มให้หญิงวัยกลางคนที่กำลังดูดฝุ่นที่พื้นอย่างรีบเร่งพร้อมกล่าวทักทาย

?สวัสดีค่ะ เริ่มงานแต่เช้าเลยนะคะ? พิชญธิดาคลี่ยิ้มหวานพร้อมยกมือไหว้เพราะถือว่าเธอมีอายุน้อยกว่า

คุณแม่บ้านที่ต้องปล่อยสายดูดฝุ่นและรีบรับไหว้แทบไม่ทัน เธอตะโกนถามตอบกับพนักงานใหม่เพื่อให้กลบเสียงคำรามของเจ้าเครื่องดูดฝุ่นที่ยังทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพว่า

?สวัสดีจ๊ะ หนูเป็นพนักงานใหม่หรือจ๊ะ ทำแผนกอะไรล่ะ?

?หนูเป็นเลขาฯใหม่ของคุณวิชญ์ค่ะ จะมาทำแทนช่วงที่พี่ยาลาคลอดน่ะค่ะ? พิชญธิดาอธิบายด้วยเสียงอันดังเช่นกัน

?อ๋อ มาแทนคุณยาหรือจ๊ะ มาเช้าจัง คุณยาเธอเข้างานแปดโมงครึ่งแน่ะ ส่วนคุณวิชญ์ก็มาเกือบ ๆ เก้าโมง บางวันก็สายหน่อย สิบโมงบ้างสิบเอ็ดโมงบ้าง เอาแน่เอานอนไม่ได้หรอกจ๊ะ? ป้าแม่บ้านหันไปปิดเครื่องดูดฝุ่นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าจะตะโกนคุยกันไปทำไมให้เจ็บคอ

?เหรอค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหนูนั่งรอก็ได้ค่ะ? พิชญธิดานั่งลงตรงโซฟารับรองแขกหน้าโต๊ะทำงานของเมธปรียา

?ตามสบายจ๊ะ แล้วกินอะไรมาหรือยังล่ะ โน่น ตรงโน้นมุมกาแฟ มีพวกคุ้กกี้ ขนมปังกรอบด้วย กินได้เลยน่ะ นายไม่ว่าหรอก? ป้าเชื้อเชิญด้วยอัธยาศัยไมตรี

?ไม่เป็นไรค่ะ หนูทานมาจากบ้านเรียบร้อยแล้วค่ะ เอ่อ...ป้าคะแล้วแผนกบุคคลอยู่ชั้นไหนล่ะคะ หนูยังไม่ได้ไปรายงานตัวเข้าทำงานเลยค่ะ? พิชญธิดาที่เพิ่งนึกได้จึงรีบถาม ?ป้า? แม่บ้านที่เธอคาดคะเนอายุว่าน่าจะแก่กว่ามารดาของเธอสักสี่ห้าปี

?อ๋อ หนูลงลิฟต์ไปที่ชั้น 20 น่ะ แล้วก็เดินตรงไปจนเจอประตูแรกทางขวามือนั่นแหละจ๊ะ หัวหน้าฝ่ายบุคคลชื่อ คุณจารุณัฐ พูนทรัพย์ แกเป็นผู้ใหญ่ใจดี น่ารัก นี่คงมาทำงานแล้วล่ะ แกมาแต่เช้าทุกวัน หนูจะลงไปเลยก็ได้น่ะเดี๋ยวถ้าคุณยามาป้าจะบอกให้? ป้าแม่บ้านอาสาอย่างคนมีน้ำใจซึ่งหาได้ยากเต็มทีในสังคมเมืองทุกวันนี้

?ขอบคุณป้ามากค่ะ อ้อ ป้าคะหนูชื่อพิชญธิดาค่ะ แต่เรียกสั้น ๆ ว่าอัณณ์ก็ได้ค่ะ แล้วคุณป้าชื่ออะไรคะ? พิชญธิดาผูกสัมพันธไมตรีเพราะต่อไปต้องเป็นเพื่อร่วมงานที่จะเห็นหน้าค่าตากันทุกวัน

?ป้ารมย์จ๊ะ ส่วนชื่อจริงก็ รมย์ธีรา จ๊ะ ลูกสาวมันเพิ่งตั้งให้ เมื่อก่อนป้าชื่ออารมย์เฉย ๆ ลูกมันบอกว่าฟังแล้วเชยไม่ทันสมัย มันก็เลยไปเปลี่ยนให้ใหม่ได้สักสองเดือนแล้วล่ะ? ป้ารมย์พูดไปยิ้มไปอย่างคนอารมย์ดีสมชื่อ

?ชื่อเพราะดีนะคะเหมาะกับป้าดีค่ะ งั้นป้ารมย์คะ อัณณ์ขอตัวลงไปแผนกบุคคลก่อนน่ะค่ะ ถ้าพี่ยามาอัณณ์รบกวนให้ป้าช่วยบอกพี่ยาให้ด้วยนะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ? พิชญธิดายกมือไหว้ขอบคุณอีกครั้งก่อนลุกเดินกลับไปยังลิฟต์โดยสารเพื่อลงไปยังชั้น 20

************************

ปิ๊ง.....เสียงสัญญาณประตูลิฟต์โดยสารเปิดออก ณ ชั้น 22 ของโรงแรม ณ นิมมานรดีซึ่งชั้นนี้เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของบริษัทในเครือ นิมมานรดี ทั้งหมด บนชั้นนี้นอกเหนือจากจะเป็นที่ตั้งของห้องทำงานของประธานกรรมการแล้ว ยังมีห้องประชุมขนาดจุคนได้ถึง 50 คนเพื่อจัดการประชุมในวาระสำคัญต่าง ๆ เข่น การประชุมหัวหน้าแผนกของโรงแรม การประชุมรวมของบริษัทในเครือ การประชุมผู้ถือหุ้น และการประชุมแถลงข่าวสำคัญของโรงแรมและบริษัทในเครือนิมมานรดี รวมทั้งห้องทำงานของผู้บริหารที่เป็นคนเก่าคนแก่อีกห้าห้องซึ่งอยู่คนละฟากกับห้องทำงานของท่านประธานกรรมการ ผู้บริหารเหล่านี้จะแยกกันรับผิดชอบกิจการต่าง ๆ ในเครือของนิมมานรดีตามความรู้ความสามารถที่ตนเองถนัด พวกเขาจะคอยดูแลและประสานงานกับบริษัทในเครือทั้งหมดแล้วสรุปผลกำไร ? ขาดทุนรวมถึงปัญหาต่าง ๆ ในแต่ละบริษัทให้ท่านประธานกรรมการทราบต่อไป

เสียงฝีเท้าของสามหนุ่มที่เดินออกมาจากลิฟต์ทำให้แม่บ้านที่กำลังเก็บสายไฟของเครื่องดูดฝุ่นหยุดการทำงานเพื่อหันไปมองผู้มาใหม่

?อ้าว.....คุณวิชญ์เองเหรอคะ อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณกฤต คุณธีร์ด้วย เอ...ทำไมวันนี้มาทำงานกันตั้งแต่เช้าได้ล่ะคะ มีประชุมด่วนเหรอคะ แล้วจะรับกาแฟเลยไหมคะ น้ำร้อนเดือดแล้วพร้อมชงได้เลยค่ะ? ป้ารมย์แม่บ้านประจำชั้น 22 ยิงคำถามรวดเดียวจนผู้ฟังไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนดีเพราะไม่แน่ใจว่าไอ้ที่แกถามมานั้น คือ การทักทายทั่ว ๆ ไปหรือถามเพราะต้องการคำตอบจริง ๆ

?สวัสดีครับป้ารมย์ เอ่อ....พอดีวันนี้มีงานต้องรีบเข้ามาเซ็นอนุมัติน่ะครับ เอ่อ....ป้ารมย์ครับ......คุณยายังไม่มาทำงานเหรอครับ? วิชญ์ ถามอย่างกระดากอายเพราะรู้ตัวเองดีว่ามีจุดประสงค์อะไรที่แอบแฝงอยู่และที่สำคัญเขาอายไอ้ลูกน้องสองตัวข้างหลังนั่นด้วยพวกมันยิ่งสงสัยเขาอยู่ว่าทำไมวันนี้ต้องมาทำงานตั้งแต่เช้าทั้ง ๆ ที่ในตารางงานว่างจนถึงบ่ายสอง

?ก็เพิ่งจะแปดโมงเองนี่คะ คุณยาเธอเข้างานแปดโมงครึ่งนะคะ อ้าว....แล้วนี่คุณวิชญ์ไม่ได้สั่งเธอให้รีบเข้ามาเหรอคะ? ป้าแม่บ้านยังคงสืบสวนหาความจริงต่อไปกับผู้ต้องสงสัยร่างใหญ่

?งั้นก็ไม่เป็นไรหรอกครับ เอ่อ.....พอดีผมจะให้เธอหาเอกสารที่ต้องเซ็นอนุมัติน่ะครับ ผมอยากอ่านอีกสักรอบสองรอบก่อนนำเสนอในที่ประชุม? เจ้านายใหญ่รีบอธิบายเพราะกลัวหน่วยสืบสวนสอบสวนจะจับพิรุธได้ที่กินปูนร้อนท้องไปก่อน ?เอ...เราไปเป็นลูกน้องป้ารมย์แกตั้งแต่เมื่อไรวะ ทำไมต้องอธิบายแกด้วย?

ส่วนลูกน้องบอดี้การ์ดหน้าหล่อทั้งสองคนก็หันมาสบตากันเหมือนจะถามกันและกันว่า ?เอกสารอะไรวะที่ต้องเซ็นอนุมัติวันนี้ ก็เมื่อวานนายเซ็นจนหมดทั้งกองไปแล้วนี่หว่า?

?ถ้าอย่างนั้น ให้คุณเลขาฯคนใหม่หาให้ก็ได้มั้งคะ เดี๋ยวป้าลงไปตามแกให้ค่ะ? ป้ารมย์ยังคงสนทนาต่อไปอย่างสนิทสนมเพราะความที่แกทำงานที่นี่มานานแล้วและเคยเห็นคุณหนูวิชญ์มาตั้งแต่เริ่มเป็นหนุ่มในยามที่คอยติดตาม ?ท่าน? แวะมาดูงานที่โรงแรม แกเลยไม่รู้สึกสะทกสะท้านใด ๆ ในขณะที่กำลังเจรจากับ ?ประธานกรรมการ? เฉกเช่นแม่บ้านหรือพนักงานคนอื่น ๆ ที่มักกลัวจนลนลานแทบเก็บอาการไม่ค่อยอยู่เพียงแค่ท่านประธานเดินผ่าน

?ป้าว่าคุณเลขาฯคนใหม่มาทำงานแล้วเหรอครับ เอ่อ....แล้วเธออยู่ไหนล่ะครับ? ประธานกรรมการหนุ่มถามพร้อมส่ายสายตาค้นหาเจ้าของเรือนร่างบอบบางสูงโปร่งที่ทำให้เขาถึงกับเก็บภาพเอาไปนอนฝันถึงทั้ง ๆ ที่เพิ่งเจอกันเพียงวันเดียว

?เธอลงไปแผนกบุคคลน่ะค่ะ เห็นบอกว่าจะไปรายงานตัว งั้นเดี๋ยวป้าลงไปตามให้เลยนะคะ? ป้ารมย์ขันอาสาด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง

?ไม่เป็นไรครับ เอาเป็นว่าพอเธอกลับขึ้นมา ป้าค่อยบอกให้เธอเข้าไปพบผมก็ได้ครับ? วิชญ์รีบออกเดินเข้าไปในห้องทำงานเพราะกลัวเก็บอาการดีใจไว้ไม่อยู่ ?คิดไม่ผิดแฮะที่ยอมลงทุนมาทำงานแต่เช้า?

ส่วนสองหนุ่มบอดี้การ์ดก็มาถึงบางอ้อเมื่อค้นพบต้นตอที่ทำให้เจ้านายหนุ่มถึงกับต้องรีบตื่นเพื่อมาทำงานตั้งแต่เช้า กฤตธีจึงหันไปยักคิ้วให้กับธีรวีร์พร้อมพูดว่า

?เห็นไหมล่ะ ที่ข้าโทรไปบอกแกเมื่อคืนน่ะ ไม่ได้โม้สักนิด ท่าทางคนนี้นายจะเอาจริงวะ? กฤตธีคุยข่มเพราะได้ ?รู้? อะไรมามากกว่า

?เอาจริงไม่จริงก็ยังไม่รู้หรอก คงต้องดูไปก่อน แต่ที่รู้ ๆ คือ นายเป็นเอาหนักวะ นี่เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่นายมาทำงานก่อนคุณยาน่ะ? ธีรวีร์อมยิ้มขำในท่าทีของนายที่ไม่เคยจะหลุดฟอร์มออกมาให้ได้เห็นสักครั้ง แล้วพูดต่อเพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า กฤตธีบอกว่านายมีคำสั่งใหม่มาตั้งแต่เมื่อคืน

?เฮ้ย! ไอ้กฤต มัวยืนหาสวรรค์วิมานอะไรวะ ไป...เข้าไปในห้องนายได้แล้ว เดี๋ยวนายก็เรียกหาด้วยรองพระบาททั้งซ้ายทั้งขวาหรอก?

กฤตธีที่เพิ่งนึกขึ้นได้ถึงคำสั่งใหม่ที่ไร้เหตุผลของนายที่ทำตัวเหมือนกับเด็กหวงของเล่นจึงรีบเดินเข้าห้องทำงาน และทิ้งคู่หูไว้เฝ้าหน้าห้องตามลำพัง

************************

พิชญธิดาเดินออกมาจากลิฟต์พร้อมกับเมธปรียาซึ่งบังเอิญขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกันมาจากชั้นหนึ่ง วันนี้ว่าที่คุณแม่ยังสาวอยู่ในชุดคลุมท้องสีชมพูหวานซึ่งช่วยขับผิวขาวตามเชื้อสายจีนของเธอให้ดูผ่องยิ่งขึ้นไปอีก

?พี่นะอิจฉาน้องอัณณ์จัง ใส่ชุดทำงานแบบไหนก็ดูสวยดูดีไปหมด? เมธปรียาเอ่ยปากชมรุ่นน้องคนสวยอย่างจริงใจ

?ขอบคุณค่ะ ตอนแรกอัณณ์ก็ว่าจะใส่กระโปรงมาทำงานนั่นแหละค่ะ แต่เมื่อวานกลับบ้านดึกไปหน่อยเลยไม่ได้ไปแวะรับเสื้อผ้าที่ร้านซักรีดน่ะค่ะ วันนี้เลยต้องใส่กางเกงมาทำงาน ไม่รู้นายจะว่าหรือเปล่า?

?ว่าเว่ออะไรล่ะคะน้องอัณณ์ คุณวิชญ์น่ะแกไม่มีพิธีรีตองอะไรหรอก แกง่าย ๆ สบาย ๆ ไม่ซีเรียสกับเรื่องหยุมหยิมพวกนี้หรอก แกน่ารักจะตาย นี่ถ้าพี่ยังไม่แต่งงานน่ะ....รับรองมีลุ้น ๆ? เมธปรียาพูดเล่นสนุก ๆ ไม่ได้คิดจริงจังอะไร
?เดี๋ยวเหอะ จะฟ้องพี่ภูมิ แล้วไหนพี่ยาเคยบอกอัณณ์ว่าเจ้านายดุไงล่ะคะ? หญิงสาวยังไม่หายสงสัย

?คุณวิชญ์น่ะเป็นคนซีเรียสเวลาทำงานและจะโมโหง่ายถ้ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นแต่แป๊บ ๆ ก็หายไม่โกรธนานหรอก สรุปง่าย ๆ ว่าเวลาดีก็ดีใจหายแต่เวลาร้ายก็ร้ายไม่หยอกหรอก ทั้งคุณกฤตคุณธีร์ยังสยองพองขนเลย ให้ดีน่ะเวลานายอยู่ในโหมดรมณ์บ่จอยนะ พี่ขอแนะนำให้อัณณ์ถอยห่างออกมาให้มากที่สุด พอนายอารมณ์เย็นลงแล้วค่อยเข้าไปเคลียร์ ช่วงที่พายุเข้าน่ะ ก็ปล่อยให้มันพัดให้กระหน่ำซัมเมอร์เซลไปก่อน อย่าไปพยายามอธิบายอะไรทั้งนั้นเพราะจะดูเหมือนว่าเรากำลังแก้ตัว? พิชญธิดาตั้งใจฟังโดยที่ไม่รู้เลยว่าสักวันหนึ่งจะได้ใช้สิ่งที่ได้รับรู้ในวันนี้ให้เป็นประโยชน์

เมธปรียาทำท่าตกใจที่หันไปเห็นธีรวีร์หนึ่งในบอดี้การ์ดองครักษ์พิทักษ์ท่านประธานที่เพิ่งเดินกลับมาจากมุมกาแฟพร้อมมีถ้วยกาแฟที่ยังมีควันกรุ่น ๆ โชยขึ้นมาอยู่ในมือ

?คุณวีร์ ทำไมวันนี้มาทำงานแต่เช้าคะ แล้วนายล่ะคะ? เมธปรียาร้องทักเสียงดังจนเลขาฯคนใหม่ก็พลอยตกใจไปด้วย

?สวัสดีครับคุณยา สวัสดีครับคุณอัณณ์ นายอยู่ในห้องทำงานแล้วครับ? ธีรวีร์หนุ่มหน้าเข้มเพราะมีทั้งหนวดและเคราบนใบหน้ากล่าวทักทายเลขาฯสาวทั้งสอง แล้วจึงจิบกาแฟกลิ่นหอมกรุ่นพลางลอบมองเจ้าของใบหน้าสวยเก๋ที่เป็นต้นเหตุของการออก ?กฏใหม่? ของเจ้านาย

?โอ้ย! ตายแล้ว นี่วันนี้ยามาสายหรือคะ? เมธปรียารีบยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเพื่อความแน่ใจ

?แต่มันเพิ่งจะ 08:25 น. เองนี่คะ นายมีงานด่วนเหรือคะ ทำไมยาไม่รู้ล่ะ? เมธปรียายังไม่หายอกสั่นขวัญแขวนเพราะไม่เคยมาทำงานสายหลังนายแม้แต่ครั้งเดียวตั้งแต่ทำงานที่นี่มากว่าห้าปีแล้ว หากนายมีงานเร่งด่วนก็จะโทรบอกเธอล่วงหน้าก่อนทุกครั้ง

?เอ....หรือเมื่อคืนยาเผลอปิดมือถือคะ เลยไม่ได้รับโทรศัพท์จากนาย? เมธปรียาพูดพลางค้นหามือถือจากกระเป๋าสะพายอย่างวุ่นวาย

?คุณยาไม่ต้องตกอกตกใจไปหรอกครับ เดี๋ยวไอ้หนูในท้องจะพลอยตกใจตามแม่ไปด้วย ไม่มีอะไรหรอกครับ นายเขานอนไม่หลับก็เลยรีบลุกมาทำงานแต่เช้าก็แค่นั้นเองล่ะครับ? ธีรวีร์เสไปมองสาเหตุที่ทำให้นายนอนไม่หลับ ?ก็น่ารักอย่างนี้ไงเล่า นายถึงกระวนกระวายอยากมาเจอตั้งแต่เช้า?

?งั้นเดี๋ยวยารีบเข้าไปพบนายก่อนดีกว่า เผื่อนายจะใช้อะไร น้องอัณณ์ช่วยเปิดคอมให้พี่ก่อนนะคะ เดี๋ยวพี่ค่อยออกมาอธิบายงานให้อัณณ์ฟัง? เมธปรียารีบวางกระเป๋าสะพายไว้ในลิ้นชักของโต๊ะทำงาน แล้วจึงเดินไปเคาะประตูห้องทำงานของเจ้านายหนุ่มรูปงามนามว่า วิชญ์ นิมมานรดี

************************

ก๊อก ก๊อก ก๊อก ไม่น่าเชื่อที่เสียงเคาะประตูห้องทำงานเพียงแค่นี้จะทำให้วิชญ์ถึงกับสะดุ้ง ?นี่เขาตั้งใจรอเธอขนาดนี้เลยหรือนี่?

?เชิญครับ? เจ้าของห้องกล่าวเชิญด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลชวนฟังเป็นพิเศษ แล้วแกล้งทำเป็นก้มหน้ายุ่งอยู่กับเอกสารที่อยู่ในมือจึงไม่ได้เห็นหน้าของคนที่เปิดประตูเข้ามา เขาจึงปล่อยไก่ไปตัวเบ้อเร่อว่า

?เชิญนั่งก่อนสิครับคุณอัณณ์ ขอผมอ่านเอกสารนี้ให้เสร็จก่อน แล้วค่อยคุยกัน? เจ้าตัวยังคง ?เก๊ก? ทำเป็นอ่านเอกสารตรงหน้าที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องสำคัญมากจึงไม่ทันเห็นอาการกลั้นหัวเราะจนตัวงอของกฤตธีและอาการงงเป็นไก่ตาแตกของเมธปรียา

?เอ่อ.....นายคะ ยาเองค่ะ ไม่ใช่น้องอัณณ์ นายจะพบน้องอัณณ์เหรอคะ ถ้างั้นยาไปตามเข้ามาให้นะคะ? ว่าที่คุณแม่ทำท่าจะเดินออกจากห้องไปตามรุ่นน้องมาให้นาย

?อ้าว คุณยาเหรอครับ พอดีผมไม่ทันมอง ขอโทษทีครับ เอ่อ....พอดีผมจะให้คุณอัณณ์มาเซ็นสัญญาทำงานน่ะครับ? วิชญ์จึงหยิบเอกสารที่กำลังอ่านมาโบกไปมาในมือเพื่อกลบเกลื่อนอาการหน้าแตกแกมผิดหวัง

?อ้าว ยาก็นึกว่าน้องอัณณ์ลงไปเซ็นที่แผนกบุคคลแล้วซะอีกค่ะ? เธอกล่าวอย่างงง ๆ ที่เห็นสัญญาการทำงานของเลขาฯมาอยู่ในมือนายแทนที่จะเป็นหัวหน้าแผนกบุคคลอย่างที่เคยปฎิบัติกันมา

?อ๋อ พอดีมีบางเรื่องที่ผมยังไม่ได้คุยรายละเอียดกับคุณอัณณ์น่ะครับ? วิชญ์รีบชิงแก้ตัว

?ยังไม่คุยรายละเอียดแล้วรับเข้าทำงานแล้วนี่นะ? เมธปรียาคิดในใจเพราะยังตามเกมคนเป็นนายไม่ทัน

?งั้น ยาไปตามน้องอัณณ์เข้ามาเลยนะคะ? ว่าที่คุณแม่ที่ยังเดินเหินคล่องแคล่วก้าวฉับ ๆ ตรงไปที่ประตูโดยไม่รอช้า

เมื่อประตูปิดสนิทลง เจ้านายจึงหันไปทางบอดี้การ์ดหนุ่มที่ยังกลั้นหัวเราะอยู่จนหน้าดำหน้าแดง

?ขำอะไรวะไอ้กฤต? วิชญ์ถามด้วยสายตาขุ่น ๆ ?นี่ถ้าไม่มี ?งานใหญ่? รออยู่ล่ะก้อ เขาคงได้ลุกไปเตะมันแน่? คิดได้ดังนั้นแล้ววิชญ์จึงออกคำสั่งด้วยเสียงเข้มไปว่า

?กฤต แกออกไปรอข้างนอกก่อน ขอฉันคุยกับคุณอัณณ์สัก 10 นาที?

กฤตธีที่รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมของเจ้านายหนุ่มเป็นอย่างดีมองมาที่นายที่แกล้งหันไปอ่านเอกสารในมือต่อ

?ได้ครับนาย เอ.....ว่าแต่ 10 นาทีจะพอเหรอคร้าบ? พอบอดี้การ์ดหนุ่มหล่อหน้าเข้มพูดจบก็รีบเผ่นกระโดดแผล็วหลบไปทางประตูทันทีซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่พิชญธิดากำลังเปิดประตูสวนเข้ามา กฤตธีจึงถูกประตูกระแทกใส่หน้าเข้าอย่างจัง ?โครม? ซึ่งมันสามารถเรียกเสียงหัวเราะจากผู้เป็นนายได้อย่างครื้นเครงพร้อมยักคิ้วหลิ่วตาใส่ลูกน้องที่กำลังคลำหน้าผากตัวเองป้อย ๆ อย่างต้องการจะบอกว่า ?สมน้ำหน้า?

?อุ้ย! ขอโทษค่ะ อัณณ์ไม่ได้ตั้งใจแต่อัณณ์เคาะประตูแล้วนะคะ คุณกฤตเจ็บมากไหมคะ? พิชญธิดาเข้าไปดูอาการคนเจ็บอย่างห่วงใย วิชญ์สบโอกาสจึงลอบมองหญิงสาวในชุดทำงานที่ดูผิดแผกจากเมื่อวานเหมือนเป็นคนละคนอย่างพินิจพิเคราะห์แล้วยิ้มอย่างพึงพอใจ แต่ก็ต้องชักสีหน้าทันทีทันใดเมื่อได้ยินบทสนทนาระหว่างลูกน้องคนสนิทกับเลขาฯคนใหม่

?เดี๋ยวอัณณ์ไปเอาแซมบัคมาทาให้นะคะ รอแป๊บนึงค่ะ? พิชญธิดารีบกระวีกระวาดออกไปหายาทาให้คนเจ็บที่ดูอาการจะหนักพอสมควร ก็ประตูนั่นน่ะเป็นบานไม้สักทั้งบานนี่นา หัวไม่แตกก็บุญแล้ว

?ไอ้กฤต หยุดสำออยได้แล้ว ฉันรู้หรอกน่าว่าแกไม่ได้เจ็บสักเท่าไร หัวแกมันหนายังกับอะไรดี ดีไม่ดีประตูห้องฉันซะอีกที่จะบุบน่ะ? วิชญ์รีบพูดเพราะรู้ดีว่าพิชญธิดากำลังจะกลับเข้ามาในอีกไม่ช้า กฤตธีหันหน้าไปทางนายที่กำลังทำหน้าบึ้งใส่เขาอยู่

?ผมเจ็บจริงน่ะนาย ชนดังโครม นายก็ได้ยินนี่ครับ ผมไม่ได้แกล้งสำออยน่ะครับ โอ้ย...หน้าผากจะโนไหมเนี่ย? กฤตยังคงคลำหน้าผากตัวเองป้อย ๆ เจ้านายหนุ่มที่กำลังจะอ้าปากโต้ตอบต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นบานประตูถูกผลักเข้ามาอีกครั้ง

?นี่ค่ะคุณกฤต แซมบัคค่ะ ทาเองได้ไหมคะ หรือจะให้....? พิชญธิดาพูดไม่ทันจบประโยคดีเพราะเสียงอันดังปนหงุดหงิดของวิชญ์ก็แทรกทะลุกลางปล้องขึ้นมาเพราะเขารู้ดีว่าพิชญธิดากำลังจะพูดอะไร แต่เขาไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นหรอก

?กฤต ฉันมีธุระจะคุยกับคุณอัณณ์ แกเอายาไปทาเองล่ะกันนะ ถ้าอาการมัน ?หนัก? มากล่ะก้อ ฉันให้แกหยุดพักได้หนึ่งวัน? กฤตธีหันไปมองหน้านายที่คนเป็นลูกน้องรู้ดีว่า ?พายุกำลังก่อตัวแล้ว? และถ้าไม่อยากโดนพัดถล่มก็ควรจะรีบจรลีไปตั้งหลักก่อน กฤตธีเห็นว่าตนเองเล่นสนุกยั่วอารมณ์นายมาพอสมควรแก่เวลาแล้ว จึงหันไปกล่าวกับหญิงสาวว่า

?ขอบคุณมากครับคุณอัณณ์ ผมไม่เป็นไรมากหรอกครับ เดี๋ยวทายาเสร็จแล้วผมจะฝากไว้ที่คุณยานะครับ? กล่าวจบ กฤตธีก็เดินออกจากห้องทำงานไปทิ้งให้นายได้คุยรายละเอียดกับเลขาฯคนใหม่ตามลำพัง

เมื่อกฤตธีเดินพ้นออกจากห้องไปแล้ว พิชญธิดาก็หันมาเผชิญหน้ากับเจ้านายหนุ่มและพบว่าเขากำลังจ้องมองมาที่เธออยู่พอดี พิชญธิดาจึงส่งยิ้มหวานให้พร้อมกล่าวสวัสดี

?สวัสดีค่ะคุณวิชญ์ เอ่อ....พี่ยาบอกว่าคุณวิชญ์ต้องการพบอัณณ์เหรอคะ?

?ครับ เชิญนั่งก่อนครับ? ชายหนุ่มผายมือเชื้อเชิญพร้อมส่งยิ้มหวานกระชากใจให้ซึ่งทำให้พิชญธิดาต้องรีบหลบสายตา ไม่ใช่ว่าคนสวยอย่างเธอจะไม่เคยถูกหนุ่ม ๆ จ้องมอง แต่ไม่มีสักครั้งที่เธอต้องหลบสายตาก่อนเหมือนเช่นครั้งนี้ สายตาจ้องจากเจ้านายหนุ่มไม่ได้ดูน่ารังเกียจเหมือนที่ผู้ชายบางประเภทใช้มองผู้หญิงอย่างจาบจ้วง แต่สายตาของคุณวิชญ์ที่มองมาที่เธอนั้น เหมือนต้องการจะสื่ออะไรออกมาให้เธอได้รับรู้ ?แล้วมันคืออะไรล่ะ? พิชญธิดาเองก็ยังไม่แน่ใจ


อัณณ์นั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเจ้านายหนุ่มบนเก้าอี้หรูสีโอ๊กที่ทำจากไม้ทั้งตัวสามารถหมุนได้รอบทิศทางและมีเบาะรองนั่งสีครีมซึ่งเข้ากันได้อย่างลงตัวกับโต๊ะทำงานขนาดเขื่องสีโอ๊กของเจ้านายที่กั้นกลางระหว่างสองหนุ่มสาวอยู่ในขณะนี้

?เอ่อ....เมื่อคืนหนังสนุกไหมครับ? วิชญ์เปิดประเด็นชวนคุยเพื่อให้หญิงสาวลบอาการประหม่าออกไป

?ก็สนุกดีค่ะเหมาะสำหรับคนที่กำลังมีความรัก? เลขาฯสาวไม่รู้ตัวเลยว่าคำตอบของเธอจะทำให้เขาเจ็บแปลบขึ้นมา ?คนที่กำลังมีความรักงั้นหรือ เฮ้อ...จำไว้สิไอ้วิชญ์ว่าเธอมีคนรักแล้ว? เขาจึงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเพราะไม่อยากฟังเรื่องที่จะทำให้ตนเองรู้สึกเจ็บไปมากกว่านี้และที่สำคัญเขาไม่เคยแย่งของ ๆ ใคร

?เอ่อ.....พอดีผมจะให้คุณอัณณ์เซ็นสัญญาการทำงานนะครับ ลองอ่านดูก่อนก็ได้ครับ ไม่ต้องรีบ? พิชญธิดายื่นมือไปรับเอกสารมาอ่านซึ่งในระหว่างนั้นเจ้านายหนุ่มก็ได้ใช้ช่วงเวลานี้สำรวจหญิงสาวตรงหน้าคนที่เขารู้สึก ?ถูกใจ? มากเป็นพิเศษ ความรู้สึกที่มันไม่เคยเกิดขึ้นกับเขาเลย จริงอยู่ที่เขาเคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสาว ๆ มามากต่อมาก แต่ก็เป็นเพียงความรู้สึกฉาบฉวยที่อยู่ไม่นาน และมักจบลงเมื่อต่างฝ่ายต่างพอใจในสิ่งที่ได้รับซึ่งมักเป็นเรื่องความสุขความพอใจ ?ทางกาย? เสียเป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อเธอมีเจ้าของแล้วเขาก็คงต้องตัดใจ วิชญ์รีบเรียกสติตัวเองกลับคืนมาเมื่อสาวน้อยหน้าหวานตรงหน้าเงยหน้าขึ้นสบตาเขา หากตาไม่ฝาดเขาคิดว่าเขาเห็นแก้มของหญิงสาวแดงขึ้นมาเหมือนคนที่กำลังเขินอายเมื่อสบสายตากับเขา

?เอ่อ....คุณวิชญ์คะ ไม่เห็นระบุระยะเวลาทำงานสามเดือนไว้ในสัญญาเลยนี่คะ? พิชญธิดาตั้งข้อสงสัย

?อ๋อ พอดีผมคิดว่า ถ้าคุณยากลับมาทำงานหลังคลอดแล้ว ก็ว่าจะให้คุณอัณณ์อยู่ช่วยต่อเลยเพราะงานคุณยาเขาล้นมือแล้วน่ะครับ? วิชญ์ให้เหตุผลเพราะความที่เขาเป็นประธานกรรมการบริษัทในเครือทั้งหมดของ นิมมานรดี ที่นับวันก็เติบโตขึ้นอย่างรุดหน้าคุณยาจึงต้องการคนมาช่วยงานและเขาก็เลือกเธอ พิชญธิดา บวรภัค

?หรือคุณอัณณ์ไม่อยากทำงานที่นี่ต่อครับ? วิชญ์จ้องหน้าหญิงสาวพร้อมรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ

?ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ คือ อัณณ์ไม่แน่ใจน่ะค่ะ เห็นไม่ระบุเอาไว้ ใครจะไม่อยากทำงานกับบริษัทนิมมานรดีล่ะคะ อัณณ์กลัวแต่ที่นี่จะจ้างอัณณ์ไม่ถึงสามเดือนซะมากกว่าเพราะอัณณ์ไม่ใช่มือโปรแบบพี่ยา เดี๋ยวอยู่ไปคุณวิชญ์เองจะเปลี่ยนใจ? พิชญธิดารีบอธิบายเพราะกลัวเจ้านายจะเข้าใจเธอผิด

?ถ้าลองได้อยู่ด้วยกันแล้ว ผมไม่มีวันเปลี่ยนใจหรอกครับ? ชายหนุ่มแอบคิดในใจ

?งั้นก็เซ็นเลยสิครับ? วิชญ์เร่งหญิงสาว

?แล้วเงินเดือนนี่ พิมพ์ผิดหรือเปล่าคะ? พิชญธิดารีบสอบถามเพราะไม่แน่ใจกับตัวเลขห้าหลักที่เห็นตรงหน้าซึ่งถือว่าเป็นอัตราเงินเดือนที่สูงทีเดียวสำหรับเลขาฯหน้าใหม่อย่างเธอ

?ไหนครับ? วิชญ์แกล้งถามทั้ง ๆ ที่จำตัวเลขเหล่านั้นได้อย่างขึ้นใจเพราะเขาเป็นคนสั่งให้คุณจารุณัฐหัวหน้าแผนกบุคคลเป็นคนแก้ไขเอง แล้วยื่นมือออกไปรับเอกสารมาดู

?ถูกต้องแล้วนี่ครับ ทำไมครับ มันน้อยไปหรือครับคุณอัณณ์? สำหรับโรงแรมเจ็ดดาวอย่าง ณ นิมมานรดีแล้วเงินเดือนที่เขาตั้งให้เลขาฯใหม่นั้นนับว่าไม่สูง เพราะหญิงสาวตรงหน้านั้นมารับหน้าที่เป็นถึงเลขานุการของประธานกรรมการของบริษัทในเครือทั้งหมดไม่ใช่เฉพาะของโรงแรมเท่านั้น ยิ่งได้ศึกษาประวัติการศึกษาและประวัติการทำงานของเธอด้วยแล้ว วิชญ์คิดว่ามันสมน้ำสมเนื้อดีอยู่

?ใครว่าล่ะคะ มากกว่าที่เก่าที่อัณณ์ได้รับตั้งสองเท่าแน่ะ ถ้าคุณวิชญ์แน่ใจว่าถูกต้องแล้ว ห้ามเปลี่ยนใจทีหลังนะคะ? หญิงสาวยิ้มอวดฟันขาวพร้อมก้มหน้าลงชื่อในสัญญาการทำงานโดยไม่ได้เฉลียวใจกับคำพูดของเจ้านายที่เอ่ยออกมาว่า

?ครับ ?ไม่เปลี่ยนใจแน่นอนครับ? ผมสัญญา? วิชญ์ยืนยันอย่างหนักแน่น

************************

ตลอดช่วงสายนั้นพิชญธิดาได้เรียนรู้การจัดเก็บข้อมูลของบริษัทในรูปแบบต่าง ๆ จากเมธปรียา ทั้งข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เมธปรียาย้ำนักย้ำหนาว่าต้องทำไฟล์สำรองบันทึกใส่แผ่นซีดีไว้ด้วยทุกครั้งในแต่ละวัน เผื่อเครื่องคอมพิวเตอร์เสียขึ้นมาข้อมูลก็จะยังมีอยู่ครบถ้วนไม่หล่นหายไปไหน ส่วนพวกเอกสารในแฟ้มต่าง ๆ นั้นก็มีชื่อเขียนและแยกเป็นหมวดหมู่ไว้อย่างชัดเจน งานเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับพิชญธิดาแต่ด้วยข้อมูลที่มีมากที่เธอต้องจดจำทำให้เธอเกือบท้อเพราะที่ทำงานเก่าเธอเป็นเพียงเลขาฯของผู้จัดการโรงแรม ส่วนที่นี่เธอเป็นถึงเลขาฯของประธานกรรมการของบริษัทในเครือ นิมมานรดี ทั้งหมดงานจึงมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว อย่างไรก็ดี พิชญธิดากลับพบว่าที่นี่มีระบบการจัดเอกสารที่ดีมาก และยังใช้ระบบสืบค้นทางคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยทำให้งานที่ดูยากจึงเป็นเรื่องง่าย ๆ ในทันที

นอกจากนั้นเมธปรียายังพาเธอไปแนะนำตัวกับหัวหน้าแผนกต่าง ๆ ของโรงแรมตั้งแต่ชั้นล่างที่เป็นแผนกครัว แผนกภูมิทัศน์ตกแต่งสวน แผนกแม่บ้าน แผนกจัดเลี้ยง และแผนกรักษาความปลอดภัย บนชั้น 20 มีแผนกบุคคล แผนกจัดซื้อ แผนกดูแลร้านเช่าของโรงแรม ส่วนชั้นที่ 21 มีแผนกบัญชี แผนกการตลาดและประชาสัมพันธ์ และแผนกพิเศษที่คอยดูแลสาขาของโรงแรมทั่วประเทศ แล้วไล่มาถึงชั้นที่ 22 ที่เมธปรียาพาเธอไปแนะนำกับเหล่าผู้บริหารกิจการต่าง ๆ ในเครือนิมมานรดี เมธปรียาบอกกับเธอว่าที่เธอต้องทำความรู้จักและจดจำทุกคนให้ได้เร็วที่สุดเนื่องจากหน้าที่ของเธอนั้นต้องประสานงานกับพวกเขาเหล่านั้นอยู่ตลอดเวลาเมื่อมีคำสั่งมาจากนาย เธอจะได้ติดต่อประสานงานถูกคนและครบถ้วน พิชญธิดาทำความรู้จักกับทุกคนด้วยกริยาที่นอบน้อมอย่างน้อยพวกเขาก็อาวุโสกว่าเธอในด้านอายุการทำงานของที่นี่ ทุกคนให้ความเป็นมิตรกับเธอเป็นอย่างดีแต่ก็มีบ้างที่ทำท่าแปลก ๆ ใส่พร้อมพูดให้เธอได้ยินว่า

?คนนี้ไงที่เมื่อวานประกาศตัวซะคับลิฟต์ว่าเป็นเลขาฯ ?ส่วนตัว? ของท่านประธาน? พนักงานสาวฝ่ายบัญชีเน้นเสียงเป็นพิเศษกับคำว่า ?ส่วนตัว? เพื่อสื่อความหมายให้พรรคพวกของตนเข้าใจตรงกันอย่างที่ได้มานินทาลับหลังไว้แล้ว หญิงสาวรู้ซึ้งของคำพูดที่ว่า ?ปากพาจน? เธอได้บทเรียนที่สอนให้เธอรู้ว่าต้องรู้จัก ?คิดก่อนพูด? ให้มากกว่านี้

หลังจากนั้นเมธปรียาก็พาพิชญธิดากลับมายังโต๊ะทำงานที่อยู่หน้าห้องทำงานของท่านประธานกรรมการ และพยายามอธิบายงานต่าง ๆ ให้พิชญธิดาฟังอย่างช้า ๆ เพราะไม่ต้องการให้มีความผิดพลาดเกิดขึ้นในช่วงที่เธอลาคลอด

?ถ้าน้องอัณณ์ไม่เข้าใจตรงไหน ถามพี่ยาได้เลยน่ะ อย่าเก็บไว้ เดี๋ยวเวลาพี่ยาไม่อยู่แล้วไม่มีคนให้ถาม ไม่รู้ด้วยนา?

?อัณณ์ไม่งงหรอกค่ะ แต่กลัวจำไม่ได้ว่าอันไหนเป็นอันไหนบ้าง แล้วก็กลัวจะจำเดตไลน์ของแต่ละอันไม่ได้?

?อ๋อ เรื่องนั้นสบายมากไม่ต้องห่วง พี่ตั้งโปรแกรมช่วยเตือนความจำไว้แล้ว มันจะเตือนอัณณ์ล่วงหน้าสองวัน ไม่นับเสาร์อาทิตย์นะจ๊ะ เช่น รายงานการประชุมของโรงแรมจะต้องเสนอนายทุก ๆ วันอังคารเพื่อนายจะนำไปสรุปให้หัวหน้าแผนกต่าง ๆ ฟังในการประชุมประจำสัปดาห์ที่มีขึ้นทุกวันพุธ คอมฯมันก็จะเตือนอัณณ์ตั้งแต่วันศุกร์ อธิบายคร่าว ๆ แบบนี้พอจะเข้าใจไหมจ๊ะ?

?ค่ะ ฟังดูง่ายนะคะ แต่เวลาทำจริงไม่รู้ว่าทำทันหรือเปล่า ดูงานเยอะจังค่ะ? พิชญธิดาเริ่มตีตนไปก่อนไข้

?ไม่ต้องกลัวหรอกน้องอัณณ์ พี่บอกแล้วว่านายไม่ดุ ยิ่งสวยๆ แบบน้องอัณณ์ยิ้มหวาน ๆ สักทีสองที นายก็หายโกรธแล้ว ขนาดพี่ไม่สวยเท่าน้องอัณณ์ นายยังไม่เคยดุแรง ๆ สักครั้งเลย เพราะฉะนั้น ส.บ.ม.ย.ห. ใช่ไหมคะคุณธีร์? เมธปรียาหาเสียงสนับสนุน

?ใช่มั้งครับ? ธีรวีร์ที่ดูเหมือนจะนั่งอ่านหนังสืออยู่อย่างตั้งใจกลับสามารถตอบคำถามของเมธปรียาได้อย่างทันท่วงที ?นี่เองที่เขาบอกว่าพวกบอดี้การ์ดสามารถแยกโสตประสาทออกจากกันได้? อันที่จริงธีรวีร์ตั้งใจให้คำตอบของเขานั้นสนับสนุนคำพูดของเมธปรียาที่ว่า ?ยิ่งสวยๆ แบบน้องอัณณ์ยิ้มหวาน ๆ สักทีสองที นายก็หายโกรธแล้ว?

เมื่อถึงเวลาพักเที่ยงเมธปรียาที่ดูท่าทางจะหิวมากเพราะวันนี้เธอต้องพาพิชญธิดาเดินแนะนำตัวซะทั่วตึก เธอจึงรีบเรียกพิชญธิดาให้ลงไปรับประทานอาหารที่ทางโรงแรมจัดเป็นสวัสดิการให้กับพนักงานที่ห้องอาหารของพนักงาน แต่สองสาวไม่ทันที่จะเดินไปถึงลิฟต์ก็มีเสียงตะโกนตามหลังดังขึ้นว่า

?คุณยา คุณอัณณ์ครับ นายชวนไปทานข้าวด้วยกันครับ? กฤตธีรีบร้องบอกพร้อมจ้ำตามหญิงสาวทั้งคู่

?พูดจริงหรือคะคุณกฤต เอ.....เนื่องในโอกาสอะไรคะเนี่ย? ว่าที่คุณแม่ที่เก็บอาการดีใจไว้ไม่อยู่เพราะนาน ๆ นายจะเลี้ยงข้าวเธอสักที

?เห็นนายบอกว่า เลี้ยงต้อนรับคุณอัณณ์น่ะครับ? กฤตธีได้ทีใส่ไข่เพื่อช่วยนายทำคะแนน

?ว้าว....น้องอัณณ์นี่โชคดีจริง ทีตอนพี่เข้ามาทำงานไม่เห็นนายจะเลี้ยงบ้างเลย? ว่าที่คุณแม่แกล้งน้อยใจ

?ก็คุณยาเข้ามาทำงานก่อนที่ผมจะกลับมาจากนอกนี่ครับ? เสียงเจ้ามือที่เดินตามมาสมทบเป็นคนตอบ

เมธปรียาเริ่มจะมองออกว่านายคงพึงพอใจรุ่นน้องคนสวยของเธอเข้าให้แล้ว จึงแกล้งสัพยอกว่า

?หวังว่าแค่เลี้ยงข้าวต้อนรับน้องอัณณ์เข้าทำงานนะคะคุณวิชญ์ คงไม่มีอะไรในกอไผ่ใช่ไหมคะ? ทันทีที่สิ้นเสียงของเมธปรียาก็มีเสียงกิ๊วก๊าวอย่างชอบใจของบอดี้การ์ดหนุ่มทั้งสองประสานขึ้นพร้อมกัน หญิงสาวที่ถูกพาดพิงรีบก้มหน้ามองพื้นเพราะรู้สึกเขินทั้งรุ่นพี่และหนุ่ม ๆ บอดี้การ์ด ส่วนคู่กรณีฝ่ายชายนั้นรีบออกเดินไปหน้าลิฟต์ทันที แล้วจึงหันมาถามคนที่เหลืออยู่ด้านหลังว่า

?ตกลงจะกินข้าวกันไหมครับ ถ้าไม่หิวกันล่ะก็ งั้นผมขอตัวก่อนน่ะครับ วันนี้อยากกินอาหารญี่ปุ่นซะด้วย? วิชญ์รู้ดีว่าการยั่วน้ำลายของเขาจะต้องได้ผล เพราะทั้งบอดี้การ์ดและว่าที่คุณแม่ต่างคลั่งไคล้อาหารแดนปลาดิบกันทั้งนั้น แต่ที่เขาไม่รู้ก็คือพิชญธิดาก็เป็นอีกคนที่โปรดปรานอาหารญี่ปุ่นมากเช่นกัน ดังนั้นทั้งสี่คนจึงรีบเดินมายังลิฟต์ที่เจ้านายหนุ่มเข้าไปรออยู่ข้างในเรียบร้อยแล้วในทันที


************************

ขอคอมเม้นต์ด้วยนะคะ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”