ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 4 โดย....อาทิตา

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
athita
โพสต์: 41
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 11 เม.ย. 2009 11:15 pm

ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 4 โดย....อาทิตา

โพสต์ โดย athita »

ตอนที่ 4 แม่ลูกผูกพัน

เมื่อเข้ามานั่งในรถบีเอ็มดับเบิ้ลยู รุ่นเอ็กซ์ 5 สีน้ำตาลทองที่มีราคาเหยียบ 10 ล้านบาทเพราะเป็นรถประเภทรถยนต์สปอร์ตหลากกิจกรรมที่ขับเคลื่อนสี่ล้อ (Sports Activity Vehicle) ซึ่งนำเข้ามาจากต่างประเทศและเป็นหนึ่งในคอลแล็คชั่นรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูของเศรษฐีหนุ่มคนนี้ที่ชื่นชอบรถยี่ห้อนี้เป็นพิเศษและมีอยู่หลายต่อหลายคันได้สักครู่แล้ว วิชญ์ที่เก็บความสงสัยและอัดอั้นอยู่ในใจไม่อาจอดทนทำใจเย็นได้อีกต่อไป จึงต้องโพล่งถามลูกน้องคนสนิทที่กำลังทำหน้าที่สารถีควบคู่บอดี้การ์ดที่ต้องฉายเดี่ยวเพราะคืนนี้เป็นวันหยุดของธีรวีร์ว่า

?กฤต แกไปรู้จักมักคุ้นกับคุณอัณณ์ได้ยังไง? วิชญ์ถามออกไปพร้อมแสดงสีหน้าที่ลูกน้องรู้ดีว่า ?หากคำตอบไม่ถูกใจสงสัยคืนนี้เขาคงชะตาขาด?

?ก็เพิ่งรู้จักกันวันนี้พร้อม ๆ กันกับนายนั่นแหละครับ ก็ตอนที่ผมออกไปตามเธอมาให้นายสัมภาษณ์ไงล่ะ? กฤตธีพยายามอธิบายให้นายหายเข้าใจผิด

?แล้วทำไมคุณอัณณ์เขาแกล้งเรียกแกว่า กฤตเฉย ๆ ล่ะ? เจ้านายยังไม่วายซักลูกน้องต่อ ?ก็คนมันอิจฉานี่โว้ย?

?อ๋อ ก็ผมแค่บอกให้เขาเรียกชื่อเล่นผมแทนชื่อจริงก็เท่านั้นล่ะครับ ไม่มีอะไรในกอไผ่หรอกนาย รับรองได้ นายสบายใจเถอะ? กฤตธีแอบอมยิ้ม

?แล้วทำไมฉันต้องสบายใจด้วยวะ ฉันก็แค่อยากรู้ว่าแกไปสนิทสนมกับเขาตอนไหนก็แค่นั้นเอง? คนเป็นนายพยายามเก็บอาการโล่งใจไปเปราะหนึ่งด้วยการเฉไฉเปลี่ยนประเด็นทั้ง ๆ ที่ในใจยังเดือดปุด ๆ อยู่ ?นี่ขนาดคุยกันไม่ถึงห้านาทียังมีการหยอกล้อกันแล้ว ต้องกันไว้ก่อนดีกว่า? แผนสกัดคู่แข่งจึงเกิดขึ้นในบัดดล

?เออ กฤต ต่อไปนี้แกเป็นคนที่ต้องเข้ามาอยู่ในห้องทำงานกับฉันทุกวันแล้วกัน ให้ไอ้ธีร์มันเฝ้าหน้าห้องแทน ไม่ต้องผลัดเปลี่ยนเวรกันแล้ว?

กฤตธีถึงกับอ้าปากค้างทันทีที่ได้ยินคำสั่งใหม่ของนาย ?โห เล่นอย่างนี้เลยนะนาย นึกหรือว่าเราจะรู้ไม่เท่าทัน คงกลัวเราจะไปเจ๊าะแจ๊ะกับคุณเลขาฯคนใหม่ล่ะซิ? เขาจึงแกล้งถามหาเหตุผลจากเจ้านายหนุ่มไปว่า

?อ้าว ทำไมละครับนาย ระบบเดิมมันไม่ดีตรงไหน?

?ไม่ต้องมาถามมาก รำคาญ ฉันบอกให้เปลี่ยนก็เปลี่ยนไปเถอะ ใครเป็นนายใครเป็นลูกน้องวะเนี่ย? นายแกล้งทำอารมณ์เสียเพื่อปกปิดพิรุธของตน

?คร้าบ คุณวิชญ์ กระผมจะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดครับ? กฤตธีแกล้งทำเสียงอ่อนใจ แต่ยังไม่วายแกล้งยั่วนายให้โมโหต่อด้วยการพูดพึมพำพอให้เข้าหูนาย

?เฮ้อ งั้นเราก็ได้เจอคุณอัณณ์แค่ตอนพักเที่ยงเองนะซิ? แล้วเขาก็ต้องรีบกลั้นหัวเราะแทบแย่เมื่อเหลือบไปเห็นนายที่กำลังบดกรามตัวเองแน่นจนเป็นสันพร้อมทำตาลุกวาว ?คราวนี้เสร็จโก๋ล่ะครับนาย เพราะผมรู้จุดอ่อนของนายซะแล้ว เดี๋ยวต้องโทรไปบอกไอ้วีร์ให้ร่วมเล่นเกมนี้ด้วยอีกคน สนุกแน่งานนี้?


************************

พิชญธิดากลับมาถึงบ้านพักที่เป็นทาวน์เฮ้าส์สามชั้นในหมู่บ้านแห่งหนึ่งแถวอ่อนนุชเมื่อเวลาเกือบห้าทุ่ม วรปรัชญ์มาส่งเธอถึงบ้านหลังจากดูภาพยนตร์รักหวานแหววต้อนรับเทศกาลแห่งความรักที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ บ้านหลังนี้เป็นเรือนหอของพ่อและแม่ พิชญธิดาเกิดและเติบโตที่นี่มาตลอดชีวิต ที่นี่จึงเป็นมากกว่าบ้านสำหรับเธอเพราะมันมีความทรงจำที่สวยงามของพ่อในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่และในช่วงที่ครอบครัวของเธอยังอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา

เมื่อพ่อที่เป็นตำรวจได้เสียชีวิตในหน้าที่ขณะไปประจำการอยู่จังหวัดแถวชายแดนที่ติดกับพม่าเมื่อเกือบ 10 ปีมาแล้วก็เหลือเพียงเธอกับแม่ในบ้านน้อยหลังนี้ แม่เคยบอกเหตุผลให้เธอรู้ว่าที่ท่านทั้งสองเลือกซื้อบ้านลักษณะนี้แทนที่จะเป็นบ้านเดี่ยวมีบริเวณเพราะคิดว่าอย่างน้อยจะได้ใช้ชั้นล่างทำมาค้าขายได้บ้างในยามที่พ่อเกษียณแล้ว แต่เมื่อพ่อต้องจากไปก่อนวัยอันควรแม่ที่เคยเป็นเพียงแม่บ้านก็ต้องเปิดกิจการขายข้าวแกงเพื่อเลี้ยงดู และส่งเสียเธอให้เรียนหนังสือให้สูงที่สุดตามที่ใจเธอปรารถนา

แม่ทำอาหารได้อร่อยและถูกปากจึงมีทั้งลูกค้าขาประจำและขาจรมาอุดหนุนเป็นจำนวนมาก ลูกค้ามีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ทำงานใกล้ ๆ หมู่บ้านของเธอ และแล้ววันหนึ่งกามเทพก็ทำให้แม่ได้พบกับคุณลุงนีล สตีเฟ่น หนุ่มใหญ่ที่ตกพุ่มม่ายชาวอังกฤษผู้เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยและได้พบรักกับแม่ค้าขายข้าวแกงอย่างแม่ของเธอ ถึงแม้ชีวิตของเธอและแม่จะไม่ได้ลำบากมากมายนักเมื่อขาดเสาหลักของครอบครัวเพราะพ่อได้ตระเตรียมวางแผนอนาคตไว้เป็นอย่างดี เธอและแม่มีบ้านที่ไม่ต้องผ่อนและมีเงินเก็บในธนาคารอีกจำนวนหนึ่งที่พอจะส่งให้เธอเรียนจนจบปริญญาได้อย่างสบาย แต่แม่ที่ไม่เคยทำงานและไม่เคยต้องรับภาระใด ๆ ในครอบครัวก็ต้องเหน็ดเหนื่อยไม่น้อยเมื่อขาดพ่อไป เธอจึงเห็นดีด้วยและสนับสนุนให้แม่ได้มีชีวิตคู่ที่มีความสุขอีกสักครั้งกับเจ้าของโรงงานทำสินค้าที่ระลึกแห่งหนึ่งในเมืองชนบทของประเทศอังกฤษซึ่งอยู่ห่างไปทางตอนใต้ของกรุงลอนดอนประมาณห้าชั่วโมง ลุงนีลต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะมัดใจแม่ได้สำเร็จ พิชญธิดาคิดว่าเหตุผลหลักที่ทำให้แม่ไม่ยอมตกลงปลงใจกับลุงนีลสักทีก็เพราะตัวเธอนั่นเอง กว่าแม่จะยอมตกลงแต่งงานกับลุงนีลก็ตอนที่เธอเรียนจบปริญญาตรีแล้ว ในช่วงปีแรกลุงนีลยังต้องเดินทางไปมาระหว่างอังกฤษและไทยเพราะแม่ยังไม่ยอมย้ายตามไป แม่เพิ่งตกลงใช้ชีวิตคู่กับลุงนีลและย้ายไปอยู่ที่อังกฤษได้สามปีกว่าหลังจากที่แม่แน่ใจแล้วว่าเธอจะสามารถอยู่ตัวคนเดียวได้โดยลำพัง อันที่จริงทั้งแม่และลุงนีลก็อยากให้เธอย้ายไปอยู่ที่อังกฤษด้วยกัน แต่เธอให้เหตุผลกับแม่ว่าขอใช้ชีวิตบนลำแข้งของตัวเองดูสักระยะ และอยากให้แม่ได้ใช้ชีวิตคู่อย่างหวานชื่นตามลำพังกับลุงนีลก่อนเพราะลูกชายทั้งสองคนของลุงนีลต่างก็แยกย้ายออกไปอยู่ข้างนอกกันหมดแล้วตามประสาหนุ่ม ๆ ชาวตะวันตก ทุก ๆ ปีถ้าแม่ไม่บินมาหาเธอก็จะส่งตั๋วเครื่องบินมาให้เธอบินไปเยี่ยมพวกท่านแทน พิชญธิดาดีใจที่เห็นแม่มีความสุขอีกครั้งและเธอเองก็แน่ใจว่าพ่อที่อยู่บนสวรรค์ก็คงคิดอย่างเดียวกันกับเธอ

อีกเหตุผลที่พิชญธิดาไม่ยอมย้ายไปอยู่ประเทศอังกฤษอย่างถาวร ก็เพราะว่าเธอไม่อยากทิ้งบ้านหลังนี้ให้ว่างเปล่า บ้านที่เต็มไปด้วยความทรงจำที่งดงามของครอบครัวเธอในครั้งหนึ่ง บ้านที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยได้ทุกเมื่อ เมื่อแม่ย้ายไปอยู่อังกฤษแล้วพิชญธิดาก็ปรับปรุงบ้านให้เหมาะกับความต้องการใช้งานของเธอ ชั้นล่างยังคงเป็นส่วนรับแขกและห้องครัวรวมถึงลานซักล้างด้านหลัง ส่วนชั้นที่สองเป็นบริเวณพักผ่อนที่พิชญธิดามักใช้ดูหนังฟังเพลงในยามว่างและมีห้องนอนไว้ใช้รับแขกอีกหนึ่งห้อง ซึ่งแขกที่มาใช้บริการอยู่เป็นประจำก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน คุณวรปรัชญ์เพื่อนซี้ต่างเพศนั่นเอง ในส่วนของชั้นที่สามนั้นเธอให้เพื่อนที่เป็นสถาปนิกมาออกแบบและจัดการเปลี่ยนแปลงให้เป็นห้องนอนขนาดใหญ่ซึ่งกินพื้นที่เกือบทั้งชั้น ในชั้นสามนี้มีมุมโปรดของเธอ คือ ?สวนน้อยลอยฟ้า? ที่พิชญธิดาลงทุนซื้อดินมาปลูกหญ้า และเลือกซื้อต้นไม้ใส่กระถางมาประดับตกแต่งไว้มากมายโดยเฉพาะพวกไม้หอมและไม้ดอกต่าง ๆ เช่น แก้ว โมกข์ ลีลาวดี บุหงาส่าหรี กล้วยไม้พันธุ์ต่าง ๆ และพิทูเนียหลากสี เป็นต้น เธอยังจ้างให้คนออกแบบสวนมาทำซุ้มไม้ระแนงคลุมพื้นที่บางส่วนแล้วปลูกต้นการเวกหรือกระดังงาจีนที่มีดอกสีเหลืองสดและส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลเกือบตลอดทั้งวันให้เลื้อยพันโครงไม้ระแนง เพื่อช่วยลดทอนปริมาณแสงแดดที่แรงกล้าในตอนกลางวัน นอกจากนั้นเธอยังหาซื้ออุปกรณ์ทำน้ำตกจำลองและน้ำพุขนาดเล็กพร้อมกับกระถางบัวขนาดใหญ่มาเพิ่มความเป็นธรรมชาติเข้าไปอีก จุดเด่นของ ?สวนน้อยลอยฟ้า? แห่งนี้ที่พิชญธิดาชื่นชอบมากเป็นพิเศษและมักมานั่งอ่านหนังสือเล่มโปรดอยู่เป็นประจำ คือ เจ้าชิงช้าไม้สัก ที่เธอสั่งทำขึ้นให้มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษสามารถนั่งและนอนได้อย่างสะดวกสบายเพราะมีเบาะรองนั่งนุ่มนิ่ม ในวันว่างพิชญธิดาจึงมักมานอนเล่นนั่งเล่นที่ชิงช้าตัวนี้ได้ทั้งวันอย่างไม่รู้เบื่อ มีเพียงสิ่งเดียวของบ้านหลังนี้ที่พิชญธิดาไม่ถูกใจนักแต่ขัดใจแม่ไม่ได้ นั่นก็คือ เหล็กดัดที่แม่เป็นคนสั่งให้ช่างมาติดตั้งจนครบทุกชั้นทุกบานประตูและบานหน้าต่าง แม่ให้เหตุผลว่าเธอเป็นผู้หญิงและอาศัยอยู่คนเดียวความปลอดภัยจึงเป็นเรื่องสำคัญมากกว่าความสวยงาม ยังโชคดีหน่อยที่ลวดลายของเหล็กดัดนั้นมีความสวยงามอ่อนช้อยอยู่พอสมควร ดูไม่ขัดหูขัดตามากนักเธอจึงพอทำใจและรับได้ในที่สุด

กว่าจะเก็บข้าวของที่เพิ่งซื้อมาใหม่และอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อยก็ปาเข้าไปเที่ยงคืนกว่าแล้ว พิชญธิดาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้โทรคุยกับแม่มาเกือบสัปดาห์ ป่านนี้แม่คงเป็นห่วงแล้ว เธอจึงเหลือบมองนาฬิกาบนฝาผนังและคำนวณเวลาที่ประเทศอังกฤษซึ่งช้ากว่าเมืองไทยประมาณเจ็ดชั่วโมง

?ถ้าตอนนี้ที่นี่เที่ยงคืนเศษ ที่นู่นก็ประมาณห้าโมงเย็นกว่า ๆ แม่คงกำลังเตรียมอาหารเย็นอยู่? พิชญธิดาไม่รอช้ารีบหยิบโทรศัพท์มือถือที่ใช้โปรโมชั่นโทรไปต่างประเทศในราคาพิเศษมากดเลขหมายปลายทางที่อยู่อีกซีกโลกหนึ่งเพื่อถามไถ่ทุกข์สุขของแม่พร้อมทั้งแจ้งข่าวดีเรื่องงานของเธอ

?ฮัลโหล แม่หรือคะ นี่อัณณ์เองค่ะ? พิชญธิดากล่าวทักทายผู้ให้กำเนิด

?อัณณ์เองหรือลูกแม่กำลังคิดถึงหนูอยู่เชียว แม่คิดว่าถ้าวันนี้อัณณ์ยังไม่โทรมาแม่คงต้องโทรหาอัณณ์พรุ่งนี้เช้าแน่ ๆ นี่อัณณ์ยังไม่เข้านอนอีกหรือลูก มันเที่ยงคืนกว่าแล้วไม่ใช่เหรอ?

?ก็กำลังจะเข้านอนนั่นล่ะค่ะแม่ ช่วงนี้อัณณ์ยุ่ง ๆ เลยไม่ได้โทรมาซะหลายวันแม่อย่าโกรธนะคะ ถึงอัณณ์ไม่ได้โทรมาแต่อัณณ์ก็คิดถึงแม่ทุกวันนะคะ อ้อ แม่คะ อัณณ์มีข่าวดีที่จะบอกแม่ด้วยล่ะค่ะ? พิชญธิดายังคงพูดด้วยน้ำเสียงสดใสทั้งที่เริ่มง่วงนอนเพราะเหนื่อยล้ามาทั้งวัน

?ข่าวดีอะไรจ๊ะ อย่าบอกนะว่าหนูตกลงจะแต่งงานแล้วนะ? แม่ล้อลูกสาวคนสวย

?แหม แม่ก็ อย่าแซวอัณณ์ซิคะ แฟนยังไม่มีแล้วจะให้อัณณ์แต่งกะใครล่ะคะ? ลูกสาวอดแกล้งงอนแม่ไม่ได้

?ก็แม่นึกว่าหนูตกลงกับพ่อปรัชญ์เขาได้แล้วนะซิ เห็นคบหาจนรู้ใจกันมาตั้งหลายปีแล้วนี่? แม่ยังคงเย้าลูกสาวคนเดียวอย่างอารมณ์ดีทั้ง ๆ ที่รู้ดีว่าวรปรัชญ์เป็นอย่างไร

?แม่อ่ะ ถ้าปรัชญ์มาได้ยินมันต้องว่าอัณณ์ขายไม่ออกจนแม่ต้องยกใส่พานให้มันน่ะซิคะ และมันก็คงไม่รับหรอกค่ะ?

?แม่ล้อเล่นสนุก ๆ นะลูก เอ...แล้วตกลงข่าวดีของลูกคือเรื่องอะไรล่ะจ๊ะ? แม่ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่ส่งผ่านคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากต่างแดนมาถึงลูกสาวคนเดียวที่เธอรักดั่งแก้วตาดวงใจ และยิ่งห่วงหาอาทรมากขึ้นในยามที่ต้องอยู่ห่างไกลกันเช่นนี้

?อ้อ คือ อัณณ์ได้งานใหม่แล้วนะคะเป็นเลขาฯในโรงแรมเหมือนเดิมค่ะ แต่คราวนี้เป็นเลขาฯของประธานกรรมการเลยนะคะ? พิชญธิดาโอ้อวดด้วยความภาคภูมิใจ

?จริงเหรอลูก แม่ดีใจด้วยนะ แล้วหนูจะไปเริ่มงานใหม่เมื่อไรล่ะ เดือนหน้านี้เลยเหรอจ๊ะ?

?ไม่ใช่ค่ะแม่ อัณณ์จะไปเริ่มงานใหม่พรุ่งนี้เลยค่ะ พอดีเลขาฯเก่าเขากำลังจะลาคลอดน่ะค่ะ อัณณ์ต้องรีบไปเรียนรู้งานจะได้สานต่อทัน?

?อ้าว แล้วที่เก่าเขาไม่ว่าเอาเหรอจ๊ะ? แม่ถามต่อด้วยความสงสัยเพราะพิชญธิดาไม่เคยเล่าประวัติเจ้านายเก่าให้แม่ฟังเลย เพราะกลัวแม่จะไม่สบายใจ

?อ๋อ ไม่ว่าหรอกค่ะ เพราะอัณณ์ยอมไม่รับเงินเดือนของเดือนนี้แทนการไม่แจ้งล่วงหน้าค่ะ? พิชญธิดาอธิบายความจริงเพียงบางส่วนเพื่อให้แม่ไม่ต้องกังวลใจ

?อ้อ ถ้าไม่มีปัญหาก็ดีแล้วล่ะลูก งั้นแม่ขอให้อัณณ์ของแม่ประสพความสำเร็จในหน้าที่การงานและทุกสิ่งทุกอย่างที่ลูกหวังนะจ๊ะ?แม่อวยพรให้ลูกสาวด้วยความรักและความหวังดีซึ่งถึงกับทำให้ ?หนูอัณณ์ของแม่? น้ำตาซึมเพราะความซาบซึ้งใจ

?ขอบคุณค่ะแม่ คำอวยพรของแม่คือพรที่ประเสริฐที่สุดแล้วค่ะ อัณณ์รักแม่มากนะคะ? ลูกสาวคนสวยพยายามกลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้แม่ได้ยิน

?จ๊ะ แม่ก็รักอัณณ์ที่สุดในโลกนะลูก จำเอาไว้น่ะว่าหนูยังคงมีแม่คนนี้ มีปัญหาอะไรก็บอกแม่ได้เสมอ อย่าเก็บไว้คนเดียวนะลูก ตัวเราห่างแต่ใจเราไม่ห่างกันนะลูก แม่รักลูกนะอัณณ์? ทั้งแม่และลูกต่างน้ำหูน้ำตาไหลไม่แพ้กันเพราะความคิดถึงและห่วงใยที่มีให้กันนั่นเอง

?ค่ะแม่ อัณณ์ก็รักแม่ค่ะ คุณลุงนีลสบายดีไหมคะแม่ ฝากสวัสดีลุงนีลและฝากความคิดถึงให้ท่านด้วยนะคะ? พิชญธิดาเอ่ยถึงสามีใหม่ของแม่ด้วยความเคารพรักเพราะระลึกอยู่เสมอว่าท่านทำให้แม่มีความสุข

?ลุงนีลสบายดีจ๊ะ บ่นคิดถึงอัณณ์อยู่เหมือนกัน เห็นบอกว่าไม่แน่เมษานี้อาจจะบินไปหาอัณณ์แน่ะถ้าอัณณ์ไม่ยอมบินมา?

?ปีนี้อัณณ์คงไปไม่ได้หรอกค่ะแม่ เพิ่งเริ่มงานที่ใหม่คงยังลาพักร้อนไม่ได้ แม่ค่ะอัณณ์ฝากบอกลุงนีลว่าไว้ช่วงวันหยุดปีใหม่ดีกว่าค่ะอัณณ์จะบินไปเยี่ยมเอง แม่กับลุงนีลจะได้ใม่ต้องเดินทางให้เหน็ดเหนื่อย แค่นี้ก่อนนะคะแม่ พรุ่งนี้อัณณ์ต้องไปทำงานที่ใหม่ซะด้วย ตื่นสายตั้งแต่วันแรกคงไม่ดีเท่าไร? พิชญธิดาพูดไปพลางหาวไปพลาง

?จ๊ะ กู๊ดไนท์นะลูก ดูแลสุขภาพด้วยนะจ๊ะ รักลูกจ๊ะ?

?กู๊ดไนท์ค่ะแม่ ไว้อัณณ์จะโทรมาคุยใหม่นะคะ รักแม่มากค่ะ? พิชญธิดาวางสายพร้อมรอยยิ้มที่เกิดจากความอบอุ่นใจซึ่งคงทำให้เธอเข้าสู่นิทราด้วยความสุขเต็มหัวใจในค่ำคืนนี้และคงเป็นกำลังใจที่สำคัญในการเริ่มงานใหม่ในวันรุ่งขึ้นได้อย่างดีทีเดียว


************************

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”