ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 2 โดย....อาทิตา

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
athita
โพสต์: 41
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 11 เม.ย. 2009 11:15 pm

ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 2 โดย....อาทิตา

โพสต์ โดย athita »

ตอนที่ 2 จุดไต้ตำตอ

หลังจากที่ออกจากลิฟต์ พิชญธิดาก็รีบมุ่งหน้าไปพบกับรุ่นพี่คณะอักษรศาสตร์ที่เป็นคนนัดให้เธอมาสัมภาษณ์งานในวันนี้ เพราะรู้ว่าเธอกำลังมองหางานใหม่อยู่เนื่องจากทนความบ้ากามของเจ้านายฝรั่งไม่ได้ และประจวบกับตัวรุ่นพี่เองที่ท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทีก็กำลังจะใช้สิทธิ์ลาคลอดประมาณสามเดือนในสัปดาห์หน้าที่จะมาถึงนี้ ว่าที่คุณแม่จึงต้องรีบหาคนมาทำงานแทน เธอให้เหตุผลกับพิชญธิดาว่าระหว่างที่ยังหางานใหม่ทำไม่ได้ก็ให้มาทำที่นี่ไปพลาง ๆ ก่อน ดีกว่าออกไปตกงานนอกจากนั้นเธอเองก็จะได้ไม่ต้องสอนงานอะไรมากมายเพราะพิชญธิดารู้งานหน้าที่เลขาฯดีอยู่แล้วและที่สำคัญเงินเดือนเลขาฯของผู้บริหารโรงแรมระดับเจ็ดดาวอย่าง ณ นิมมานรดี นั้นก็ไม่น้อยเลย พิชญดาจึงตอบตกลงที่จะมาสัมภาษณ์โดยคิดไว้ว่า ?ได้ไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที? เธอรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของรุ่นพี่คนนี้มากเพราะเพียงเธอพบปะกันกลางห้างดังเมื่อสองวันก่อนและได้ถามไถ่ทุกข์สุขกันเพียงไม่กี่คำ เมธปรียาหรือพี่ยาของน้องอัณณ์ก็ชักชวนให้เธอมาสัมภาษณ์งาน พิชญธิดาตอบตกลงและรับนัดทันทีโดยไม่ลังเลใจเลยอาจจะเป็นเพราะเธอเบื่อที่จะต้องทำงานเป็นเลขาฯให้กับเจ้านายจอมชีกอที่ชอบแต๊ะอั๋งเธอเต็มทีแล้ว และโอกาสที่จะได้เป็นเลขานุการของประธานกรรมการในเครือบริษัท นิมมานรดี นั้นไม่ได้มีกันง่าย ๆ

?สวัสดีค่ะพี่ยา ขอโทษทีค่ะที่มาสายไปห้านาที?

?อ้าว หวัดดีจ๊ะน้องอัณณ์ สายเสยอะไร ตรงเวลาแป๊ะต่างหาก นายก็ยังไม่มา นั่งพักก่อนสิจ๊ะ?

?เจ้านายพี่ยังไม่มาหรือค่ะ อัณณ์โชคดีจัง นึกว่าจะแย่ซะแล้ว วันนี้อัณณ์คงดวงดีนะค่ะ ขึ้นรถไฟฟ้าก็มีคนลุกให้นั่ง จะขึ้นลิฟต์ก็มีหนุ่มหล่อ 3 คนกดลิฟต์รอ แถมมาทันสัมภาษณ์งานอีก เหลืออีกอย่างที่อยากให้โชคดีด้วย คือ ขอให้อัณณ์ได้งานวันนี้ด้วยเถอะ อัณณ์จะได้กลับไปลาออกที่บริษัทเก่าเลย ไม่แจ้งล่วงน่งล่วงหน้ามันแล้วออกมันวันนี้เลย อย่างน้อยก็ได้เอาคืนที่มันชอบแต๊ะอั๋งอัณณ์ ไม่มีอัณณ์สักคนทั้งบอสทั้งออฟฟิศมันต้องวุ่นวายกันตายเลย สะใจดี?

?เอ แล้วถ้าไม่ได้งานละจ๊ะ น้องอัณณ์จะทำยังไง? เมธปรียาแกล้งแหย่อย่างอารมณ์ดี

?แหม พี่ยา พูดอะไรไม่ไพเราะเสนาะหูเลย มันไม่ดีต่อลูกในท้องนะคะ ไม่เอาค่ะไม่พูดเรื่องไม่เป็นมงคลต่อหน้าเด็ก ถ้าอัณณ์ไม่ได้งาน พี่ยานั้นแหละค่ะที่จะแย่เพราะพี่ยาก็ต้องเหนื่อยหาคนมาสัมภาษณ์งานอีกเรื่อย ๆ นะสิคะ แล้วอาทิตย์หน้าจะได้ลาคลอดหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ ส่วนอัณณ์ก็กลับไปทนให้ไอ้บอสบ้ากามนั่นแต๊ะอั๋งพร้อม ๆ กับหางานใหม่ไปเรื่อย ๆ แต่อัณณ์ว่านะพี่ยาน่าจะให้อัณณ์ได้งานนะค่ะพี่ยาจะได้เตรียมเป็นคุณแม่อย่างสบายใจ? อัณณ์ยังคงพูดเล่นสนุก ๆ กับพี่ยาเพราะทั้งสองคนค่อนข้างสนิทกันในช่วงที่เรียนในรั้วเดียวกัน นอกจากจะเรียนอยู่คณะเดียวกันแล้วทั้งสองสาวยังเคยอยู่ชมรม ?เชียร์? เหมือนกันอีกด้วย

?จริงด้วยสิเหตุผลของน้องอัณณ์นี่ฟังเข้าท่ามากมีประโยชน์เพื่อพี่คนเดียวทั้งนั้น งั้นพี่คงต้องเขียนโน้ตบอกนายว่าคนนี้พี่ขอเร็คคอมเม็นเด็ด (recommended) ตัวโต ๆ ซะแล้ว นายจะได้พิจารณาเป็นพิเศษ โอเคไหมจ๊ะ? เมธปรียายังคงกึ่งแซวกึ่งประชดหญิงสาวต่ออย่างสนุกสนาน

พิชญธิดายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก่อนที่จะกล่าวว่า ?แหมพี่ยาไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้ค่ะ แค่พี่ยาเรียกอัณณ์มาสัมภาษณ์ตัดหน้าคนอื่น ๆ อัณณ์ก็เกรงใจจะแย่แล้ว ได้ไม่ได้ก็แล้วแต่นายพี่เถอะค่ะ ที่พี่ยาช่วยอัณณ์ครั้งนี้อัณณ์ก็ถือเป็นบุญคุณใหญ่หลวงแล้วค่ะ ไว้อัณณ์จะช่วยตอบแทนด้วยการเป็นแม่ทูนหัวของลูกพี่ก็แล้วกันนะค่ะ เอ..ว่าแต่พี่ยาจะได้ลูกชายหรือลูกสาวกันละคะ?

?ลูกชายจ๊ะ? เมธปรียาตอบอย่างมีความสุขพร้อมใช้มือลูบท้องที่ขยายอย่างเห็นได้ชัดเพราะใกล้ถึงกำหนดคลอดเต็มทีแล้ว

?ดีใจด้วยนะค่ะ พี่ภูมิคงถูกใจละสิค่ะได้ลูกชายสมใจอยาก? หญิงสาวเอ่ยถึงสามีของเมธปรียาที่เธอรู้จักดีเพราะทั้งคู่เป็นแฟนกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ณัฐภูมิเป็นอีกหนุ่มวิศวะที่มาตามจีบสาวอักษรอย่างเมธปรียาตั้งแต่เรียนอยู่ปีสองและได้พิสูจน์ว่ารักแท้มีอยู่จริงเพราะรวมระยะเวลาที่เป็นแฟนกันจนถึงวันนี้วันที่กำลังจะมีโซ่ทองมาคล้องใจคนทั้งคู่ก็กว่าเจ็ดปีแล้ว

?จ๊ะ รายนั้นนะบ้าเห่อน่าดู ถามพี่ทุกวันว่าเมื่อไรจะคลอดเพราะเขานะอยากจะอุ้มลูกบ้าง เนี่ยอิจฉาพี่ที่พี่ได้อยู่กับลูกนานกว่าเขา อัณณ์ดูสิ ใครจะบ้าคิดติ๊งต๊องได้ขนาดนั้น ไม่รู้เลยว่าคนเป็นแม่นะทั้งอึดอัดทั้งหนักและเหนื่อยขนาดไหน พี่ละอยากให้เขาท้องแทนซะจริง ๆ จะได้รู้รสชาติ ดีไม่ดีคงเข็ดการมีลูกไปเลย?

?ฮ่า ฮ่า ฮ่า อัณณ์ชักอยากจะเห็นภาพนั้นซะแล้วสิคะ? พิชญธิดาหัวเราะร่า

ขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยและหัวเราะกันอย่างสนุกสนานอยู่นั้นก็มีเสียงแทรกขัดจังหวะดังขึ้น

?ขอโทษครับ คุณเมธปรียา นายให้มาบอกว่านายพร้อมที่จะสัมภาษณ์แล้วครับ? เสียงของกฤตธีที่ออกมาตาม ?คนที่นายอยากสัมภาษณ์? นั่นเอง

?อุ้ยตายจริง นี่นายเข้าทางประตูห้องประชุมอีกแล้วหรือค่ะคุณกฤต มิน่าละเช้านี้ยาถึงไม่เห็นนายสักที เอ...แล้ววันนี้คิดยังไงไปใช้ประตูโน้นละคะ เช้า ๆ อย่างนี้ยังไม่มีสาว ๆ มาดักรอพบหน้าห้องหรอกค่ะ?

?ไม่รู้สิครับ นายคงอยากหลบใครบางคนมั้งครับ? กฤตธีตอบพร้อมเหลือบตามองไปที่คนที่ถูกพาดพิงถึงซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่พิชญธิดาเลยหน้าขึ้นสบตาพอดี

?อ้าว คุณคนที่กดลิฟต์นั่นเอง เจอกันอีกแล้วนะคะ คุณทำงานที่นี่เหมือนกันเหรอคะ?

?ครับ? กฤตธีตอบเพียงสั้น ๆ เพราะไม่ค่อยจะพอใจกับตำแหน่งใหม่ที่ได้รับสักเท่าไร แต่ก็ยังมีแก่ใจส่งยิ้มให้หญิงสาว

?รู้จักกันแล้วเหรอคะ? เสียงของเลขาฯว่าที่คุณแม่ดังขึ้น

?ค่ะพี่ยา เมื่อกี้เราเจอกันในลิฟต์น่ะค่ะ?

?อะไรนะคะ ใครเจอกับใครในลิฟต์คะ? เมธปรียาถามอย่างสงสัยและหวังว่าสิ่งที่เธอจะได้ยินจากปากของรุ่นน้องคงจะไม่ใช่ความจริง ?อึ๋ย นายนี่นะจะให้น้องอัณณ์ขึ้นลิฟต์มาด้วย?

?ก็ เมื่อกี้เราขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกันมานี่คะ มากันทั้งหมดสี่คนค่ะ อัณณ์เป็นผู้หญิงคนเดียวเลยได้สวยที่สุดในลิฟต์ค่ะ? หญิงสาวตอบพร้อมหยอดมุขตลกแต่เมธปรียาไม่มีอารมณ์จะหัวเราะด้วย


?หา! ขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกันมา ตาย ตายแล้วน้องอัณณ์ จะพาพี่ซวยด้วยแล้วไหมล่ะ? และก่อนที่เมธปรียาจะซักถามรายละเอียดจากหญิงสาวต่อเพื่อให้หายสงสัย กฤตธีจึงรีบตัดบทขึ้นเพราะเกรงว่านายจะรอ ?คน? ที่จะสัมภาษณ์นาน ดีไม่ดีเดี๋ยวจะพาลอารมณ์เสียใส่อีก ใส่เขานี่แหละคงไม่ไปใส่แม่สาวตาแป๋วนี่หรอก

?เอ่อ ผมว่าเดี๋ยวค่อยมาคุยกันดีไหมครับ เพราะตอนนี้นายรออยู่นะครับคุณยา?

?จริงด้วยค่ะ ยามัวแต่ตกใจ เอ้าน้องอัณณ์รีบเข้าไปเลย แล้วก็อย่าลืมขอโทษนายด้วยนะ?

?ขอโทษใครและขอโทษเรื่องอะไรคะพี่ยา อัณณ์ไม่เก็ตค่ะ?

?ผมว่าตอนนี้อย่ามัวไปนึกถึงเรื่องที่มันเกิดขึ้นไปแล้วเถอะครับ ยังไงคุณอัณณ์ก็รีบเข้าไปสัมภาษณ์ดีกว่าครับ เดี๋ยวนายรอนานแล้วจะอารมณ์เสีย? ชายหนุ่มหนึ่งเดียวในวงสนทนาช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแถมมั่วนิ่มเรียกชื่อหญิงสาวอย่างสนิทสนม

?โอเคค่ะ งั้นอัณณ์เข้าไปข้างในก่อนนะคะพี่ยา ไปนะคะเอ่อ...คุณ...?

?กฤตธีครับ เรียกกฤตเฉย ๆ ก็ได้ครับ โชคดีนะครับ?

?ขอบคุณค่ะ คุณกฤตเฉย ๆ ไปนะคะพี่ยา? พิชญธิดายังมีอารมณ์แหย่ เพราะในสายตาเธอแล้ว ?คุณกฤตธี? ก็ท่าทางดูไม่เลว น่าจะคบได้ยังไงก็ต้องผูกมิตรไว้ก่อน เวลามาทำงานด้วยกันจะได้สะดวกใจ

?จ๊ะ โชคดีนะอัณณ์? เมธปรียาอวยพรให้รุ่นน้องเช่นเดียวกัน ทันทีที่เธอเห็นพิชญธิดาหญิงสาวคนก่อเรื่องที่ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองนั้นได้สร้างวีรกรรม ?เอ๋อ? อะไรไว้บ้างได้เดินหายเข้าไปในห้องท่านประธานแล้วหลังเคาะประตูขออนุญาต เธอก็ไม่รอช้ารีบหันหน้าไปทางกฤตธีทันทีเพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้กระจ่างชัด และเพื่อเตรียมทางหนีทีไล่หากนายจะเล่นงานเธอด้วยโทษฐานที่เป็นคนแนะนำ ?หนูเอ๋อตาแป๋ว? เข้าวงการเลขาฯ ณ นิมมานรดี

************************

หลังจากที่เดินเข้ามาในห้องทำงานที่หรูหราสมตำแหน่งประธานกรรมการของโรงแรม ณ นิมมานรดี แล้ว พิชญธิดาก็รู้สึกสูญเสียความมั่นใจที่มีไปค่อนข้างมาก เพราะเธอรู้สึกตัวเล็กไปถนัดเมื่ออยู่ในห้องทำงานที่กว้างใหญ่แถมฝาผนังทั้งแถบยังกรุกระจกใสที่มองเห็นวิวกรุงเทพฯได้ชัดเจน ?อาจจะเห็นถึงเชียงใหม่เลยก็ได้? หญิงสาวค่อนขอดในใจแต่เธอก็ไม่มีเวลาสำรวจห้องทำงานของ ?ว่าที่นายใหม่? มากนัก เพราะทันทีที่เห็นชายหนุ่มเจ้าของห้องเดินออกมาจากประตูที่เธอเข้าใจว่าน่าจะเป็นห้องน้ำส่วนตัวที่อยู่ภายในห้องทำงาน หญิงสาวก็ตกตะลึงเพราะชายหนุ่มที่จะเป็นคนสัมภาษณ์เธอตรงหน้า คือ ชายหนุ่มคนเดียวกันกับที่เธอเจอในลิฟต์ ?ตายแล้ว นึกว่าแขกที่แท้ก็เป็นท่านประธานซะเอง ตายละหว่า เราดันไปว่าท่านขี้ดุขี้โมโหต่อหน้าอีก เวรกรรมจริงๆ ยายอัณณ์เอ๊ย คงไม่ได้งานแล้วละเนี่ย? หญิงสาวยิ้มแหย ๆ ส่งให้ชายหนุ่ม

?เชิญนั่งก่อนสิครับ เชิญที่โซฟาเลยครับ? เจ้าของห้องออกปากเชิญ ซึ่งปกติเขามักจะนั่งสัมภาษณ์ที่โต๊ะทำงาน แต่กลับกรณีนี้ เขากลับไม่อยากให้มีอะไรมาขวางกั้นกลางระหว่างเขากับ ?ว่าที่เลขาฯใหม่? เลย


?เอ่อ นั่งที่โซฟาเหรอคะ ขอบคุณค่ะ? พิชญธิดาถามอย่างประหลาดใจเช่นกัน เพราะที่ทำงานเก่าบอสเธอมักจะใช้ชุดโซฟาไว้รับแขกหรือพูดคุยหารือธุรกิจกับลูกค้าเท่านั้น ไม่เคยใช้สัมภาษณ์งานสักที ?เอ่อ...สวัสดีค่ะ ดิฉันพิชญธิดา บวรภัคค่ะ?

?สวัสดีครับ ผม วิชญ์ นิมมานรดีครับ เราเริ่มสัมภาษณ์กันเลยนะครับ?

?อย่าเพิ่งค่ะ ก่อนอื่นดิฉันต้องขอโทษที่พูดจาไม่ดีกับท่านไปในลิฟต์นะคะ เอ่อ ดิฉันไม่ได้มีเจตนาค่ะ? หญิงสาวกล่าวขอโทษอย่างจริงใจ เพราะหาก ?ท่านประธาน? จะดุจริง อย่างน้อยเขาก็มีน้ำใจที่ให้เธออาศัยลิฟต์ขึ้นมาด้วย และลิฟต์นั่นก็คงไม่ได้มีไว้สำหรับพนักงานทั่วไปอย่างแน่นอน ?นี่เองสาเหตุที่พี่ยาบอกว่าอย่าลืมขอโทษ?

?ไม่เป็นไรครับ เพราะผมถือคติว่า คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด? วิชญ์กล่าวให้อภัยหญิงสาวทั้ง ๆ ที่ตัวเขาอยากจะบอกออกไปว่า ?เพราะผมถือคติว่า ผู้หญิงด่าเขาว่าผู้หญิงรักนะครับ?

?ขอบคุณค่ะที่ท่านไม่โกรธ ดิฉันกราบขออภัยนะคะ? พิชญธิดาประนมมือไหว้พร้อมกล่าวขอโทษชายหนุ่มอย่างอ่อนช้อย พร้อมนึกตำหนิตัวเองที่เซ่อซ่าจะมาสัมภาษณ์งานยังไม่รู้จักสืบค้นหน้าตาของคนที่จะสัมภาษณ์ จริงอยู่ที่เธอเองเคยได้ยินชื่อเสียงของ วิชญ์ นิมมานรดี มาบ้าง และก็เคยเห็นภาพข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์มาก็ไม่น้อย แต่ทำไมความเอ๋อมันถึงบังตาได้ขนาดนี้ก็ไม่รู้

?ไม่เป็นไรครับ แล้วก็ไม่ต้องเรียกผมว่าท่านหรอกนะครับ แค่คุณก็พอแล้ว? ชายหนุ่มละอีกประโยคไว้ในใจ ?มันฟังดูห่างเหินนะครับ? ?งั้น คราวนี้เราก็เริ่มสัมภาษณ์ได้แล้วนะครับ เรื่องที่แล้วมาก็ให้มันแล้วกันไป?

?ขอบคุณค่ะท่าน เอ๊ยคุณวิชญ์? หญิงสาวยิ้มกว้างจนแทบเห็นฟันขาวครบทั้งปาก ชายหนุ่มถึงกับตะลึงเพราะความสดใสของเจ้าหล่อน แต่ก็ต้องรีบเก็บอาการเพราะกลัวเสียมาดผู้บริหาร

วิชญ์ เริ่มคำถามทั่ว ๆ ไปในการสัมภาษณ์ อย่างเช่น ความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์ ความสามารถทางภาษา ความรับผิดชอบทั่วไป ประสบการณ์ในการทำงานหน้าที่เลขาฯ การทำงานล่วงเวลา หลังจากนั้นเขาก็เริ่มคำถามที่ต้องการ ?เจาะประเด็น? มากขึ้น เช่น งานอดิเรกในเวลาว่าง ที่พักของเธอ (อันนี้เขาอ้างกับเธอว่าต้องการทราบว่าเธอจะเดินทางมาทำงานสะดวกไหม) รวมถึงการที่ต้องไปทำงานนอกสถานที่ เช่น ไปตรวจโรงแรมในต่างจังหวัด และความสะดวกในการที่ต้องออกงานเลี้ยงกับเขาในบางครั้ง ซึ่งกฎข้อนี้เขาเพิ่งตั้งขึ้นเพราะปกติเขาก็ไม่เคยชวนคุณเมธปรียาออกงานด้วยเลย อาจจะเป็นเพราะเธอมีครอบครัวแล้วก็เป็นได้ เขาเองยังแปลกใจที่รู้สึก ?พิเศษ? กับสาวน้อยตรงหน้าโดยไม่มีสาเหตุ

ทางด้านพิชญธิดาเองก็แปลกใจอยู่ไม่น้อยเพราะเท่าที่คุยกับพี่ยาถึงลักษณะและขอบข่ายของงานนั้น พี่ยาไม่ได้เอ่ยถึงการที่ต้องออกงานและการไปทำงานและค้างอ้างแรมที่ต่างจังหวัดด้วย แต่เธอก็ตอบตกลงไปทุกข้อเพราะเธอคิดว่าการได้ไปทำงานที่ต่างจังหวัดนั้นมันคือกำไรจากการทำงาน เพราะจะได้เปิดหูเปิดตาไปในตัว ?สรุปว่าได้ทั้งงานได้ทั้งเที่ยว? ตัวเธอเองก็อยู่คนเดียว เรื่องนี้จึงไม่มีปัญหา กลายเป็นว่าถูกใจทั้ง ?ว่าที่เจ้านาย? และ ?ว่าที่เลขาฯ?

เมื่อพูดคุยได้สักพักและเห็นว่าคู่สนทนาไม่มีอาการเกร็งหรือประหม่าเหมือนตอนแรก ๆ แล้ว ชายหนุ่มจึงเริ่ม ?รุก? มากขึ้น

?คุณพิชญธิดาครับ ผมอยากจะทราบว่าทำไมคุณถึงคิดจะหางานใหม่ละครับ ทำไมต้องการลาออกจากงานเดิมเพราะที่ผมทราบมาบริษัทที่คุณทำงานอยู่นั่นเป็นของฝรั่งไม่ใช่เหรอครับ เงินเดือนและสวัสดิการต่าง ๆ น่าจะดีไม่น้อย?

?พอดี ดิฉันมีปัญหากับเจ้านายน่ะค่ะ?

?พอจะขยายความให้มากกว่านี้ได้ไหมครับ ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเพราะผมก็กำลังจะอยู่ในฐานะเจ้านายของคุณเหมือนกัน ถ้าพอทราบสาเหตุที่จะทำให้การทำงานไม่ราบรื่นได้ เราก็น่าจะได้ป้องกันไว้ก่อน?

?เอ่อ คือว่า เจ้านายดิฉันเขาเป็นฝรั่งน่ะค่ะ เขาไม่ค่อยเข้าใจธรรมเนียมของคนไทย เช่น การถูกเนื้อต้องตัว หรือการให้ความสนิทสนมกับลูกน้องจนเกินไปน่ะค่ะ? หญิงสาวอธิบายออกไปอย่างลำบากใจเพราะเธอต้องพยายามเรียบเรียงคำพูดให้ดูไม่เป็นการนินทาให้ร้ายเจ้านายเก่าเพราะอย่างน้อยเธอก็ต้องให้เกียรติคนที่ถูกพาดพิงถึง และเธอเองก็ไม่อยากถูกมองว่า ?ชอบประจานเจ้านายเก่าให้เจ้านายใหม่ฟัง? แต่ในขณะเดียวกันเธอก็ต้องการให้เขาเข้าใจว่าเธอผ่านอะไรมาบ้างและทำไมถึงทนทำงานต่อไปไม่ไหวทั้ง ๆ ที่เงินเดือนและสวัสดิการก็ดีไม่น้อย

ขณะที่ฟังหญิงสาวอธิบายนั้น ผู้บริหารหนุ่มขบกรามแน่นและรู้สึกอยากจะไปชกหน้าเจ้านายเก่าของหญิงสาวสักทีสองที ?เฮ้ย นี่เขากำลังหวงหล่อนหรือนี่?

?อ๋อครับ ผมพอจะเข้าใจแล้วครับ และขอรับรองด้วยเกียรติของผมไว้เลยนะครับ ถึงผมจะไปอยู่เมืองนอกหลายปีแต่ผมก็เป็นคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ เข้าใจวัฒนธรรมใทยดีทุกประการ เหตุการณ์อย่างนั้นจะไม่เกิดขึ้นที่นี่อย่างแน่นอนครับ ?หากคุณไม่ยินยอม? ผมขอรับประกัน? ชายหนุ่มตอบกลับด้วยสายตาวิบวับพร้อมยืนยันคำพูดกับหญิงสาวด้วยการตะเบ๊ะท่าลูกเสือซึ่งทำให้หญิงสาวรู้สึกขำจนอดหัวเราะออกมาไม่ได้ ?ไม่นึกแฮะ ว่าจะได้มีเจ้านายหล่อควบติ๊งต๊อง?

?ค่ะ ดิฉันก็คิดอย่างนั้นถึงกล้ามาสมัครงานที่นี่ไงล่ะคะ และถึงคุณไม่รับรองดิฉันก็ยังสบายใจเพราะพี่ยาเขายืนยันไว้แล้วค่ะว่าคุณไม่มีเรื่องแบบนี้กับลูกน้อง? ?มีเฉพาะกับสาว ๆ นอกโรงแรมเท่านั้น? หญิงสาวตอบพร้อมส่งยิ้มให้

?เหรอครับนี่ก็แสดงว่าคุณเชื่อใจคุณยาที่การันตีคุณสมบัติผมเอาไว้มากกว่าเชื่อใจผมเองนะสิครับ? ชายหนุ่มสัพยอกหญิงสาวพร้อมจ้องตาประสานกับเธอ จนพิชญธิดาหน้าแดงเพราะเขินที่ถูกเขาจ้องหน้าเอาดื้อ ๆ ?แปลกแฮะทีคนอื่นจ้องทำไมเราไม่เห็นอายแบบนี้เลย?

?เอ่อ ก็ทำนองนั้นล่ะค่ะเพราะดิฉันรู้จักกับพี่ยามานานแล้วนี่คะ? ชายหนุ่มฟังคำอธิบายพร้อมหัวเราะ หึ หึ ?เข้าใจตอบแฮะ?

?มาถึงคำถามสุดท้ายครับ ?ถ้าไม่ถามผมคงนอนไม่หลับแน่คืนนี้? ในใบสมัครคุณเขียนชื่อ นายวรปรัชญ์ สิทธิกุล เป็นบุคคลที่สามารถติดต่อได้ พอจะบอกได้ไหมครับว่าเขาเป็นอะไรกับคุณ?

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาด้วยสีหน้าแปลกใจที่เขาตั้งคำถามแบบนี้ ?เอ่อ เป็นเพื่อนสนิทน่ะค่ะ สนิทกันมากมาตั้งแต่เรียน ม.ปลาย แล้วค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ? หญิงสาวไม่ได้ให้คำอธิบายอะไรมากนักเพราะเธอถือว่านี่เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เห็นจะเกี่ยวกับการสัมภาษณ์งานเลขาฯเลยสักนิด ซึ่งมันส่งผลให้ชายหนุ่มตรงหน้าออกอาการหงุดหงิดอยู่บ้างเพราะยังไม่ ?เคลียร์? กับสิ่งที่ได้ยิน ?เดี๋ยวสืบเอาเองก็ได้วะ?

?ไม่มีอะไรหรอกครับ ทางเราก็ต้องการทราบเอาไว้เผื่อมีอะไรฉุกเฉินจะได้ติดต่อถูกคน เอาเป็นว่าเราจบสัมภาษณ์กันแค่นี้นะครับ แล้วผมจะให้คุณยาแจ้งไปว่าจะให้คุณมาเริ่มทำงานได้เมื่อไร?

?นี่หมายความว่าดิฉันได้งานนี้แล้วใช่ไหมคะ?

?ครับ ผมนี่แย่จริง ข้ามขั้นไปเลย ยินดีต้อนรับสู่ ณ นิมมานรดี ครับคุณพิชญธิดา?

?ขอบคุณค่ะ? หญิงสาวยกมือไหว้เจ้านายในอนาคต ?ยังไงดิฉันก็จะได้ร่วมงานกับคุณวิชญ์แล้ว เรียกดิฉันว่าอัณณ์ เฉย ๆ ก็ได้ค่ะ จะได้สะดวกปากเวลาเรียกใช้ อันที่จริงดิฉันสะดวกที่จะเริ่มงานตั้งแต่พรุ่งนี้เลยนะค่ะ คิดว่าวันนี้คงกลับไปเขียนใบลาออกที่ออฟฟิศเก่าเลย?

?อ้าว ไม่ต้องแจ้งเขาล่วงหน้าเหรอครับ? วิชญ์ถามอย่างแปลกใจ

?แฮะ แฮะ อยากจะเอาคืนนายเก่าสักนิดน่ะค่ะ แต่เขาก็คงรู้แล้วละค่ะว่าดิฉันกำลังหางานใหม่อยู่ ถ้าหากไม่มีอะไรแล้วดิฉันขอตัวเลยนะคะ สวัสดีค่ะคุณวิชญ์?

?สวัสดีครับคุณอัณณ์ หวังว่าเราจะได้เริ่มงานกันเร็ว ๆ นี้นะครับ? ?ผมจะตั้งหน้าตั้งตารอเจอคุณนะครับคุณเลขาฯคนสวย? ชายหนุ่มยิ้มอย่างสดใส (ซึ่งเป็นครั้งที่เท่าไรของวันนี้ก็จำไม่ได้แล้ว) พลางพูดกับตนเองหลังหญิงสาวเดินออกจากห้องไปแล้วว่า

?นี่เธอทำให้เขาอารมณ์ดีได้ถึงขนาดนี้เลยหรือ แล้วพบกันนะครับคุณอัณณ์คนสวย?


************************

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”