ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 7 โดย....อาทิตา

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
athita
โพสต์: 41
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 11 เม.ย. 2009 11:15 pm

ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 7 โดย....อาทิตา

โพสต์ โดย athita »

ตอนที่ 7 วาเลนไทน์แสนหวาน

ในค่ำคืนที่มีการเลี้ยงส่งเมธปรียานั้น วิชญ์ไม่มีโอกาสที่จะได้พูดคุยเป็นส่วนตัวกับว่าที่คุณแม่เลยเพราะทุกคนต่างแย่งกันสอบถามเกี่ยวกับลูกชายของเธอที่กำลังจะลืมตาดูโลกใบนี้ในอีกไม่ช้า โดยเฉพาะว่าที่คุณพ่อณัฐภูมินั้นออกอาการเห่อลูกตั้งแต่ยังไม่ได้พบหน้าค่าตากันเลยทีเดียว เมธปรียาและณัฐภูมิกล่าวขอบคุณทุกคนสำหรับของขวัญล้ำค่าที่ได้รับซึ่งสร้างความซาบซึ้งใจให้ว่าที่คุณแม่ที่ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ หนุ่มหล่อทั้งสามทั้งตัวเจ้านายและบอดี้การ์ดต่างก็โยนความดีความชอบนี้ไปให้กับพิชญธิดาผู้ซึ่งเป็นคนจัดการเลือกซื้อของขวัญทั้งหมด

?คุณยาคุณภูมิคงไม่ว่านะครับที่ผมขอถือโอกาสนี้มอบของขวัญให้เจ้าตัวเล็กไว้ล่วงหน้าเลย เพราะอีกสองสัปดาห์ผมต้องไปประชุมที่ภูเก็ต กลัวว่าคุณยาจะคลอดช่วงนั้นพอดี? วิชญ์ชี้แจงแถลงไขกับว่าที่คุณพ่อและคุณแม่ป้ายแดง

?จะว่าอะไรล่ะคะ มีแต่ซึ้งใจมากกว่า ที่จริงรวมกันมาเป็นชิ้นเดียวก็ได้ ยาและภูมิเกรงใจจริง ๆ ค่ะ ขอบคุณทุกคนจากใจจริง ๆ เลยนะคะ? เมธปรียายังคงซับน้ำตาป้อย ๆ ซึ่งก็ถูกสามีแซวว่าช่วงนี้เธออารมณ์อ่อนไหวง่ายตามประสาคนที่ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง

?เอ...แล้วน้องอัณณ์จองตั๋วเครื่องบินไปภูเก็ตเรียบร้อยแล้วหรือจ๊ะ? เมธปรียาซักถามรุ่นน้องคนสนิทเพราะยังอดเป็นห่วงเรื่องงานไม่ได้

?คราวนี้นายให้ขับรถไปน่ะครับ เผื่อจะแวะดูโรงแรมที่หัวหินตอนขากลับด้วยครับ? ธีรวีร์ชิงตอบแทน

?แล้วน้องอัณณ์ต้องไปด้วยหรือเปล่าคะคุณวิชญ์? เมธปรียายังคงซักไซ้ต่อเพราะเห็นอาการเอาอกเอาใจระหว่างมื้ออาหารในค่ำนี้แล้ว คิดว่านายคงไม่ยอมถอดใจเป็นแน่ ?เอ...หรือนายจะรู้เรื่องเจ้าปรัชญ์ซะแล้ว? แต่เธอก็ยังเก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ

?ไปครับ เพราะคุณอัณณ์ต้องไปจดรายงานการประชุม? วิชญ์ตอบแล้วจึงทำทีจิบกาแฟหลังมื้ออาหารเพื่อกลบอาการพิรุธของตนเอง

?น้องอัณณ์โชคดีจังได้ไปเที่ยวภูเก็ตเกาะสวาทหาดสวรรค์ด้วย พี่เป็นเลขาฯคุณวิชญ์มาตั้งห้าหกปียังไม่เคยได้ตามนายไปประชุมที่ไหนเลยสักกะที? เมธปรียาแกล้งบ่นเสียงดังให้ได้ยินกันทั้งโต๊ะว่านาย ?ลำเอียง? แค่ไหน

?ก็คุณยาไม่ใช่คนโสดนี่ครับ ถ้านายให้ไปด้วยคุณภูมิก็คงไม่ยอมหรอก ใช่ไหมครับคุณภูมิ? กฤตธีช่วยแก้ไขสถานการณ์ให้กับผู้เป็นเจ้านาย

?ใครบอกล่ะครับคุณกฤต แมวไม่อยู่ หนูก็ร่าเริงสิครับ? ณัฐภูมิแกล้งแหย่แม่เสือท้องโตที่นั่งข้าง ๆ

?เชอะ เดี๋ยวให้ยากลับไปทำงานก่อนเถอะ คราวนี้นายไปประชุมที่ไหนยาจะตามไปทุกที่เลย จะให้คุณเลี้ยงลูกทั้งวันทั้งคืนคนเดียว ดูซิยังจะร่าเริงหฤหรรษาอยู่อีกไหม พอถึงตอนนั้นนะไม่ต้องโทรตามง้อให้ยากลับมาล่ะ? เมธปรียาขู่สามีกลับทันทีทันควัน คุณสามีตัวดีเลยได้นั่งแต่ลูบแขนลูบหลังให้ภรรยาเพื่อดับพายุไซโคลนที่เขาเป็นคนช่วยก่อพลางยิ้มแหย ๆ ให้ภรรยาเหมือนกับจะบอกว่า ?ยอมแล้วจ๊ะ ยอมแพ้แล้วจ๊ะ?

?แต่ผมว่านะ ถึงคุณยาอยากจะตามไปด้วย นายก็คงไม่อนุญาตหรอกครับ? เสียงจากธีรวีร์หนุ่มหน้าเข้มดังแทรกขึ้น

?ทำไมคะ? เมธปรียาผู้ซึ่งไม่รู้ตัวว่าได้พลาดพลัดตกลงไปในกับดักของนายพรานธีรวีร์เรียบร้อยแล้ว

?ก็ระหว่างคุณยากับคุณอัณณ์ คุณยาคิดว่านายจะให้ใครตามไปด้วยล่ะคร้าบ? เมื่อธีรวีร์เฉลยคำตอบเสร็จแล้ว เสียงหัวเราะของกฤตธี เมธปรียา และณัฐภูมิก็ดังประสานเสียงขึ้นพร้อมกัน ยกเว้นก็แต่เจ้านายหนุ่มและเลขาฯสาวที่ขำไม่ออกโดยเฉพาะพิชญธิดาซึ่งนั่งเงียบเป็นผู้ฟังที่ดีมาตลอดนั้นถึงกับรีบขอตัวไปเข้าห้องน้ำในทันทีเพราะไม่อยากโดนแซวไปมากกว่านี้ แค่นี้ก็เขินจะแย่อยู่แล้วยิ่งได้เห็นแววตากรุ้มกริ่มของคู่กรณีที่ลอบมองเธอมาตลอดเวลารับประทานอาหารด้วยแล้ว เธอยิ่งทำตัวไม่ถูก

การที่พิชญธิดาลุกไปเข้าห้องน้ำนั้นเท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้วิชญ์ได้สอบถามความจริงของเรื่องที่ยังคาใจมาตั้งแต่บ่ายกับเมธปรียาอย่างสะดวก เขาจึงรีบยิงคำถามใส่เมธปรียาในทันทีโดยไม่กลัวเสียฟอร์มต่อหน้าทั้งลูกน้องและณัฐภูมิ

?คุณยาครับ ตกลงคุณวรปรัชญ์นี่เป็นอะไรกับคุณอัณณ์ครับ เพราะวันนี้ผมได้ยินเธอพูดว่าเธอยังไม่มีแฟน? เมธปรียาเพิ่งเข้าใจเดี๋ยวนั้นเองว่าทำไมนายถึงดูอึดอัดเหมือนมีเรื่องสงสัยใคร่รู้ค้างคาใจอยู่ตลอดเวลาที่นั่งรับประทานอาหารกัน

?แล้วทำไมคุณวิชญ์ไม่ถามน้องอัณณ์เองล่ะคะจะได้หายข้องใจ? เมธปรียายังคงเล่นตัวเพราะถือว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่า

?โธ่ ผมจะกล้าไปถามเขาอย่างนั้นได้ยังไงล่ะครับ แต่เอาเถอะครับถ้าคุณยาไม่บอกก็ไม่เป็นไร? วิชญ์ซึ่งไม่เคยยอมเสียฟอร์มให้ใครมากขนาดนี้ จึงออกอาการงอนลูกน้อง

?บอกก็ได้ค่ะ แต่คุณวิชญ์ต้องตอบคำถามยาก่อนนะคะ ถือว่าแลกเปลี่ยนกัน ยุติธรรมดีไหมคะ? เมธปรียาต่อรอง

?คำถามอะไรครับ? วิชญ์ถามอย่างกระตือรือร้น

?คุณวิชญ์ชอบน้องอัณณ์จริง ๆ เหรอคะ? สิ้นเสียงของเมธปรียาชายหนุ่มที่เหลือทั้งสามบนโต๊ะต่างก็พร้อมใจหันไปฟังคำตอบจากวิชญ์อย่างใจจดใจจ่อ แทบเกือบจะหยุดหายใจกันเลยทีเดียว

?ครับ ผมชอบเธอจริง ๆ ไม่ได้คิดแค่เล่น ๆ เหมือนที่คุณยากำลังระแวง? วิชญ์ตอบโดยไม่หลบสายตาของเมธปรียาเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาพูดจากใจจริง ทั้ง ๆ ที่เขาไม่จำเป็นจะต้องมาอธิบายความรู้สึกส่วนตัวแบบนี้ต่อหน้าสาธารณชนเลย แต่เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้คิดเล่น ๆ กับพิชญธิดาเหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ เขาจึงไม่ลังเลที่จะพูดออกไป

?เอ่อ.....ทั้ง ๆ ที่เพิ่งรู้จักกันไม่ถึงสัปดาห์นี่นะคะ คุณวิชญ์แน่ใจแล้วเหรอคะ? เมธปรียายังคงไม่ปักใจเชื่อว่าวิชญ์จะตกหลุมรักพิชญธิดาได้รวดเร็วขนาดนี้

?คุณยาไม่เคยได้ยินหรือครับว่า เมื่อเราพบคนที่ใช่แล้วบางครั้งมันก็หาเหตุผลมาอธิบายไม่ได้ มันไม่ต้องมีสาเหตุไม่ต้องมีที่มา ใช่ก็คือใช่ มันไม่จำเป็นต้องมีเงื่อนไขของเวลามาผูกมัดเพราะเวลาไม่ใช่ตัวชี้วัดที่จะบอกได้ว่าคนนี้คือคนที่ใช่ได้เสมอไปนะครับ ผมรู้แค่ว่าคุณอัณณ์คือคนที่ใช่สำหรับผม และผมก็พร้อมที่จะดูแลเธอด้วยครับ? วิชญ์ตอบอย่างหนักแน่น ทั้ง ๆ ที่ตัวเขาเองก็ตอบไม่ได้ว่าเพราะอะไรพิชญธิดาจึงเป็นคนที่ใช่ เพราะความน่ารัก ความสดใส หรือความจริงใจของพิชญธิดาเขาเองก็ตอบไม่ได้ เขารู้เพียงว่าแค่ได้เห็นพิชญธิดาเดินควงแขนกับวรปรัชญ์เพียงครั้งเดียวนั้น เขาก็แทบจะทนไม่ไหว เขาอยากเป็นคนที่เดินจูงมือข้าง ๆ เธอแทน กับผู้หญิงอื่นวิชญ์คิดแค่เพียงว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้ไปจบกันที่เตียง และจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้เลิกแล้วต่อกันด้วยดีหลังความสัมพันธ์ทางกายสิ้นสุด วิชญ์ยังแปลกใจตัวเองที่ไม่ได้คิดเรื่อง ?พรรค์นั้น? กับพิชญธิดาเลยแม้แต่นิดเดียว

?สุดยอดไปเลยนาย เจ๋งสุด ๆ โคตรแมนเลยคร้าบ? กฤตธีโพล่งขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวเลยว่าได้ทำลายบรรยากาศอันแสนโรแมนติคให้พังทลายลงในพริบตา

?แล้วจะกล้าบอกกับคุณอัณณ์เมื่อไรครับเนี่ย อย่ามัวทำใจเย็นนะครับ ยิ่งน่ารัก ๆ แบบนั้นนะ ต้องรีบ ๆ จะได้ตามคู่ผมทัน? ณัฐภูมิที่แกล้งแซวอดขำท่าทีเขินอายของเจ้านายภรรยาไม่ได้ ?ทีเมื่อกี้ตอนพูดไม่รู้จักอายแฮะ? คู่หูบอดี้การ์ดได้ทีจึงรีบผสมโรงช่วยเต็มที่

?วีด วิ้ว ๆ ๆ อย่าป๊อดนะครับนาย สู้ ๆ ๆ เดี๋ยวกระทิงแดงแจกทองสองบาท แอนตาซิลแถมให้อีกหนึ่งหมื่น? เสียงหัวเราะดังสนั่นลั่นโต๊ะทำเอาผู้คนที่กำลังรับประทานอาหารอยู่รอบ ๆ ข้างต้องหันมามอง

ส่วนเมธปรียานั้นเมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มได้แสดงความบริสุทธิ์ใจต่อพิชญธิดาอย่างที่เธอไม่เคยได้เห็นมาก่อน และไม่เคยคิดว่าตัวเองจะกล้าหาญชาญชัยไปเค้นความจริง (ใจ) จากผู้เป็นนายต่อหน้าทุกคนได้แบบนี้ ?แล้วจะโดนไล่ออกไหมเนี่ย? เมธปรียาจึงตัดสินใจบอกความจริงแก่วิชญ์ไปในที่สุด


************************

เมื่อพิชญธิดาเดินกลับเข้ามาที่โต๊ะอาหารนั้นก็พบว่าทุกคนเหมือนตกอยู่ในภวังค์ แต่ละคนเหมือนอยู่ในอาการตกตะลึงกับเรื่องอะไรสักอย่าง และที่แปลกไปกว่านั้นก็คือทุกคนต่างหันมาจ้องมองเธออย่างไม่วางตา ดีหน่อยที่แต่ละคนนั้นต่างคลี่ยิ้มให้เธอเหมือนกับต้องการจะแสดงความยินดีด้วย

?มีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมจ้องอัณณ์กันอย่างนั้น หน้าอัณณ์ผิดปกติเหรอคะ?

?ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะอัณณ์ พวกเราแค่ตกใจที่เพิ่งได้รู้ความจริงบางอย่างน่ะ? เมธปรียาบอกออกไปเพื่อให้หญิงสาวคลายความกังวลใจ

?แล้วมันคืออะไรล่ะคะ บอกอัณณ์บ้างสิคะ อัณณ์ก็อยากรู้ค่ะ? ทุกคนได้แต่หันไปมองวิชญ์ เพราะเขาเท่านั้นที่สมควรเป็นคนบอกความจริงนี้กับอัณณ์

?บอกแน่ครับ แต่ไม่ใช่วันนี้ ผมรับรองว่าสักวันหนึ่งผมจะเป็นคนบอกคุณอัณณ์ด้วยตัวผมเอง? พิชญธิดาไม่เคยเห็นแววตาที่หนักแน่นของวิชญ์ที่จ้องมองเธอแบบนี้มาก่อน เธอจึงไม่ได้เซ้าซี้และซักไซ้ต่อเพราะเขาได้รับปากแล้วว่าสักวันจะบอกเธอด้วยตัวเอง เธอทำได้แต่เพียงสบตาเขาเหมือนจะบอกว่า ?ฉันจะรอฟังเมื่อวันนั้นมาถึง? หลังจากนั้นพิชญธิดาจึงหันไปพูดคุยกับว่าที่คุณแม่ต่อ

?เอ่อ....พี่ยาคะ ตกลงตั้งชื่อตาหนูว่าอะไรคะ? พิชญธิดาที่เป็นคนรักเด็กมากคนหนึ่งและออกปากจะเป็นแม่ทูนหัวของหนูน้อยสอบถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

?ชนาเมธจ๊ะน้องอัณณ์? เมธปรียาตอบด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขใจ ส่วนมือน้อยก็ไม่ยอมละไปจากหน้าท้องนูน ว่าที่คุณแม่ยังคงลูบคลำครรภ์ของตนด้วยสัมผัสที่อ่อนโยน เธอยังคงส่งสายใยแห่งความรักความอบอุ่นไปสู่ลูกน้อยตลอดเวลา

?ชื่อแปลกดีนะคะ แปลว่าอะไรคะพี่ยา? อัณณ์ซักต่อ

?แปลว่านักปราชญ์จ๊ะ? เมธปรียากล่าวอย่างภาคภูมิใจ

?แล้วชื่อเล่นล่ะคะ ใช่น้องเมธหรือเปล่าเอ่ย? พิชญธิดาเอียงคอถามอย่างน่ารัก

?ถูกต้องแล้วครับ คราวนี้ทุกคนคงเข้าใจแจ่มแจ้งแดงแจ๋นะครับว่าในบ้านผม....ใครเป็นใหญ่? ณัฐภูมิเอ่ยแซวภรรยา ทำให้ว่าที่คุณแม่ต้องหันไปหยิกหมับเข้าให้หนึ่งทีที่ต้นแขน

?แหม...ลูกก็เป็นผู้ชายเหมือนพ่อแล้ว นามสกุลก็ใช้ของพ่ออีก เพราะฉะนั้นก็ต้องมีอะไรเป็นของแม่บ้างสิคะ? เมธปรียาแกล้งงอนสามีหนุ่มวิศวกร

?จ๊ะ ๆ คุณว่าไงผมก็ว่างั้นแหละ อย่างอนน่ะที่รักเดี๋ยวลูกออกมาหน้าบูดไม่รู้ด้วยนา? คุณสามีพยายามง้องอนภรรยาคนสวย กิริยาของคนทั้งคู่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับเพื่อนร่วมโต๊ะอย่างครื้นเครง เพราะไม่เคยเห็นอาการคนกลัวเมียของณัฐภูมิมาก่อน ที่ผ่านมาเคยได้ยินแต่เสียงลือเสียงเล่าอ้างจากเมธปรียาเท่านั้น เพิ่งได้เห็นชัดเจนตามที่เมธปรียาเคยคุยให้ฟังก็วันนี้นี่เอง

?สรุปว่าบ้านนี้ คุณภูมิยังเป็นช้างเท้าหน้าอยู่ใช่ไหมครับ? กฤตธีอดที่จะเอ่ยแซวตามประสาคนชอบกวนไม่ได้

?ถูกต้องแล้วครับ ผมยังเป็นช้างเท้าหน้าอยู่ แต่ยาเป็นควาญช้างนะคร้าบพี่น้อง? คำพูดของณัฐภูมิทำให้ทุกคนได้หัวเราะกันจนน้ำตาไหล โดยเฉพาะสองสาวต่างไซส์

************************

เมื่อวิชญ์ได้ชำระเงินเรียบร้อยแล้ว บรรดาหนุ่ม ๆ ทั้งหลายต่างช่วยกันหอบหิ้วของขวัญมาส่งเมธปรียาและณัฐภูมิที่รถโดยมีสองสาวเลขาฯประธานกรรมการเดินพูดคุยกระจุ๋งกระจิ๋งนำหน้ามาก่อน

?น้องอัณณ์ เรื่องงานน่ะ ถ้าไม่เข้าใจอะไรก็โทรมาถามพี่ได้ตลอดเวลานะ ไม่ต้องเกรงใจ เพราะงานของอัณณ์ก็คืองานของพี่เหมือนกัน นี่พี่ได้ยินคุณวิชญ์บอกว่าจะจ้างน้องอัณณ์อยู่ต่อเพื่อช่วยพี่อีกแรงจริงไหมจ๊ะ?

?จริงค่ะพี่ยา? พิชญธิดาตอบเพียงสั้น ๆ

?ถ้าคุณวิชญ์ไม่เอ่ยปาก พี่ก็ว่าจะพูดอยู่แล้ว เพราะช่วงหลังงานเยอะจริง ๆ คุณวิชญ์แกเล่นคิดโปรเจ็คใหม่แทบจะทุกเดือน ถ้าได้น้องอัณณ์คนเก่งมาช่วยพี่ก็จะได้สบายขึ้นเยอะ?

?ยังไงอัณณ์ก็ต้องขอบคุณพี่ยาอีกครั้งนะคะที่ทำให้อัณณ์ได้งานดี ๆ แบบนี้? พิชญธิดาหันมายิ้มให้อย่างจริงใจ

?แค่งานเองเหรอที่ดีน่ะ แล้วนายล่ะ ไม่ดีเหรอจ๊ะ? เมธปรียาอดแซวรุ่นน้องไม่ได้

?พี่ยาก้อ อัณณ์เพิ่งรู้จักนายไม่ถึงอาทิตย์ดีเลยนะคะ จะไปรู้ได้ไงว่านายดีไม่ดี? พิชญธิดาแกล้งเขวประเด็นซึ่งเมธปรียาก็ไม่ได้รุกเร้าอะไรต่อ เธออยากให้พิชญธิดาได้มีเวลาไตร่ตรองและพิจารณาคุณสมบัติของผู้สมัครคนนี้ให้ละเอียดถี่ถ้วนเสียก่อนที่จะตัดสินใจ

เมื่อถึงเวลากล่าวลา เมธปรียาก็ฝากให้ขบวนของเจ้านายช่วยไปส่งพิชญธิดาที่บ้านด้วยเพราะเห็นว่าดึกแล้วไม่อยากให้พิชญธิดาต้องนั่งแท๊กซี่กลับเพียงลำพัง ซึ่งอันที่จริงหากเมธปรียาไม่เอ่ยปาก วิชญ์ก็พร้อมที่จะอาสาอยู่แล้ว

?คุณวิชญ์คะ ยาฝากน้องอัณณ์ด้วยนะคะ? เมธปรียาดันตัวพิชญธิดาให้ไปยืนข้าง ๆ วิชญ์ เธอกล่าวฝากฝังรุ่นน้องคนสวยกับเจ้านายสุดหล่อเหมือนต้องการตอกย้ำให้อีกฝ่ายระลึกอยู่เสมอว่าได้พูดอะไรออกมาที่โต๊ะอาหารในค่ำคืนนี้
?คุณยาไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมพูดคำไหนคำนั้น ผมจะดูแลคุณอัณณ์เป็นอย่างดี? พิชญธิดาได้แต่มองหน้าบุคคลทั้งสองสลับไปสลับมา เพราะไม่เข้าใจว่ากับการที่เจ้านายจะต้องไปส่งเธอที่บ้านนั้น เมธปรียาจะต้องฝากฝังอะไรกันหนักกันหนา

************************

?เลี้ยวซอยหน้านี้ใช่ไหมครับคุณอัณณ์? ธีรวีร์ผู้นั่งอยู่หลังพวงมาลัยถามพิชญธิดาผ่านทางกระจกมองหลัง หญิงสาวที่นั่งเคียงคู่อยู่กับเจ้านายหนุ่มจึงมองสบตาทางกระจกแล้วตอบไปว่า

?ค่ะ พอเลี้ยวเข้าซอยแล้ว ตรงไปประมาณ 200 เมตรนะคะ บ้านอัณณ์อยู่หัวมุมทางขวาค่ะ?

?คุณอัณณ์อยู่คนเดียวหรือครับ? วิชญ์สอบถามด้วยความเป็นห่วง

?ค่ะ คุณแม่อัณณ์แต่งงานใหม่แล้วย้ายไปอยู่อังกฤษน่ะค่ะ อัณณ์เลยต้องอยู่คนเดียว?

?แล้วคุณอัณณ์ไม่กลัวหรือครับ?

?ไม่นี่คะ อัณณ์ชินแล้วมั้งคะ อัณณ์อยู่บ้านหลังนี้มาตั้งแต่เกิดแล้วน่ะค่ะ เพื่อนบ้านก็รู้จักกันดี เขาช่วยดูแลบ้านให้อัณณ์เสมอแหละค่ะ คุณวีร์จอดได้เลยค่ะ เดี๋ยวอัณณ์ข้ามถนนเอง? พิชญธิดาบอกอย่างเกรงใจ

ธีรีวีร์ผู้รู้ใจเจ้านายไม่น้อยไปกว่ากฤตธีจึงเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวแล้วจึงกลับรถทันทีเมื่อถนนว่าง เขาจอดรถตรงหน้าบ้านของหญิงสาวพอดิบพอดี ?หากจอดให้คุณอัณณ์ต้องข้ามถนนเอง มีหวังโดนนายไล่ออก เล่นประกาศซะชัดเจนขนาดนั้นแล้ว ว่าที่นายหญิงคงไม่หนีไปไหน ก็คงมีแต่เจ้าตัวที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเขาเลยอยู่คนเดียว?

?ขอบคุณมากนะคะ ส่งซะถึงหน้าบ้านเป๊ะเลย?

?ด้วยความยินดีครับ? เสียงตอบจากวิชญ์

?เอ่อ....อัณณ์ขอเสียมารยาทไม่เชิญเข้าบ้านนะคะเพราะดึกแล้ว พรุ่งนี้เจอกันค่ะ กู๊ดไน้ท์นะคะทุกคน?

วิชญ์ยืนส่งหญิงสาวที่เขามั่นใจแล้วว่าเธอคือคนที่ใช่ไขกุญแจเข้าบ้านจนเธอปิดประตูบ้านเรียบร้อยแล้ว เขาจึงกลับขึ้นรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูคันหรูเพื่อเดินทางกลับคอนโดที่พัก ซึ่งระหว่างเดินทางนั้นไม่มีการพูดคุยสนทนาใด ๆ ทั้งสิ้นในรถ เพราะลูกน้องทั้งสองรู้ดีว่าหากนายได้ลั่นวาจาออกมาแล้วไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามคงไม่ต้องมีการถามย้ำถึงความแน่ใจ ยิ่งเป็นเรื่องนี้ด้วยแล้วยิ่งไม่ต้องซักต่อ วิชญ์ นิมมานรดีผู้ที่ไม่เคยพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์กับหญิงสาวคนใดมาก่อน กลับกล้าสารภาพว่า ?ชอบ? พิชญธิดาต่อหน้าทุกคนนั้น ย่อมแสดงให้เห็นว่าเธอคือคนพิเศษจริง ๆ

************************

พิชญธิดาทำงานที่ใหม่ได้เกือบจะครบสองสัปดาห์แล้ว เธอสามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่แพ้มืออาชีพอย่างเมธปรียา ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความ ?เอ็นดู? เป็นพิเศษจากผู้เป็นนาย เมื่อวิชญ์ได้ทราบถึงความสัมพันธ์ที่แท้จริงของพิชญธิดากับวรปรัชญ์แล้ว เขาก็ไม่รอช้าคิดหาวิธีที่จะพยายามครอบครองหัวใจเธอ ?เดี๋ยวพวกมันจะหาว่าเราป๊อด ไม่แน่จริง? ยิ่งได้ทำงานด้วยกันทุกวัน เขายิ่งมองเห็นความน่ารัก สดใส และเป็นธรรมชาติของหญิงสาว เขามั่นใจว่าตนเองได้ตกหลุมรักพิชญธิดาเข้าแล้วอย่างจัง

เช้าวันเสาร์ซึ่งเมธปรียาได้แจ้งเธอแล้วว่าตามปกติเป็นวันหยุดของเลขาฯ ไม่ต้องมาทำงาน ?ยกเว้นในบางครั้งที่นายมีธุระเร่งด่วนถึงจะเรียกให้เข้ามา? แต่วันนี้พิชญธิดากลับเข้ามาทำงานเพราะอีกสามวันข้างหน้าเธอและเจ้านายจะต้องเดินทางไปประชุมที่ภูเก็ต เธอจึงอยากที่จะเคลียร์งานต่าง ๆ ที่ยังคั่งค้างอยู่ให้เสร็จก่อนจะเดินทาง เพราะเอกสารบางชิ้นต้องส่งต่อให้แผนกอื่น ๆ ไปดำเนินการต่อไป หากมัวรอให้เธอเดินทางกลับมาก่อนงานหลายชิ้นอาจจะล่าช้าได้

ในวันหยุดแบบนี้หญิงสาวจึงมาทำงานในชุดลำลอง เธอใส่กางเกงยีนส์เข้ารูปและเสื้อเชิ้ตสีขาว ซึ่งเป็นชุดที่เธอชอบใส่มากชุดหนึ่ง วรปรัชญ์เคยบอกกับเธอว่า ?เป็นชุดสิ้นคิด แต่สวยตลอดกาล? เพราะว่าคนใส่ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย เนื่องด้วยมันเข้ากันได้ดีอยู่แล้ว ใคร ๆ ใส่ก็ดูดีกันทั้งนั้น ยิ่งพิชญธิดาที่ได้เปรียบด้านรูปร่างและหน้าตาแล้ว เพียงแค่นี้เธอก็สะดุดตาใครต่อใครได้อย่างสบาย

เมื่อเดินมาถึงโต๊ะทำงานพิชญธิดาก็ต้องแปลกใจที่เห็นช่อกุหลาบช่อโตวางอยู่บนโต๊ะ เธอจึงยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูวันที่แล้วก็เข้าใจในทันทีว่าเพราะอะไรช่อกุหลาบนี้ถึงมาวางแหมะอยู่บนโต๊ะทำงานของเธอ ?14 กุมภาวันวาเลนไทน์นั่นเอง? พิชญธิดาไม่รอช้ารีบหยิบมือถือเครื่องเล็กออกมาจากกระเป๋าสะพายแล้วกดหมายเลข ?3? ที่เธอตั้งเป็นระบบโทรด่วนเพื่อโทรออกทันที ระหว่างที่รอปลายทางรับสายอยู่นั้น พิชญธิดาก็หยิบเจ้าช่อดอกกุหลาบสีแดงทั้งช่อซึ่งจัดเป็นทรงกลมเหมือนกับลูกบอลแต่มีขนาดใหญ่กว่าลูกบาสเก็ตบอลเพียงเล็กน้อยขึ้นมาชื่นชม ?สวยมาก สวยจริง ๆ แต่ไม่คิดว่าเขาจะลงทุนเพื่อเธอถึงขนาดนี้? พิชญธิดายังคงชื่นชมช่อดอกไม้ในมืออย่างหลงใหล เธอคงจะปลื้มกว่านี้หากได้รับจากคนรักจริง ๆ

?โอ้โห คนจัดดอกไม้จัดได้เก่งมากจริง ๆ เพราะสามารถเรียงดอกกุหลาบสีแดงที่มีดอกขนาดใหญ่ให้เรียงตัวกันเป็นทรงกลมอย่างลงตัวและออกมาได้สวยงามมาก ไม่มีดอกไหนเลยที่ล้ำหน้าหรือหลุบต่ำกว่าดอกอื่น ๆ ตัวดอกกุหลาบเองก็มีสีแดงสด ดอกก็โต้โต ดูก็รู้ว่าต้องสั่งแบบคัดพิเศษ ดีไม่ดีอาจจะสั่งมาจากเมืองนอกเลยก็ได้ แถมริบบิ้นสีขาว ? แดงที่ใช้ตกแต่งก็ยิ่งทำให้ดอกกุหลาบช่อนี้ดูมีค่ามีราคามากขึ้นไปอีก หากไม่รู้ว่าคนให้เป็นใคร เธอคงแอบดีใจว่ามีคนหลงรักเธอเข้าให้แล้ว?

?ฮัลโหล ปรัชญ์เหรอ อัณณ์เองน่ะ นี่แก ฉันได้รับดอกไม้ของแกเรียบร้อยแล้วน่ะ ขอบใจน่ะ เออ...แล้วปีนี้นึกไงลงทุนซะขนาดนี้ หลายตังค์น่ะเนี่ย?

?จะโทรมาทำไมตั้งแต่เช้าฮะนังอัณณ์ นี่มันวันเสาร์นะย่ะ แล้วดอกม้งดอกไม้อะไรของแกฉันก็ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น ปีนี้ฉันไม่ว่างสั่งให้แกเพราะตอนนี้ฉันอยู่พัทยากับดาร์ลิ้งจ๊ะ มาฉลอง ?วันเล่นท้าย? กันตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว อ๊ะอ้า...นี่แกจะบอกฉันว่าแกได้รับช่อดอกไม้วันวาเลนไทน์จริง ๆ เหรอ พระเจ้าช่วยกล้วยทอดฉันอยากรู้จังว่าใครที่อยากได้นังเอ๋ออย่างแกไปครอง?

?ไม่ต้องมามั่วเลยนังปาด ก็เพราะว่าวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ไง แล้วทุกปีแกก็ส่งดอกไม้มาให้ฉันที่ทำงานแต่ไม่ใหญ่และสวยอลังการขนาดนี้มาก่อน นี่บอกไว้ก่อนน่ะ ฉันไม่ช่วยจ่ายนะย่ะเพราะปีนี้ฉันไม่ได้ขอร้องแก? พิชญธิดาที่มักขอร้องให้วรปรัชญ์ส่งดอกไม้มาให้เธอในวันวาเลนไทน์ของทุกปีเพื่อประกาศให้เพื่อน ๆ ที่ทำงานรู้ว่าเธอมีคนรักอยู่แล้ว เนื่องจากเหลือเธอเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังเป็นโสด ถ้าไม่นับว่าวรปรัชญ์คือฉากบังหน้า โดยเฉพาะต้องการประกาศให้เจ้านายจอมชีกอรู้ว่าเธอมีแฟนเป็นตัวเป็นตนจะได้เลิกมาตอแยกับเธอสักที แต่ปีนี้เธอไม่ได้ขอร้องเขาเหมือนทุกปี เพราะไม่เห็นความจำเป็นเนื่องจากได้ย้ายที่ทำงานแล้ว

?นังอัณณ์จอมเอ๋อ แกฟังไม่รู้เรื่องเหรอ งั้นฟังฉันพูดช้า ๆ ชัด ๆ อีกครั้งนะว่า ปี..นี้..ฉัน..ไม่..ได้..ส่ง..ดอก..ไม้..ให้..แก เพราะฉะนั้นฉันไม่รู้ว่าใครที่ตาถั่วส่งมาให้แก แต่รับรองว่าไม่ใช่ฉันแน่นอน เพราะฉันรู้แล้วว่าแกย้ายที่ทำงานจึงไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องสร้างภาพให้แกอีกต่อไป?

?แกพูดจริงน่ะ แกไม่ได้อำฉันน่ะปรัชญ์? พิชญธิดาเริ่มชักไม่แน่ใจ เพราะวรปรัชญ์ไม่เคยโกหกเธอสักครั้ง

?จริงแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ อ้อ แล้วทำไมแกไม่ดูล่ะว่ามีการ์ดแนบมาด้วยไหม นังเอ๋อเอ๊ย? วรปรัชญ์แนะนำ
?ก็ฉันนึกว่าเป็นแกที่ส่งมานี่นา เดี๋ยวดูก่อนว่ามีการ์ดไหม? พิชญธิดารีบค้นหาการ์ดที่อาจจะแนบมากับช่อดอกไม้ปริศนาช่อนี้

?มีไหมนังอัณณ์ ถ้ามีก็อ่านดัง ๆ ให้ฉันฟังด้วย เขาเขียนมาว่าไงมั่ง? วรปรัชญ์ยังคงอยากรู้อยากเห็น

?นังอัณณ์ แกได้ยินฉันไหม ฮัลโหล ๆ ๆ?

?เออ...ได้ยินแล้ว แล้วก็ไม่ต้องร้องแรกแหกกระเชออยู่ได้ หูฉันจะหนวกแล้ว? พิชญธิดาที่ยังคงรับไม่ได้กับเสียงสิบแปดหลอดของเพื่อนซี้

?ก็แกเล่นเงียบไปทำไมล่ะ แล้วตกลงมีการ์ดไหม? วรปรัชญ์ยังคงเฝ้ารอคำตอบจากพิชญธิดา

?อือ...มี? พิชญธิดาตอบด้วยเสียงอันเบาผิดปกติจนวรปรัชญ์จับสังเกตได้

?งั้นก็อ่านซิ เร็ว ๆ เข้าเดี๋ยวฉันจะได้ลงไปเล่นน้ำฉลอง ?วันเล่นท้าย? กับดาร์ลิ้งซะหน่อย?

?ปรัชญ์แค่นี้นะ? พิชญธิดารีบตัดบท

?เฮ้ย! อัณณ์ เดี๋ยวก่อนสิ อ่านการ์ดให้ฉันฟังก่อน มีอะไรหรือเปล่า ทำไมแกเงียบไป?

?ไม่มีอะไร แค่นี้แหละ ฝากหวัดดีดาร์ลิ้งของแกด้วยนะ บ้ายบายจ๊ะ?

พิชญธิดารีบกดวางสายและกดปิดเครื่องในทันทีเพราะตอนนี้เธอยังไม่พร้อมที่จะ ?อ่าน? ข้อความบนการ์ดที่แนบมาให้วรปรัชญ์เพื่อนซี้ฟัง เธออยากแน่ใจซะก่อนว่าข้อความที่เธอกำลังอ่านอยู่นั้นเธออ่านได้ถูกต้องและเข้าใจทุกคำทุกตัวอักษร จะได้ไม่มีการเข้าใจอะไรผิด ๆ ที่สำคัญเธอไม่อยากให้ความหวังกับตัวเอง เพราะกลัวความผิดหวังที่จะตามมา

************************

ตลอดสายของวันวาเลนไทน์วันที่คนมีคู่ทั้งหลายคงใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุข แต่สำหรับพิชญธิดาแล้วเธอแทบจะไม่มีสมาธิในการทำงานใด ๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์รายงานการประชุมที่ค้างคาอยู่ หรือการตรวจเอกสารที่ส่งมาจากแผนกต่าง ๆ ของโรงแรมและจากบริษัทในเครือทั้งหลายเพื่อให้ท่านประธานกรรมการลงนาม แม้ว่าเธอจะพยายามอ่านเอกสารเหล่านั้นหลายต่อหลายรอบแล้วก็ตามแต่ไม่มีสิ่งใดได้ผ่านหัวสมองของเธอเข้าไปเลย เพราะทุกครั้งที่พิชญธิดาเหลือบไปเห็นเจ้าช่อกุหลาบช่อโตพร้อมการ์ดสีชมพูหวานที่มีข้อความสั้น ๆ เขียนอยู่ซึ่งเป็นตัวต้นเหตุของความสับสนในใจเธอนั้น เธอก็รู้สึกหน้าร้อนผ่าวจนลืมงานตรงหน้าไปจนหมดสิ้น นอกจากนั้นเธอแทบไม่รู้ตัวเองเลยว่าคอยเหลือบมองเวลาบนนาฬิกาฝาผนังสลับกับคอยเฝ้ามองประตูห้องของเจ้านายแทบจะทุกนาที และทันทีที่เสียงประตูห้องเจ้านายเปิดออก พิชญธิดาถึงกับสะดุ้งตัวโยนแล้วจึงรีบหันหลังให้กับประตูทันที เธอรีบก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารในมือโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างใด ๆ ทั้งสิ้นเหมือนกับโลกนี้มีเธอเหลืออยู่เพียงคนเดียว

?คุณอัณณ์ครับ พร้อมจะไปทานข้าวหรือยังครับ? วิชญ์ถามทั้ง ๆ ที่พิชญธิดายังยืนหันหลังให้เขาอยู่

?เอ่อ....คุณวิชญ์หิวแล้วหรือคะ อัณณ์ยังทำงานไม่เสร็จเลยค่ะ? พิชญธิดายังคงเสียมารยาทยืนพูดหันหลังให้เจ้านาย

วิชญ์อดขำไม่ได้เมื่อเห็นอาการประหม่าของพิชญธิดาเพราะเขารู้สาเหตุดีว่าเกิดจากอะไร

?คุณอัณณ์ครับ นี่จะเที่ยงแล้วนะครับ หิวไม่หิวก็ต้องไปทานแล้วล่ะครับ เดี๋ยวค่อยกลับมาทำงานต่อนะครับ? วิชญ์ไม่พูดเปล่าเขายังคว้าข้อมือของพิชญธิดาแล้วลากให้เดินออกมาจากบริเวณโต๊ะทำงานของเธอ เพื่อให้เธอได้หันมาประจันหน้ากับเขา ณ นาทีนั้นเองเขาจึงได้เห็นเต็มสองตาว่าตอนนี้หน้าตาของหญิงสาวตรงนั้นแดงแป๊ดขนาดไหน

?ตกลงคุณอัณณ์จะไปทานข้าวกับผมไหมครับ? วิชญ์ถามพร้อมจ้องมองใบหน้าหวานของพิชญธิดาที่มีริมฝีปากบางได้รูปซึ่งเขาอยากจะมอบจุมพิตหวาน ๆ ให้ตั้งแต่นาทีแรกที่ได้รับรู้จากเมธปรียาว่าวรปรัชญ์ไม่ใช่คนรักของเธอ และเธอก็ยังไม่มีคนรัก ?โสดสนิทเลยค่ะ เพราะเจ้าวรปรัชญ์จัดการกับคนที่เข้ามาจีบน้องอัณณ์ซะเรียบ ไม่มีใครหลงเหลือมาถึงน้องอัณณ์หรอกค่ะ เจอเจ้าปรัชญ์คาบไปรับประทานซะก่อน?

พิชญธิดาได้แต่พยักหน้าหงึก ๆ ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกจากปากแม้แต่คำเดียว ซึ่งแค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับวิชญ์ เขาจึงจูงมือหญิงสาวให้ก้าวเดินตามเพื่อไปยังลิฟต์โดยปราศจากเงาของบอดี้การ์ดทั้งสอง ?ก็วันวาเลนไทน์นี่นา จะเอาก้างไปขวางคอทำไม? ห้องทำงานจึงว่างเปล่ามีเพียงช่อดอกไม้แสนสวยกับการ์ดสีหวานถูกทิ้งไว้บนโต๊ะทำงานของเลขาฯคนสวยที่กุมหัวใจเจ้านายสุดหล่อซะอยู่หมัด


************************

Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

Re: ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ตอนที่ 7 โดย....อาทิตา

โพสต์ โดย Gals »

ดำเนินเรื่องเร็วดีค่ะ เพราะเปิดเรื่องมาพระเอกก็ตกหลุมรักนางเอกสาวเข้าจังเบ้อเร่อเลย :) ภาษา การบรรยายลื่นไหลดี อ่านไม่ค่อยมีติดขัด บทสนทนาก็ดูเป็นธรรมชาติดีค่ะ ได้อ่านจากบทนำที่เกริ่นไว้ว่าจะมีเรื่องแก้แค้นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย มีทั้งรักทั้งแค้นแบบนี้แสดงว่าในเรื่องน่าจะต้องมีซีนอารมณ์เยอะพอสมควร อยากอ่านค่ะ แล้วจะรออ่านตอนต่อไปนะคะ... :)

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”