เพียงแค่ถูกสัมผัส...ความร้อนผะผ่าวราวกับจะแผดเผาเขาไปทั่วร่างก็แทรกซึมมาตามเนื้อหนัง เสียงหัวใจสะท้อนก้องในอกอัดแน่นจนจวนจะระเบิด และพอรู้สึกตัวอีกที เขาก็เห็นมือ...ไม่ใช่สิ ขาหน้าของตัวเองลอยเด่นเหนือสายตา จนเป็นเหตุให้ต้องซ่อนตัวอย่างปัจจุบันทันด่วน
ใครช่วยบอกเขาหน่อยว่ามันเกิดอะไรขึ้น...
?นายเป็นหมาอีกแล้วฮีโร่?
?แง่ง!? {รู้แล้วน่า!} ฮีโร่ตวาดเสียงใส่คนที่มาทักด้วยท่าทีร่าเริง ผิดกับเขาที่มีเรื่องวุ่นๆ อยู่ในสมองเต็มไปหมด
?ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าห้ามนายไปเดินเพ่นพ่านในสภาพแบบนี้? แองจี้ถอนหายใจหนัก วางถุงอาหารที่เขาซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตลงบนโต๊ะกลางร้านที่น่าจะเรียกได้ว่า...ไม่เคยมีลูกค้า...
ฮีโร่ไม่คิดต่อปากต่อคำ แค่นี้เขาก็มีเรื่องยุ่งยากกวนสมองมากพอแล้ว หมาป่าหนุ่มพ่นลมออกมาเบาๆ เอาหน้าวางราบลงกับพื้นโต๊ะที่เขาจับจองเป็นที่พักผ่อนในตอนนี้
?นายคิดอะไรอยู่เหรอ?? เสียงทุ้มที่ถามขึ้น ทำเอาฮีโร่เหลือบสายตาคู่คมไปมองหน้าคนที่ดูเหมือนจะรับรู้ถึงความว้าวุ่นใจของเขาในตอนนี้
{ก็หลายๆ เรื่อง} ฮีโร่ส่งเสียงครางงึมงำพอให้อีกฝ่ายจับใจความได้
?ก็ไอ้หลายรื่องของนายนั่นแหละ มันเรื่องอะไรบ้าง?
{ยุ่ง!}
?ถึงฉันจะยุ่ง แต่นายก็ไม่ปฏิเสธใช่มั้ยล่ะ ว่าฉันน่าจะช่วยนายได้ อย่างน้อยฉันก็เป็นรุ่นพี่นายเรื่องหมาป่านี่ก็แล้วกัน? แองจี้ว่า แล้วมันก็ถูกต้องตรงเผ็งเสียด้วยสิ ก็หลายๆ เรื่องที่เขากังวลอยู่ส่วนใหญ่มันก็เป็นรื่องหมาๆ นั่นล่ะ
{ฉันรู้สึก...ผิดปกติตอนเป็นหมาป่า...}
?ผิดปกติเหรอ??
{มันก็ไม่เชิง แบบว่ามันมีอะไรหลายๆ อย่างที่ควบคุมไม่ได้...อย่างเช่น วันก่อนตอนที่มีเรื่องกับพวกโจรที่ฉันเล่าให้ฟังน่ะ ตอนนั้นฉันโกรธมากจนไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไปบ้าง รู้อีกทีก็ทำร้ายคนไปแล้ว} ฮีโร่บอกอย่างสำนึกผิด...ความจริงเขาก็ไม่ได้นึกจะทำร้ายโจรพวกนั้นขนาดนั้นหรอก แต่ด้วยสถานการณ์ที่มันพาไป และอารมณ์ที่พลุ่งพล่านจนกู่ไม่กลับ ทำให้เขาทำรุนแรงถึงขั้นควักลูกตาเจ้าโจรคนนั้นออกมา
แองจี้มองสภาพคอตกแววตาเศร้าสร้อยของฮีโร่อย่างเห็นใจ เขาเลื่อนเก้าอี้เข้ามาใกล้ ใช้มือหนากอดคอนุ่มๆ ของเจ้าหมาที่กำลังเคร่งเครียดแน่น
?ฉันจะบอกให้ฟังนะฮีโร่...พวกเราจะมีหลายสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปไม่ใช่แค่ร่างกาย พลกำลังจะเพิ่มขึ้นมากมายมหาศาล ฝีเท้าที่เบาขึ้นจนไร้เสียง ประสาตสัมผัสจะไวขึ้นหลายสิบเท่า มีสัญชาตญาณที่ทำให้เรารู้ล่วงหน้าในบางเรื่อง ร่างกายจะสมานแผลด้วยตนเองทิ้งไว้เพียงร่องรอยแผลเป็น ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นกับเราอย่างค่อยเป็นค่อยไป จนในที่สุดเราจะชินกับการเป็นมนุษย์หมาป่า พวกเรามีความสามารถเหนือมนุษย์ธรรมดาทุกอย่าง...และนั่นก็ทำให้อารมณ์ของเราทวีความรุนแรงขึ้นตามอำนาจที่ได้รับ แต่สิ่งเดียวที่จะสงบความพุ่งพล่านของอารมณ์ของเราได้มีเพียงอย่างเดียว?
{อย่างเดียว?}
?ใช่ มันคือสติ!?
{สติ?}
?มันอาจจะฟังดูยากหน่อยสำหรับเด็กอย่างนาย แต่มันเป็นสิ่งเดียวที่พวกเราต้องหัดและควบคุมมันให้ได้ เพื่อที่จะไม่ให้เกิดเรื่องอย่างที่นายไม่อยากให้เกิดอีกไงล่ะ แม้นายจะไม่โดนลงโทษหรือพิพากษาว่ามีความผิดเพราะคนอื่นเขาคิดว่านายเป็นหมา หากแต่ความผิดยังคงตามวนเวียนอยู่ในความคิดของนายตลอดเวลาใช่มั้ยล่ะ?
ฮีโร่พยักหน้ารับ...เขารู้สึกอย่างที่แองจี้ว่าจริงๆ
ชายหนุ่มยิ้มอ่อนโยนยามเห็นหมาป่าตัวน้อยยอมรับกับความผิดที่เขาเป็นคนก่อ...ผิดกับผู้ใหญ่บางคนที่ชอบปัดป้ายความผิดให้พ้นตัว...
?เอาเถอะฉันมีคล็ดลับง่ายๆ ในการสร้างสติ?
ฮีโร่รีบยกหูสูงอย่างสนอกสนใจ
?ก่อนจะทำอะไรใคร ให้นายท่องชื่อคนที่นายรักสิบครั้ง แล้วถามตัวเองว่าอยากให้เขามาเห็นนายตอนกำลังทำแบบนี้มั้ย ถ้าคำตอบออกมาว่า ?ใช่? ก็ลงมือเลย?
{มันง่ายอย่างนั้นเลยเหรอ!}
?ง่ายไม่ง่ายก็ลองทำดูสิ? แองจี้ยิ้มเจ้าเล่ห์จนฮีโร่ไม่แน่ใจว่าควรจะเอาวิธีนี้ไปใช้ดีหรือไม่...เขาอาจจะโดนหลอกอีกก็ได้
ฮีโร่ชั่งใจอยู่ครู่ใหญ่ก่อนตอบ
{แล้วฉันจะลองดู} แม้จะเป็นเสียงครางงึมงำแบบไม่หนักแน่นนัก แต่ก็ทำเอารอยยิ้มอบอุ่นฉายชัดบนใบหน้าคมของแองจี้
{เอ่อ...แล้วแผลเราจะหายเองเสมอเลยเหรอ?}
?ใช่ แผลเราจะหายเร็วมาก เลือดออกไม่ถึงสามหยดก็จะหายสนิทเลยล่ะ แต่ก็มีอาวุธอันตรายอยู่บ้างก็พวกแร่เงินนั่นล่ะ ยิ่งกระสุนเงินลงอาคมนายยิ่งต้องระวังให้ดี โดนเข้าไปเจ็บสุดๆ เลย ดีไม่ดีอาจไม่สมประกอบ? แองจี้เตือนพลางยื่นหน้าเข้ามามองจี้ที่คอของฮีโร่ใกล้ๆ มือหนาเอื้อมมาจับลูบคลำอักษรนูนบนนั้นเบาๆ
{แปลว่าเราจะถูกฆ่าตายถ้าโดนกระสุนเงินยิงใช่มั้ย เหมือนในหนังเลยแฮะ!} ฮีโร่อุทานด้วยความตื่นเต้น แต่กลับทำให้แองจี้ชะงักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาฮีโร่ชัดๆ
?เราจะไม่ตายฮีโร่? เสียงทุ้มนั้นเรียบเฉย แต่หนักแน่นในคราเดียวกัน
{นายหมายความว่าไง?}
?พวกเราเป็นอมตะ จนกว่า...?
{จนกว่า?} ฮีโร่ครางเป็นคำถามเมื่อเห็นแองจี้นิ่งเงียบไป
?จนกว่าทายาทคนสุดท้ายในตระกูลผู้ถือคำสาปจะตาย?
{ตระกูลถือคำสาปอะไร? ทายาทอะไร?} หูปุกปุยลู่ลงยามสงสัยในสิ่งที่อีกฝ่ายพูดออกมา
แองจี้มีท่าทีลังเลนิดๆ ก่อนจะยอมเอ่ยปาก
?เอ่อ...ฉันจะเล่าให้ฟังคร่าวๆ ก็แล้วกัน คือต้นสายของคนที่กัดฉันน่ะเป็นมนุษย์หมาป่าโดยการโดนคำสาปของแม่มด ไม่ใช่จาการรับเชื้อแบบทั่วๆ ไปที่จะหายก็ต่อเมื่อฆ่าคนที่กัดเราได้ แต่การโดนสาปจะเป็นการพันธนาการชีวิตผู้ถูกสาปเอาไว้กับตระกูลของผู้สาปหรือผู้ถือคำสาป ต้องเป็นทาสหรือปกป้องคนในตระกูลผู้สาปให้มีชีวิตรอดต่อไป เพราะนั่นก็หมายความถึงชีวิตของตัวเองด้วย และจะเป็นอมตะจนกว่าจะสิ้นสายเลือดในตระกูลผู้ถือคำสาป ถ้าเชื้อสายของผู้ถือคำสาปคนสุดท้ายตายไปผู้ที่ถูกสาปเป็นมนุษย์หมาป่าก็จะต้องตายตาม...ตามกฏพันธสัญญาชีวิตของคำสาปมนุษย์หมาป่า? แองจี้อธิบายยาวเหยียดจนฮีโร่ได้แต่นั่งอึ้งกับข้อมูลใหม่ที่ได้รับ
{หมายถึง คนโดนกัดจะหายถ้าฆ่าคนที่กัด}
?ใช่?
{แล้วคนโดนสาปไม่มีวันหายและไม่มีวันตาย หากทายาทคนสุดท้ายในตระกูลที่สาปเขาไม่ตาย}
?เข้าใจถูกแล้ว เพราะฉะนั้นเราไม่สามารถตายตามใจชอบได้ ดังนั้นเลยต้องดูแลอวัยวะให้ครบสามสิบสองกันหน่อยอย่าพยายามหาเรื่องใส่ตัวเข้าใจนะ?
{แองจี้} ฮีโร่เรียกคนที่อธิบายเรื่องง่ายๆ ให้เข้าใจยากได้อย่างประหลาดเมื่อคิดอะไรขึ้นมาได้
?มีอะไร??
{แล้วทำไมนายไม่ฆ่าคนที่กัดนาย...ไม่ใช่สิ ทำไมไม่ฆ่าผู้ถือคำสาปคนนั้นซะล่ะ พอหมาป่าตัวที่กัดนายตายไปเพราะไอ้พันธะอะไรนั่น นายจะได้หายจากการเป็นมนุษย์หมาป่าไง ก็นายเคยบอกฉันว่านายถูกกัด...ไม่ใช่โดนคำสาปนี่นา} คำถามที่ทำเอาแองจี้สะอึก ก่อนจะนั่งนิ่งจ้องหน้าฮีโร่ครู่ใหญ่ราวกับกำลังค้นหาคำตอบที่ฟังดูดีที่สุด
?ฉันเคยบอกนายรึยังว่าคนที่กัดฉันเป็นผู้หญิง?
ฮีโร่พยักหน้า แองจี้ระบายยิ้มก่อนตอบคำถามด้วยแววตาที่ฮีโร่คิดว่า ไม่น่าไว้วางใจ
?ฉันเป็นสุภาพบุรุษ ไม่คิดทำร้ายผู้หญิงหรอก แล้วอีกอย่างฉันเป็นแบบนี้ก็สุขสบายดีอยู่แล้ว?
คำตอบที่ฮีโร่คิดว่ามันจะน่าเชื่อถือมากกว่านี้ถ้าแองจี้จะเลือกตอบว่า...เขาสู้ผู้ถือคำสาปคนนั้นไม่ได้...
คนร่างใหญ่ฮัมเพลงเริ่มลงมือจัดข้าวของที่ซื้อมาให้เข้าที่เข้าทาง โดยมีฮีโร่กระโดดลงจากโต๊ะแล้วเดินตามเขาไปติดๆ
{แองจี้}
?มีอะไร??
{แสดงว่าถ้านายโดนทำร้าย นายก็ตายได้ใช่มั้ย?}
?ถามทำไม?? แองจี้หันมามองหมาป่าร่างเพรียวด้วยสีหน้าแปลกใจ
{เอ่อ...ฉันแค่สงสัยว่าถ้าฉันฆ่านาย ฉันจะหายมั้ย?} ฮีโร่เอียงหน้าขึ้นมองสี้ยวหน้าที่ขรึมลงถนัดตาของแองจี้ แล้วรีบว่าต่อ {ฉันแค่สมมติน่ะ!}
?ไม่หายหรอก?
{หา!}
?บังเอิญว่าเชื้อของฉันมันแรงมาก นายน่ะโชคร้ายที่โดนฉันกัด เลยเป็นข้อยกเว้น...นายจะไม่หายแม้ฉันจะตายก็ตาม? แองจี้ยิ้มเศร้าราวสำนึกผิด ก่อนจะก้มหน้าก้มตาจัดเนื้อสดเข้าในตู้เย็นต่อไป ทิ้งฮีโร่ที่มีหลายร้อยคำถามอยากถามเขา แต่ก็อ้าปากถามออกไปไม่ได้...
เช้าวันนี้แปลกไปกว่าทุกวัน...
ฮีโร่กะพริบตาถี่เพื่อดูให้แน่ใจว่าคนที่มายืนดักรอเขาอยู่หน้าร้านแองจี้จะเป็นคนเดียวกับที่เขาเห็นจริง
?วิฬาร์!!!?
?ใช่ ฉันเอง เมื่อวานนายหายตัวไปได้ยังไง?? ร่างบางยืนกอดอกจ้องเขาด้วยดวงตากลมโตคู่สวยหวานหากแลดูเอาเรื่องในคราเดียวกัน
?ฉัน...เอ่อ...ฉันมีธุระ? ตอบพลางเบือนสายตาไปทางอื่นอย่างมีพิรุธ
?ไม่ใช่! ฉันหมายถึงนายหายตัวไปต่อหน้าต่อตาฉันได้ยังไงต่างหาก? เมื่อเธอเริ่มคาดคั้น ฮีโร่ก็เริ่มกรอกตาขึ้นข้างบนอย่างหาทางรอด ข้ออ้าง คำโกหก หรืออะไรก็ได้ที่จะช่วยให้เขาหลุดพ้นจากการสอบปากคำครั้งนี้!
?ก็ฉัน...เอ่อ...ฉัน...?
?นายทำไม!? เสียงแหลมดังกรีดบาดแก้วหูของเขาไปชั่วอึดใจทำเอาฮีโร่ต้องยกมือขึ้นป้องหูแน่น
?มายา...กล...ใช่แล้ว ฉันก็แค่เล่นกล แค่นี้ดูไม่ออกรึไง? ฮีโร่โต้กลับเมื่อได้ที ?ถ้าเข้าใจแล้วก็หลบไปสักที ฉันอยากจะไปโรงเรียนเต็มแก่แล้ว!? ฮีโร่เดินหลีกร่างบางที่ขวางอยู่ตรงทางเข้าร้าน ก่อนรีบจ้ำเดินไปตามทางมุ่งหน้าไปยังโรงเรียน ความจริงเขาอยากจะหนีหน้าใครบางคนแถวนี้มากกว่า
?มายากลอะไรของนายอยู่ๆ จะหายตัวไปเฉยๆ แบบนั้นน่ะนะ? และใครบางคนที่ว่าก็ยังตามตื้อไม่เลิก เธอเดินจ้ำไล่กวดเขามาติดๆ จ้องหน้าเขาตาไม่กะพริบ
?ฉันไม่เชื่อหรอกว่านายจะเล่นกลได้เก่งแบบนั้น ตอบฉันมาดีกว่าว่านายทำอะไรกันแน่?
?ฉันบอกไปแล้ว เธอจะไม่เชื่อก็ตามใจ มันเรื่องของเธอ!? ฮีโร่กระแทกเสียงอย่างโมโหฉุน
?ใช่ ฉันไม่เชื่อ? วิฬาร์ย้ำคำหนักแน่น จนเขานึกอยากจะหันไปกระโดดงับคอเข้าให้ นี่ถ้าไม่เห็นแก่ความหลังในอดีต (ที่ไม่มีอะไร) นั่นนะ เขาจะแกล้งเธอให้ตกใจกลัวจนไม่กล้าเจอหน้าเขาอีกเลย...ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้ ?มีดีแค่สวย?
?...? ไม่ต่อปากต่อคำ แต่ฝีเท้ากลับเร็วขึ้นตามความรู้สึกรำคาญที่เพิ่มมากทุกขณะ
?เดี๋ยว! รอก่อน นาย...ฮิวอี้...?
และนั่นยิ่งทำให้เขาทำหูทวนลมได้สบายยิ่งขึ้น ฮีโร่ลดความเร็วลงจนป็นปกติ หากระยะห่างที่นำออกมานั้นไกลเกินกว่าที่จะทำให้ฝ่ายตามเดินตามได้อย่างสบาย...วิฬาร์ก้าวขาเรียววิ่งสุดกำลังหวังตามคนที่นำไปไกลให้ทัน
?แฮมมี่...ไม่ใช่สิ ฮัมบ้า...ฮ...? เสียงหายใจหอบฮักของเธอทำเอาฮีโร่มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก...อยู่ๆ ก็มีดาวโรงเรียนมาวิ่งตามเขาต้อยๆ แบบนี้...มันรู้สึกดีชะมัด!
แต่ความสุขมักอยู่กับเราได้ไม่นานนัก
?กรี๊ดดด!!!? เสียงแหลมหวีดขึ้นดังลั่น
ฮีโร่ชะงักฝีเท้าหันไปมองทางต้นเสียงด้วยความตกใจ แต่แล้วนัยน์ตาสีมรกตวาววับก็มองตัวต้นสียงด้วยความฉงน
?ร้องอะไรของเธอ?? เขาถามเด็กสาวที่สาวเท้าเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว
?ก็นายอยากไม่สนใจฉันทำไมล่ะ...ฉันเรียกนายอยู่นะ!?
?ฉันไม่เห็นได้ยินเธอเรียกชื่อฉันเลยนี่? คิ้วหนายกขึ้นเชิงล้อเลียน และนั่นทำให้ดวงหน้าสวยใสยิ่งแดงก่ำราวกับจะระเบิดด้วยความโกรธที่ไม่ได้ดั่งใจ...ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงยอมตามใจเธอเหมือนที่คนอื่นๆ ทำ แต่ในเมื่อตอนนี้เธอได้เผยตัวตนด้านหนึ่งให้เขาได้รู้ (และเป็นตัวตนที่เขาไม่ชอบและยอมรับไม่ได้)...เขาก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำเหมือนคนอื่นๆ นี่นา...
?ก็นาย...แฮปปี้!?
นั่นไงล่ะ ชื่อที่เธอเพียรจะตั้งให้เขา ทั้งๆ ที่เขาก็มีชื่อให้เธอเรียกอยู่แล้วแท้ๆ
ฮีโร่หันขวับเดินต่อตั้งใจจะละความสนใจเกี่ยวกับคนที่เดินจ้ำตามมาไม่ห่าง แต่หูของเขายังจดจ่อที่จะฟังเสียงหวานๆ เรียกชื่อมั่วๆ นั่นต่อไป
?นายไม่มีสิทธิ์มาหันหลังให้ฉันนะ! ฮัมมี่...ฮาบี้...หยุดนะ!? คำต่อว่าสลับกับชื่อเรียกแปลกๆ ทำอาฮีโร่อดหัวเราะขำวิฬาร์ไม่ได้...ก็ใครใช้ให้เธอตลกขนาดนี้ล่ะ...
?ห้ามนายหัวเราะนะ...หยุด หยุดเดี๋ยวนี้!? เธอออกคำสั่ง กระทืบเท้าเร่าๆ และท่าทางแบบนั้นยิ่งทำให้เขา...หัวเราะ
?กรี๊ดดดด!!!? เสียงแหลมแผดร้องตามมาอีกระลอก แต่คราวนี้เขาไม่คิดจะหันกลับไปดูหรอก เขารู้แล้วว่ายัยคุณหนูวิฬาร์ทำไปเพื่อเรียกร้องความสนใจ
แต่เสียงและกลิ่นบางอย่างที่สัมผัสได้ ทำให้ฮีโร่ต้องเปลี่ยนความคิดกระทันหัน
?ช่วยด้วย ฮีโร่...อุ๊บ!?
นัยน์ตาคู่คมตวัดกลับไปมองยังต้นเสียงด้วยความรวดเร็ว ภาพร่างบางไร้สติกำลังถูกชายร่างใหญ่คนหนึ่งลากขึ้นรถตู้ที่มีคนขับรออยู่อย่างใจจดใจจ่อ และข้างกันนั้นยังมีหญิงสาวคอยตะโกนออกคำสั่งอีกด้วย ไวเท่าความคิดฮีโร่กระโดดไปยังเบื้องหลังของชายผู้ก่อการ ปลายเท้าสะบัดหมายซัดไปยังสะบักหลังของมันทันที
เปรี้ยง!!!
เสียงที่ดังขึ้นทำเอาร่างสูงของฮีโร่สะดุ้งเฮือกด้วยแรงที่มาปะทะ ความเจ็บค่อยๆ แผ่ซ่านจากจุดเล็กๆ ตรงหน้าอกขยายออกไปทั่วทุกส่วนในร่างกาย...เขาล้มตึงลงกระแทกพื้นอย่างจังจนเห็นภาพทุกอย่างเลือนไป
?ไอ้บ้า! แกยิงเด็กกลางถนนกลางวันแสกๆ อย่างนี้ได้ยังไง รีบลากขึ้นรถมาเลยนะแก อย่าให้ใครเห็นร่องรอย!? เสียงแหบของผู้หญิงหนึ่งเดียวในกระบวนการก่อการร้ายต่อว่าคนขับรถตู้ที่ชักปืนออกมายิงคนที่มาขัดขวาง
ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือคราวซวยของพวกมันกันแน่ ที่บริเวณนั้นไม่มีคนเดินผ่านมาแม้แต่คนเดียว...
รถตู้สีเทาค่อยๆ ชะลอเครื่องยนต์จนดับสนิทลงหน้าบ้านไม้สองชั้นเก่าผุหลังหนึ่ง นัยน์ตาคมสีมรกตวาววับจับจ้องผู้ร้ายทั้งสามในความมืดมิดที่แสงไม่อาจส่องผ่านม่านหนามาถึงข้างในอย่างไม่ให้พวกมันรู้ตัว...เขาแกล้งทำเป็นสลบไสลไม่ได้สติมานานพอตัว บาดแผลค่อยๆ หายไปตามกาลเวลา หากที่น่าเป็นห่วงคือเพื่อนสาวที่นอนไม่ได้สติถูกมัดมือมัดเท้าอยู่ข้างๆ เขาต่างหาก
หลายชั่วโมงผ่านไปแล้ว แต่วิฬาร์ยังไม่ได้สติ แม้กระทั่งขยับตัวสักนิดก็ไม่มี...
ฮีโร่มองดวงหน้าใสที่หลับตาพริ้มอย่างหนักใจ
เธอโดนยาสลบ...นั่นเป็นสิ่งที่เขาแน่ใจ เพราะกลิ่นอีเทอร์เหม็นฉุนนั่นมันฟ้องออกขนาดนี้ แต่นี่มันนานเกินไปรึเปล่าสำหรับการโดนโปะยาสลบ...
?เอาพวกมันไปขังไว้ในห้องข้างบน ล็อคกุญแจไว้ด้วย เย็นนี้ฉันจะโทรไปติดต่อพ่อแม่ของยัยคุณหนูนี่เอง? หญิงสาวคนเดิมออกคำสั่ง
?พี่ครับ แล้วไอ้เด็กผู้ชายนี่ล่ะ?
?มันตายรึยัง??
เจ้าคนถามเดินตรงมาเปิดประตูด้านหลังออก ก่อนเอามือมาสัมผัสชีพจรตรงต้นคอเขา
?ยังเลยพี่...สงสัยยิงไม่ตรงจุด?
?งั้นก็เอาไปขังรวมกันนั่นแหละ ถ้าไม่ตายจะได้เอาไปเรียกค่าไถ่หรือเอาไปขายก็ยังดี แต่ถ้าตายค่อยเอาศพไปเผาทีหลัง? ว่าแล้วหญิงสาวก็หัวเราะชอบใจ
?จะรวยกันใหญ่แล้วนะ? เสียงทุ้มของชายคนขับรถดังแทรกเสียงหัวเราะรื่นเริงของหญิงสาว ขณะที่ชายร่างใหญ่กำลังอุ้มวิฬาร์ขึ้นบ่า แล้วกำลังจะดึงร่างของฮีโร่ออกมาจากรถ
?แน่นอนอยู่แล้ว ยัยเด็กนี่เป็นลูกสาวคนเดียวของมหาเศรษฐีใหญ่ เรียกเงินเท่าไหร่มันก็ต้องได้สิ ป้าฉันบอกว่าวันก่อนมันนะจัดงานลี้ยงวันเกิดให้ตัวเองซะใหญ่โต หมดเงินหมดทองไปมากกว่าที่เราใช้ค่อนชีวิตซะอีก?
?แล้วป้าเธอรู้ได้ยังไง??
?ก็ป้าฉันทำงานเป็นแม่บ้านใหญ่อยู่ที่นั่นนี่นา ไม่รู้จะทำงานรับใช้พวกนั้นงกๆ ไปทำไม สู้หาเงินทางลัดแบบนี้เจ๋งกว่าตั้งเยอะ?
?ยังไงก็ช่างเถอะ อย่าลืมส่วนแบ่งฉันก็แล้วกัน?
ฮีโร่ได้ยินทั้งหมดที่พวกนั้นพูดกันอย่างชัดเจน แม้จะถูกลากเข้าไปในบ้านตั้งไกลแล้ว หากแต่หูของเขายังคงไว้ซึ่งความพิเศษในแบบของหมาป่า
เขานึกถึงหญิงวัยกลางคนที่เป็นแม่บ้านใหญ่ของคฤหาสน์แสนสวยของวิฬาร์ ท่าทางของเธอนั้นดูจริงจังและเคร่งครัดกับงานที่ทำอยู่มาก และเธอคงทำงานสุจริตนั้นด้วยความภาคภูมิ แม้จะบ่นว่าเบื่อแต่ก็ยังตั้งหน้าตั้งตาทำด้วยความตั้งใจ...ทว่าหลานสาวที่นับถือเธอเป็นป้า กลับดูถูกงานที่ป้าของตัวเองทำอย่างขะมักเขม้นเพียงเห็นแค่ว่า ทางหาเงินแบบผิดกฏหมายที่กำลังทำอยู่นั้น...ง่ายและสบายกว่า...
คุณตาเคยสอนเขาว่า ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ โดยไม่อาศัยความพยายาม...แต่ในบางเรื่องเขาไม่เห็นต้องพยายามก็ได้รับมาเต็มๆ ก็ไอ้เชื้อหมาบ้านี่ไงล่ะ!
เพราะฉะนั้นเขาจึงเชื่อว่า ของดีๆ ที่จะได้มาโดยไม่อาศัยน้ำพักน้ำแรง...มันไม่มีจริงหรอก...
แผ่นไม้กระดานที่ถูกทับถมด้วยฝุ่นหนาผ่ายสายตาเขาไปตลอดเส้นทาง ร่างของเขาถูกลากขึ้นบันไดไปตามแรงอันมหาศาลของคนร่างใหญ่ รู้สึกเจ็บระบมทุกครั้งที่กระแทกโดนสิ่งกีดขวางหรือโดนเสี้ยนแหลมทิ่มตำ แต่อึดใจเดียวความเจ็บนั้นก็บรรเทาหายกลายเป็นความชาหนึบและความรู้สึกราวกับรู้ตัวดีว่าแผลเหล่านั้นได้หายไปแล้ว...
กับเขาที่แผลสามารถหายเองได้ยังเจ็บขนาดนี้ แล้วถ้าเธอต้องมีบาดแผลที่ต้องใช้เวลาเยียวยานานกว่าเขาตั้งหลายเท่าตัวจะเจ็บขนาดไหน...และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เขายอมข่มความเจ็บแกล้งสลบไสลเพื่อความปลอดภัยทั้งของตัวเองและของวิฬาร์
ประตูไม้อัดถูกเปิดออกก่อนที่ชายร่างใหญ่จะเดินพาร่างบางที่พาดอยู่ที่หัวไหล่กว้างของตนเข้าไปพร้อมๆ กับลากร่างของฮีโร่เข้าไปด้วย พอเห็นที่เหมาะๆ เจ้าคนร้ายก็วางร่างเบาบางของวิฬาร์ลงอย่างที่ไม่ค่อยทะนุถนอมสักเท่าไหร่ และเขาก็พนันได้เลยว่ายัยวิฬาร์จะต้องลุกขึ้นมาบ่นว่าหัวเธอปูดโนไปหลายวันแน่ๆ
ส่วนร่างของเขาก็ถูกปล่อยทิ้งไว้กลางห้องนั่นเอง เขายังแอบดีใจอยู่หน่อย ก็ตรงที่ไม่ได้ถูกแบกมาแล้วโยนลงกับพื้นดังโครมแบบวิฬาร์
ห้องโล่งสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีทางเข้าออกทางเดียว ไม่มีทั้งหน้าต่างและช่องทางหนี ถูกปิดลงทันทีที่เจ้าคนร่างใหญ่ก้าวออกจากห้องไป
ฮีโร่รีบลุกขึ้นนั่ง ขยับร่างที่เมื่อยขบและฟกช้ำไปทั้งตัว ก่อนจะหาทางปลุกพื่อนร่วมทางที่ดูจะไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรบ้างเลยว่ากำลังถูกลักพาตัวมาเรียกค่าไถ่อยู่
มือหนาเอื้อมไปสะกิดร่างบางเบาๆ
เพียงแค่สัมผัส...จะเพราะยาสลบหมดฤทธิ์หรือพราะแรงสะกิดก็ไม่อาจทราบได้ ตาคู่โตก็ปรือเปิดและเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจเมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้า
ฮีโร่คู้ตัวลงด้วยความรู้สึกร้อนผ่าวราวกับจะแผดเผาเขาไปทั่วร่าง หัวใจถูกบีบอัดจนลมหายใจกระตุก เหงื่อกาฬไหลลงมาหยดย้อมดวงหน้าคมที่กำลังแปรเปลี่ยนห่อหุ้มไปด้วยขนหนาสีน้ำตาลอ่อนดกครึ้ม ร่างสูงบางของมนุษย์ถูกบิดเบือนโครงร่างจนกลายเป็นร่างเพรียวแบบหมาป่าในเสี้ยววินาที
วิฬาร์มองภาพตรงหน้าด้วยความตกตะลึง ความเงียบสงัดเข้าครอบคลุมทุกอณูในห้องสี่เหลี่ยม...ไม่มีแม้กระทั่งเสียงลมหายใจ
ดวงตาคมจ้องมองดวงหน้าใสเขม็ง เดาว่าเธอคงกลั้นหายใจแบบแกล้งตายเวลาเจอหมี...แต่ก็นั่นล่ะ เขาไม่ใช่หมีสักหน่อย!!!
หมาป่าขยับตัวเพียงแล็กน้อย แต่ทำให้ร่างบางสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ วิฬาร์มองเขาด้วยแววตาหวาดกลัวแกมระแวงซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เขากลัวที่จะได้เห็นมันจากมีอา...แต่แค่วิฬาร์ก็ทำให้เขารู้สึกแปลกแยกมากพอจนไม่กล้าจะสาวเท้าเข้าไปใกล้
เขาไม่ใช่คนธรรมดาอีกต่อไป...อาจเป็นสัตว์ร้ายหรือปีศาจในสายตาคนอื่นเลยด้วยซ้ำ...
เมื่อคิดได้ว่า เธอคงรังเกียจ ฮีโร่จึงค่อยๆ ถอยห่างเดินไปยังมุมห้องก่อนทิ้งตัวลงนอนเพื่อครุ่นคิดหาทางออกหรือไม่ก็หาทางกลับคืนสู่สภาพเดิมให้เร็วที่สุด
เขารู้วิธีการทำให้ตัวเองกลายร่างเป็นหมาป่า (ยกเว้นตอนถูกตัวยัยวิฬาร์) แต่เขาไม่เคยรู้วิธีกลับร่างเป็นมนุษย์ ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมาจะพบว่า...ตัวเขากลายเป็นมนุษย์เรียบร้อยแล้ว...
?เอ่อ...ฮักกี้...? เสียงเรียกนั้นเบาราวกับจะกระซิบ แต่ก็ทำให้เขาเบือนหน้าแหลมๆ ไปยังต้นเสียง
?นี่มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ??
ดูเธอถาม...แล้วเขาในสภาพ (หมา) แบบนี้จะตอบอะไรได้ไหมนั่น!
ฮีโร่พ่นลมหายใจพรืดใหญ่จนฝุ่นคลุ้งกระจายก่อนเบือนหน้าซบลงกับขาหน้าของตัวเองด้วยความหงุดหงิด
?แกะเชือกนี่ให้หน่อยสิ? เธอยื่นมือและขาที่ถูกมัดมาข้างหน้า แต่เจ้าตัวถูกขอร้องกลับเมินเฉยซุกหน้าเข้ากับมุมของห้องต่อไป
?นาย...งอนเหรอ?? คำถามที่ทำเอาคนขี้งอนต้องหันขวับไปมองคนกล่าวหาแทบจะทันที
?หมาที่บ้านฉัน เวลาถูกดุหรืองอนขึ้นมาทีไรก็จะเอาหน้าซุกตามมุมอย่างนายนี่แหละ?
?แง่ง!? {ไม่ใช่โว้ย!}
ฮีโร่ส่งสียงขัดใจ...เขาไม่ใช่หมานะ เอ่อ...อย่างน้อยก็ไม่ได้เป็นตลอดเวลาก็แล้วกัน!
?ฉันไม่รู้หรอกนะว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฉันจำได้แต่ตอนที่ถูกโปะยาเท่านั้นเอง ฉันเห็นนายวิ่งมาแล้วก็สลบไป นี่เราคงถูกจับตัวมาใช่มั้ย??
ไม่ใช่ ?เรา? แต่เป็น ?เธอคนเดียว? ต่างหาก...ฮีโร่อยากตอบแต่ทำได้เพียงส่งเสียงงึมงำ
เขาเป็นแค่ของแถมที่บังเอิญไปเสนอหน้ายุ่งเรื่องชาวบ้านจนพาลซวยเท่านั้นเอง
?คงเป็นเรียกค่าไถ่อีกล่ะสิ? คำพูดที่ทำเอาฮีโร่ยกหูสูงด้วยความสนใจ
วิฬาร์มองหมาป่าที่เริ่มสนใจเธอบ้างแล้วส่งยิ้มจาง ?ฉันโดนบ่อยน่ะ ตั้งแต่เด็กๆ แล้ว อย่างที่นายรู้นั่นแหละที่บ้านฉันรวย พ่อแม่ทำธุรกิจใหญ่โต คนรู้จักเยอะ ศัตรูก็เยอะตามไปด้วย ฉันเลยเจอเรื่องแบบนี้เป็นสิบครั้ง...ฉันอุตส่าห์คบเพื่อนไว้เยอะๆ เผื่อมีเหตุการณ์ร้ายๆ พวกเขาจะได้ช่วยฉันทัน แต่นายเชื่อมั้ยว่าทุกครั้งที่เกิดเหตุ ทุกคนกลับหนีหายด้วยความกลัว มีคนแค่สองคนที่ยอมเสี่ยงเข้ามาช่วยฉัน?
ฮีโร่สบตาคู่โตหวานของวิฬาร์ด้วยความสงสัย
?ก็...นายกับมีอาไง ขอบใจนะ? เธอส่งยิ้มกว้างสดใสแต้มประดับใบหน้านวลอมชมพูด้วยความจริงใจ
เขาเริ่มรู้สึกว่าบางที...สิ่งที่เขาใช้ตัดสินเธอมันอาจจะผิด...
นิสัยบางอย่างไม่สามารถใช้ตัดสินความเป็นตัวตนทุกอย่างได้...
ท่าทีเอาแต่ใจกราดเกรี้ยวที่แสดงออกมันกลบลบความอ่อนหวานและจริงใจใสซื่อที่อยู่ข้างในจนแทบมองไม่เห็น แต่หากค้นดูดีๆ แล้วจะพบว่า วิฬาร์ก็มีส่วนที่น่ารักแบบนั้นอยู่เหมือนกัน...
{ก็...ไม่เป็นไรหรอก} ฮีโร่ส่งเสียงบอก ก่อนจะลุกขึ้นสะบัดฝุ่นออกจากตัว แล้วค่อยๆ เดินวนไปรอบห้องใช้จมูกสำรวจกลิ่นโดยทั่ว
?นายทำอะไรน่ะ หาทางออกเหรอ?? วิฬาร์เดินมายืนใกล้ๆ ที่ๆ ฮีโร่หยุดสำรวจกลิ่นนานเป็นพิเศษ
หน้าแหลมๆ หันมาพยักหน้าให้เธอทีหนึ่ง ก่อนจะใช้ปลายเท้าเคาะไปตรงฝาผนังไม้ตรงหน้าเบาๆ แต่เพียงเท่านั้นไม้เก่าๆ ก็ทะลุเปิดทางให้แสงสว่างจากภายนอกส่องผ่านเข้ามา
?โห! บ้านหลังนี้เก่าชะมัดเลย นายพังกำแพงเลยได้รึเปล่า แล้วนายก็พาฉันกระโดดลงไปข้างล่าง เราจะได้กลับบ้านกันสักที? วิฬาร์เสนอแผนการที่ฟังดูไม่เข้าท่าเอาเสียเลย...ขืนพังกำแพงสุ่มสี่สุ่มห้ายัยวิฬาร์จะได้ลงไปนอนตายกับซากบ้านถล่มแน่ๆ
หลังจากทนอัดอั้นกับการสื่อสารที่ไม่ค่อยรู้เรื่องกันมานาน ฮีโร่เลยตัดสินใจใช้ปลายเล็บคมขูดขีดลงบนพื้นหนาด้วยฝุ่นเป็นคำว่า ?บ้า?
ดวงหน้าใสเป็นสีอมชมพูเข้มเมื่ออ่านจบ ?นายหมายความว่าไง!?
ฮีโร่เอาปลายเท้าแตะไปที่คำเดิมที่เขียนไว้ {ก็หมายความว่าบ้าน่ะสิ}
แล้วเขาก็เขียนต่อ ?หาทางเป็นคนให้ได้ก่อน?
?แล้วต้องทำยังไงล่ะ??
ฮีโร่ส่ายหน้า {ไม่รู้สิ}
?แล้วนายกับมีอาจะเหมือนกันมั้ย??
แล้วมันกี่ยวอะไรกับมีอาด้วยล่ะเนี่ย...ฮีโร่ฟังคำถามของวิฬาร์ด้วยความงุนงง ยังไม่ทันได้คิดอะไรไปมากกว่านั้นแขนเรียวที่ถูกพันธนาการไว้ของวิฬาร์ก็สวมเข้าที่หัวของเขาอย่างรวดเร็ว เธอรั้งต้นคอแล้วลากร่างเพรียวเข้าไปกอดแน่นพร้อมเสียงพึมพำเบาจับศัพท์ไม่ได้ที่ข้างหูปุกปุย
ความเย็นเยียบไหลบ่าออกมาจากกลางอกรินรดท่วมร่างจากศีรษะจรดปลายเท้า ชั่วครู่เดียวความยะเยือกนั้นก็บรรเทากลายเป็นความอบอุ่นที่แผ่เข้ามาแทนที่...ความอบอุ่นที่ไม่แน่ใจนักว่าได้มาจากร่างบางที่กอดเขาแน่นหรือเปล่า...
ฮีโร่กะพริบตาปริบ มองขาหน้าของตนเองที่แปรสภาพกลายเป็นมือมนุษย์ด้วยความงุนงง
?เธอทำอะไร...ทำไมถึงทำให้ฉันกลับมาอยู่ในร่างนี้ได้?? เขาละล่ำละลักถาม
?เดี๋ยวนะ นายช่วยตอบฉันก่อนได้มั้ยว่าตอนนี้นายอยู่ในสภาพไหน??
?สภาพ?? ว่าแล้วฮีโร่ก็ก้มมองร่างตัวเองด้วยความสงสัย แต่เมื่อเห็นว่าร่างกายนั้นเปลือยเปล่าเขาก็ร้องลั่นออกมาด้วยความตกใจ
?เฮ้ย!? ร่างสูงรีบผละออกจากร่างบางที่รีบหันหน้าไปทางอื่นด้วยสีหน้าแดงก่ำ มือหนารีบฉวยเสื้อผ้าที่หลุดออกไปตอนกลายร่างเป็นหมาป่ามาสวมใส่อย่างรวดเร็ว
?ฉะ...ฉันลืมไปว่าควรให้นายใส่เสื้อผ้าไว้ก่อน ฉันแค่อยากลองดูว่านายจะกลับร่างเดิมได้เหมือนมีอารึเปล่า? ร่างบางที่นั่งหันหลังให้ส่งเสียงอ้อมแอ้ม
?มีอาเหรอ?? ฮีโร่ชะงักมือที่กำลังติดกระดุมเสื้อเชิ้ตเอาไว้ ?เธอหมายความว่ายังไง??
?อ้าว! ก็นายกับมีอาเป็นแบบเดียวกัน?
ฮีโร่ ตอนที่ 7
Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี