Dangerous Boy !!! ยายแว่นสุดซ่าส์ VS นายบ้าหน้าหล่อ(ขั้นเทพ)

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
che-ri
โพสต์: 38
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 29 มิ.ย. 2008 10:55 pm

Dangerous Boy !!! ยายแว่นสุดซ่าส์ VS นายบ้าหน้าหล่อ(ขั้นเทพ)

โพสต์ โดย che-ri »

Dangerous Boy !!! ยายแว่นสุดซ่าส์ VS นายบ้าหน้าหล่อ(ขั้นเทพ) ^-^

ตอนที่ 7 ม.6/2

ก๊อก?ก๊อก?

เสียงเคาะประตูแล้วเปิดเข้ามาทำให้ผมกับอาจารย์ใหญ่หันไปมอง

?สวัสดีค่ะอาจารย์ใหญ่? อาจารย์ผู้หญิงใส่แว่นกรอบบาง แต่ตัวด้วยเสื้อเชิ๊ตกับกระโปรงทรงเอเรียบๆ ซึ่งผมคิดว่าอาจารย์น่าจะมีอายุอยู่ระหว่างสามสิบกว่าๆเดินตรงเข้ามา

?อ้าว! ? มาแล้วหรืออาจารย์ภัสสร นี่ไงนักเรียนใหม่ของคุณ? อาจารย์กล่าวกับผู้มาใหม่

? ค่ะ? อาจารย์ภัสสรหันมายิ้มให้ผม รอยยิ้มของอาจารย์ทำให้ผมคิดถึงแม่ผม เพราะมันช่างคล้ายกันเหลือเกิน ผมยกมือขึ้นทำความเคารพอาจารย์ที่ปรึกษาคนใหม่ของผม

?งั้นฝากอาจารย์ด้วยก็แล้วกันนะ? อาจารย์ใหญ่พูดกับอาจารย์ภัสสร

? ค่ะ.. งั้นดิฉันพานักเรียนคนใหม่ของดิฉันไปเข้าห้องก่อนนะค่ะเพราะตอนนี้ได้เวลาโฮมรูมแล้ว? อาจารย์บอกอาจารย์ใหญ่แล้วหันมายิ้มให้ผม

ผมเลยลุกขึ้นแล้วทำความเคารพอาจารย์ใหญ่อีกรอบก่อนจะเดินตามอาจารย์ภัสสรออกไป ซึ่งอาจารย์ก็ถามเกี่ยวกับผมคราวๆ ก่อนจะพาผมเข้าไปในห้อง ม.6/2

?อ้าวเด็กๆเงียบๆหน่อยจ๊ะ? อาจารย์ร้องบอกนักเรียนที่คุยกันและเล่นกันภายในห้อง เสียงอาจารย์ทำให้นักเรียนกลับไปยังที่นั่งของตัวเอง ?วันนี้ครูมีเพื่อนใหม่จะมาแนะนำ เพราะเขาจะมาเรียนที่นี่กับพวกเรา?

? เข้ามาสิจ๊ะ คอฟฟี่? อาจารย์ภัสสรเรียกผมซึ่งพอผมเดินเข้ามาในห้อง รู้สึกว่าเสียงที่เงียบอยู่เมื่อครู่จะเกิดเสียงดังขึ้น เพราะเกิดจากนักเรียนหญิงกระซิบกระซาบกัน

?ว้าว??.หล่อจังเลย? เสียงนักเรียนหญิงแถวหน้าที่มองคอฟฟี่ตาค้าง

?คนนี้ฉันจอง? เสียงนักเรียนหญิงอีกคนพูดขึ้น

?ใครบอกคนนี้ต้องเป็นของฉัน? เสียงของนักเรียนหญิงที่ดังมาจากหลังห้อง ทำให้ผมหันไปมอง ซึ่งคนที่พูดเป็นหญิงสาวหน้าตาน่ารัก ปากแดง แต่หน้าขาวซีดๆเหมือนคนไม่สบาย

แต่ถึงจะน่ารักอย่างไรผมก็ไม่สนใจหรอก เพราะผมเบื่อผู้หญิงที่เข้ามาหาผมเพราะหน้าตา หรือไม่ก็เพราะทรัพสมบัติของพ่อผมทั้งนั้น

?แนะนำตัวกับเพื่อนๆหน่อยจ๊ะ?

?ผม คอฟฟี่?ผมมองกวาดไปทั่วห้องก่อนจะกล่าวต่อ ?ย้ายมาจากคาเรียอินเตอร์ ยังไงก็ขอฝากตัวด้วย?

?งั้นคอฟฟี่ไปนั่งข้าง มรกตหัวหน้าห้องฝ่ายหญิงก็แล้วกัน? อาจารย์ชี้มือไปยังผมฟูที่นั่งอยู่หลังห้อง ซึ่งตอนที่ผมเดินผ่านได้ยินเสียงกระซิบอิจฉาหัวหน้าห้องฝ่ายหญิง

? หวัดดีเรา มิว เป็นหัวหน้าห้อง? หญิงสาวผมฟูยิ้มให้เขาอย่างมีไมตรี

? หวัดดีเราคอฟฟี่? ผมตอบกลับเพื่อนที่นั่งข้างๆ ก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะข้างหน้าต่าง ผมมองออกไปทางหน้าต่างของตึก 7 ชั้น ทำให้ผมมองเห็นชั้นดาดฟ้าที่ดูสงบและเงียบของอาคารทางด้านหลัง

?นั้นตึกอะไรเหรอ? ผมหันไปถามมิว

? อ๋อ!...ตึกเก่าน่ะได้ยินว่าอาจารย์จะทุบทิ้งแล้วสร้างอาคารใหม่นะ?

?งั้นที่นั้นก็ไม่มีคนนะสิ?

? ใช่เพราะตึกมันเก่าแล้ว อาจารย์กลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุ เลยสั่งห้ามไม่ให้เข้าไป แล้วก็มีคนเคนเห็นเอ้อ?.?

?อะไรเหรอ?

?เอ้อ?ก่อนที่จะปิดตึกมีเด็กตกตึกลงมาตาย อาจารย์เลยปิดตึกไม่ให้ใครเข้าไปอีก แล้วก็เลยมีคนลือว่าเห็นผีเด็กคนนั้นด้วย?

?ขอบใจน่ะ?ผมบอกพร้อมกับยิ้มให้มิวที่ไม่กรี๊ดกร๊าดผมเพราะหน้าตา

? ไม่เป็นไรหรอก แต่ว่านายถามทำไมเหรอ?

? เราเห็นก็เลยสงสัยนะ? ผมบอกมิวก่อนจะหันไปฟังอาจารย์ภัสสรพูดอยู่หน้าห้อง

แต่ผมก็รู้สึกรำคาญเด็กสาวคนนั้นที่ผมพึ่งรู้ชื่อทีหลังว่าชื่อ ไอวี่ เพราะเธอคอยหันมายิ้มให้ผมตลอดเวลา และพยายามจะพูดกับผมทุกครั้งเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนคาบเรียน

พอถึงเวลาพักกลางวัน ผมก็เห็น ไอวี่ กำลังเดินตรงมาทางผม ทำให้ผมรีบคว้ากระเป๋าแล้วออกทางประตูหลังห้องทันที

ถึง ไอวี่ จะเป็นเด็กผู้หญิงน่ารัก แต่ยังไงผมก็เป็นผู้ชายที่อยากจะเป็นฝ่ายล่ามากกว่าถูกล่า ผมจึงไม่ค่อยชอบผู้หญิงที่คอยวิ่งเข้าหาผม ถ้าเมื่อไรที่ถูกผู้หญิงพวกนี้วิ่งเข้าใส่ ผมก็จะเป็นฝ่ายวิ่งหนีแทน

ผมเดินไปยังตึกที่ผมเห็นอยู่ด้านหลัง ตอนที่ผมเข้าโฮมรูมเมื่อเช้า เพราะที่ตึกนี้คงไม่มีใคร เพราะมิวบอกว่าปิดตาย เพราะเกิดอุบัติเหตุจนทำให้นักเรียนเสียชีวิต

ซึ่งผมไม่กลัวหรอก เพราะชีวิตของผมที่ผ่านมา ก็เคยเข้าใกล้สิ่งที่ทุกๆคนกลัว นั้นก็คือความตาย แต่ในที่สุดผมก็ยังอยู่ เพราะเขาไม่ยอมให้ผมตาย

ผมเดินขึนไปยังชั้นดาดฟ้า แต่มีกุญแจคล้องอยู่โดยไม่ได้ล็อก ทำให้ผมขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้าได้

ที่นี่เงียบสงบอย่างที่ผมคิดไว้ไม่มีผิด ผมเอนตัวลงนอนที่เก้าอี้ยาวที่เจอ แต่มันคงอยู่ที่นี่มานานแล้วเพราะผมสังเกตเห็นสนิมที่เกาะอยู่รอบๆเก้าอี้ แต่ผมไม่รังเกียจมันเลย เพราะผมแค่ต้องการความสงบ ที่ปราศจากสิ่งรบกวน

แต่สิ่งที่ผมคิดก็ไม่เกิดขึ้น หลังจากที่ผมนอนมองฟ้า เพราะมันทำให้ผมคิดถึงสิ่งที่แม่ของผมบอกไว้

?คอฟฟี่คิดถึงคุณยายใช่ไหมลูก? คุณญาดาถามเด็กชายที่ร้องไห้เสียใจที่คุณยายจากไป

?ฮื่อ..ฮื่อ ?ครับ ผมคิดถึงคุณยายน้อย? เด็กชายวัย 5 ขวบ ร้องไห้พรางกอดคุณญาดาแน่น

? ถ้างั้นลูกก็มองไปบนท้องฟ้าสิ แล้วจะเห็นคุณยาย?

? จริงหรือครับ? เด็กชายเงยหน้าออกจากอ้อมกอดของมารดา แล้วมองขึ้นไปบนฟ้า ?แต่ทำไม ผมถึงมองไม่เห็นคุณยายละครับ? เด็กชายถามหลังจากที่มองหาแต่ไม่เจอ

? คอฟฟี่อาจจะไม่เห็นคุณยาย แต่คอฟฟี่จงรู้ไว้นะว่าคุณยาย จะคอยมองลูกอยู่ตลอดเวลา? คุณญาดาบอกพร้อมกัลูบหัวเด็กชายอย่างอ่อนโยน ?เมื่อไรที่ลูกคิดถึงคุณยายก็ให้มองขึ้นไปบนท้องฟ้า เพราะคุณยายอยู่บนนั้น และสักวันแม่ก็อาจจะมองดูลูกอยู่บนนั้นเหมือนกัน?

?แล้วแม่จะเอาผมไปด้วยไหมครับ? คอฟฟี่ถามอย่างสงสัย

?สักวันพวกเราทุกคนก็จะได้เจอกัน แต่เราอาจจะไม่ได้ไปพร้อมกันจ๊ะคอฟฟี่ลูกรัก แต่แม่กับคุณยายจะรอลูกอยู่บนนั้น?

?ทำไมละครับ ทำไมผมถึงไปพร้อมกับคุณแม่ไม่ได้?

? ไว้ลูกโตแล้ว ลูกก็จะรู้เองจ๊ะ?

แต่พอผมโตขึ้นจึงเข้าใจว่าแม่ หมายความว่าอย่างไร แต่ผมก็เชื่อแม่ที่ว่า แม่จะมองดูผมจากบนฟ้า ทำให้ผมมักจะมองท้องฟ้าตลอดเวลาที่ผมไม่สบายใจ

สายลมที่พัดมาเอื่อยๆ ทำให้ผมหลับตาลงอย่างสบายใจเป็นครั้งแรกที่ได้กับมาเมืองไทย แต่เสียงตะโกนของผู้หญิงที่ไหนไม่รู้ ทำให้ผมตื่น ผมมักจะหงุดหงิดเวลามีคนมากวนตอนผมหลับ







ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”