สายลมแห่งหัวใจ [Fic.จังหวะร็อค ดนตรีรัก] ตอนที่ 3

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
Ginger ale
โพสต์: 4
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. 05 มิ.ย. 2008 12:07 pm
ที่อยู่: บนโลกร้อนๆ
ติดต่อ:

สายลมแห่งหัวใจ [Fic.จังหวะร็อค ดนตรีรัก] ตอนที่ 3

โพสต์ โดย Ginger ale »

ตอนที่ 3



ก่อนเวลาเริ่มงานเลี้ยงฉลองก่อตั้งเมโทรเรคคอร์ดประมาณ 2 ชั่วโมง ราล์ฟยังไม่ได้เตรียมตัวไปงานแม้แต่น้อย เขากับดีนยังคงติดต่อเพื่อนร่วมงานที่อเมริกาเพื่อจัดเตรียมข้อมูลใหม่ตามที่บริษัทญี่ปุ่นที่เขาต้องการร่วมทุนขอข้อมูลมา

โครนอส เป็นบริษัทวิศวกรรมยานยนต์เล็กๆที่ราล์ฟกับเพื่อนๆร่วมกันก่อตั้งขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน เพื่อสานต่อความฝันสมัยเรียนที่จะสร้างไฮบริดคาร์ที่ไม่ต้องพึ่งพาน้ำมันเชื้อเพลิงจากปิโตรเลียมให้สามารถใช้งานได้จริง รวมถึงการพัฒนาให้เป็นเทคโนโลยีที่แพร่หลายและมีราคาถูก

เนื่องจากเป็นบริษัทเล็กๆ ที่ประกอบด้วยวิศวกรเป็นส่วนใหญ่โดยมีดีนเป็นหัวเรี่ยวหัวแรง งานด้านการบริหารจึงตกเป็นของราล์ฟ และมีนาตาชาแฟนของดีนดูแลด้านกฎหมายควบตำแหน่งผู้จัดการอีกหนึ่งตำแหน่ง ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงต้องทำงานจนหัวหมุน

ยิ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนที่จะเจรจาร่วมทุนกับบริษัทรถยนต์เพื่อสร้างรถต้นแบบที่สามารถผลิตออกจำหน่ายได้ จึงต้องทำงานหนักขึ้นอีกหลายเท่า แต่ราล์ฟก็ยินดีที่จะทำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อให้ทั้งงานของบริษัทโครนอสและบริษัทเกรเซอร์ประสบความสำเร็จอย่างที่ควรจะเป็น

ราล์ฟไม่ได้สนใจธุรกิจบันเทิงมากไปกว่าการเป็นสิ่งที่เขาต้องทำและสามารถทำได้ดี อาจเป็นเพราะว่าบริษัทเกรเซอร์เป็นอาณาจักรที่พ่อของเขาสร้างขึ้นมาไว้แล้ว เขาเพียงแต่เข้าไปสร้างความมั่งคั่งมั่นคงให้มากขึ้นเท่านั้นเอง แม้ว่าการเข้าไปบริหารงานแทนจะไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ความตื่นเต้นท้าทายในช่วงเริ่มก่อร่างสร้างตัวได้หมดไปแล้ว ทำให้ราล์ฟคิดที่จะสร้างอาณาจักรของตัวเองขึ้นมาบ้าง

อาณาจักรที่มีความฝันซึ่งเคยถูกเกรเซอร์แย่งชิงไป

ลูพาร์ท เกรเซอร์ อาจจะรู้เรื่องที่เขาตั้งบริษัทโครนอสขึ้น แต่ตราบใดที่ราล์ฟทำงานได้อย่างไม่บกพร่อง พ่อของเขาก็จะไม่เข้ามายุ่งเรื่องนี้ แต่ถ้าให้พูดตรงๆ ราล์ฟก็ไม่อยากให้พ่อรู้ความเกี่ยวข้องของเขากับโครนอส จึงหลีกเลี่ยงที่จะใช้ชื่อตัวเองในนามบริษัทโครนอสมาตลอด แต่หลังจากได้เซ็นสัญญา ราล์ฟตั้งใจว่าเขาจะไม่ปิดบังเรื่องนี้อีก

เสียงนาฬิกาปลุกที่ราล์ฟตั้งไว้ดังขึ้น แสดงว่าอีกครึ่งชั่วโมงจะถึงเวลาเริ่มงานเลี้ยง เขาต้องไปเตรียมตัว ไปงานซึ่งจัดที่ห้องบอลรูมของโรงแรมที่เขาพักอยู่

"ฝากจัดการต่อด้วยนะ งานเลี้ยงเลิกแล้วจะกลับมาช่วย"

"เออ นายรีบไปเถอะ" ดีนรับคำก่อนจะเอ่ยปากแซว "งานยุ่งอย่างนี้เลยไม่มีเวลาทำใจก่อนไปพบน้องชายเลยล่ะสิ"

ราล์ฟที่กำลังจะเปิดประตูหยุดชะงัก หันกลับมาตอกใส่ดีนซึ่งยุ่งไม่เข้าเรื่อง

"ถ้าว่างมากนักก็ รีบๆทำงานไปเลย อย่ามายุ่งเรื่องของฉัน"



เมื่อใกล้จะถึงเวลาเริ่มงาน ราล์ฟจึงเดินออกจากห้องพักเพื่อลงไปที่สถานที่จัดงาน ขณะที่กำลังเดินไปที่ลิฟต์ หญิงสาวในชุดราตรีสีแดงเพลิงเข้ารูปชายกระโปรงยาวกรอมเท้าก็สะดุดพื้นพรมแล้วก็ถลาล้มมาทางราล์ฟ ชายหนุ่มรีบเข้าไปประคองไว้ไม่ให้ล้ม

"ขอโทษค่ะ" หญิงสาวคนนั้นพูดออกมาเป็นภาษาญี่ปุ่น

ราล์ฟที่นิ่งไปเพราะสะดุดใจกับผมสีน้ำตาลจึงรู้สึกตัว เอ่ยตอบเบาๆเป็นภาษาเดียวกันว่า

"ไม่เป็นไร"

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองคนที่มาช่วยพยุงตนเองไว้ เพราะว่ายังคงมึนจากการสะดุดล้ม ดังนั้นเมื่อเห็นนัยน์ตาสีฟ้าที่คุ้นเคยจึงทำท่าจะเข้าไปกอดด้วยความดีใจ

"เจอแล้ว ซาคุยะซังอยู่นี่เอง"

ราล์ฟจับต้นแขนเธอเบาๆแล้วดันให้ออกห่างจากตัวเขา ไม่นึกว่าตัวเองจะได้เจอผู้หญิงของซาคุยะก่อนที่จะได้เจอเจ้าตัว แถมยังเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นซาคุยะเสียอีก

"ผมเหมือนซาคุยะขนาดนั้นเชียวหรือ"

สาวญี่ปุ่นผมสีน้ำตาลคนนั้นผงะด้วยความตกใจ เธอหน้าแดงด้วยความอายที่ทักคนผิด แถมยังจะไปกระโดดกอดฝรั่งที่ไม่เคยรู้จักเสียอีก จึงอุทานคำขอโทษเป็นภาษาอังกฤษแล้วก็รีบวิ่งหนีไป

ราล์ฟมีท่าทางงงๆ เพราะตั้งตัวไม่ทัน

"อ๊ะ คุณ..."

เขาตั้งใจจะรั้งเธอไว้เพื่อสอบถามเรื่องซาคุยะ แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว พอจะเดินตามไปก็เหลือบไปเห็นต่างหูสีทองประดับทับทิมหล่นอยู่บนพรม

ราล์ฟก้มลงไปหยิบ แล้วอดเปรยไม่ได้ว่า

"ฮึ... ยังกับซินเดอเรลล่าเชียวนะ"



ราล์ฟกล่าวเปิดงานเลี้ยงเป็นภาษาญี่ปุ่นอย่างคล่องแคล่ว สร้างความประทับใจกับผู้ที่อยู่ในงานอย่างมาก นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดีราวกับนายแบบและผมสีทองเป็นประกาย นัยน์ตาสีฟ้าที่สงบนิ่งยากจะหยั่งถึงนั้นทำให้เขาดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะในฐานะผู้ชายคนหนึ่งหรือบทบาทนักธุรกิจไฟแรงที่เขากำลังแสดงอยู่

ส่วนเรื่องภาษาญี่ปุ่นคงต้องยกความดีให้ดีน ที่ตั้งหน้าตั้งตาพูดภาษาญี่ปุ่นกับเขาทั้งที่ตอนนั้นเขายังไม่ได้เริ่มเรียนด้วยซ้ำ แถมยังทำหน้าเยาะๆเวลาเขาฟังไม่รู้เรื่อง ทำให้ราล์ฟฮึดเรียนจนพูดได้คล่องในเวลาไม่ถึงสองปี คราวนี้เวลาคุยกันดีนตอนอยู่อเมริกาเขาก็มักจะคุยเป็นภาษาญี่ปุ่น เพราะบางเรื่องก็ไม่ต้องการให้คนอื่นมาสอดรู้สอดเห็น
เมื่อกล่าวเปิดงานเรียบร้อย ราล์ฟก็ไปพูดคุยกับแขกที่มาร่วมงาน การสนทนาดำเนินไปด้วยดี เพราะราล์ฟรู้ภูมิหลังของแขกที่มาในงานทั้งหมด ทำให้เขาสามารถสร้างบทสนทนาที่ลื่นไหลได้อย่างไม่ยาก

ขณะที่กำลังพูดคุยกับผู้กว้างขวางในวงการสื่อสารมวลชนท่านหนึ่ง ราล์ฟเหลือบไปเห็นหญิงสาวเจ้าของต่างหูที่เขาเก็บไว้กำลังดื่มค็อกเทลอยู่ จึงเอ่ยขอตัวกับคู่สนทนา แล้วเดินตรงไปหา

"คุณคนเมื่อกี้" ราล์ฟทัก

เขาไม่รู้จักชื่อของเธอ เพราะไม่ได้อยู่ในรายชื่อแขกที่เชิญมา ถ้าให้เขาเดา ผู้หญิงคนนี้ก็คงมากับซาคุยะนั่นแหละ

หญิงสาวในชุดแดงละสายตาจากคนที่เธอมองอยู่ หันมาหาราล์ฟ ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยฤทธิ์น้ำเมา ดวงตาหวานฉ่ำดูยั่วยวน

ราล์ฟประหลาดใจมากกว่าจะรู้สึกหลงเสน่ห์คนที่เขาคิดว่าเป็นคู่ควงของซาคุยะที่เมาอยู่คนเดียว ในขณะที่ฝ่ายชายล้อมรอบไปด้วยสาวๆทั้งดารานางแบบ เพื่อพิสูจน์ข้อสันนิษฐานของตัวเองจึงถามว่า

"ผู้ชายตัวสูงๆที่ยืนเด่นอยู่ทางโน้นเป็นแฟนของคุณเหรอ?"

"คงงั้นมั้ง... แต่คงจะเรียกว่าแฟนได้" เธอตอบด้วยความสับสนในใจ

ราล์ฟสงสารเธอที่ถูกคู่ควงทิ้งๆขว้างๆ แล้วตัวเองไปเป็นเดือนท่ามกลางหมู่ดาว ปล่อยให้ฝ่ายหญิงต้องมาดื่มเหล้าแก้ช้ำใจ ยิ่งมองดวงตาเศร้าๆนั้นมากเท่าไร ยิ่งทำให้หัวใจของเขาเต้นแบบแปลกๆมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อเห็นเธอยังกรอกค็อกเทลอย่างไม่ยั้งมือ ราล์ฟจึงเอ่ยห้าม

"อย่าดื่มเยอะอย่างนั้นสิ"

ราล์ฟเข้าไปประคองทันทีเมื่อเห็นหญิงสาวไม่ได้สติ พยายามเรียกให้ฟื้นคืนสติ

"คุณ ไหวหรือเปล่า?" เขาหันไปบอกพนักงาน "ขอน้ำที เร็วเข้า"

เมื่อรับแก้วน้ำมา ราล์ฟพยายามจะให้เธอกินน้ำเพื่อเรียกสติ แต่น้ำที่กรอกเข้าไปก็ไหลออกหมด

"ทำใจดีๆไว้" ราล์ฟใช้มือที่ประคองอยู่เขย่าตัวเธอเบาๆ

แล้วแก้วน้ำในมือก็ถูกชายหนุ่มผมดำแย่งไป ผู้ชายคนนั้นอมน้ำไว้ในปากแล้วค่อยๆป้อนหญิงสาวอย่างช้าๆ พร้อมกับคว้าตัวเธอจากราล์ฟมาอยู่ในอ้อมแขนตัวเอง

ราล์ฟสบตากับนัยน์ตาสีฟ้าของหนุ่มผมดำคนนั้น เขาลุกขึ้นมองอีกฝ่ายที่กำลังอุ้มหญิงสาวที่เมาไม่ได้สติเดินจากไป

"ตามหมอไม่ดีกว่าเหรอ" ราล์ฟเสนอ

ซาคุยะหันกลับมามอง ตอบปฏิเสธอย่างไม่ไว้หน้า

"แค่ดื่มเหล้ามากไปเท่านั้น นายไม่ต้องยุ่งหรอก"

ราล์ฟรู้สึกไม่พอใจในความไร้มารยาทของซาคุยะ อย่างน้อยด้วยคุณวุฒิและวัยวุฒิ ซาคุยะก็ไม่ควรพูดกับเขาอย่างนี้ เขาจึงเดินเข้าไปใกล้แล้วพูดกับซาคุยะเบาๆ

"พูดจาเย็นชาเหลือเกินนะ เจอกันครั้งแรกก็พูดกับพี่ชายแบบนี้เชียวเหรอ"

"ฉันไม่เคยคิดว่านายเป็นพี่ชาย" ซาคุยะตอกกลับทันควัน แล้วหันหลังเดินจากไป

ราล์ฟมองตามด้วยความลำบากใจ บางทีการพาซาคุยะกลับไปพบพ่ออาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว


............................................................................



ตั้งแต่ช่วงกลางๆเอามาจากในการ์ตูนทั้งหมด(เพราะกะว่าจะให้เป็น side story)จะโดนแจ้งละเมิดลิขสิทธิหรือเปล่าเนี่ย ^^ หรือว่าแค่เป็นแฟนฟิคมันก็ละเมิดลิขสิทธิแล้ว? ใครรู้บ้าง

Ginger ale
โพสต์: 4
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. 05 มิ.ย. 2008 12:07 pm
ที่อยู่: บนโลกร้อนๆ
ติดต่อ:

โพสต์ โดย Ginger ale »

ไปอ่านต่อในเวบเด็กดีนะคะ
http://my.dek-d.com/Writer/story/view.php?id=418226

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”