ตอนเย็นหลังจากเลิกเรียนเกตต์ได้เดินไปยังรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่เมื่อเช้านี้ ทันใดนั้นก็มีคนเดินตามเกตต์มาอย่างประชิดตัว เกตต์จึงหันหลังมาทันที
...โธ่เอ่ยยายมาริสานั้นเอง...ฉันตกใจหมด...
?นี่ตามฉันมาทำไมอีกนะ?เกตต์ชักรู้สึกรำคาญมาริสามากเพราะวันนี้มีทั่งได้นั่งเรียนใกล้กัน กินข้าวยังกินด้วยกันอีกธรรมดาเกตต์ทำอะไรคนเดียวตลอดตอนนี้ได้รู้จักผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอช่วยไว้รู้สึกแปลก ๆ ยังไงชอบกล
?ใครว่าฉันตามฉันก็จอดมอเตอร์ไซค์แถวนี้เหมือนกันนะ?เกตต์รู้สึกหน้าเสียขึ้นมาทันทีว่าตัวเองคิดไปเองหรือเนี้ยจากนั้นมาริสาก็ขับมอเตอร์ไซค์ออกไปทันทีตามด้วยเกตต์ เกตต์ขับมอเตอร์ไซค์ไปเรื่อย ๆ โดยมีมาริสาขับมอเตอร์ไซค์นำหน้าอยู่ เกตต์รู้สึกว่าท้องฟ้ายามเย็นวันนี้ดูสวยจังแดดอ่อน ๆ ทอประกายท้องที่เคยเป็นแดดจ้ามาตอนเย็นกลับกลายเป็นสีเหลืองอ่อน
เอียด!!
ขณะที่เกตต์ชมท้องฟ้าอยู่นั้นรถมอเตอร์ไซค์คันหน้าได้เบรกกะทันหันจนรถมอเตอร์ไซค์ของเกตต์เกือบเบรกไม่ทัน
?นี่จะเบรกก็บอกกันบ้างซิ?ยังดีนะที่เกตต์เบรกทันไม่งั้นหัวทิ้มขมัมแน่ แต่ทำไมยัยนั้นถึงเบรกกะทันหันขนาดนั้นนะ เกตต์จึงขับมอเตอร์ไซค์ไปหามาริสาทันทีว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า
?มีอะไรนะ อยู่ดีดีก็เบรก ถ้าฉันหัวทิมขมัมไปจะว่ายังไงห๊ะ?
?ดูโน้นซิเกตต์พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินละ ป๊ะเร็วไปดูพระอาทิตย์ตกกันสวยดีออกนะ?มาริสาจอดรถแล้วจูงมือเกตต์ไปดูพระอาทิตย์ตกดิน ทั้งที่เจ้าตัวยังไม่เอ่ยปากตกลง เพราะเกตต์ไม่มีเวลาว่างขนาดนั้น ต้องไปทำงานส่งของอีกนี่นา พอมาถึงที่หมายเกตต์มองขึ้นไปบนฟ้าตอนนี้กลับทำให้ทุกอย่างว่างเปล่า เหลือแค่เกตต์ กับบรรยากาศที่สวยงามตอนนี้ ทันใดนั้นเกตต์มองไปข้าง ๆ กายที่มีคนถือวิสาสะจับมือตนอยู่อย่างกระชับ เธอจึงเปลี่ยนความคิดใหม่ คือมีฉัน บรรยากาศโดยรอบ
...และมาริสาที่จับมือฉันอยู่คนนี้...
จะทำไงได้ก็พระอาทิตย์วันนี้มันทั้งสวยน่าดูจริง ๆ เกตต์ไม่รีรอจอดรถแล้วเดินตามมาริสาไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินข้าง ๆ ทางเพราะข้างทาง มันเป็นหญ้าที่ขึ้นไม่มากแล้วด้านหน้าถ้ามองออกไปจะเป็นทุ่งนา แล้วถ้าทุ่งนาผสมกับแดดยามเย็นที่สาดส่องมายังทุ่งนาละก็ดูสวยไปอีกแบบ
?ท้องฟ้าวันนี้ดูสวยนะว่าไหม?มาริสาถามอย่างยิ้มแย้มเหมือนเธอมีความสุขมากที่ได้มาดูท้องฟ้ายามเย็นแบบนี้
?อืม ก็สวยดี...ทำไมเธอมาบ่อยเหรอ?เกตต์ตอบเออออไปกับมาริสา ทั้งที่เธอก็ไม่ค่อยชอบสายลม แสงแดดสักเท่าไรนัก
?ก็มาดูทุกวันนั้นแหละแต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่มาดูกับ...เพื่อนของฉัน?ประโยคนั้นคำว่าเพื่อนที่มาริสาพูดขึ้นทำให้เกตต์ถึงกับชะงักว่ามาริสามองเธอเป็นเพื่อนจริง ๆ เหรอ แต่เกตต์ ก็เฉย ๆ ไม่ได้พูดโวยหรือพูดปฏิเสธออกมาแต่อย่างไร ฉันเนี้ยนะเพื่อน ลองคบกับฉันดูก่อนเถอะแล้วเธอก็จะเสียใจ
...ที่คบกับคนอย่างฉัน...
มาริสาพูดแล้วมองหน้าเกตต์ก็ไม่สบอารมณ์เท่าไร ทำให้มาริสาคิดว่าเกตต์ไม่อยากที่จะให้เธอเป็นเพื่อนด้วย ก็คงจะเป็นอย่างนั้น เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ตัวเธอเองไม่เคยมีเพื่อนเลยซักคน ถ้าจะถูกปฏิเสธการเป็นเพื่อนกันตอนนี้ก็คงจะ
...ไม่แปลกอะไร...
?ถึงแม้เธอจะไม่เห็นฉันเป็นเพื่อนก็ไม่เป็นไร รู้ไหมฉันฝันอยากมีเพื่อนอย่างเธอมานานแล้วที่เข้มแข็งไม่ยอมคนเพราะฉันอยากเป็นเหมือนเธอบ้างพ่อฉันเคยสอนนะว่าให้เป็นคนเข้มแข็งอย่าอ่อนแอเพราะว่าฉันขี้โรค ชอบป่วยอยู่เป็นประจำ?มาริสาพูดพร้อมกับน้ำตาที่ค่อย ๆ ไหลรินอาบแก้ม
?แต่ฉันก็ทำไม่ได้เลยซักอยากจะทำตัวให้เข้มแข็งขึ้นยังทำไม่ได้เลยทั้งที่ฉันอุคสาสัญญากับพ่อก่อนตายไว้แล้วว่าจะเข้มแข็งแต่ก็ทำไม่ได้เลย หือ ๆ ๆ?ตอนนี้มาริสาร้องไห้อย่างไม่อายใคร แม้กระทั่งหญิงที่เธอเพิ่งรู้จักเพียงวันเดียว
?น่าอายจริง ๆ ที่ต้องร้องไห้ต่อหน้าเธอ เธอคงจะเบื่อฉันมากเลยล่ะสินะ?มาริสาพูดไปร้องไห้ไปพร้อมกับปาดน้ำตาที่ไหลรินอาบแก้มอยู่นั้นทำให้เกตต์ต้องเขยิบตัวเข้าไปใกล้ ๆ มาริสา
แต่เกตต์ก็ทนไม่ได้เลยจะต้องพูดปลอบมาริสาให้หยุดร้องไห้
?แต่เธอก็ยังดีนะที่มีพ่อเคยสอน?มาริสาได้ถอดแว่นแล้วนำผ้าเช็ดหน้าที่เกตต์ให้ปาดน้ำตา เกตต์เห็นอย่างนั้นถึงกับอึ้ง
...โอ้โหถอดแว่นแล้วก็ดูน่ารักดีนี่...
?แล้วพ่อแม่ของเธอละเค้าไปไหนเหรอ?เกตต์ได้ยินก็อยากจะรู้อยู่เหมือนกัน แต่ฉันเองก็ไม่รู้หรอกว่าพ่อของฉันตอนนี้อยู่ที่ไหนเป็นตายร้ายดียังไง
?ไม่รู้สิขนาดหน้าตาฉันยังไม่เคยเห็นเลยรู้แต่ว่าพ่อฉันนะเป็นนักดนตรี รู้ไหมเค้าทิ้งกีตาร์ไว้ให้ฉันแค่ตัวนึง พอมาถึงตอนนี้มันเป็นสิ่งสำคัญของฉันไปแล้ว ส่วนแม่ก็ทิ้งฉันไปตั้งแต่ฉันอายุแค่ 4 ขวบตอนนี้ฉันก็อยู่กับยายนะ?เกตต์เล่าเรื่องราวของตัวเองให้มาริสาฟัง
ฉันนะทั่งทีเกิดมาจนทุกวันนี้ มาริสาเธอเป็นเพียงคนเดียวที่ได้ฟังเรื่องราวที่ฉันเล่าเป็นครั้งแรก เพราะฉันยังไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเลย เธอเป็นผู้รู้คนที่สามนอกจากฉันและยาย
?แล้วไอ้ที่เธอบอกว่าอยากเข้มแข็งเหมือนฉันนะทำไม่อยากหรอก แค่เธอคิดว่าไอ้คนที่มันทำเธอนะ เค้าทำผิดต่อเธอ ทำผิดกับคนอื่น เราก็ต้องสั่งสอนอย่าเกรงกลัวว่าสิ่งที่เธอทำมันผิด ต้องคิดว่าสิ่งที่เธอจะทำว่าผลที่ออกมามันถูกต้อง แล้วที่เธอพูดว่าเธออ่อนแอนะเพราะว่าเธอไม่อยากมีเรื่องให้เค้าทำ ๆ เธอไปเดี๋ยวเรื่องก็จบมากกว่า...ใช่ไหม?เกตต์พูดจบก็ทำให้มาริสาคิดหนัก ฉันจะทำได้เหรอเกตต์คนอย่างฉันนะคนที่อ่อนแอ ไม่สู้คนอย่างฉันเนี้ยจะทำได้เหรอ ไม่มีทาง
เกตต์ทำหน้าเศร้ามากไม่เหมือนกับเกตต์คนเก่าที่ดูเข้มแข็งไม่ยอมคนตอนนี้เห็นได้ชัดเลยว่าเกตต์นะจิตใจบอบบางแค่ไหน บัดนี้มาริสาได้รู้แล้วว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเธอนั้นถึงแม้ร่างกายภายนอกจะดูเข้มแข็ง แต้ข้างในหารู้ไม่ว่าจิตใจอ่อนระทวยแค่ไหน
----------------------------------------------------
บัดนี้แสงแดดยามเย็นได้ลับขอบฟ้าไปแล้วแต่ก็ยังมีดวงจันทร์ที่ส่องประกายระยิบระยับได้ขึ้นสู้ฟากฟ้าเพื่อมาแทนที่พระอาทิตย์ที่ลับขอบฟ้า ถึงแม้แสงของดวงจันทร์ในยามค่ำคืนจะสู้แสงพระอาทิตย์ในยามเช้าไม่ได้แต่แสงจันทร์ก็ได้ส่องสว่างนำพามาริสาสองคนได้ขับมอเตอร์ไซค์ไปตามทางเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านของตน
เกตต์ขับมอเตอร์ไซค์มากับมาริสาเพื่อจะกับบ้านหลังจากที่ได้ดูพระอาทิตย์ตกดินตรงข้างทางที่เธอได้ขับผ่าน พอสักพักก็ขับมาเรื่อย ๆ จนถึงทางแยกสองทาง ทั้งสองคนก็จอดรถมอเตอร์ไซค์ทันที
?บ้านฉันไปทางนี้น่ะ?มาริสาพูดพร้อมกับชี้ทางไปบ้านเธอ
?ฉันไปก่อนนะ?เกตต์บอกลามาริสาเพราะหลังจากนี้เราต้องแยกจากกันแล้ว
?เกตต์...เจอกันพรุ่งนี้นะ?เสียงตะโกนของมาริสาได้ยินถึงหูของเกตต์ทำให้เกตต์หันมา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร จากนั้นเกตต์ก็ขับรถมอเตอร์ไซค์กลับบ้านของตน
...เฮ้ยทำยังไงดีกลับบ้านมีหวังยายสับหัวเละแน่ ก็วันนี้ฉันยังไม่ได้ไปส่งของอีกแล้ว...
เกตต์ขับรถมาถึงบ้านแล้วรีบขึ้นไปบนบ้านทันทีเพราะไม่อยากได้ยินเสียงบ่นจากยายเพราะวันนี้ตัวเองได้ไปดูพระอาทิตย์ตกจนเพลินลืมตัวว่าต้องไปส่งของวันนี้เกตต์เลยเสียงาน
...แต่มันก็คุ้มเพราะมันไม่อาจแลกกับความสุขที่เธอได้มาวันนี้...
-----------------------------------
ณ บ้านเรียว
เรียวได้มีคนมารับมาส่งไปโรงเรียนทุกวันเพราะเป็นกฎของพ่อที่ว่างไว้ว่าต้องไปโรงเรียนและกลับบ้านตรงเวลาเพราะเรียวเป็นถึงลูกเจ้าของโรงเรียนและลูกจ้าของบริษัทหุ้นที่ใหญ่โตของประเทศจะต้องทำตัวให้เหมาะสมกับฐานะชาติตระกูล แต่วันนี้เรียวได้หนีกลับบ้านเองเพราะต้องอยู่ซ้อมดนตรีกับเพื่อนมันเป็นธรรมดาที่พ่อของเค้าจะต้องดุต้องว่ากล่าวตักเตือนในเหตุที่เรียวทำผิดกฎที่ตนวางไว้
?กลับมาแล้ว?เสียงเรียวพูดเหมือนคนที่เหนือมากแล้วอยากจะพักผ่อนเรียวจึงจะขึ้นไปข้างบน
?แกไปไหนมา ทำไมไม่กลับรถที่ฉันส่งไป แล้ววันนี้ก็เหมือนกันคนรถบอกว่าตอนเช้าเค้าจอดไฟแดงอยู่ดี ๆ แกก็หนีออกไปจากรถ ยังไม่พอวันนี้ยังไปโรงเรียนสายอีก?เสียงปาโมทย์พ่อของเรียวที่นั่งรอลูกชายอยู่บนโซฟา ตามความคิดของเรียวเปะที่เค้ากลับมาพ่อต้องว่าเค้าแน่
?รู้สึกว่าจะมีคนรายงานคุณอยู่ตลอดเวลาเลยนะ ตานี่เป็นสับปะรดกันทุกคน ถามหน่อยคุณให้พวกเค้าเท่าไร ใจคอจะให้ผมมีชีวิตอิสระไม่ได้เลยใช่ไหม ทำไมต้องอยู่ในสายตาของคุณตลอดเลย?
?...?คุณปราโมทย์ได้ยินดังนั้น ถึงแม้อยากจะเถียง แต่ก็ทำได้เพียงยืนเงียบฟังลูกชายตนเองพูด
?แล้ววันก่อนผมไปที่บริษัทดูงานตามที่คุณสั่งแล้ว จะเอาอะไรกับผมอีก?ชายหนุ่มพูดเถียงกลับ พร้อมจ้องหน้าพ่อของตัวเองเหมือนกับจะร้องขอชีวิตอิสระของตัวเอง
?แกแน่ใจนะที่แกไปบริษัท แกไปทำงานน่ะ?เรียวได้ยินดังนั้นถึงกับชะงัก เพราะตอนที่ตัวเองไปดูงานที่บริษัทก็ไม่ได้ทำอะไรเลยมัวแต่นั่งนอนเล่นธรรมดา
?หึ แล้วยังแอบหนีออกมา ให้คนของฉันไล่หาซะทั่ว แกคิดจะเล่นอะไรของแกอีกห๊ะ?คุณปราโมทย์เริ่มอารมณ์ร้อนขึ้น
?เลขาคงบอกคุณล่ะสิ?เรียวพูดอย่างรู้ทัน
?ทำไมแกถึงไม่ตั้งใจเรียนรู้งานเลยล่ะ ในอนาคตแกก็จะได้เป็นเจ้าของมันแล้ว?
?ก็ผมไม่ชอบยังไงล่ะ ผมอยากเป็นนักดนตรี และไม่อยากรับงานธุรกิจของคุณด้วย...คุณก็เคยรู้สึกอย่างผม น่าจะรู้ดีนิ?
?ไอ้เรียว?เรียวพูดแท่งใจ จนทำให้ปาโมทย์ถึงกับสะอึก เพราะมันเหมือนกับชีวิตของเค้าตอนเป็นวัยรุ่น เพราะแม่เคยเล่าให้ฟังว่าตอนนั้นพ่อหนีฐานะอันร่ำรวยของพ่อออกมาอยู่ด้วยกันกับแม่เพราะคุณปู่ไม่ยอมรับแม่ที่มีฐานะคนละชั้นกับพ่อโดยสิ้นเชิง พ่อกับแม่จึงหนีกันมาอยู่อย่างลำ บาก แต่ด้วยรักที่มีให้กันจึงทำให้พ่อขยันทำงานทุกอย่างเพื่อแม่ โดยการเล่นดนตรีที่ตนเองรักตามคลับตอนกลางคืน จึงทำให้พอมีพอกิน อยู่มากันเรื่อย ๆ แม่ก็มีลูกคนแรกให้ชื่อว่าคิมหันต์พี่ชายของเรียว แล้วอยู่กันอย่างมีความสุขเสมอมา แต่พอแม่ให้กำเนิดอุเรียวขึ้นมา ก็ทำให้แม่มีภาระเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจจึงย่ำแย่ ทำให้พ่อต้องบากบั่นกลับไปหาพ่อของเค้าอย่างเดิม แต่แล้วทุกอย่างก็กลับย่ำแย่ลงเพราะคุณปู่บอกว่าถ้าจะให้ยอมรับแม่จะต้องทำงานที่ในบริษัทห้ามไปยุ่งเกี่ยวกับดนตรีอย่างเด็จขาด พ่อจึงตัดสินใจทำตามทันที โดยทิ้งเสียงดนตรีที่ตนรัก และภาระครอบครัวที่ตนเคยได้รับความสุข มาทุ่มเทให้กับสิ่ง
...ที่เค้าไม่เคยต้องการมันเลย...
?แกเลิกเรียกฉันว่าคุณสักทีได้ไหม?คุณปราโมทย์เริ่มเสียงอ่อนลง
?แล้วคุณทำตัวเหมือนเป็นพ่อหรือเปล่า ทุกวันนี้ผมลืมไปแล้วด้วยว่าผมมีพ่อกับเค้าด้วย?
?นี่แก?พูดจบเรียวก็รีบขึ้นไปข้างบนทันที ทิ้งให้พ่อของตนยืนระอาใจอยู่ด้านล่าง ทันใดนั้นก็มีเสียงรถเข้ามาหน้าบ้าน เรียวที่กำลังเดินขึ้นไปบนบ้านกลับหยุดเดินแล้วมองผ่านกระจกด้านนอกออกไป ทันใดนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งออกมาจากรถ ซึ่งไม่ใช่ใครคุณผกามาศแม่ของเรียวนั้นเอง เรียวจึงเปลี่ยนใจลงมาจากบนบ้านทันที
นั้นมัน แม่...ให้ตายเถอะ นานเท่าไรแล้วนะที่ฉันไม่ได้เจอคน ๆ นี้ ไม่ใช่แค่จากกันไปนาน แต่นานมากเลยต่างหาก ในที่สุดก็กลับมา ถึงจะบอกกับตัวเองหลายครั้งว่าไม่อยากเจอคน ๆ นี้อีกแล้ว เพราะเค้าใจร้ายมากที่หายหน้าไป ได้คุยกันเพียงน้อยนิด จนนับครั้งได้ ไม่มีการติดต่อแม้แต่คุยกันทางโทรศัพท์ พอได้เจอตอนนี้ทำไมถึงได้ดีใจที่สุด ทำไมไม่โกรธแล้วหายหน้าเข้าไปหมกตัวในห้อง แล้วทำไมตอนนี้ร่างของเค้าถึงได้เดินลงมา จะเดินมาหาคนใจร้ายคนนี้อีกทำไม นี่มันคงเป็นความคิดถึงอย่างจับใจสินะ อยากจะได้รับความอบอุ่น และความรักจากคน ๆ นี้มากกว่านี้
?คุณกลับมาแล้วเหรองานที่ออสเตรเลียเป็นยังไงบ้าง?พ่อถามแม่ขณะที่แม่เหนื่อยจากงานที่ออสเตรเลีย จากนั้นคนรับใช้ก็นำน้ำมาให้คุณผกามาศแก้กระหาย
?อืม...การประชุมก็ราบรื่นดีนะ โปรเจ็ทที่ฉันเสนอได้อนุมัติด้วยล่ะ?คุณผกามาศพูดอย่างดีอกดีใจ ผกามาศหันหลังไปหาบุคคลที่ยืนอยู่เบื้องหลัง คนที่เธอคิดถึงและรู้สึกผิดต่อเค้าที่สุด แต่จะทำยังไง ก็เพราะมันคือความจะเป็น ผกามาศโอบกอดลูกชายคนเล็กของตนด้วยความคิดถึงเพราะไม่ได้เห็นหน้าลูกคนนี้ซะตั้งนาน เรียวได้แต่ยืนอยู่นิ่ง ๆ เพื่อให้ผกามาศกอด โดยไม่ได้พูดอะไร หรือแม้แต่จะคิดปฏิเสธอ้อมกอดนี้
?แม่กลับมาแล้วเหรอครับ?
?ไงครับ เพิ่งกลับมาเหรอ?ผกามาศถามเรียว ขึ้นมา เรียวก็ได้แต่พยักหน้า ขณะเรียวกำลังอยู่ในอ้อมกอดโดยไม่สนใจพ่อที่อยู่ข้าง ๆ ที่กำลังรอกอดแม่อีกคนเพราะคิดถึงภรรยาคนนี้เหมือนกัน
?นี่เรียว แล้วลูกหัดเรียนรู้งานไปบ้างหรือยัง?คุณผกามาศถามเรียวทำให้เรียวถึงกับสะอึก แบบตอบไม่ถูก เพราะตนเอาแต่ซ้อมดนตรีจนไม่ได้คิดเรื่องที่จะฝึกงาน ซึ่งเรื่องนี้เรียวพยายามจะบอกผกามาศหลายครั้งแล้วแต่ไม่กล้าที่จะพูด
?เออ...?
?คือมันเรียนรู้ไปบ้างแล้วล่ะ ทั้งเรื่องการทำงาน การปฏิบัติงาน ตอนนี้ผมเริ่มให้มันทำโปรเจ็ทงานใหญ่อยู่?คุณปราโมทย์ตอบแทนเรียวทันทีเพราะรู้ว่าเรียวจะพูดอะไร จึงตอบตัดบทไปก่อน เรียวก็ได้แต่ยืนมองโดยทำอะไรไม่ได้
?ดีแล้วล่ะลูก เพราะวันหน้าแม่ก็ต้องเป็นยายแก่อยู่ที่บ้านเกษียนสักทีลูกก็ต้องมาทำงานแทนแม่นะลูก ตอนนี้แม่ภูมิใจกับการทำงานของคิมที่กรุงเทพมากเลย รู้ไหมพี่คิมของลูกนะทำงานได้เก่งจริง ๆ ทำรายได้เข้าบริษัทตั้งเยอะนะ ลูกก็อย่าทำให้น้อยหน้าพี่คิมเค้าล่ะรู้ไหม?คุณผกามาศพูดออกมาโดยไม่รู้เลยว่าในใจเรียวนั้นรู้สึกตรงกันข้ามกับคำที่ผามาศพูมาก ทำให้เรียวใจไม่ดีเลยเพราะตนไม่อยากเป็นอย่างที่แม่สั่งเพราะตนไม่อยากเป็นนักธุรกิจแต่ที่เรียวอยากเป็นและอยากทำมากที่สุดคือการเป็นนักดนตรี ในเส้นทางของเสียงเพลง แต่อีกใจหนึ่งก็ไม่อยากทำให้แม่เสียใจ
จะทำอย่างไงดี จะเดินหน้าต่อไปตามความฝันที่หวังไว้ หรือว่าจะบังคับใจตัวเอง ให้ทำตามคำสั่งของแม่ เพื่อไม่ทำให้ท่านเสียใจ แต่ในเมื่อเราต้องการทำอะไรที่ชอบ ที่คิดอยากจะเป็น ทำ ไมเราถึงไม่สู้ คงจะปล่อยให้ความใจอ่อนที่พ่อเคยประสบมา ทำลายความหวังนี้ไม่ได้เด็ดขาด จะทำยังไงได้
...ก็เรามันหักห้ามใจตัวเองได้ง่ายซะที่ไหน...
?เออแม่ครับ...คือ...?เรียวพยายามที่จะบอกความจริงที่คิดและหวังอยากจะเป็นมาตลอด
?นี่คุณกลับเหนื่อย ๆ ไปอาบน้ำก่อนดีไหม แล้วค่อยลงมาทานข้าวกัน?คุณปาโมทย์พยายามยุยงให้คุณผกามาศขึ้นไปด้านบน ไม่อยากให้รับรู้เรื่องของเรียวที่มันจะทำให้เธอปวดหัว แล้วจึงหันมาห้ามปรามเรียวเกี่ยวกับเรื่องที่เรียวพยายามจะบอกคุณผกามาศ
?แกอย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้ ทำตามที่แม่แกสั่งไปก่อน อย่างที่แม่แกพูดทำตัวให้มันเหมือนพี่แกบ้าง...ขึ้นไปอาบน้ำได้แล้วไป?จากนั้นเรียวก็ค่อยเดินขึ้นไปบนบ้านตามคำสั่งของพ่อ
คิดไปถึงคิมที่เป็นพี่แท้ ๆ ของเรียว ห่างกันประมาณห้าหกปี ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นนักธุรกิจชื่อดังระดับแถวหน้าของประเทศ ที่เป็นเจ้าของโรมแรมห้าดาวที่ชื่อดัง เอกลักษณ์ในการทำงาน และสมองอันชาญฉลาดทำให้ธุรกิจภายในครอบครัวดูจะสำเร็จไปไม่น้อย ประกอบกับหน้าตาที่เป็นที่หมายตาของสาว ๆ อีก ทำให้ครอบครัวที่มีลูกสาวสวยรวยพร้อมต่างพากันนำพาประเคนให้กับพี่ชายคนนี้ไม่หยุดหย่อน แต่ก็ยังไม่เห็นพี่ชายคนนี้จะถูกใจใครซักที
เรียวขึ้นไปบนห้องนั่งพักเอาแรงสักพัก ทันใดนั้นก็หันไปเจอกับรูปตอนเด็ก ๆ ที่ได้ถ่ายไว้กับพี่ชายของตน ซึ่งเป็นรูปที่เก่ามากถูกจัดเก็บไว้ในกรอบสวยหรูอย่างดี ตอนนั้นเรียวอายุเพิ่งจะหกขวบ พร้อมกับรอยยิ้มที่แสดงความรู้สึกดีใจ ผิดกับตอนนี้ที่เป็นอยู่มาก เพราะตอนนี้เรียวรู้สึกอึดอัดใจกับสิ่งที่ต้องแบกรับในภายภาคหน้า ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เค้าไม่ต้องการมันเลย
...พี่ครับ พี่เคยมีความสุขบ้างหรือเปล่ากับสิ่งที่พี่กำลังทำอยู่ตอนนี้...
ขณะเดียวกัน เรียวได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วกดเบอร์ของคิมเพื่อที่จะคุยด้วย
{ฮัลโหล!!}
?พี่คิม นี่ผมเองนะ?
{ว่าไงเรียว มีเรื่องอะไรเหรอ}
?คือผมจะบอกว่า แม่กลับมาแล้วนะ?
{อืม ฉันรู้แล้วล่ะ แม่โทรมาหาพี่ให้พี่ไปรับที่สนามบินนะ}
?อ่าว แล้วทำไมพี่คิมไม่กลับมาด้วยล่ะ?
{นายก็รู้ว่าฉันงานยุ่ง แต่ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวพอนายเรียนจบที่นั้นนายก็จะมาเรียนที่กรุงเทพไม่ใช่เหรอ}
?...?
{มีอะไรอีกหรือเปล่า ฉันมีงานต้องทำอีก}
?คือ...พรุ่งนี้พี่โอนเงินให้ผมสองแสนได้ไหม?
{สองแสนเหรอ!! นายจะเอาไปทำอะไร}
?...?
{หึ! คงจะเป็นเรื่องที่บอกพ่อไม่ได้ใช่ไหม}
?ก็...ประมาณนั้น ได้หรือเปล่าล่ะ?
-----------------------------------
ณ บ้านเกตต์
ขณะนี้เวลาตีห้าแล้วเกตต์ยังหลับไม่รู้เรื่องแล้วฝันลม ๆ แล้ง ๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก ซึ่งตนฝันว่าตัวเองได้ไปยืนอยู่บนเวทีใหญ่โต ประดับด้วยแสงสีเสียงอลังการ แล้วเปล่งร้องเพลงอยู่ท่ามกลางฝูงชนอย่างสง่า ของแฟนเพลงที่ขอจับมือและร้องเรียกชื่อของเธออยู่เบื้องล่างโดยไม่ขาดสาย
เกตต์ เกตต์ เกตต์!
แต่ทว่าเสียงที่เธอกำลังได้ยินกลับเป็นเสียงคนเรียกอยู่หน้าบ้านของเธอ ยายที่กำลังทำ อาหารถวายพระได้ยินเสียงคนเรียกนั้นจึงไปดูหน้าบ้านแล้วเปิดประตูให้เข้ามา ยายดูรูปร่างแล้วเป็นชายที่อายุราวพ่อของเกตต์แต่ก็สูงกว่าอยู่หน่อย จึงถามในฐานะเจ้าของบ้าน
?มาหาเกตต์เหรอ?ยายถามตามที่ชายหนุ่มนั้นเรียก
?ครับผมจะให้เกตต์ไปส่งของเป็นเพื่อนนะครับ แล้วได้เงินเยอะกว่างานส่งเอกสารอีกครับ?ยายได้ยินดังนั้นจึงถามต่อ
?แล้วแบ่งหรือเปล่า...เออ...เงินนะ?ชายวัยกลางคนยิ้มนิด ๆ ว่าใครจะไปให้ฟรี ๆ ก็ต้องมีการตอบแทนอยู่แล้ว
?แบ่งซิครับ?ได้ยินดังนั้นยายจึงรีบวิ่งขึ้นไปเรียกเกตต์ทันทีเพราะแค่ไปช่วยเค้าส่งของก็ได้เงินด้วย ยายเปิดประตูเข้าไปในห้องของเกตต์เห็นเกตต์นอนโซมถางขาเป็นกุลสตรีเอาซะเลยยายไม่รอช้ารีบปลุกเกตต์ทันทีเพราะเดี๋ยวจะไม่ทันการส่งของไม่ทันกันพอดี
?เกตต์ ตื่น ๆ มีคนมาแนะ?ยายเรียกขณะที่เกตต์กำลังงัวเงีย เพราะเพิ่งตื่น
?มีอะไร...โธ่ยังไม่หกโมงเช้าเลยอีกตั้งหนึ่งชั่งโมง?เกตต์มองนาฬิกาเสร็จจากนั้นก็นอนต่อ ยายจึงเรียกต่อให้เกตต์ลุกขึ้นมาให้ได้
?อ่าวตื่น ๆ คนที่ทำงานของเอ็งมาเรียกใช้...จะให้ช่วยทำงาน?ทันใดนั้นหญิงสาวที่ได้นอนงัวเงียอยู่บนเตียงเมื่อกี้ลุกขึ้นทันทีเหมือนมีอะไรไป ช๊อดยังไงอย่างงั้น
?บอกให้ลุงเค้ารอเดี๋ยวนะ?พอเกตต์พูดจบก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัวทันที แล้วก็ไปเอากระเป๋าเพื่อเตรียมตัวไปทันที
?เฮ้ย แกแต่งชุดนักเรียนทำไมนะ?ยายถามด้วยความสงสัยว่าจะไปส่งของทั้งอย่างนี้เลยเหรอ
?ก็พอส่งของเสร็จก็ไปโรงเรียนเลยจะได้ไม่ต้องเสียเวลามาเปลี่ยนชุดไง?เกตต์พูดจบก็เดินไปยังที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ที่เธอได้จอดไว้ แล้วเข็นออกมาหน้าบ้านยังจุดที่ลุงใหญ่ยืนอยู่
?อืมแล้วของที่จะให้ส่งละลุงใหญ่?เกตต์ยื่นมือเพื่อนจะรับของจากคุณลุงใหญ่ แล้วจะได้รีบนำไปส่ง
?นี่แกจะขับมอเตอร์ไซค์ไปถึงตัวเมืองเลยเหรอ?ได้ยินดังนั้นเกตต์ถึงกับเหวอทันที
ทำไมไม่ถามงานก่อนนะแล้วค่อยทำ ดูซิให้เราขับมอเตอร์ไซค์ไปส่งของที่ตัวเมืองไกลจะตาย แล้วถ้าส่งเสร็จไม่ไปโรงเรียนตอนเที่ยงเลยเหรอ มิหนำซ้ำยังโดนอาจารย์ดุอีก
?แกนะต้องไปรถนี้กับฉันแล้วของที่ว่านะมันเป็นของใหญ่แล้วก็มีหลายชิ้น?ชายผู้นั้นพูดแล้วชี้นิ้วมาทางรถกระบะที่จอดอยู่
?เดี๋ยวนะ แล้วเรื่องส่งหนังสือพิมพ์ของฉันล่ะ?เกตต์ห่วงว่าคนที่ให้เกตต์ส่งหนังสือพิมพ์จะว่าเอาที่เธอละทิ้งหน้าที่
?ไม่ต้องห่วงฉันให้ไอ้โด่งไปส่งแล้ว?เกตต์ได้ยินดังนั้นก็ขึ้นรถลุงใหญ่ไป แล้วมุ่งหน้าไปในเมืองทันที
-----------------------------------------------------
ในตัวเมืองของจังหวัด
ลมเย็น ๆ ตอนเช้ามืดทำให้เกตต์จะหลับอีกแถมยังมีแดดอ่อน ๆ ให้เห็นอยู่บ้าง เป็นครั้งที่วันนี้เกตต์ได้ตื่นเช้ามืดแบบนี้ซึ่งมีนสดชื่นกว่าตอนตื่นสาย ๆ อีกวันนี้เกตต์ต้องมารับของก่อนที่ตัวเมืองเพื่อจะต้องนำไปส่งทำให้เกตต์ได้มาเที่ยวตัวเมืองอีกครั้งมาตอนนั้นแรกนั้นเกตต์ยังตัวเล็กอยู่เลยเพราะตั้งแต่พ่อแม่จากไปทำให้เกตต์ซึมเศร้าตัวอยู่แต่ในทำให้ยายอดไม่ได้ที่จะทำให้เกตต์หายเศร้าแล้วลือเรื่องที่ผ่านมาที่เกตต์เคยเผชินมา ยายจึงพามาเกตต์มาคลายเศร้าโดยพามาเที่ยวในตัวเมืองเป็นครั้งแรก
วันนี้รถไม่ค่อยนักเพราะตอนนี้เวลาเช้ามืดอยู่เลยคนยังไม่ออกจากบ้านมาทำงานกัน ซักพักรถก็เคลื่อนมาถึงตลาดในตัวเมืองที่ร้านแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นร้านขายเครื่องดนตรีทุกชนิด เกตต์เห็นดังนั้นจึงตกใจไม่นึกไม่ฝันเลยว่าตัวเองจะได้มาเจอเครื่องดนตรีอย่างกีตาร์เหยอแยะอย่างนี้ เห็นดังนั้นเกตต์เกตต์จึงวิ่งเข้าไปในร้านนั้นทันทีแล้วนำกีตาร์มาลองดีดดู ใครนะจะสั่งเครื่องดนตรีแพง ๆ นี้ดูราคาแล้วสูงริ้วเลย จากนั้นลุงใหญ่ก็เดินเข้ามาในร้านแล้วยื่นกระดาษให้สงสัยจะเป็นรายการของที่จะสั่ง
?นี่ดีดเป็นด้วยเหรอ?ลุงใหญ่ถามเกตต์ขณะที่ตนได้ยินเพลงเกตต์ดีดพอดี
?ก็พอเป็นบ้างนะ เออ...แล้วใครนะสั่งเครื่องคนตรีพวกนี้...วงดนตรีเหรอ?
?ไม่ใช่หรอกเค้าบอกว่าให้ไปส่งที่โรงเรียนนะ แต่ต้องเอาเอกสารไปให้เค้าเซ็นแล้วก็ให้เอาเครื่องคนตรีพวกนี้ไปให้เค้าดูก่อน?ทันใดนั้นเจ้าของร้านก็เรียกบอกกับลุงใหญ่ว่าของที่สั่งนั้นเค้าเตรียมไว้ให้เรียบร้อย แล้วให้ลุงใหญ่ไปเซ็นเอกสารอะไรสักอย่าง
?เกตต์มาช่วยยกของขึ้นรถหน่อยเร็ว?เกตต์จึงวางกีตาร์ที่เธอนำมันออกมาดีดเก็บเข้าทีแล้วรีบไปช่วยลุงใหญ่ยกของขึ้นรถ
?ว้าว มีกีตาร์ด้วยแถมยังมีกลองอีก?เกตต์ชักตื่นเต้นว่าโรงเรียนไหนนะโชคดีที่ได้เครื่องดนตรีสวย ๆ พวกนี้ไปไว้เรียน
พอยกของเสร็จเรียบร้อยลุงใหญ่ก็เตรียมที่จะเอาของไปส่ง อีกซักพักรถของลุกใหญ่ก็ไปหยุดอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง เป็นบ้านใหญ่โตเมื่อเทียบกับบ้านของเธอ มันใหญ่อย่างกับวังเลยก็ว่าได้
จอดรถเสร็จเกตต์ก็ลงไปกดกรี้งหน้าบ้านของบ้านหลังนั้น ซักพักก็มีคนรับใช้มาเปิดประตูให้
?เอาของมาส่งแล้วเหรอค่ะ?คนรับใช้พูดกับผู้มาเยือนด้วยน้ำเสียงสดใสแล้วเธอได้เชิญพวกเราเข้าไปยังคฤหาสน์หลังใหญ่ของผู้เป็นเจ้านาย เป็นอาคารหลังสีขาว ส่วนข้างหน้าเป็นอ่างน้ำพุที่สวยงาม เกตต์มองไปรอบ ๆ ของตัวบ้านหลังนั้นสวนตรงหน้าบ้านสวยเป็นบ้า แถมยังมีโต๊ะชิงช้าแล้วยังมีสวนดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอมไปทั่วบริเวณของบ้านสงสัยเจ้าของบ้านคงมีรสนิยมดีมากเลย
ไม่นานรถก็เคลื่อนตัวมาถึงหน้าบ้านซึ่งเกตต์มองเข้าไปในบ้านนั้นประดับประดาด้วยของที่มีราคาแพง ห้องโถงสวยงามโองอาง โคมไฟดวงใหญ่ที่อยู่กลางยิ่งดูยิ่งหน้าเกรงขาม เครื่องเพรชเบญจรงค์ที่ประดับอยู่ในตู้กระจกใส ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ไม่เกรงใจโจรป่าห้าร้ายเลย ส่วนเคาท์เตอร์ขนาดใหญ่ก็มีแต่ไวท์ขวดโต หายากและราคาแพง ดูยังไงบ้านนี้ก็มีความสวยงาม และหรูหราเหมาะกับฐานะไฮโซของเจ้าของบ้าน ทันใดนั้นก็มีชายหนุ่มเดินออกมาเพื่อจะดูแขกที่มาเยือน
...แต่ทำไมใส่ชุดนักเรียนโรงเรียนเดียวกับฉันด้วยเนี้ย
...เอะ!!นั้นมัน...
เรียว! นี่มันบ้านของตานี่เหรอเนี้ย เฮ้ย...ฉันเชื่ออาจารย์สังคมแล้วล่ะ ว่าโลกนี้มันกลมจริง ๆ ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าเครื่องดนตรีพวกนี้
...เป็นของโรงเรียนเรา...
?เอ่อนี้ครับของที่คุณสั่งไว้?ลุงใหญ่พูดอย่างยิ้มแย้มแจ่มใสเพราะนาน ๆ ทีจะได้เข้ามายังบ้านของคนที่รวยขนาดนี้ แล้วชายหนุ่มผู้นั้นก็เดินไปยังข้างหลังรถกระบะเพื่อดูของที่ตนได้สั่งเอาไว้
?อืมใช่ได้งั้นเอาไปส่งที่โรงเรียนเลยนะ?เรียวพูดอย่างสุขุมนุ่มลึกแล้วจะเดินจากไป
...หมั่นไส้ชะมัดคนอะไรหยิ่งเป็นบ้า...
?เออ เดี๋ยวครับคุณ? ลุงใหญ่เรียกนายเรียวแล้วหันมาพูดกับเกตต์
?นี่เกตต์ไปเอาเอกสารมาให้เค้าเซ็นเร็ว?เกตต์ได้ยินดังนั้นก็รีบไปเอาเอกสารในรถอย่างไม่เต็มใจ มันเป็นเอกสารที่ต้องให้ผู้สั่งเซ็นไว้เป็นหลักฐาน
?นี่ค่ะช่วยเซ็นตรงนี่?เกตต์ชี้ไปยังจุดที่ต้องให้เรียวเซ็น เรียวมองหน้าผู้หญิงคนนี้แล้วเหมือนกับว่าเคยเจอที่ไหนแล้วยังจะน้ำเสียงอีก
...อ่อเธอนั้นเอง! ยัยตัวแซบ...
เรียวก็นึกไปยังตอนนั้นที่เกตต์เดินชนเค้าตอนที่เรียวถูกบังคับให้ไปเรียนรู้วานที่บริษัท
เธอนี่แซบจริง ๆ นะ จะรู้หรือเปล่าว่าตอนที่ฉันถูกบังคับให้เรียนรู้งานที่บริษัท ฉันกำลังเซ็งแล้วก็รู้สึกหงุดหงิดมาก กะว่าตอนนั้นจะหนีออกจากบริษัทให้รู้แล้วรู้รอด แต่พอเจอเธอ ฉันยังคิดเลยว่าตอนที่เธอชนฉัน ทำไมฉันถึงยอมให้เธอว่าฉันได้ง่าย ๆ เพราะส่วนใหญ่คนอย่างฉัน จะไม่ยอมให้ใครมาว่าฉันได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะเวลาที่ฉันกำลังโกรธอยู่ด้วย ยังไงซะเธอก็ต้องโดนดีแน่ ทางกลับกันฉันกับรู้สึกว่าฉันชอบใจเวลาที่เธอโมโห มันช่างดูน่ารักและน่าแกล้งเป็นที่สุด ไม่หน้าเชื่อเลยว่าฉันจะได้พบกับเธออีก
เรียวทั้งเซ็นแล้วก็มองเกตต์ไปด้วย ทำให้เกตต์อึดอัดมากในตอนนี้ พอเรียวเซ็นชื่อลงในเอกสารเสร็จยื่นให้เกตต์
?เราเคยเจอกันที่ไหนหรือเปล่า?เรียวกระซิบใส่หูของเกตต์ ทำเกตต์ไม่รู้ว่าจะตอบอะไรดีถ้าตอบไปว่าเราเดินชนเขาแล้วยังด่าเค้าอีกจะทำยังไงดี
?เออ...?
?คุณเรียวครับรถพร้อมแล้วไปกันเถอะครับ?เกตต์กำลังจะเอ่ยแต่ก็ต้องถูกขัดจังหวะเพราะคนรถที่กำลังจะไปส่งเรียว ซึ่งคนที่ขับรถให้เรียวก็เป็นนักเรียนเช่นกันอายุใกล้เคียงกับเรียว เรียวหันไปตอบกลับแล้วหันมามองเกตต์อีกครั้งขณะนั้นเรียวได้เห็นว่าเกตต์กำลังอยู่ในชุดนักเรียนโรงเรียนเค้าเองนี่นาถ้างั้นคงได้พบกันใหม่แน่
?แล้วเจอกันที่โรงเรียนนะ...นราเกตต์?เรียวพูดพรางมองชื่อของเกตต์ที่อยู่บนปกเสื้อแล้วก็เดินขึ้นไปบนรถเพื่อไปโรงเรียน ซึ่งเธอก็พยายามปิดบังแล้วแต่กลับไม่ทันสายตาที่ว่องไวของเรียว เธอมองตามอย่างเจ็บแค้นที่คนๆไร้มารยาทเมื่อสักครู่ถือวิสาสะดูชื่อของเธอ
*:*:*: Dream in Love my Friend *:*:* ตอน2 มาแว้ว
Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี
-
- โพสต์: 25
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 27 ก.พ. 2008 2:26 pm
- ที่อยู่: in kamenashi conankong